รีวิว Redmi Note 13 Pro 5G กลับมาพร้อมสีใหม่สุดคลาสสิคอย่าง สี Olive Green โดดเด่นในทุกช็อตด้วยกล้องหลักระดับเรือธง ความละเอียด 200MP หน้าจอ CrystalRes AMOLED กว้าง 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1.5K ชิปเซ็ตเร็วแรง Snapdragon 7s Gen2 ดีไซน์ฝาหลังแบบกระจกขอบจอบางเฉียบ รับชมคอนเท้นต์ได้อย่างเต็มอรรถรส แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5100 mAh รองรับการชาร์เร็ว 67W ใช้งานทั้งวันอย่างหมดห่วง
Lazada : https://s.lazada.co.th/s.nDCl8?cc
Shopee : https://shope.ee/40KBKPZhi0
Jaymart : https://siamph.co/8v189
Redmi Note 13 Pro 5G ขนาดรอบตัวเครื่องอยู่ที่ 161.15 x 74.24 x 7.98 มม. น้ำหนัก 187 กรัม มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล CrystalRes AMOLED กว้าง 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2712 x 1220 พิกเซล รองรับอัตรารีเฟรซเรทสูงสุด 120Hz ความสว่างสูงสุด 1800 nits และครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass Victus
มาพร้อมกล้องหน้า ดีไซน์ Punch-Hole ความละเอียด 16MP เหนือขึ้นไปบริเวณขอบเครื่องเป็นลำโพงเสียง
ด้านบนของตัวเครื่อง จากซ้ายไปขวามีรูสำหรับหูฟัง 3.5mm ถัดมาเป็นลำโพง ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และ IR Blaster
ด้านขวาของตัวเครื่อง มีปุ่มยาวสำหรับเพิ่ม-ลดระดับเสียง ถัดลงมาเป็นปุ่ม Power สำหรับล็อคหน้าจอและเปิด-ปิดเครื่อง
ด้านซ้ายของตัวเครื่องไม่มีปุ่มการใช้งานใดๆ
ด้านล่างของตัวเครื่อง ทางซ้ายสุดเป็นช่องใส่ถาดซิมการ์ด รองรับ Nano SIM 1 ช่องและ Nano Memory Card 1 ช่อง ถัดมาเป็นไมโครโฟนตัดเสียง พอร์ต USB Type-C อยู่ตรงกลาง และช่องลำโพงเสียงอยู่ถัดไปทางขวา
ด้านหลังของตัวเครื่อง Redmi Note 13 Pro 5G บริเวณมุมซ้ายจะพบกับโมดูลกล้องหลังดีไซน์สี่เหลี่ยมที่มาด้วยกัน 3 เลนส์ ประกอบไปด้วย กล้องหลัก ความละเอียด 200MP, กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 8MP และกล้อง Macro ความละเอียด 2MP พร้อมไฟแฟลช LED และบริเวณฝาหลังด้านล่างข้างซ้ายมีข้อความเขียนว่า Redmi 5G
เพิ่มสีใหม่ Olive Green
หลังจาก Redmi Note 13 Pro 5G เปิดตัวไปด้วย 3 สี ได้แก่ สี Midnight Black, Ocean Teal และ Aurora Purple ล่าสุดกลับมาอีกครั้งด้วยสีใหม่อย่าง สี Olive Green นั่นคือ สีเขียวมะกอกหรือสีเขียวขี้ม้า นั่นเอง มอบความรู้สึกคลาสสิคสุดๆ ทุกครั้งที่ใช้งาน เป็นสีที่อยู่ในเทรนด์เสมอ จับคู่กับเคสสีอะไรก็ลงตัวหมด แมทช์กับเสื้อผ้าได้ทุกลุคจริงๆ
โดดเด่นในทุกช็อต คมชัดระดับ 200MP พร้อมกันสั่น OIS
แน่นอนว่าสำหรับ Redmi Note 13 Pro 5G สิ่งที่โดนเด่นอย่างมากและไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ นั่นคือ กล้องหลักระดับเรือธงที่มีความละเอียดสูงเพราะทาง Xiaomi ให้มาถึง 200MP เซนเซอร์ Samsung ISOCELL HP3 รูรับแสงขนาดใหญ่ f/1.65 ขนาดพิกเซลสูงสุด 2.24μm
เลนส์ 7P ระดับเรือธงและการเคลือบออปติคัล ALD ช่วยสามารถลดแสงสะท้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปรับการรับแสงและความไวแสงให้ดียิ่งขึ้น หมดห่วงเวลาถ่ายตอนกลางคืน ไม่ต้องกลัวว่าถ่ายออกมาแล้วจะไม่คมชัด พร้อมเพิ่มความแม่นยำและรวดเร็วด้วยการรองรับ Super QPD ควบคู่กับการกันสั่น OIS และ EIS พร้อมมอบประสบการณ์ที่ดีทุกครั้งที่กดชัตเตอร์เสมือนมืออาชีพถ่าย
ยังมาพร้อมกล้องหลังอีก 2 ตัว ได้แก่ กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 8MP รูรับแสงขนาดใหญ่ f/2.2 และกล้อง Macro ความละเอียด 2MP รูรับแสงขนาดใหญ่ f/2.4 ส่วนกล้องหน้าก็คมชัดไม่แพ้กันเพราะความละเอียดที่ให้มาสูงถึง 16MP รูรับแสงขนาดใหญ่ f/2.4 เลยทีเดียว
หน้าจอแสดงผล CrystalRes AMOLED รองรับรีเฟรชเรท 120Hz ความละเอียด 1.5K
พร้อมมอบสีสันและประสบการณ์ในการรับชมที่คมชัดแบบพิเศษด้วยหน้าจอแสดงผล CrystalRes AMOLED กว้าง 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1.5K (2712 x 1220 พิกเซล) รองรับอัตรารีเฟรซเรทสูงสุด 120Hz ความสว่างสูงสุด 1800 nits การหรี่ไฟ PWM 1920Hz และการปรับความสว่างถึง 16,000 ระดับ ให้ความสว่างรวมถึงปกป้องดวงตามากยิ่งขึ้น หมดห่วงทุกครั้งที่ใช้งานเป็นเวลานานๆ เพราะ Redmi Note 13 Pro 5G ได้รับการรับรองแสงสีฟ้าต่ำ (Low Blue Light), เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Circadian Friendly) และความไร้ซึ่งแสงกะพริบ (Flicker Free) จาก TÜV Rheinland
มอบความสนุกแบบเต็มอรรถรสด้วยขอบจอที่บางเฉียบ
Redmi Note 13 Pro 5G ได้รับการออกแบบให้มีขอบจอด้านล่างบางพิเศษ ซึ่งมีขนาดเพียงแค่ 2.27 มม. ผสานดีไซน์ขอบหน้าจอที่โค้งมนได้อย่างลงตัว ไม่ได้ดีเฉพาะในแง่ของการใช้งาน แต่ยังดีในด้านภาพลักษณ์อีกด้วย และตัวเครื่องที่บางเพียงแค่ 7.98 มม. ทำให้มีขนาดกำลังพอดีมือใช้งานสะดวกทั้งแบบแนวตั้งและแนวนอน
นอกนี้ยังรองรับ Dual Dolby อย่าง Dolby Atmos และ Dolby Vision รองรับระบบเสียงแบบพาโนรามา ให้ความบันเทิงทั้งภาพและเสียงที่ดื่มด่ำทุกที่ทุกเวลาแบบเต็มอรรถรส
ขุมพลัง Snapdragon® 7s Gen2 เร็วแรงไม่มีสะดุด
Redmi Note 13 Pro 5G ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 7s Gen 2 กระบวนการผลิตขนาด 4nm เป็นชิปเซ็ตที่ออกแบบมาสำหรับสมาร์ทโฟนระดับกลาง แม้ว่าจะไม่ใช่ชิปเรือธง แต่ถือว่ามีประสิทธิภาพที่ดีอย่างมากเลยทีเดียว ช่วยให้การทำงานของระบบมีความราบรื่นมากขึ้น เล่นเกมก็ไม่มีสะดุด
แบตเตอรี่ขนาด 5100 mAh1 รองรับการชาร์จเร็วเทอร์โบชาร์จ 67W
Redmi Note 13 Pro 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5100mAh รองรับการชาร์จเร็วเทอร์โบชาร์จ 67W ทำให้ชาร์จแบตเต็มได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้เพลิดเพลินกับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างยาวนานโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่ สามารถชาร์จได้ 50% โดยใช้เวลาเพียงแค่ 17 นาที และชาร์จเต็ม 100% เพียงแค่ 44 นาทีเท่านั้น แถมยังมีอะแดปเตอร์ 67W มาให้ในกล่องอีกด้วย
ทดสอบการเล่นเกม
สเปคเบื้องต้นของ Redmi Note 13 Pro 5G
ระบบปฏิบัติการ
หน้าจอ UI
ศูนย์ควบคุม
ศูนย์ควบคุมเป็นแผงที่ช่วยให้สามารถเรียกใช้งานสิ่งต่างๆ ได้ง่ายๆทันที โดยการปัดหน้าจอลงมาจากด้านขวาบน ภายในศูนย์ควบคุมจะมีปุ่มสำหรับการใช้งานหลักที่จำเป็น เช่น WiFi, Bluetooth, เปิด/ปิดเสียง, ปรับความสว่าง, หยุด/เปลี่ยนเพลง, ไฟฉาย เป็นต้น สามารถแก้ไข/ปรับแต่งตำแหน่งปุ่มเองได้อีกด้วย
การนำทางระบบ
มีให้เลือกใช้งาน 2 รูปแบบ คือ ท่าทางสัมผัสและแบบปุ่ม สามารถเข้าไปปรับแต่งตามความต้องการได้ที่ การตั้งค่า > หน้าจอหลัก > การนำทางของระบบ
อัตราการรีเฟรชหน้าจอ
Redmi Note 13 Pro 5G สามารถเลือกปรับแบบค่าเริ่มต้นอัตโนมัติ หรือจะกำหนดค่าเองก็ได้ โดยจะเลือกได้ 2 ระดับ คือ 60Hz และ 120Hz อัตราการรีเฟรชหน้าจอที่สูงจะช่วยให้การแสดงผลภาพมีความราบรื่นมากขึ้น สามารถเข้าไปปรับตามความต้องการโดยการเข้าไปที่ การตั้งค่า > การแสดงผลและความสว่าง > อัตราการรีเฟรช
ส่วนขยายหน่วยความจำ
Redmi Note 13 Pro 5G มีฟีเจอร์ส่วนขยายหน่วยความจำ (Virtual RAM) สามารถขยายได้ถึง 4 ขนาด ได้แก่ 4GB, 6GB, 8GB และสูงสุด 12GB สามารถเข้าไปเปิดใช้งานได้ง่ายๆ โดยการเข้าไปที่ การตั้งค่า > การตั้งค่าเพิ่มเติม > ส่วนขยายหน่วยความจำ
โหมดมืด
หากไม่ชอบใช้โหมดสว่าง อยากใช้งานแบบสบายตามากยิ่งขึ้น สามารถปรับแต่งโหมดแสดงผลได้ตามความต้องการง่ายๆ เพียงแค่เข้าไปที่ การตั้งค่า > การแสดงผลและความสว่าง > โหมดมืด สามารถเลือกให้ระบบสลับโหมดเองตามพระอาทิตย์ตกหรือพระอาทิตย์ขึ้น หรือจะเลือกเวลาตามที่ต้องการเองก็ได้เช่นกัน
ระบบความปลอดภัย
มีระบบความปลอดภัยให้เลือกใช้ 2 ระบบ ได้แก่ ปลดล็อคด้วยลายนิ้วมือและปลดล็อคด้วยใบหน้า
ธีม
สามารถปรับแต่ง ธีม / ภาพพื้นหลัง / ไอคอน ได้ตามความต้องการของคุณง่ายๆ โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > ธีม มีให้เลือกใช้มากมายทั้งแบบฟรีและเสียเงิน
ตัวทำความสะอาด
เป็นการล้างข้อมูลในส่วนของไฟล์ที่ไม่จำเป็น เช่น ขยะในระบบ, ขยะแคชและไฟล์ที่เหลือเมื่อยกเลิกการโหลด โดยจะช่วยให้เครื่องทำงานได้อย่างลื่นไหลและประหยัดพื้นที่ในการใช้งานมากยิ่งขึ้น
การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง
ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้
ราคาและการวางจำหน่าย
Redmi Note 13 Pro 5G มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีใหม่อย่าง Olive Green และสีที่วางจำหน่ายไปแล้ว 3 สี ได้แก่ Midnight Black, Ocean Teal และ Aurora Purple มาพร้อมความจุ 12GB + 512GB วางจำหน่ายในราคา 12,990 บาท สามารถหาซื้อได้ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ
จอ OLED 10-bit
1188 x 2790 พิกเซล
กล้องหน้า 16MP
Qualcomm Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core
Android 13
RAM 8 GB
ROM 256 GB
4,310 mAh
ชาร์จไว 33W
nubia Flip สมาร์ทโฟน หน้าจอ 6.9 นิ้ว Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core ราคา 19,990 บาท