OPPO เปิดตัว 2 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จาก OPPO A3 Series ‘สวยเก่งเกรด A’ ประเดิมรุ่นพี่อย่าง OPPO A3 Pro 5G สมาร์ทโฟน AI หวานใจสายโหด ราคาไม่ถึงหมื่นเครื่องแรก และสมาร์ทโฟนรุ่นน้องเอาใจสายโหดอย่าง OPPO A3x โดยทั้งคู่มาพร้อมหน้าจอความสว่างพิเศษ 1,000 nits มีฟีเจอร์ Splash Touch แม่นยำไม่มีสะดุด หน้าจอเปียกก็ไม่หวั่น กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP54 ทนทานต่อการตกหล่นสูง แบตเตอรี่จุใจ 5,100 mAh พร้อมรองรับชาร์จเร็ว 45W SUPERVOOC
เพลิดเพลินกับความบันเทิงแบบไร้ขีดจำกัดด้วยระบบ AI อันชาญฉลาด
OPPO A3 Pro 5G มาพร้อมกับฟีเจอร์ “ยางลบ AI“ สุดล้ำ ชั้นนำของอุตสาหรกรรม ช่วยวิเคราะห์รูปภาพและแทนที่วัตถุที่ต้องการลบให้มีความเนียนและเป็นธรรมชาติที่สุด ซึ่งใช้โมเดล AI ขนาดใหญ่ที่ทาง OPPO พัฒนาขึ้นเอง เป็นการนำ Generative AI มาใช้ควบคู่กับระบบกล้อง เพียงแค่วงบริเวณที่ไม่ต้องการ ก็สามารถลบวัตถุหรือคนที่ไม่ต้องการ ออกไปได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังช่วยเติมพื้นหลังให้เนียนกริบสุดๆ เสมือนไม่เคยรีทัชมาก่อน ช่วยให้มั่นใจทุกครั้งที่โพสต์ลงโซเชียลว่าช็อตไหนก็สวยได้หมด ใช้งานง่ายๆ โดยการ เลือกรูปภาพ > แก้ไข > ยางลบ AI > ระบายทับ
เทคโนโลยี AI LinkBoost เป็นเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการข้อมูลเครือข่ายที่ทาง OPPO พัฒนาขึ้นเอง เพิ่มความเร็วในการสลับสัญญาณอินเทอร์เน็ต หรือเครือข่ายมือถือได้มากถึง 20% สามารถแชร์เนื้อหาหรือรูปภาพได้ดีขึ้น รวมถึงการอัปเดตแผนที่แบบเรียลไทม์ที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น แม้ในพื้นที่ที่มีสัญญาณเครือข่ายที่อ่อนแอ เช่น คอนเสิร์ต, รถไฟใต้ดิน หรือแม้แต่ในลิฟต์ระบบก็จะช่วยให้สัญญาณแรง เสถียรและราบรื่นอยู่เสมอ
สนุกอย่างต่อเนื่อง จัดเต็มทุกเรื่องด้านหน้าจอและเสียง
ในส่วนของหน้าจอ OPPO A3 Pro 5G มาพร้อมหน้าจอแสดงผลกว้าง 6.67 นิ้ว ความละเอียด HD+ อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 89.9% ความพิเศษของรุ่นนี้คือรองรับความสว่างสูงสุดถึง 1000 nits อีกทั้งยังรองรับอัตราการรีเฟรชเรทถึง 120Hz แสดงผลลื่นไหลและช่วยให้มองเห็นได้ดีแม้เล่นกลางแจ้งในวันที่แสงแดดจ้า ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอสว่างกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นในระดับราคาเดียวกัน
ซึ่งรุ่นน้องอย่าง OPPO A3x ก็มีขนาดหน้าจอ สเปค รวมถึงรองรับความสว่างพิเศษสูงสุดถึง 1000 nits เท่ากัน แต่จะมีความแตกต่างแค่ตรงรองรับอัตรารีเฟรซเรทสูงสุด 90Hz เท่านั้น
และทั้ง 2 รุ่น ยังมาพร้อมโหมด Ultra Volume เพิ่มพลังเสียงได้สูงสุดถึง 300% ช่วยได้ยินเสียงเรียกเข้าได้อย่างชัดเจน แม้อยู่ในสถานที่ที่มีเสียงดัง และช่วยยกระดับความคมชัดของเสียงขณะสนทนาทางโทรศัพท์ โดยการแยกเสียงออกจากเสียงรบกวนรอบข้างได้เป็นอย่างดี
แบตเตอรี่ Hyper Energy 5,100 mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W SUPERVOOC
OPPO A3 Pro 5G และ OPPO A3x มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5,100mAh ทาง OPPO เผยว่า อยู่ได้นานถึง 335 ชั่วโมงเมื่อปิดหน้าจอ สามารถดูวิดีโอจาก Youtube ได้ต่อเนื่องนานถึง 15.77 ชั่วโมง และเล่นเกม PUBG Mobile ได้นานสูงสุด 9.31 ชั่วโมง เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว แบตเตอรี่ขนาดนี้ เพียงพอสำหรับใช้งานในชีวิตประจำวันตลอดทั้งวันแน่นอน
ด้วยนวัตกรรมด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ทันสมัย ช่วยยืดอายุแบตเตอรี่บน OPPO A3 Pro 5G และ OPPO A3x ได้มากกว่า 80% แม้ว่ามีรอบชาร์จถึง 1,600 ครั้งก็ไม่หวั่น มีอายุการใช้งานทนทานถึง 4 ปี พร้อมนำฟีเจอร์ AI ที่ OPPO พัฒนาขึ้นมาช่วยปรับการชาร์จตามลักษณะการใช้งานสมาร์ทโฟนของผู้ใช้ รวมถึงปรับตามอุณหภูมิของตัวเครื่องขณะชาร์จ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในด้านการชาร์จ
รองรับชาร์จเร็ว 45W SUPERVOOC ชาร์จเพียง 10 นาที ได้แบตเตอรี่มาถึง 20% และชาร์จเต็ม 100% ใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมงนิดๆ เท่านั้น ถือว่าไวมากๆ วางชาร์จไว้เพียงแปปเดียวก็สามารถกลับมาเพลิดเพลินกับความสนุกต่อได้ทันที ที่สำคัญยังมาพร้อมอะแดปเตอร์ชาร์จ 45W แถมมาในกล่องให้อีกด้วย คุ้มมากๆ สำหรับสมาร์ทโฟนราคาเบาๆ แบบนี้
แข็งแกร่งทนทาน รับมือได้กับทุกสถานการณ์ในชีวิต
OPPO A3 Pro 5G ได้รับการรับรองจากมาตรฐาน SGS Drop-Resistance Certification (Standard) และ Military Standard Certification ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่แข็งแกร่งที่สุดในราคาระดับเดียวกันในด้านความทนทานต่อการตกหล่น
ได้รับการออกแบบให้ตัวเครื่องมีความแข็งแรงและทนทาน สามารถป้องกันการตกกระแทกได้ 360° หน้าจอด้านหน้าผลิตจากกระจก Panda ที่มีความแข็งแรงถึงสองเท่า ทนทานต่อรอยขีดข่วนและร่องรอยการร่วงหล่นได้ดี ในตัวเครื่องมีวัสดุกันกระแทกติดตั้งไว้กับชิ้นส่วนสำคัญ ช่วยดูดซับแรงกระแทกได้ดีเสมือนมีฟองน้ำกันอยู่
ส่วน OPPO A3x ได้รับการรับรองมาตรฐานความทนทานระดับทหาร MIL-STD 810H และ SGS พร้อมลุยทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะตกจากระเบียงสูงเป็น 10 เมตรหรือจะถูกรถทับก็ไม่กลัว พร้อมรับแรงกระแทกเสมอ ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่ทนทานที่สุดในระดับราคาเดียวกัน
เคสที่แถมมาให้ในกล่องของทั้ง 2 รุ่น จะเป็นเคสที่ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันการกระแทก ดีไซน์ได้มาตรฐาน สวยโดดเด่นไม่เหมือนใคร บริเวณกล้องหลังมีการยกขอบให้สูงกว่ากล้องนิดหน่อย ช่วยป้องกันไม่ให้กล้องโดนพื้นโดยตรงขณะวาง แต่ความพิเศษของเคสรุ่น OPPO A3 Pro 5G ที่ให้มามากกว่าคือ บริเวณมุมของเคสทั้ง 4 มุม มีการเสริมมุมเพื่อช่วยดูดซับแรงกระแทกได้ดี
Splash Touch แม่นยำไม่มีสะดุด หน้าจอเปียกก็ไม่หวั่น
OPPO ส่งต่อฟีเจอร์ระดับแนวหน้าอย่างฟีเจอร์ Splash Touch ลงบน OPPO A3 Pro 5G และ OPPO A3x ควบคู่กับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP54 และขั้นตอนการประมวลผลการสัมผัสบนหน้าจอภายใน IC ชิปควบคุมสัมผัสที่มีความแม่นยำ ทำให้ใช้งานได้อย่างมั่นใจ สัมผัสหน้าจอได้อย่างไม่มีสะดุด แม้ว่าหน้าจอจะเปียกชื้นหรือมีละอองน้ำอยู่ก็ตาม
ชิปเซ็ตทรงพลัง ใช้งานลื่นไหลยาวนานถึง 4 ปี
OPPO A3 Pro 5G ขับเคลื่อนโดยชิปเซ็ต Media Tek Dimensity 6300 ผลิตด้วยเทคโนโลยี 6 นาโนเมตร ผ่านการทดสอบอย่าง OPPO 50-Month Fluency Protection โดยห้องทดลองของ OPPO ควบคู่ RAM 8GB + ROM 256GB และฟีเจอร์ขยาย RAM (RAM เสมือน) สูงสุด 8GB
ส่วนรุ่นน้องอย่าง OPPO A3x ขับเคลื่อนโดยชิปเซ็ต Snapdragon® 6s 4G Gen1 ควบคู่ RAM 4GB/6GB + ROM 64GB / 128GB และฟีเจอร์ขยาย RAM (RAM เสมือน) สูงสุด 8GB ผ่านการทดสอบอย่าง OPPO 36-Month Fluency Protection โดยห้องทดลองของ OPPO
ทั้ง 2 รุ่น จับคู่กับ Trinity Engine ของ ColorOS 14 ช่วยประหยัดพลังงานและจัดการระบบการทำงานให้ทำงานอย่างรวดเร็วและราบรื่นตลอดระยะเวลา 4 ปี
ดีไซน์บางเฉียบ สวยพรีเมี่ยมทุกมุม
โดยทั้ง 2 รุ่น ตัวเครื่องมีความหนาเพียง 7.68มม. น้ำหนักเพียง 186 กรัมเท่านั้น นับว่าบางและเบามากๆ ถือจับสบาย แม้ในขณะเล่นเกมเป็นเวลานานๆ ก็ไม่รู้สึกปวดมือ
สำหรับรุ่น OPPO A3 Pro 5G จะมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ (Starry Black), สีม่วง (Moonlight Purple) โดยสีที่ได้มารีวิวจะเป็นสีม่วง ที่มาพร้อมกับดีไซน์ Magnetic Particle อันเป็นเอกลักษณ์ เสมือนดวงจันทร์เสี้ยวท่ามกลางหมอกสีม่วงเข้ม ให้ความรู้สึกถึงความลึกลับ น่าค้นหาของท้องฟ้าในตอนกลางคืน
ส่วนรุ่น OPPO A3x จะมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีฟ้า (Ocean Blue), สีแดง (Nebula Red) โดยสีที่ได้มารีวิวจะเป็นสีฟ้า เสมือนท้องฟ้าสีครามใสของมหาสมุทรแปรซิฟิกผสานพื้นผิวทะเลสีเขียวอมฟ้า ให้ความรู้สึกหรูหราอย่างมีเอกลักษณ์
แนะนำฟีเจอร์กล้อง ถ่ายสนุก สวยทุกช็อต
ด้วยอัลกอลิทึม HDR 3.0 จาก OPPO ทำให้ได้ภาพถ่ายออกมาสมจริง แม้ในเวลาที่มีแดดจัด
โหมดรีทัชภาพบุคคล (AI Portrait Retouching) ด้วย AI 7.0 มาพร้อมฟังก์ชั่นการปรับแต่งภาพถึง 8 ชั้น ช่วยปรับรายละเอียดของใบหน้าแบบเรียลไทม์ ให้สามารถเซลฟี่ได้อย่างมั่นใจ สวยเป็นธรรมชาติ พร้อมปุ่มปรับแต่ง 10 แบบไม่ว่าจะเป็น ลักษณะของผิว, แก้ม, ขนาดดวงตา, จมูก, คาง ฯลฯ โดยแต่ละแบบสามารถปรับแต่งได้ถึง 100 ระดับ
OPPO A3 Pro 5G ขนาดรอบตัวเครื่องอยู่ที่ 165.79 x 76.14 x 7.68 มม. น้ำหนัก 186 กรัม มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล LCD กว้าง 6.67 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1604 × 720 พิกเซล) รองรับอัตรารีเฟรซเรทสูงสุด 120Hz ความสว่างสูงสุด 1000 nits
ส่วนตัวรุ่นน้องอย่าง OPPO A3x จะมีความแตกต่างเล็กน้อย ตรงที่ขนาดรอบตัวเครื่องและอัตรารีเฟรชเรท มีขนาดอยู่ที่ 165.77 x 76.08 x 7.68 มม. และรองรับอัตรารีเฟรซเรทสูงสุด 90Hz
ด้านบนของหน้าจอทั้ง 2 รุ่น เป็นกล้องหน้าเจาะรูแบบ Punch-hole โดย OPPO A3 Pro 5G มีความละเอียด 8MP พร้อมรูรับแสงขนาด f/2.0 ส่วน OPPO A3x มีความละเอียด 5MP พร้อมรูรับแสง f/2.2 เหนือขึ้นไปบริเวณขอบจอเป็นลำโพงเสียง
ด้านบนของตัวเครื่อง ไม่มีปุ่มใช้งานใดๆ
ด้านขวาของตัวเครื่อง มีปุ่มยาวสำหรับเพิ่ม-ลดระดับเสียง ถัดลงมาเป็นปุ่ม Power สำหรับล็อคหน้าจอ, เปิด-ปิดเครื่อง และสแกนลายนิ้วมือ
ด้านซ้ายของตัวเครื่องเป็นช่องใส่ถาดซิมการ์ดแบบ Dual SIM รองรับ Nano SIM 2 ช่อง
ด้านล่างของตัวเครื่อง ทางซ้ายสุดเป็นรูหูฟัง 3.5 มม. ถัดมาเป็นไมโครโฟนตัดเสียง พอร์ต USB Type-C อยู่ตรงกลาง และช่องลำโพงเสียงอยู่ถัดไปทางขวา
สำหรับด้านหลังของ OPPO A3 Pro 5G จะพบกับโมดูลกล้องดีไซน์สี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีความโค้งมน โดยมีกล้องหลังมาด้วยกัน 2 ตัว ประกอบไปด้วย กล้องหลัก ความละเอียด 50MP, กล้อง Portrait ความละเอียด 2MP พร้อมไฟแฟลช LED
ส่วนด้านหลังของ OPPO A3x จะพบกับโมดูลกล้องดีไซน์สี่เหลี่ยมจตุรัสที่มีความโค้งมน โดยมีกล้องหลัง ความละเอียด 8MP พร้อมรูรับแสง f/2 + เซ็นเซอร์ Flicker พร้อมไฟแฟลช LED โดยเซ็นเซอร์ Flicker (เซ็นเซอร์ปรับแสงอัจฉริยะ) บน OPPO A3x จะช่วยปรับความสว่างของหน้าจอให้เหมาะสมกับสภาพแสงโดยอัตโนมัติ พร้อมมอบประสบการณ์ในการรับชมรูปหรือวิดีโอแบบคมชัดได้ทันทีขณะถ่ายทำ
ราคาและการวางจำหน่าย
OPPO A3 Pro 5G และ OPPO A3x วางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ โดย OPPO A3 Pro 5G มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ (Starry Black) และสีม่วง (Moonlight Purple) ส่วน OPPO A3x มีให้เลือก 2 สี เช่นเดียวกัน ได้แก่ สีฟ้า (Ocean Blue) และสีแดง (Nebula Red) มีราคาและความจุดังนี้
โปรโมชั่นพิเศษ! เมื่อซื้อ OPPO A3 Pro 5G ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2567 รับฟรี! OPPO Mini Suitcase มูลค่า 1,299 บาท
สรุปสเปคเบื้องต้นของสมาร์ทโฟน OPPO A3 Pro 5G
สรุปสเปคเบื้องต้นของสมาร์ทโฟน OPPO A3x
ระบบปฏิบัติการ
OPPO A3 Pro 5G และ OPPO A3x มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 14 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ครอบทับด้วย ColorOS 14 ระบบต่างๆ ได้รับการปรับปรุงให้ฉลาดมากขึ้น และถูกออกแบบมาเพื่อให้ทำงานได้อย่างราบรื่นที่สุด
หน้าตา UI (ด้านซ้ายของ OPPO A3 Pro 5G ด้านขวาของ OPPO A3x)
เมนูทางลัดการใช้งานด่วน
การนำทางระบบ
การนำทางระบบเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้สามารถเข้าถึงสิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบายมากขึ้น มี 3 ปุ่ม คือ ปุ่มแอปพลิเคชั่นล่าสุด, ปุ่มหน้าจอหลักและปุ่มย้อนกลับ มีให้เลือกใช้งาน 2 แบบ คือ ปุ่มและท่าทาง สามารถปรับแต่งโดยการเข้าไปที่ การตั้งค่า > การตั้งค่าเพิ่มเติม > การนำทางระบบ
รหัสผ่านและการรักษาความปลอดภัย
การยืนยันตัวตน มี 2 ระบบให้เลือก ได้แก่ สแกนลายนิ้วมือและสแกนใบหน้า
การขยาย RAM
ในรุ่นนี้สามารถเปิดใช้งาน RAM Expansion ได้ 3 ขนาด คือ 4GB, 8GB และสูงสุด 12GBเข้าไปที่ การตั้งค่า > เกี่ยวกับอุปกรณ์ > RAM > การขยาย RAM สามารถเลือกเปิด-ปิด หรือเลือกขนาด RAM ที่ต้องการได้เลย
อัตราการรีเฟรชจอภาพ
รองรับอัตราการรีเฟรชแบบปรับได้ 1-120Hz สามารถเลือกปรับได้ 3 แบบ ดังนี้
แถบด้านข้างอัจฉริยะ
ตัวโคลนแอป
การโคลนแอปทำให้ผู้ใช้สามารถใช้แอปเดียวกันได้ 2 แอปในสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > แอป > ตัวโคลนแอป
การทดสอบความเร็วและการแสดงผล
การทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box บน OPPO A3 Pro 5G และ OPPO A3x พบเซ็นเซอร์ ดังนี้
จอ OLED 10-bit
1188 x 2790 พิกเซล
กล้องหน้า 16MP
Qualcomm Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core
Android 13
RAM 8 GB
ROM 256 GB
4,310 mAh
ชาร์จไว 33W
nubia Flip สมาร์ทโฟน หน้าจอ 6.9 นิ้ว Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core ราคา 19,990 บาท