รีวิว iPhone 15 Plus ปรับโฉมด้วย Dynamic Island ถ่ายรูปสวยขึ้นด้วยกล้องระดับ 48MP

iPhone 15 และ iPhone 15 Plus คู่หูตัวรองในตระกูล iPhone 15 Series มารอบนี้ได้ใช้งาน Dynamic Island เหมือนกับตัวท็อป พร้อมกับอัปเกรดการใช้งานกล้องถ่ายรูปเป็น 48MP ช่วยในเรื่องการถ่ายภาพได้คมชัดมากขึ้น และมีการปรับชิปเซ็ตให้แรงขึ้นด้วยชิป A16 Bionic และที่สำคัญเปลี่ยนมาเป็นพอร์ต USB Type-C ชาร์จแบตเตอรี่ได้ง่ายๆ ภาพรวมถือว่ายังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากตามแนวทางของ Apple

สั่งซื้อคลิก!

Shopee : https://shope.ee/5fMhPmfl80

Lazada : https://s.lazada.co.th/s.kCk9U?cc

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

ขนาดตัวเครื่อง iPhone 15 Plus จะใหญ่กว่า iPhone 15 มีขนาดรอบตัวเครื่องที่ 160.9x77.8x7.8 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 201 กรัม ส่วน iPhone 15 มีขนาดที่ 147.6x71.6x7.8 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 171 กรัม ยังใช้ดีไซน์ขอบเรียบทั้ง 4 ด้านเหมือนเดิม

หน้าจอแสดงผล iPhone 15 Plus เป็น Super Retina XDR พาแนล OLED กว้าง 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2796x1290 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซล 460ppi ปรับความสว่างได้สูงสุด 1,600nits และใช้กระจกแบบ Ceramic Shield ส่วน iPhone 15 เป็น Super Retina XDR พาแนล OLED กว้าง 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2556x1179 พิกเซล

เหนือหน้าจอแสดงผล ปรับมาใช้รอยแหว่งแบบ Dynamic Island ในนั้นมีกล้อง TrueDepth ความละเอียด 12MP และแผงเซนเซอร์สแกนใบหน้า FaceID ขยับไปขอบหน้าจอด้านบนมีลำโพงเสียง

ล่างหน้าจอแสดงผล ไม่มีปุ่มใช้งานแบบฮาร์ดแวร์ โดยการนำทางจะมาในรูปแบบ Gesture

ส่วนบนตัวเครื่อง ไม่มีพอร์ต หรือปุ่มใช้งานใดๆ

ส่วนใต้ตัวเครื่อง ตรงกลางเป็นพอร์ต USB Type-C ทางซ้ายและขวา เป็นลำโพงเสียง พร้อมกับไมโครโฟน

ข้างซ้ายตัวเครื่อง บนสุดยังเป็นปุ่ม Toggle เพื่อปรับโหมดเสียง ขยับลงมาเป็นปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียง และล่างสุดเป็นช่องใส่ถาดซิมการ์ดแบบ NanoSIM 1 ช่องและอีกเป็น eSIM

ข้างขวาตัวเครื่อง มีเพียงปุ่มเพาเวอร์เพียงปุ่มเดียว

ในส่วนฝาหลัง กล้องหลังยังใช้โมดูลแบบสี่เหลี่ยมใส กลืนไปกับสีของตัวเครื่อง บนโมดูลมีกล้องหลัง 2 ตัววางแบบแนวทแยง ประกอบไปด้วยกล้องหลัก ความละเอียด 48MP และกล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 12MP พร้อมไฟแฟลช LED และไมโครโฟน ความสวยงามของฝาหลัง เป็นแบบผิวกระจกแต่งด้วยสีแบบด้าน โดยสีที่ได้มาเป็นสีชมพู และตรงกลางเป็นโลโก้ Apple

อุปกรณ์ในกล่อง

ตัวเครื่อง iPhone 15 Plus / iPhone 15
สาย USB Type-C To Type-C แบบถัก
คู่มือการใช้งาน และใบรับประกัน

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

ตัวเครื่องวัสดุแข็งแรง แต่เน้นการรักษ์โลก
iPhone 15 และ iPhone 15 Plus เดินทางตามวัตถุประสงค์ของ Apple ด้วยการใช้วัสดุภายใน และขอบเฟรมเป็นอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับอุตสาหกรรมอวกาศ รีไซเคิลได้ 75% ฝาหลังเป็นแบบกระจกแต่งด้วยสีตามตัวเลือก ส่วนดีไซน์ยังเป็นทรงกล่องขอบเรียบเหมือนเดิม

หน้าจอแสดงผล
หน้าจอแสดงผลยังแสดงผลได้สวยงามคมชัด ด้วยหน้าจอ Super Retina XDR พาแนล OLED ขอบเขตสีกว้าง P3 ปรับความสว่างได้สูงสุด 2,000nits ใช้งานกลางแจ้งได้สบาย รองรับคอนเทนด์ HDR โดย iPhone 15 มีความกว้าง 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2556x1179 พิกเซล และ iPhone 15 Plus มีความกว้าง 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2796x1290 พิกเซล ส่วนเทคโนโลยี ProMotion ยังไม่นำมาใช้กับ iPhone 15 และ iPhone 15 Plus โดยหน้าจอยังอัตรา Refresh Rate มาตรฐานที่ 60Hz

Dynamic Island มาแล้ว
ทั้ง iPhone 15 และ iPhone 15 Plus มาพร้อมรอยแหว่งแบบ Dynamic Island ทำให้ดูการแจ้งเตือน และดูกิจกรรมอื่นๆ แบบเรียลไทม์ได้ง่ายขึ้น เมื่อมีการเด้งแจ้งเตือน Dynamic Island จะขยายใหญ่ ทำให้ดูรายละเอียดต่างๆ ได้ทันที ใช้ควบคุมเพลงโดยไม่ต้องไปที่แอพฯ เพลงก็ได้เช่นกัน และดูว่าใครโทรมาจาก Dynamic Island ได้ด้วย

ชิปเซ็ตแรงเหลือ A16 Bionic
ชิปเซ็ตถูกอัปเกรดขึ้นมาเป็น A16 Bionic ให้การทำงานที่แรงเร็วขึ้นไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไป หรือการเล่นเกมก็จัดเต็มได้เลย พร้อมกับจัดการการใช้งานแบตเตอรี่ให้ดีมากขึ้น ทั้งนี้ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายภาพในสวยงามได้ด้วย

ทดสอบการเล่นเกม
เรื่องการเล่นเกมเรียกว่าจัดเต็มได้เลย โดยเกม Genshin Impact สามารถปรับสุดได้ ด้วยกราฟฟิกระดับสูงสุด แต่ดันเฟรมเรตได้ 60fps เท่านั้น ภาพมีความลื่น และสวยงามอย่างมาก แต่จะให้ดีและไม่ตึงเครื่องเกินไปก็แนะนำให้ปรับเป็นกลางๆ และเฟรมเรต 60fps จะดีกว่า ส่วนเกมอื่นๆ ก็ไม่มีปัญหาเครื่องมาแรงขนาดนี้ปรับสุดๆ ได้เลย

เปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB Type-C
ทั้ง iPhone 15 และ iPhone 15 Plus ก็เป็นอีก 2 รุ่นที่บอกลาพอร์ต USB Lightning โดยเปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB Type-C ทีนี่ก็เข้าทางเลย สามารถหาสายชาร์จมาใช้งานได้ง่ายๆ แต่ยังเป็น USB Type-C 2.0 อยู่ ทำให้ส่งข้อมูลได้ไม่เร็วมาก โดยอยู่ที่ 480Mb/s เท่านั้น ส่วนการชาร์จก็ยังรองรับการชาร์จเร็ว 20W

FaceID สแกนใบหน้าแม่นยำรวดเร็ว
แม้ว่าจะเปลี่ยนมาเป็น Dynamic Island แต่ก็ยังใช้งาน FaceID ได้รวดเร็ว แม่นยำเช่นเดิม โดยกล้อง TrueDepth จะอยู่ใน Dynamic Island สแกนใบหน้าแบบ 3 มิติ แม่นยำแม้อยู่ในที่มืด นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าสแกนเวลาใส่หน้ากากอนามัยได้ด้วย เพิ่มความสะดวกในการใช้งานอีกระดับ

ความร้อนปกติไม่เหมือนตัว Pro และ Pro Max
จากกระแสความร้อนเมื่อใช้งานของ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ต้องบอกว่ารุ่นรองอย่าง iPhone 15 และ iPhone 15 Plus ไม่มีปัญฆาตรงนี้ สามารถใช้งานได้ปกติ โดยทดสอบจากการเล่นเกม PUBG Mobile ปรับกราฟฟิกแบบสุด ก็พบว่าเครื่องอุ่นๆ แบบปกติ ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด

ประสิทธิภาพกล้องถ่ายรูป
เปิดประสบการณ์กล้องถ่ายรูปแบบคมชัดมากขึ้น โดย iPhone 15 และ iPhone 15 Plus มารอบนี้ได้อัปเกรดกล้องหลังเป็นความละเอียดสูงสุด 48MP และกล้องอีกตัวเป็น Ultra-Wide ความละเอียด 12MP เปิดมุมกว้างได้ 120 องศา ส่วนกล้องหน้า TrueDepth มีความละเอียด 12MP ด้านโหมดต่างๆ ของกล้องถ่ายรูปยังมีมาครบ ทั้งภาพ Portrait, การซูมแบบ Optical 2 เท่า และโหมดกลางคืนแบบอัตโนมัติ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือโหมด Portrait ที่มีการเบลอภาพอย่างฉลาดขึ้น เลือกเบลอส่วนหน้า หรือส่วนหลังได้ และยังมาปรับแต่งในภายหลังได้ด้วย

ตัวอย่างภาพจากกล้องSample & Photo

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

สเปคของ iPhone 15 และ iPhone 15 Plus

ขนาดตัวเครื่อง iPhone 15 : 147.6x71.6x7.8 มิลลิเมตร
น้ำหนัก iPhone 15 : 171 กรัม
ขนาดตัวเครื่อง iPhone 15 Plus : 160.9x77.8x7.8 มิลลิเมตร
น้ำหนัก iPhone 15 Plus : 201 กรัม
หน้าจอแสดงผล iPhone 15 : Super Retina XDR พาแนล OLED กว้าง 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2556x1179 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซล 460ppi ปรับความสว่างได้สูงสุด 1,600nits
หน้าจอแสดงผล iPhone 15 Plus : Super Retina XDR พาแนล OLED กว้าง 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2796x1290 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซล 460ppi ปรับความสว่างได้สูงสุด 1,600nits
ชิปเซ็ต : A16 Bionic แบบ 6-Core + GPU แบบ 5-Core
Neural Engine แบบ 16-Core
ระบบปฏิบัติการ : iOS 17
กล้องหลัง 2 ตัว พร้อมไฟแฟลช LED
- กล้องหลัก ความละเอียด 48MP รูรับแสง f/1.6 กันสั่น OIS
- กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/1.6
กล้องหน้า ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/1.9
เครือข่าย : 5G / 4G LTE / 3G / 2G รองรับ NanoSIM + eSIM หรือ eSIM+eSIM
การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 6, Bluetooth 5.3, NFC, พอร์ต USB Type-C 2.0
ระบบเสียง : ลำโพงคู่ Stereo รองรับ Apple Lossless, Dolby Atmos
มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น : IP68
การชาร์จแบตเตอรี่ : ชาร์จผ่านสาย 20W และชาร์จไร้สาย 15W

ระบบปฏิบัติการ iOS 17
iOS 17 เป็นระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดของ iPhone ซึ่งมาทันทีตั้งแต่แกะกล่อง iPhone 15 และ iPhone 15 Plus ส่วนที่เพิ่มเติมหลัก ก็เป็นการปรับแต่ง UI ของหน้าผู้ติดต่อ สายเรียกเข้า และ iMessenger ที่มีความหลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้ยังส่งข้อความทิ้งไว้ หากโทร FaceTime แล้วคู่สายไม่รับสาย เป็นต้น

หน้าจอหลัก
ฝั่งหน้าจอหลักยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก ยังมีความเป็น iPhone เหมือนเดิม โดยหน้าจอหลักจะรวมแอพฯ ไว้ทั้งหมดในหน้านี้ และหน้าสุดท้ายเป็นคลังแอพฯ นอกจากนี้ยังใส่ Widget ปรับพื้นหลังได้ตามใจเช่นเดิม

โหมดมืด
โหมดมืดยังสำคัญกับ iPhone รุ่นใหม่ๆ ทั้งหมด นอกจากจะช่วยให้ใช้งานได้สะดวกเวลาใช้งานผ่านหน้าจอในที่แสงน้อย ยังช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้อีกทาง เพราะพาแนลเป็น OLED นั้นเอง

SOS ฉุกเฉิน โทรหลังจากเกิดรถชนกันรุุนแรงมาก
มาใหม่เพิ่มความปลอพภัยมากขึ้น โดยเป็นระบบ SOS ฉุกเฉิน โทรหลังจากเกิดรถชนกันรุุนแรงมาก หากเปิดใช้งาน ระบบจะโทรฉุกเฉินให้ทันทีตามเบอร์ที่ใส่ในการตั้งค่า

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง

ผลการทดสอบประสิทธิภาพตัวเครื่องด้วย AnTuTu Benchmark v9.0.9 ได้ 1,421,801 คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย Geekbench 5 ได้คะแนน Single-Core ที่ 2640 และคะแนน Multi-Core ที่ 6728 คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย 3DMark Wild Life Extreme ได้ 2,705 คะแนน
ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 5 จุด

ราคาของ iPhone 15 Plus และ iPhone 15
ไม่ต้องรอกันนานกับ iPhone 15 Plus และ iPhone 15 เนื่องจากประเทศไทยได้เป็นประเทศกลุ่มแรกที่ได้สัมผัส iPhone 15 Series สามารถเดิน Walk-in ไปยัง Apple Store หรือสั่งซื้อทาง Apple Store Online ได้เช่นกัน โดยมีให้เลือก 5 สีคือ ดำ, ฟ้า, เขียว, เหลือง, และ ชมพู ส่วนราคาเลือกได้ตามด้านล่าง