พรีวิว Samsung Galaxy S24 Ultra 5G โทรศัพท์มือถือ AI ที่รอคุณมาสัมผัส แตกต่างจากรุ่นอื่นในซีรีส์อย่างไรบ้าง

สำหรับ Samsung Galaxy S24 Ultra เป็นรุ่นพี่สุดในรุ่น โดยมี Galaxy AI เช่นกัน เพียงแต่ว่า แตกต่างขั้นสุด เพราะฟีเจอร์และฟังก์ชันทั้งหมดนั้นมีหัวใจสำคัญอย่างหน่วยประมวลผลรุ่นท็อป Snapdragon 8 Gen 3 กับเทคโนโลยี Neural Processing Unit (NPU) ซึ่งประมวลผลด้วย AI ที่จะทำให้ทุกอย่างลื่นไหลมากขึ้น ประมวลผลรวดเร็วไร้รอยต่อ ส่วนรายละเอียดจุดเด่นต่างๆ สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : สรุปไว้ให้แล้ว Samsung Galaxy S24 vs Samsung Galaxy S24+ ต่างกันอย่างไร?

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

เริ่มจากดีไซน์มีความหรูหรา พรีเมียม Samsung Galaxy S24 Ultra ใช้วัสดุไทเทเนียม โดยกรอบเครื่องใช้วัสดุดังกล่าว ซึ่งมีความแข็งแรงทนทานกว่าโลหะทั่วไป นอกจากนี้ยังมีการออกแบบด้วยเทคนิคพิเศษ มาพร้อมกระจกหน้าจอใหม่ล่าสุด Corning Gorilla Armor เป็นกระจกแบบใหม่ที่ทางซัมซุงพัฒนาร่วมกับ Corning จุดเด่นอยู่ที่ช่วยลดแสงสะท้อนได้ประมาณ 75% พร้อมคุณสมบัติป้องกันรอยขีดข่วยได้ดีกว่า 4 เท่า เมื่อเทียบกับหน้าจอประเภทอื่น ซึ่งผลิตด้วยวัสดุรีไซเคิล

เติมเต็มมากกว่าเดิมด้วยปากกา S-PEN โดยจะมีแค่ Samsung Galaxy S24 Ultra รุ่นนี้รุ่นเดียวเท่านั้น โดย Samsung Galaxy S24 กับ Samsung Galaxy S24+ จะไม่มีปากการให้ใช้งาน และไม่สามารถซื้อมาใช้ได้ ส่วนฟีเจอร์ยังคงเดิมเหมือนกับ Samsung Galaxy S23 Ultra ไม่มีอะไรเพิ่มใหม่

ระบบระบายความร้อนมีพื้นที่ครอบคลุมใหญ่กว่า 1.9 เท่า เมื่อเทียบกับ Samsung Galaxy S23 Ultra ทำให้คุณสามารถใช้งานลื่นไหลหายห่วง แม้เล่นเกมหนักแค่ไหนก็สบายใจได้

เรียกน้ำย่อย! ยกตัวอย่างโลกของ Galaxy AI มีอะไรบ้าง ที่เพิ่มความฉลาด ล้ำหนัา ความสะดวกให้ผู้ใช้งาน

สงสัยว่ารูปภาพหรือวิดีโอที่เราเห็นคืออะไร สามารถค้นคว้าหาข้อมูลได้ทันที ฟีเจอร์นี้เรียกว่า Circle search เมื่อคุณอยากรู้เรื่องใดจากในรูปภาพหรือวิดิโอ ก็ใช้ปากกา S-PEN (ปากกามีเฉพาะ Samsung Galaxy S24 Ultra ถ้าสองพี่น้องข้างต้นใช้นิ้วมือวงได้เลย) วงจุดที่อยากรู้ จากนั้น AI จะทำการค้นหาข้อมูลให้ทันที โดยที่ไม่ออกจากแอปฯ นั้นเลย

แปลภาษาได้รวดเร็วและง่ายกว่าที่เคย ฟีเจอร์นี้เรียกว่า Live Translate โดยการติดต่อสื่อสารจะไม่ใช่เรื่องยาก หรือไม่มั่นใจแล้ว เพราะแปลได้เกือบจะเรียลไทม์ทั้งผ่านสายสนทนา, ข้อความ หรือประโยคระหว่างคู่สนทนา ทำไมถึงบอกว่า เกือบจะเรียลไทม์ เพราะการมีคู่สนทนา AI จะต้องได้ยินชัดเจนและประมวลผลคำพูด ไม่ว่าจะผ่านสายสนทนา หรือลำโพงก็ตาม ดังนั้นอาจต้องใช้ระยะเวลานิดหน่อย ซึ่งต่างจากแอปฯ ต่างๆ ที่เห็นเป็นข้อความเลย จึงมีความรวดเร็วในการแปลภาษามากกว่า เบื้องต้นการแปลภาษาจะรองรับ 13 ภาษา รวมถึงภาษาไทย

บทความยาวให้ห่วง ใน Samsung Internet หรือเว็บเบราว์เซอร์ของซัมซุง มีฟีเจอร์ใหม่ โดย AI จะทำการวิเคราะห์เนื้อหาทั้งหมดในหน้าเบราว์เซอร์ แล้วจะประมวลผล พร้อมสรุปเนื้อหาใจความสำคัญให้อ่านอีกครั้ง จากเดิมที่คุณต้องอ่านทั้งหมดและสรุปใจความเอง แต่ AI มาช่วยคุณเรื่องนี้แล้ว

AI ชาญฉลาด และถูกเติมเต็มมากขึ้นในด้านภาพถ่ายและวิดีโอ ทาง Samsung อธิบายว่าพวกเขาได้พัฒนาอัลกอริทึมที่เรียกว่า ProVisual Engine จะเป็นการเติมเต็มด้านถ่ายภาพและยังมีลูกเล่นให้ผู้ใช้งานอีกด้วย หลักๆ การเติมเต็มภาพจะเป็นการปรับแต่งให้คมชัดทั้งความสว่างและสีสันแม้จะเป็นการซูมมากกว่า 100 เท่าก็ตาม เช่นเดียวกับการถ่ายภาพกลางคืน (Nightography) จะช่วยลดจุดรบกวนของภาพและทำให้สว่างมากขึ้น แม้การถ่ายภาพช็อตนั้นจะถูกซูมไกลอยู่ก็ตาม

กล้องหลังแบ่งทั้งหมด 4 เลนส์

• เลนส์หลัก : เลนส์ Wide ความละเอียด 200 ล้านพิกเซล มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS รูรับแสง f/1.7 มุมมองถ่ายภาพ 85 องศา
• เลนส์สอง : เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มุมมองถ่ายภาพ 120 องศา
• เลนส์สาม : เลนส์ Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS รูรับแสง f/3.4 มุมมองถ่ายภาพ 22 องศา รองรับการซูมภาพแบบ 5x Optical Zoom
• เลนส์สี่ : เลนส์ Telephoto ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 มุมมองถ่ายภาพ 36 องศา รองรับการซูมภาพแบบ 3x Optical Zoom
• รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K ที่ 60fps / 8K ที่ 30fps
• กล้องหน้า : ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มุมมองถ่ายภาพ 80 องศา

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

สำหรับสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy S24 Ultra มีขนาดตัวเครื่อง 162.3 x 79 x 8.6 มม. ซึ่งถือว่าไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก แม้มีขนาดหน้าจอ 6.8 นิ้ว นั่นเพราะมีขอบจอบางมาก ที่แนบสนิทเข้ากับขอบตัวเครื่อง ทำให้มีพื้นที่ด้านหน้าเพียบ จึงเป็นที่มาว่า ได้ขนาดหน้าจอใหญ่ทั้งที่มีตัวเครื่องไม่ได้ใหญ่มากนั่นเอง

หน้าจอ แบบ Infinity-O Dynamic AMOLED 2X อัตรารีเฟรชเรท 120Hz ความสว่างหน้าจอสูงสุด 2600nits พร้อมครอบทับกระจก Corning Gorilla Glass Victus 2 พร้อมเทคโนโลยี HDR10+ ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียด 3120 x 1440 พิกเซล

หน้าจอมีการครอบทับกระจกป้องกันรอยขีดข่วน Corning Gorilla Armor ป้องกันแสงสะท้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยคุณสมบัติลดการสะท้อนแสงหน้าจอ 75% แม้ใช้งานกลางแจ้ง ที่สำคัญเลย สมาร์ทโฟน Samsung Galaxy S24 Ultra มีความสว่างหน้าจอมากถึง 2600nits

เหนือหน้าจอมีเหล่าเซนเซอร์ และกล้องหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มุมมองถ่ายภาพ 80 องศา

สมาร์ทโฟน Samsung Galaxy S24 Ultra มีเฉดสีตัวเครื่องหลากหลายมาก ทำให้ใจฟูได้เลย มีสีตัวเครื่องให้เลือกทั้งหมด 7 เฉดสี แบ่งเป็น 4 สีสำหรับช่องทางการซื้อทั่วไป คือ Titanium Black, Titanium Gray, Titanium Yellow และ Titanium Violet ส่วนเฉดสีพิเศษจะมีผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น คือ Samsung Online Shop คือ Titanium Blue, Titanium Green และ Titanium Orange

ด้านบนตัวเครื่องมีช่องไมโครโฟน 2 ตัว สำหรับเพิ่มประสิทธิภาพด้านการบันทึกวิดีโอและลดเสียงรบกวน

ด้านล่างตัวเครื่องมีช่องใส่ปากกา S-Pen ถัดมาเป็นพอร์ต USB Type-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่และถ่ายโอนข้อมูล พร้อมช่องใส่ซิมการ์ด สแตนบาย 5G ได้สองซิมการ์ด แบบที่สลับใช้งานอัตโนมัติ สัญญาณไม่ดับ ทำให้การติดต่อสื่อสารไม่ติดขัดใดๆ

ด้านขวาตัวเครื่องมีปุ่ม Power และปุ่มปรับระดับเพิ่มเสียงลดเสียง ส่วนด้านซ้ายตัวเครื่องไม่มีปุ่มควบคุมใดๆ

การใช้งาน S-Pen ก็เหมือนกับรุ่นก่อนเลย ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง หรืออัปเกรดใดๆ แต่ความน่าสนใจคือ การถูกเติมเต็มด้วย Galaxy AI ที่จะช่วยดึงศักยภาพของปากกามากขึ้น ประมาณว่ามีความหลากหลายในการใช้งานนั่นเอง

สำหรับสมาร์ทโฟน  ยังอยู่ในช่วงจองล่วงหน้า มีโปรโมชันเพียบเลย ตามแต่ละตัวแทนจำหน่าย แนะนำว่าถ้าอยากจับจองเป็นเจ้าของ ช่วงนี้คือคุ้มค่าสุดแล้ว โดยการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการจะจับเป็นเจ้าของได้ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม มีราคาดังนี้

• RAM 12GB + ROM 256GB : ราคา 46,900 บาท
• RAM 12GB + ROM 512GB : ราคา 52,900 บาท
• RAM 12GB + ROM 1TB : ราคา 62,900 บาท