รีวิว OPPO Reno11 5G สมาร์ทโฟนสายพอร์ตเทรต ถ่ายรูปคนอย่างโปร หน้าชัดหลังละลายเป็นธรรมชาติด้วยเลนส์เทเล ปรับรูรับแสงได้หลายระดับ เพื่อให้ได้เอฟเฟ็กต์โบเก้และมิติแสงเงาของรูปอย่างมืออาชีพเทียบเท่าเลนส์ DSLR หน้าจอดีไซน์โค้งใหญ่คมชัด ความจุ RAM 12GB + ROM 256GB ใช้งานลื่นไหลบนระบบปฏิบัติการใหม่ ColorOS 14 แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh ใช้งานได้ทั้งวันทั้งชาร์จไว 67W SUPERVOOC ชาร์จ 100% เต็มภายใน 45 นาที
Shopee : https://shope.ee/99zge1Dk2g
Lazada : https://s.lazada.co.th/s.OBcuW?cc
ดีไซน์สวยแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ
OPPO Reno11 5G ยังคงความสวยงามโฉบเฉี่ยว ดีไซน์แบบโค้ง 3D คู่ หน้าจอโค้งรับกับฝาหลังโค้งเช่นกัน ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา 182 กรัม และบางเพียง 7.99 มม. ช่วยให้การถือจับใช้งานสะดวกสบาย เสริมความเด่นให้กับกล้องหลังซึ่งเป็นจุดชูโรงของรุ่นนี้ ด้วยโมดูลกล้องทรงแคปซูลขนาดใหญ่ มองเห็นได้ชัดเจน ยื่นนูนออกมา ฝาหลัง 2 เฉดสีใหม่ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติแนวชายฝั่งทะเล พร้อมกับชื่อไทยเสริมมงคลให้เฮงๆ ปังๆ รับปีใหม่ ได้แก่ สีเขียว Wave Green (เขียวเหนี่ยวทรัพย์) และสีเทา Rock Gray (เทาดำดูดทรัพย์) มอบความรู้สึกที่ต่างกัน
OPPO Reno11 5G ใช้วัสดุพิเศษ ผ่านกระบวนการ OPPO Glow เล่นลวดลายพื้นผิวเป็นสามมิติ ทำให้เหมือนมีคริสตัลประกายระยิบระยับขนาดจิ๋วบนฝาหลัง ซึ่งได้รับการแกะสลักในระดับจุลภาคเพื่อสร้างความเปล่งประกาย มอบความรู้สึกนุ่มนวลและเรียบเนียนเวลาสัมผัส
ถ่ายภาพพอร์ตเทรตอย่างโปร
OPPO Reno11 5G ชูโรงมาด้วยกล้องถ่ายพอร์ตเทรตที่ทางแบรนด์เคลมว่าถ่ายสวยอย่างมือโปร เทียบเท่าเลนส์ DSLR ของมืออาชีพเลยทีเดียว ซึ่งกล้องถ่ายภาพที่ติดตั้งมาใน OPPO Reno11 5G ประกอบด้วย
ดีไซน์กล้องวงแหวน "Sunshine Ring"
ในการถ่ายภาพบุคคลด้วยเลนส์ Telephoto ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX709 หรือที่ทางออปโป้มีชื่อเรียกเฉพาะให้กับเลนส์นี้ว่าเลนส์ Portrait Telephoto รองรับการซูมแบบ Optical 2x ซึ่งเทียบเท่ากับทางยาวโฟกัส 47มม. จะได้ภาพถ่ายบุคคลแบบหน้าชัดหลังละลายที่ดูมีมิติมากขึ้น พื้นหลังของภาพเหมือนได้รับการดึงเข้ามาให้ใกล้ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อเปรียบเทียบภาพพอร์ตเทรตระยะ 1X และ 2X จะเห็นความแตกต่างของการดึงฉากหลังอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ OPPO Reno11 5G ยังรองรับ Digital Zoom 20x เลือกปรับรูรับแสงระหว่าง f/1.4 - f/16 เพื่อให้ได้เอฟเฟ็กต์โบเก้ รูปแบบแสงแฟลร์ และการแบ่งเลเยอร์ เพื่อให้เห็นการไล่ระดับความเบลอจากน้อยไปที่เบลอมากได้เทียบเท่าเลนส์ DSLR แบบโปร จากการทดสอบพบว่า ภาพที่ได้ออกมาสวยงามดี มีการปรับระดับที่ง่ายไม่ซับซ้อน การถ่ายภาพในสภาวะแสงซึ่งแตกต่างกัน ให้ภาพที่ดูเป็นธรรมชาติดี ความโบเก้หรือแสงแฟร์เป็นดวงสวยงาม เพิ่มลูกเล่นที่สร้างสรรค์ให้ภาพพอร์ตเทรตได้เอยะขึ้นกว่าเดิม
ส่วน Portrait Expert Engine ที่เข้ามาช่วยในการปรับแต่งภาพถ่ายคนให้สวยงามยิ่งขึ้น ด้วยการแยกแยะระหว่างวัตถุ และบุคคลได้อย่างแม่นยำ พร้อมปรับใบหน้าให้ดูสวยงามตามเอกลักษณ์ของแต่ละคนอย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งการให้แสงเงาก็ปรับแต่งให้เหมาะสมขึ้น
กล้องหน้าเซลฟี่ ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f 2.4 ทำให้ภาพเซลฟี่มีความสว่างคมชัดที่สมบูรณ์ไม่แพ้กล้องหลัง ถ่ายภาพเซลฟี่แบบหน้าชัดหลังเบลอได้ พร้อมทั้งความยาวโฟกัสกว้าง 22 มม. จึงสะดวกในการถ่ายภาพเซลฟี่หมู่ด้วยมุมมองที่กว้างขึ้น และมีโหมดหน้าสวยให้เลือกปรับเช่นเคย เป็นธรรมชาติไม่หลอกตา
OPPO Reno11 5G มาพร้อมเลนส์ Ultrawide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX355 ให้มุมมองการถ่ายภาพ 112 องศา ถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ได้สวยงามดี ไม่เกิดการบิดเบี้ยว หรือดูเป็นเลนส์ตาปลามากเกินไป เก็บภาพมุมกว้างที่ต้องการได้ครบองค์ประกอบ
ประสิทธิภาพการใช้งาน
OPPO Reno11 5G ขับเคลื่อนโดยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 7050 ออกแบบโดยใช้กระบวนการ 6 นาโนเมตร ประกบคู่มากับหน่วยความจำแบบ LPDDR5X + UFS 3.1 สูงสุด 12GB และ Dynamic RAM สูงสุด 12GB จับคู่กับ Trinity Engine ของ ColorOS 14 ระบบปฏิบัติการที่มาพร้อมกับ OPPO Reno11 5G ตั้งแต่แกะกล่อง ทำให้การทำงานโดยรวมลื่นไหลดีมาก ประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว
พื้นที่เก็บข้อมูลภายในขนาด 256GB มีความจุเหลือๆ เพียงพอที่จะดาวน์โหลดและเก็บไฟล์ต่างๆ โดยไม่ต้องถ่ายโอนข้อมูลบ่อย อีกทั้งยังสามารถเพิ่มพื้นที่ผ่านช่องเสียบการ์ด microSD ได้สูงสุดถึง 2TB อีกด้วย จะเล่นเกมออฟไลน์ เก็บภาพยนตร์ไว้ดู หรือโหลดแอปฯมาแบบแน่นเครื่องก็ไม่ต้องห่วงเรื่องความจุ
LinkBoost
OPPO Reno11 5G มาพร้อมกับเทคโนโลยี LinkBoost เครื่องมือใหม่เพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายที่พัฒนาขึ้นเองของ OPPO ซึ่งจะช่วยให้กำลังส่งสัญญานเร็วขึ้น 100% และการรับสัญญาณที่แข็งแกร่งขึ้น 44% ส่งผลดีในกรณีที่เราอยู่ในลิฟท์ หรือสถานที่อับสัญญานในระยะเวลาหนึ่ง เมื่อเราออกมาแล้ว อุปกรณ์จะสามารถจับสัญญานได้รวดเร็วขึ้น ทำให้ผู้ใช้งานกลับมาออนไลน์ได้เร็วกว่าคู่แข่งถึง 87% นั่นเอง
ชาร์จไว 67W SUPERVOOC
OPPO Reno11 5G สามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน ด้วยความจุแบตขนาดใหญ่ 5,000mAh จากการใช้งานในการเปิดคลิปวิดีโอความยาว 2 ชั่วโมง ด้วยประสิทธิภาพหน้าจอสูงสุด และเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ต พบว่าแบตเตอรี่ลดลงไปประมาณเกือบ 20 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ ยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 67W SUPERVOOC ซึ่งทางแบรนด์ให้ข้อมูลมาว่าสามารถชาร์จเต็ม 100% ภายใน 45 นาที จากการทดสอบชาร์จ 46 - 100 เปอร์เซ็นต์ ใช้เวลาไปทั้งสิ้น 26 นาที อีกทั้งไม่พบความร้อนที่สูงผิดปกติจากการชาร์จด้วย จึงมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยในการชาร์จเร็ว
จอดีไซน์โค้งแบบ AMOLED
OPPO Reno11 5G มีดีไซน์หน้าจอแบบโค้ง พาเนล OLED ความกว้าง 6.7 นิ้ว FHD+ พร้อมกับสีสัน 10-bit รองรับอัตรา Refresh Rate 120Hz มอบทั้งสีสันที่สวยงามสมจริง หน้าจอมีความสว่างชัด และมุมมองที่กว้างเต็มตา ด้วยขอบข้างที่บางเพียง 1.57 มม. และดีไซน์แบบ Punch Hole Display จึงมีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องถึง 93% ไม่ว่าคอนเทนต์ไหนก็รับชมได้อย่างเต็มอรรถรส
OPPO Reno11 5G มีขนาดตัวเครื่อง 162.4 x 74.3 x 8.04 มม. (สำหรับสีเขียว Wave Green) น้ำหนัก 182 กรัม ดีไซน์โค้งมน แต่ถือจับได้กระชับดีไม่ลื่นหลุด รูปทรงเพรียวบางใส่ในกระเป๋ากางเกงได้ไม่ตุง
หน้าจอก็มีดีไซน์โค้งเช่นเดียวกับฝาหลัง เป็นจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2412x1080 พิกเซล) รองรับอัตราการรีเฟรชสูงสุด 120Hz หน้าจอสว่างสูงสุด 800 nits และรองรับการแสดงผลคอนเทนต์ HDR10+
ส่วนบนของหน้าจอเป็นดีไซน์แบบ Punch Hole Display ติดตั้งกล้องหน้า ความละเอียด 32MP รูรับแสง f/2.4 เหนือขึ้นไปเป็นลำโพงเสียง
ส่วนล่างของหน้าจอเป็นระบบนำทางแบบซอฟต์แวร์ ซึ่งสามารถปรับการตั้งค่าได้ พร้อมรองรับการสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคใต้หน้าจอด้วย
ด้านบนของเครื่องมีช่องของลำโพงเสียง ไมโครโฟน และ IR Remote Control
ตัวเครื่องด้านขวา เป็นส่วนที่มีปุ่มควบคุมระดับเสียง และปุ่ม Power
ด้านล่างของตัวเครื่องมีพอร์ตแบบ USB C ตรงกลาง ขนาบข้างด้วยลำโพงเสียง ไมโครโฟน และถาดใส่ซิมการ์ดแบบไฮบริด ที่รองรับ Nano SIM จำนวน 2 ซิม หรือเลือกใส่ Nano Sim ช่องหนึ่ง และเพิ่มการ์ด microSD ได้สูงสุดถึง 2TB อีกช่องหนึ่ง
สำหรับตัวเครื่องด้านหลัง จะพบกับโมดูลกล้องดีไซน์แคปซูลขนาดใหญ่ ติดตั้งกล้องหลัง 3 เลนส์ กับไฟแฟลชที่อยู่ด้านข้าง เลนส์กล้องตัวบน คือ เลนส์ Telephoto ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX709 ส่วนอีก 2 เลนส์ที่อยู่ถัดลงมา คือ เลนส์หลัก ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony LYT600 และUltrawide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX355
ฝาหลังของเครื่องรีวิว คือ สีเขียว Wave Green สีเขียวเหนี่ยวทรัพย์ ที่มีความแวววาว ผสมผสานระหว่างผ้าไหมและเลื่อมโลหะ มีลวดลายที่เป็นริ้วๆ สวยงาม ผิวสัมผัสเรียบเนียน
เชื่อมต่อเทคโนโลยีให้ครบมิติด้วย IoT Ecosystem
นอกจาก OPPO Reno11 5G แล้ว ทางออปโป้ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์อัจฉริยะที่เสริมการเชื่อมต่อเพื่อเทคโนโลยีที่ครบวงจร ด้วย OPPO Pad Neo และหูฟัง OPPO Enco Air3s อีกด้วย
OPPO Pad Neo มาพร้อมจอถนอมสายตา LCD ขนาด 11.4 นิ้ว ความละเอียด 2.4K อัตรารีเฟรชเรท 90Hz หน้าจออัตราส่วน 7:5 ขนาดคล้ายกระดาษ A4 และจอ PC มอบความสว่างคมชัด แต่อ่านสบายตาด้วยการกรองแสงสีฟ้า เหมาะทั้งการทำงาน หรือรับชมคอนเทนต์เพื่อการเพลิดเพลิน
OPPO Pad Neo มีดีไซน์เพรียวบาง น้ำหนักเบา ตัวเครื่องมีน้ำหนัก 538 กรัม ความบางเพียง 6.89 มม. พกพาสะดวกตลอดวัน
ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Helio G99 มี RAM สูงสุดถึง 8GB พร้อมเทคโนโลยี Expansion ใช้งานได้ครบครันด้วยกล้องหน้าและกล้องหลัง ความละเอียด 8MP และระบบลำโพง 4 ตัว พร้อมเทคโนโลยีเสียง Dolby Atmos แบตเตอรี่ขนาด 8000mAh รองรับการชาร์จเร็ว 33W SuperVOOC
OPPO Pad Neo ทำงานข้ามอุปกรณ์อื่นง่ายๆ ด้วย Auto Connect รองรับซิมการ์ดและ WiFi และเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตง่ายผ่าน Communication Sharing
หูฟัง OPPO Enco Air3s มีตัวเคสที่เป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นสะดุดตาด้วยเคสชาร์จสีทอง Champagne Gold โทนใหม่ ผิวสัมผัสแบบด้าน สามารถเปิดฝาได้แบบ 110 องศา ด้านในเป็นหูฟังแบบมีก้าน น้ำหนักเบาพิเศษ 3.7 กรัม สวมใส่สบายตลอดวัน และมีการออกแบบแบบแม่เหล็กเพื่อช่วยยึดหูฟังไร้สายให้เข้ากับที่ชาร์จได้อย่างแน่นหนา
หูฟัง OPPO Enco Air3s มีไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 13.4 มม. คุณภาพเสียงทรงพลัง พร้อมการประมวลผลอิสระของ HiFi 5 DSP ใช้อัลกอริธึมระบบตัดเสียงรบกวน DNN ตัดเสียงรบกวนแยกเสียงออกจากเสียงพื้นหลังแบบเรียลไทม์ เชื่อมต่อสเถียรด้วยการส่งสัญญาณ Bluetooth 5.3 และเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ง่ายด้วย Google Fast Pair ใช้งานได้ยาวนาน 25 ชั่วโมง
สเปคของ OPPO Reno11 5G
หน่วยประมวลผล หน่วยความจำ และระบบปฏิบัติการ
OPPO Reno11 5G ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 7050 ซึ่งสามารถประมวลผลการใช้งานพื้นฐานได้รวดเร็ว รองรับการเชื่อมต่อ 5G มาพร้อม RAM 12GB และ Dynamic RAM อีก 4GB, 8GB และสูงสุด 12GB เพื่อให้เลือกใช้งานได้ตามความต้องการ มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ ROM 256GB หลังจากที่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นพื้นฐานจำเป็น และแอปฯแนะนำบางส่วนมา ยังคงเหลือพื้นที่ให้ใช้งานอย่างเพียงพอ
สำหรับระบบปฏิบัติการเป็น ColorOS 14 บนพื้นฐาน Android 14 ที่มีมาให้ตั้งแต่แกะกล่อง หน้าตา UI เน้นที่ความเรียบง่าย แต่ดูทันสมัยสวยงาม รองรับการใช้งานที่เข้าถึงสะดวก ปรับแต่งได้หลากหลาย มีความลื่นไหลรวดเร็วดี
หน้าจอหลัก
หน้าจอหลักเป็นแบบฉบับ ColorOS โดยเน้นความเรียบง่ายน่าใช้งาน มีให้เลือกทั้งแบบพื้นฐานแอพฯ รวมในหน้าจอหลัก และแบบลิ้นชัก นอกจากนี้ยังปรับแต่งธีม พื้นหลัง และลักษณะไอคอนแอพฯ ได้อีกด้วย
โหมดมืด
โหมดมืด เมื่อเปิดใช้งานจะเป็นการปรับเปลี่ยนธีมเป็นสีดำ และใช้ตัวหนังสือสีขาว ช่วยให้ใช้งานในที่แสงน้อยได้สบายตามากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการประหยัดแบตเตอรี่ไปในตัว เพราะพาแนลหน้าจอเป็นแบบ AMOLED หากเปิดใช้งาน อีกทั้งสามารถเลือกรูปแบบได้ 3 รูปแบบด้วย
การตัดต่อรูปภาพแบบง่าย
OPPO Reno11 5G สามารถตัดรูปภาพได้ง่ายๆ เพียงกดค้างไว้ที่จุดโฟกัสของรูป ทั้งรูปคน สัตว์ หรือสิ่งของ จากนั้นระบบจะประมวลผลเลือกเอาภาพหลักออกมา และตัดภาพพื้นหลังไป จากนั้นผู้ใช้งานก็เอารูปที่ตัดต่อเอาไปใช้ในแชทหรือแอปพลิเคชั่นอื่นๆ ที่รองรับได้อย่างง่ายดาย
Smart Touch และ File Dock
ภาพที่ตัดแต่งมาหรือภาพอื่นๆ สามารถลากเก็บมาไว้ใน File Dock ที่ซ่อนแถบอยู่ด้านข้างหน้าจอ เพื่อหยิบรูปภาพ ข้อความ ไปจัดเก็บหรือย้ายไปยังแอปและอุปกรณ์อื่นๆ ได้เพียงการแตะไม่ดี่ครั้ง
IR Remote Control
สามารถใช้ OPPO Reno11 5G เพื่อเป็นรีโมทคอนโทรลควบคุมอุปกรณ์อัจฉริยะเกือบทุกชนิดผ่านโทรศัพท์ได้ง่ายๆ โดยรองรับหลากหลายอุปกรณ์
การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง OPPO Reno11 5G
OPPO Reno11 5G มาพร้อม 2 สี ได้แก่ สีเขียว Wave Green (เขียวเหนี่ยวทรัพย์) และสีเทา Rock Gray (เทาดำดูดทรัพย์) วางจำหน่ายในราคา 14,990 บาท สามารถไปทดลองสัมผัสหรือเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ ณ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
พิเศษ!! ลูกค้าที่จองสินค้าในวันที่ 23 - 29 มกราคม 2567 จะได้รับของสมนาคุณ มูลค่า 11,297 บาท ประกอบไปด้วย
สำหรับ OPPO Pad Neo และ OPPO Enco Air3s
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/oppothai
6.7 นิ้ว
จอ AMOLED 1080x2412 Pixels
50 MP + 32MP (Telephoto) + 8MP (Ultrawide)
กล้องหน้า 32MP
Mediatek Dimensity 7050 Octa Core ความเร็ว 2.6 GHz
Color OS 14 based on Android 14
RAM 12GB
ROM 256 GB
5,000mAh (Standard Battery) ชาร์จเร็ว
Reno 11 สมาร์ทโฟน หน้าจอ 6.7 นิ้ว
จอ AMOLED 1080x2412 Pixels Mediatek Dimensity 7050 Octa Core ความเร็ว 2.6 GHz ราคา 14,990 บาท
ฟังก์ชั่น | รายละเอียด |
---|---|
หน้าจอ | 6.7 นิ้ว จอ AMOLED 1080x2412 Pixels |
ระบบปฏิบัติการ | Color OS 14 based on Android 14 |
หน่วยประมวลผล | Mediatek Dimensity 7050 Octa Core ความเร็ว 2.6 GHz |
กล้องหลัง | 50 MP + 32MP (Telephoto) + 8MP (Ultrawide) |
กล้องหน้า | 32MP |
หน่วยความจำ | RAM 12GB ROM 256 GB |
ซิมการ์ด | รองรับ 2 ซิม Nano-SIM |
ระบบเชื่อมต่อ | WIFI802.11 a/b/g/n/ac/6 WIFIHotspot Bluetooth5.3, A2DP, LE, aptX HD NFC |
แบตเตอรี่ | 5,000mAh (Standard Battery) ชาร์จเร็ว |