Infinix ZERO 40 5G สมาร์ทโฟนเอาใจสาย VLOG สายท่องเที่ยวอย่างแท้จริง ด้วยประสบการณ์กล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลัก ความละเอียด 108MP รองรับการบันทึกวิดีโอแบบ 4K ที่ 60fps มีกันสั่น OIS+EIS ต่อมาเป็นกล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 50MP มุมกว้าง 120 องศา และกล้อง Depth ความละเอียด 2MP ทางด้านกล้องหน้ายังโดดเด่นด้วยความละเอียดสูงถึง 50MP บันทึกวิดีโอได้ 4K ที่ 60fps เรียกว่าหาไม่ได้ง่ายๆ ในกล้องหน้าของสมาร์ทโฟนปัจจุบัน ถือว่า Infinix ZERO 40 5G เป็นสมาร์ทโฟนสายถ่ายวิดีโอ พร้อมเก็บทุกโมเม้นต์ที่เป็นคุณ
Shopee : https://s.shopee.co.th/4VJW555wbd
Lazada : https://s.lazada.co.th/s.KTQRw?cc
@siamphone.com Infinix Zero 40 5G เก็บหมดทุกโมเมนต์ ถ่ายวิดีโอ 4K ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ราคา 14,999.- #siamphonedotcom #Infinix #InfinixThailand #InfinixZero405G #มือถือ ♬ เสียงต้นฉบับ - Siamphone.com
Infinix ZERO 40 5G มีขนาดตัวเครื่องที่ 164.31x74.47x7.9 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 195 กรัมหน้าจอแสดงผล เป็นแบบจอโค้ง พาแนล AMOLED กว้าง 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2436x1080 พิกเซล) อัตรา Refresh Rate สูงสุด 144Hz ปรับความสว่างได้สูงสุด 1300 nit
เหนือหน้าจอแสดงผล ใช้ดีไซน์รอยแหว่งแบบจอเจาะรู ในนั้นมีกล้องหน้า ความละเอียด 50MP นอกจากนี้ยังมีไฟแฟลชที่ขอบบนซ้าย และลำโพงเสียงอยู่ขอบตรงกลาง
ล่างหน้าจอแสดงผล Infinix ZERO 40 5G มีที่สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจ และไม่มีปุ่มนำทางแบบฮาร์ดแวร์
ทางซ้ายตัวเครื่อง ไม่มีปุ่มใช้งานใดๆ
ทางขวาตัวเครื่อง Infinix ZERO 40 5G มีปุ่มใช้งานพื้นฐาน ปุ่มยาวเป็นปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียง และปุ่มเล็กเป็นปุ่มเพาเวอร์
ส่วนบนตัวเครื่อง ทางซ้ายสุดเป็นลำโพงเสียง และทางขวาเป็นรูไมโครโฟน กับเซนเซอร์ IR Blaster นอกจากนี้ตรงกลางยังมีเขียนว่า Sound By JBL
ใต้ตัวเครื่อง ทางซ้ายสุดเป็นช่องใส่ถาดซิมกาด โดยถาดรองรับ Nano SIM 2 ช่อง ถัดมาทางขวาเป็นรูไมโครโฟน ตรงกลางเป็นพอร์ต USB Type-C และขวาสุดเป็นลำโพงเสียง
พลิกมาที่ฝาหลังตัวเครื่อง โมดูลกล้องเป็นแบบวงกลมขนาดใหญ่ บนนั้นมีกล้องหลังติดตั้งมา 3 ตัว กล้องหลัก ความละเอียด 108MP รองรับการบันทึกวิดีโอแบบ 4K ที่ 60fps มีกันสั่น OIS+EIS ต่อมาเป็นกล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 50MP มุมกว้าง 120 องศา และกล้อง Depth ความละเอียด 2MP ส่วนไฟแฟลชเป็นแบบ LED ปรับได้ 3 ระดับ อยู่มุมบนซ้ายของโมดูล
อุปกรณ์ภายในกล่อง
บันทึกวิดีโอระดับ 4K นิ่งๆ เนียนๆ สไตล์ Vlog
นี้คือไฮไลท์เด่นของ Infinix ZERO 40 5G ซึ่งน่าจะถูกใจสายวิดีโอ สาย Vlog คอนเทนด์ได้เป็นอย่างดี ด้วยการบันทึกวิดีโอจากกล้องหลัง ความละเอียดสูงสุด 4K ที่ 60fps ให้ความคมชัดแบบขั้นสุด และยังมีระบบกันสั่น OIS + EIS บันทึกภาพได้แบบนิ่งกริ๊บ ฟีลแบบ ProStable ไม่ว่าจะเดิน หรือเคลื่อนไหวอย่างไร วิดีโอที่ออกมาก็มีความนิ่งแบบพิเศษ ยิ่งไปกว่านั้น Infinix ZERO 40 5G ที่มีราคาเพียง 14,999 บาท แต่ได้ฟังก์ชั่นการใช้งานขนาดนี้ กินขาดคู่แข่งได้สบายๆ
กล้องหน้าไม่ธรรมดา 50MP ถ่ายวิดีโอ 4K ได้ด้วย
นอกจากกล้องหลังจะโดดเด่นไปแล้ว กล้องหน้าก็โดดเด่นไม่แพ้กัน โดยได้ความละเอียดมาสูงถึง 50MP พร้อมไฟแฟลช LED รองรับการบันทึกวิดีโอแบบ 4K ที่ 60fps ด้วยเช่นกัน มั่นใจภาพคมชัดตั้งแต่กล้องหลังมายันกล้องหน้าเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อกับกล้อง GoPro เพื่อดูพรีวิว และตั้งค่าต่างๆ ได้ทันที
โหมดกล้องเยอะ ตอบโจทย์สายถ่ายรูป
สำหรับกล้องของ Infinix ZERO 40 5G ที่มีความละเอียดสูงสุดที่ 108MP ยังมีโหมดการใช้งานที่น่าสนใจอีกมากมาย ทั้งการทำงานร่วมกับ AI ในโหมด AI Shutter ช่วยให้ภาพที่ออกมาดูสมบูรณ์มากขึ้น, RAW HDR + ZoomFlashlight ที่ให้ภาพมีสี และดีเทลต่างๆ สวยขึ้นด้วย AI, และที่สำคัญมีโหมดกลางคืน Super Night ให้แสงสีในการถ่ายภาพตอนกลางคืนไม่ความสวยงามมากขึ้น ซึ่งเป็นการช่วยเหลือจากระบบ AI เช่นเคย
ชิปเซ็ตแรง Dimensity 8200 ใช้งานลื่น เล่นเกมภาพสวย
Infinix ZERO 40 5G ถูกขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 8200 รองรับเครือข่าย 5G รองรับการใช้งานพื้นฐาน และการใช้งานหนักๆ อย่างการเล่นเกมได้ดีทีเดียว การันตีด้วยคะแนน Antutu เกือบ 1 ล้านคะแนน ไม่พอแค่นั้นยังมี RAM เพิ่มได้มากสุดถึง 24GB ด้วยระบบ Virtual RAM
ทดสอบการเล่นเกม
Infinix ZERO 40 5G ที่ขับเคลื่อนด้วย MediaTek Dimensity 8200 สามารถใช้เล่นเกมได้ดีพอสมควร โดยเกมที่ทดสอบได้ใช้เกม ROV Mobile ซึ่งสามารถปรับกราฟฟิกได้ในระดับสูง และยังปรับเฟรมเรตระดับสูงได้เช่นกัน ในการเล่นจริงก็ทำเฟรมเรตได้ราวๆ 59-60fps ตลอดทั้งเกม ไม่ว่าจะเข้าปะทะแบบหนักๆ สาสสกิลแบบ 5-5 ก็ยังได้เฟรมเรตที่นิ่ง
หน้าจอโค้ง AMOLED รีเฟรช 144Hz
เรื่องของหน้าจอก็เป็นอีกจุดเด่นของ Infinix ZERO 40 5G โดยหน้าจอเป็นแบบโค้ง พาแนล AMOLED กว้าง 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ สามารถรับชมคอนเทนด์ได้แบบชัดๆ กว้างๆ กันไปเลย นอกจากนี้ยังมีอัตรา Refresh Rate สูงสุดถึง 144Hz เล่นเกมได้ลื่น ใช้งานทั่วไปก็ลื่นแสดงผลได้ทันใจ และยังปรับความสว่างได้สูงสุด 1300nits ใช้งานได้ในที่แสงสว่างมากๆ ได้หายห่วง
ลำโพงคู่ Stereo ปรับแต่งด้วย JBL
ความบันเทิงไม่ได้จบตรงหน้าจอเท่านั้น เรื่องของลำโพงเสียงก็มาเต็มเช่นกัน โดยถูกติดตั้งลำโพงแบบคู่ Stereo ให้เสียงออกมามีมิติ และยังให้มีเสียงคุณภาพดีมากขึ้น เพราะถูกปรับแต่งด้วยแบรนด์เครื่องเสียงชื่อดังอย่าง JBL
ดีไซน์ฝาหลังออกแบบมาอย่างดี จับมือกับ WGSN
การดีไซน์ฝาหลังไม่ได้มาเล่นๆ เพราะมีการจับมือกับ WGSN เพื่อช่วยเลือกสีให้เข้ากับเทรนด์ เป็นไปตามกระแสของโลก ผสมกับเทคโนโลยีอย่างลงตัว โดยสีที่ได้มารีวิวคือ Violet Gargen เป็นสีของดอกไวโอเล็ตในยามเช้า ตัวแทนของสัญลักษณ์ในการเริ่มต้นวันใหม่
แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จทั้งสาย และไร้สาย
แบตเตอรี่ของ Infinix ZERO 40 5G ให้มาที่ขนาด 5000mAh ถือว่าเป็นขนาดที่ใหญ่มาตรฐานในสมาร์ทโฟนปัจจุบัน โดยการใช้งานได้เล่นเกม ROV ปรับกราฟฟิกแบบสุด และปรับความสว่าง 70% จากแบตเตอรี่ 40% ลดลงมาเหลือ 22% ในระยะเวลาการเล่น 1 ชั่วโมง นอกจากนี้การชาร์จเร็ว ก็รองรับการชาร์จไร้สาย 45W และไร้สาย 20W อีกด้วย
ราคาและการจำหน่าย
Infinix ZERO 40 5G มีด้วยกัน 3 สีได้แก่ สีม่วง สีดำ และสีไทเทเนียม เปิดจำหน่ายในราคา 14,999 บาท ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน นี้ พิเศษ!!! จำหน่ายวันแรกมีส่วนลดเหลือ 11,999 สั่งซื้อออนไลน์ที่ Shopee , Lazada และ Tiktok Shop
สเปคของ Infinix ZERO 40 5G
การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง
จอ OLED 10-bit
1188 x 2790 พิกเซล
กล้องหน้า 16MP
Qualcomm Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core
Android 13
RAM 8 GB
ROM 256 GB
4,310 mAh
ชาร์จไว 33W
nubia Flip สมาร์ทโฟน หน้าจอ 6.9 นิ้ว Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core ราคา 19,990 บาท