HMD Global เปิดตัว 2 ฟีเจอร์โฟนรุ่นใหม่ โดยเป็น Nokia 150 (2023) ที่เน้นความทนาน และ Nokia 130M (2023) จะเน้นในเรื่องของเสียงเพลง ทั้งคู่มีความพิเศษที่แตกต่างกัน แต่ยังเป็นฟีเจอร์โฟนรองรับเครือข่าย 2G แบบ Dual-SIM ในย่าน 900 และ 1800
Nokia 150 (2023)
Nokia 150 (2023) ใช้วัสดุรอบตัวเครื่องจากโพลีคาร์บอร์เนท ป้องกันรอยขีดขวนได้ดีขึ้น และยังได้มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP52 ใต้ตัวเครื่องมีพอร์ตชาร์จ Micro USB 1.1 และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร โดยรวมดีไซน์ยังไม่แตกต่างกับ Nokia 150 ที่เปิดตัวเมื่อ 3 ปีก่อน
ส่วนสเปคต่างๆ มีหน้าจอแสดงผลขนาด 2.4 นิ้ว ความละเอียด 320x240 พิกเซล รันบนระบบปฏิบัติการ Nokia OS S30+ สามารถใส่ MicroSD Card ได้สูงสุด 32GB ใช้งานเล่นไฟล์ MP3 และฟังวิทยุได้ ส่วนกล้องถ่ายรูปมีความละเอียด 0.3MP และแบตเตอรี่ขนาด 1,450mAh คุยสายติดต่อกันได้ 20 ชั่วโมง
Nokia 130M (2023)
สำหรับ Nokia 130M (2023) เป็นฟีเจอร์โฟนที่เน้นการฟังเพลง โดยฝาหลังมีลำโพงขนาดใหญ่ และมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร รองรับการเล่นไฟล์ MP3s บน MicroSD Card ความจุสูงสุด 32MP และสามารถฟังวิทยุได้
หน้าจอแสดงผลมีขนาด 2.4 นิ้ว รันบนระบบปฏิบัติการ Nokia OS S30+ และมีขนาดแบตเตอรี่ 1,450mAh ชาร์จแบตเตอรี่้ผ่านพอร์ต Micro USB
เบื้องต้น Nokia 150 (2023) และ Nokia 130M (2023) มีการเปิดตัวในประเทศอินเดีย และเตรียมวางขายเร็วๆ นี้ โดย Nokia 150 (2023) มีให้เลือก 3 สีคือ สีดำ, สีแดง, และสี Cyan มีราคาเริ่มต้น 2,700 รูปี หรือประมาณ 1,200 บาท ส่วน Nokia 130M (2023) มีให้เลือก 3 สีเช่นกันคือ Dark Blue, สีม่วง และ Light Gold สนนราคาเริ่มต้นที่ 1,850 รูปี หรือประมาณ 800 บาท
จอ OLED 10-bit
1188 x 2790 พิกเซล
กล้องหน้า 16MP
Qualcomm Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core
Android 13
RAM 8 GB
ROM 256 GB
4,310 mAh
ชาร์จไว 33W
nubia Flip สมาร์ทโฟน หน้าจอ 6.9 นิ้ว Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core ราคา 19,990 บาท