รีวิว OPPO Reno8 T 5G รุ่นใหม่ กล้อง 108MP Portrait Camera พอร์ตเทรตสวยชัด สเปคอัปเกรดรอบด้าน

ไม่ปล่อยให้แฟนๆ รอนาน ล่าสุด OPPO ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนถ่ายพอร์ตเทรตสวย OPPO Reno8 T 5G สานต่อความเป็น The Portrait Expert ด้วยกล้อง108MP Portrait Camera ถ่ายพอร์เทรตคมชัดระดับ 108 ล้านพิกเซล พร้อมอัปเกรดดีรอบด้าน ทั้งดีไซน์และสเปคที่เทียบได้กับระดับเรือธงเลยทีเดียว เริ่มจากหน้าจอ 120Hz 3D Curved Screen จอโค้งคมชัด การแสดงผลพันล้านสี ดีไซน์ OPPO Glow ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ประสิทธิภาพที่เร็วแรง แบตเตอรี่ที่มาพร้อมกับ 67W SUPERVOOCTM มอบการชาร์จที่รวดเร็วและปลอดภัย ใช้งานได้ทนทาน ยาวนานปลอดภัย

สั่งซื้อคลิก!

Lazada : https://c.lazada.co.th/t/c.Y0GL6h

Shopee : https://shope.ee/5fJ4aCtFaF

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

OPPO Reno8 T 5G มีขนาด 162.3 x 74.3 x 7.7 มิลลิเมตร น้ำหนัก 171 กรัม ตัวเครื่องมีความบางเบา ดีไซน์ขอบโค้งมนแบบ Dual Micro-Curved ช่วยให้จับรับกับมือดีขึ้น และยังดูสวยพรีเมี่ยมยิ่งขึ้น เพิ่มความโดดเด่นด้วยดีไซน์ OPPO Glow จากกระบวนการผลิตพิเศษเฉพาะของ OPPO ที่สร้างคริสตัลรูปทรงปิรามิดหลายล้านเม็ดบนฝาหลัง มีมาด้วยกัน 2 สี 2 สไตล์ สีทอง Sunrise Gold (เครื่องรีวิว) และ สีดำ Midnight Black

หน้าจอ 120Hz 3D Curved Screen จอโค้ง มีความคมชัดแบบ AMOLED ความกว้าง 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2412x1080 พิกเซล) รองรับ 120Hz Refresh Rate และให้การแสดงผลถึงพันล้านสี เรียกว่าเป็นหน้าจอที่ให้การมองเห็นเต็มตา สีสันสวยสดคมชัด และยังสมูทลื่นไหล ช่วยปกป้องสายตาด้วย AI Adaptive Eye Protection ทำให้การรับชมคอนเทนต์ต่างๆ สบายตายิ่งขึ้น

หน้าจอส่วนบน OPPO Reno8 T 5G มีดีไซน์ Punch-Hole Screen ที่ตรงกลาง เป็นตำแหน่งของกล้องหน้า ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล เหนือขึ้นไปมีลำโพงเสียง ซ่อนอย่างเนียนตาที่ขอบจอซึ่งทำได้บางลงมาก ทำให้พื้นที่การแสดงผลต่อตัวเครื่องมากถึง 93%

ส่วนล่างของหน้าจอเป็นการนำทางระบบแบบซอร์ฟแวร์ สามารถตั้งค่าเป็นแบบปุ่มหรือแบบสัมผัสได้ในภายหลัง

ด้านบนของตัวเครื่องมีไมโครโฟนตัดเสียง และช่องลำโพงเล็กๆ อีกช่อง

ตัวเครื่องด้านซ้ายเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง

ตัวเครื่องด้านขวา OPPO Reno8 T 5G มีปุ่ม Power ใช้สำหรับเปิด ปิด และล็อคหน้าจอเครื่อง

ด้านล่างของตัวเครื่องมีพอร์ต USB C อยู่ตรงกลาง ใช้ชาร์จไฟและเชื่อมต่อ ทางฝั่งขวาเป็นลำโพงเสียง ส่วนทางฝั่งซ้ายมีไมโครโฟนตัวที่ 1 และช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Hybrid สามารถรองรับ Nano SIM แบบ 2 ช่อง หรือใส่ Nano SIM หนึ่งและ MicroSD Card อีกหนึงช่องก็ได้ รองรับการขยายการ์ด SD ได้สูงสุด 1TB

ตัวเครื่องด้านหลัง OPPO Reno8 T 5G มีการจัดวางโมดูลกล้องทรงรี และมีเลนส์วงกลมขนาดใหญ่ที่เรียงไว้ในแนวตั้ง ภายในแผงวงรีที่มีพื้นผิวตัดกัน กล้องยังล้อมรอบด้วยวงแหวนโลหะตกแต่ง ช่วยเพิ่มสัมผัสระดับพรีเมียมพร้อมปกป้องเลนส์ได้ดียิ่งขึ้น ติดตั้งกล้องหลัง 3 เลนส์ ได้แก่ กล้องหลั ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล (f/1.7) + เลนส์ Microscope ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (f/3.3) + เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (f/2.4) พร้อมไฟ LED แฟลชด้านล่างสุด

ฝาหลังมีการแยกเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่ต่อมาจากโมดูลกล้อง จะมีความเงาและเอ็ฟเฟกต์งคริสตัลรูปทรงปิรามิดที่ขนาดใหญ่กว่า เสริมความโดดเด่นให้กับกล้องหลังซึ่งเป็นไฮไลท์ของรุ่นนี้ และส่วนที่เป็นพื้นที่โดยรวมของฝาหลัง จะมีคริสตัลที่เป็นเม็ดละเอียดยิ่งขึ้น พร้อมผิวสัมผัสแบบแมท ให้ความรู้สึกที่ดีเวลาจับถือ ทั้งยังช่วยปกป้องการเกิดรอยนิ้วมือได้เป็นอย่างดี

สเปคพื้นฐานของ OPPO Reno8 T 5G

ระบบปฏิบัติการ : ColorOS 13 บนพื้นฐาน Android 13
ขนาดตัวเครื่อง : 162.3 x 74.3 x 7.7 มิลลิเมตร
น้ำหนัก : 171 กรัม
หน้าจอแสดงผล : AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400x1080 พิกเซล) อัตรารีเฟรชเรท 120Hz และอัตราการตอบสนองทัชสกรีน 360Hz , 1 Billion Color Display มีความหนาแน่นต่อพิกเซลอยู่ที่ 394PPI ครอบทับกระจก Corning Gorilla Glass 5
หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 695 5G Mobile Platform
GPU : Mali-G57 MC2
RAM : 8GB LPDDR4x (มีRAM Expansion สูงสุดอีก 8GB)
พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 128GB/256GB UFS 2.2
รองรับ MicroSD Card ได้สูงสุด 1TB
กล้องหลัง 3 เลนส์
- กล้องหลัง : ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 มุมมอง 84 องศา ออโต้โฟกัส ประกอบด้วยชุดเลนส์ 6 ชิ้น
- เลนส์ Microscope : ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/3.3 มุมมอง 65 องศา ประกอบด้วยชุดเลนส์ 3 ชิ้น
- เลนส์ Depth : ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 มุมมอง 89 องศา ประกอบด้วยชุดเลนส์ 3 ชิ้น
กล้องหน้า : ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 มุมมอง 89 องศา ประกอบด้วยชุดเลนส์ 5 ชิ้น
ถาดซิมการ์ด : Hybrid-Slot
การเชื่อมต่อ : 5G, 4G LTE, Wi-Fi 2.4GHz+5GHz, Bluetooth 5.1, GPS, A-GPS, BDS, GLONASS, GALILEO, QZSS, USB OTG, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร และ NFC
พอร์ต USB Type-C
ระบบความปลอดภัย : สแกนใบหน้า, สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
แบตเตอรี่ : 4800mAh มีเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOCTM
สี : มีมา 2 สี คือ Sunrise Gold และ Midnight Black

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

108MP Portrait Camera พอร์ตเทรตสวยชัดขึ้น

OPPO Reno8 T 5G ชูไฮไลท์ของรุ่นนี้ด้วยกล้อง 108MP Portrait Camera เซ็นเซอร์ Samsung HM6 ขนาด 1/1.67 นิ้วแบบใหม่ พร้อมเทคโนโลยี
การรวมภาพแบบ NonaPixel Plus ขั้นสูง ที่รวมพิกเซลเก้าพิกเซลเป็นพิกเซลเดียวขนาดใหญ่เทียบเท่ากับขนาด 1.92μm ซึ่งให้ความไวแสงเป็นพิเศษในสภาพแวดล้อมที่มืด เซนเซอร์ขนาดใหญ่และเทคโนโลยี Pixel Binning ช่วยให้ HM6 รับแสงได้มากกว่าเซนเซอร์รุ่นก่อนหน้าถึง 96% เก็บภาพพอต์เทรตได้สวยคมชัดระดับ 108 ล้านพิกเซล จากการทดสอบพบว่า ภาพพอร์ตเทรตที่ถ่ายในระยะไกล เมื่อครอบตัดและแก้ไขจากภาพถ่ายเพียง ภาพที่ได้จะยังคงความละเอียดคมชัดอยู่อย่างสมบูรณ์ตามระยะที่กำลังพอดี ยังคงโฟกัสแบบบุคคล เก็บรายละเอียดที่สำคัญ และเบลอฉากหลังได้เนียนเป็นธรรมชาติ เรียกว่าทำได้ดีมากสำหรับสมาร์ทโฟนเรทราคานี้

กล้อง 108MP Portrait Camera มีข้อดีเวลาที่ เราได้ถ่ายรูปพอร์ตเทรตมาซักรูป แต่ปกติหากนำมาครอปตัด จะทำให้เราเสียความละเอียดของภาพไป แต่ด้วยเลนส์ เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ รวมถึงเทคโนโลยีการรวมพิกเซลใน OPPO Reno8 T 5G จะทำให้รูปที่เราได้ทำการครอปตัดมา ยังคงมีความคมชัดอยู่นั่นเอง

OPPO Reno8 T 5G ยังมีกล้องหลังอีก 2 เลนส์ ที่ให้ความสามารถแตกต่างกัน ประกอบด้วย เลนส์ Depth ความละเอียด 2MP ที่ช่วยให้การถ่ายภาพมีมิติมายิ่งขึ้น ในการจับภาพแบบชัดลึกชัดตื้น และเลนส์ 40x Microlens Camera สามารถถ่ายภาพด้วยกำลังขยาย 20 เท่าและ 40 เท่า ให้มุมมองใหม่ในโลกใบเล็ก เพิ่มความสร้างสรรค์ให้กับการถ่ายภาพแบบใหม่ เป็นคุณสมบัติที่เทียบเท่ากับกล้องระดับแฟล็กชิป ให้คุณถ่ายภาพสวยๆ เสมือนมีกล้องจุลทรรศน์ขนาดพกพาอยู่ในมือ ภาพที่ได้มีความแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร นับเป็นฟีเจอร์กล้องที่หาได้ยากในมือถือเรทราคาเดียวกัน วิธีการใช้งานให้เปิดเข้าไปที่ กล้อง > เพิ่มเติม > เลือก "กล้องจุลทรรศน์"

ฟีเจอร์ถ่ายภาพบุคคล

AI Portrait Retouching

ปรับแต่งภาพถ่ายบุคคลให้สวยงามด้วยฟีเจอร์ AI Portrait Retouching ซึ่งจะจับจุดบนใบหน้าที่แตกต่างกัน 373 จุดผ่านอัลกอริธึมอัจฉริยะ เพิ่มเอฟเฟกต์การรีทัชอย่างละเอียดแบบเรียลไทม์ โดยมีเครื่องมือปรับแต่งความงามที่แตกต่างกัน 8 แบบ ทั้งรูปหน้า ผิวเนียน ดวงตา สามารถปรับได้ตั้งแต่ระดับ 0-100 เพื่อให้ได้ภาพที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ และยังคงเอกลักษณ์ของบุคคลนั้นไว้ได้ ไม่ดูหลอกตา วิธีการใช้งานให้เข้าไปที่ กล้อง > รูปคน > เลือกสัญลักษณ์ที่เหมือนพู่กัน > รีทัช

Bokeh Flare Portrait

สามารถถ่ายภาพโดยมีเอ็ฟเฟกต์โบเก้สวยๆ เป็นพื้นหลังได้ด้วย Bokeh Flare Portrait จะทำให้แสงลอดด้านหลังใบไม้ที่รกรุงรัง หรือดวงไปมากมายในตอนค่ำคืน ให้เป็นดวงไฟโบเก้ซึ่งมีความนุ่มนวล เพียงเข้าไปที่ กล้อง > รูปคน > เลือกสัญลักษณ์ที่เหมือนพู่กัน > ฟิลเตอร์ > ถ่ายรูปคนด้วยแสงแฟร์

AI Colour Portrait

เราอาจคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว สำหรับฟีเจอร์ AI Colour Portrait ที่มีอยู่ใน OPPO Reno Series ซึ่งใน OPPO Reno8 T 5G ก็นำมาให้ได้ใช้งานเช่นกัน โดยจะจับภาพบุคคลที่มีสีสัน และเพิ่มเอฟเฟกต์ขาวดำให้กับพื้นหลัง เพิ่มความโดดเด่นในภาพถ่ายได้เป็นอย่างดี สามารถใช้งานโดยเข้าไปที่ กล้องหน้า > รูปคน > เลือกสัญลักษณ์ที่เหมือนพู่กัน > ฟิลเตอร์ > AI Color Portrait

กล้องหน้า Selfie HDR

OPPO Reno8 T 5G มาพร้อมกล้องหน้า ความละเอีดย 32 ล้านพิกเซล สามาถ่ายภาพเซลฟี่ที่คมชัดได้ ปรับแต่งใบหน้าสวยงามเป็นธรรมชาติ ซึ่งตรงจุดนี้ก็ยังทำได้ดีมากเช่นเคย พร้อมเพิ่ม Selfie HDR ที่เข้ามาช่วยในเวลาที่ต้องถ่ายย้อนแสง หรือแสงจ้ามากๆ ทำให้เห็นรายละเอียดที่ปกติจะโดนแสงกลบได้ชัดขึ้น วิธีการใช้งานให้เข้าไปที่ กล้องหน้า > เปิด HDR auto

ตัวอย่างภาพจากกล้องSample & Photo

ดีไซน์ OPPO Glow พรีเมียม มีเอกลักษณ์

OPPO Reno8 T 5G มาพร้อมกับดีไซน์ OPPO Glow ที่เป็นเอกลักษณ์ ตัวเครื่อง Ultra-Slim มีความบางเบา ให้สัมผัสที่พอดีเมื่อจับถือ ไม่หนักไม่เบาเกินไป ส่วนการให้สียังคงใช้เทคนิค OPPO Glow ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตพิเศษเฉพาะของ OPPO สร้างคริสตัลรูปทรงปิรามิดหลายล้านเม็ดบนฝาหลัง โดยการแกะสลักวัสดุในระดับจุลภาค ทำให้ผิวสัมผัสมีความด้านแต้เนียนละเอียด และมีสีสันที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ทั้งยังปกป้องการเกิดรอยนิ้วมือ หรือรอยเลอะต่างๆ ได้ดีขึ้น โดยครั้งนี้ OPPO Reno8 T 5G นำเสนอมา 2 เฉดสีด้วยกัน ได้แก่

สีทอง Sunrise Gold ด้วยฐานสีทองอ่อนซึ่งเปรียบเสมือนแสงแดดอ่อนยามรุ่งอรุณ สร้างแรงบันดาลใจจากเฉดสีฟ้าและสีม่วงอันเงียบสงบ ไล่เฉดไปจนถึงโทนสีแดงและเหลืองที่อบอุ่น ใครที่ชอบความหรูหรา สีนี้น่าจะถูกตาต้องใจ
สีดำ Midnight Black แรงบันดาลใจจากการสะท้อนของแสงจันทร์บนทะเลสาบที่เงียบสงบ พื้นสีดำบริสุทธิ์ที่เสริมเข้าไปด้วย OPPO Glow มอบความเปล่งประกาย ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและเงียบสงบ สำหรับคนที่ชอบความคลาสสิค สีดำ Midnight Black ดูจะเป็นตัวเลือกที่ลงตัวของคุณ

หน้าจอ 120Hz 3D Curved Screen

สำหรับจอแสดงผลของ OPPO Reno8 T 5G เป็นดีไซน์แบบ 3D Curved จอโค้ง 3 มิติ ที่รับกับขอบเครื่องที่โค้งมน มีความโค้ง 56 องศาและส่วนโค้งสูง 1.9 มม. ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยม และยังมีความคมชัดตามแบบฉบับ AMOLED มีความกว้าง 6.7 นิ้ว FHD+ พร้อมขอบที่แคบเป็นพิเศษ ขอบด้านล่างหนาเพียง 2.32 มม. ขณะที่ขอบด้านซ้ายและขวาหนา 1.57 มม. กึ่งๆ จะเป็นหน้าจอแบบไร้ขอบ จึงทำให้พื้นที่แสดงผลต่อตัวเครื่องมีมากถึง 93% ให้มุมมองที่กว้างยิ่งขึ้น

ไม่เพียงแค่ความกว้างและคมชัดเท่านั้น การให้สีสันและความสมูทก็ไม่ใช่เล่น โดย OPPO Reno8 T 5G รองรับ 120Hz Refresh Rate และการแสดงผลแบบพันล้านสี สีสันที่ได้จึงสวยสดสมจริง ออกไปใช้งานกลางแจ้งที่แดดแรงๆ ถือว่าสู้แสงได้ดีเลย ทั้งยังลื่นไหลไม่กระตุก ในเวลาที่ทัชก็ตอบสนองได้ค่อนข้างรวดเร็ว มี AI Adaptive Eye Protection ช่วยในเรื่องของการถนอมสายตา สามารถปรับการตั้งค่าของหน้าจอ เพื่อให้รองรับต่อการใช้งานได้อย่างหลากหลาย

แบต 4,800mAh กับชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOCTM

OPPO Reno8 T 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ ความจุ 4,800mAh มีเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOCTM ที่ทางแบรนด์เคลมว่า สามารถชาร์จจาก 0 -100% ได้ในเวลาเพียง 44 นาที จากการทดสอบขั้นต้น พบว่าการชาร์จแบตเตอรี่จาก 4 - 92 เปอร์เซ็นต์ ใช้เวลาไปประมาณ 40 นาที และเมื่อใช้งานต่อเนื่องนาน 1 ชั่วโมง แบตเตอรี่ลดลงมาประมาณ 15%

ซึ่งนอกจากการชาร์จเร็วแล้ว OPPO Reno8 T 5G ยังมีรอบการชาร์จของแบตเตอรี่สูงสุดถึง 1,600 รอบการชาร์จ/คายประจุ นับเป็น 2 เท่าของมาตรฐานทั่วไปซึ่งอยู่ที่ 800 รอบ ซึ่งทำให้ยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไปได้นานถึง 4 ปีเลยทีเดียว ทั้งยังรับประกันความปลอดภัยตลอดกระบวนการชาร์จทั้งหมด 5 ชั้น ประกอบด้วยการป้องกันการโอเวอร์โหลดของอะแดปเตอร์, สภาพแวดล้อมการชาร์จเร็ว, การป้องกันการโอเวอร์โหลดอินเทอร์เฟซ, การป้องกันกระแสแบตเตอรี่โอเวอร์โหลด และการป้องกันฟิวส์แบตเตอรี่อีกด้วย

ชิปเซ็ตและหน่วยความจำ

ใช้งานลื่นไหลรอบด้านบน OPPO Reno8 T 5G ไปกับขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 695 5G Mobile Platform สร้างขึ้นบนเทคโนโลยีการผลิต 6 นาโนเมตร และสถาปัตยกรรมแบบ octa-core ที่รองรับการใช้งานเครือข่าย 5G ที่เร็วแรง ประมวลผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดการใช้พลังงานลง มาพร้อม RAM 8GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 128GB/256GB และยังมีเทคโนโลยี RAM Expansion ที่สามารถเพิ่ม RAM เสมือนให้มากขึ้นเป็น 4GB, 6GB และสูงสุด 8GB ตามลำดับ เพื่อการใช้งานที่ลื่นไหลและเสถียรยิ่งขึ้น เวลาที่ต้องประมวลผลหนักๆ เช่น เวลาเล่นเกม เปิดแอปพลิเคชั่นค้างไว้หลายๆ แอปฯ หรือการเปิด-ปิดสลับใช้งานระหว่างแอปฯ เป็นต้น ซึ่งจากการทดสอบทางแลปของ OPPO แอปสามารถทำงานอยู่เบื้องหลังได้มากถึง 22 แอปในครั้งเดียว ก็ไม่พบปัญหาแอปฯเด้ง หรือหน่วงช้าเกิดขึ้น

ระบบความปลอดภัย

OPPO Reno8 T 5G รองรับทั้งการสแกนใบหน้า และสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ เพื่อปลดล็อค สามารถสแกนได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ทำให้ข้อมูลในเครื่องของเรามีความปลอดภัย เป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ทั้งยังสะดวกสบาย ไม่ต้องกดรหัสหลายอย่าง โดยรองรับลายนิ้วมือได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ สามารถเลือกเอ็ฟเฟกต์การแสดงผลได้หลากหลาย จากการตั้งค่าการใช้งาน

ราคาวางจำหน่าย

OPPO Reno8 T 5G มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีทอง Sunrise Gold และสีดำ Midnight Black โดยในรุ่น RAM 8GB + ROM 128GB วางจำหน่ายในราคา 13,990 บาท และรุ่น RAM 8GB + ROM 256GB วางจำหน่ายในราคา 14,990 บาท

พิเศษ!! สำหรับลูกค้าที่สั่งจองสินค้าตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 ถึง 16 กุมภาพันธ์ 2566 จะได้รับของสมนาคุณมูลค่า 7,599 บาท ประกอบไปด้วย

E-VIP CARD มูลค่า 5,500 บาท ลูกค้าจะได้รับการรับประกันจอแตก จำนวน 1 ครั้ง ภายในระยะเวลา 1 ปี และรับประกันตัวเครื่อง 1 ปีนับตั้งแต่วันที่ซื้อเครื่อง
Reno Gift Set มูลค่า 2,099 บาท ประกอบไปด้วย เคสมือถือ, ที่วางมือถือ และลำโพงบลูทูธ

และเมื่อซื้อ OPPO Reno8 T TG ผ่านผู้ให้บริการทางเครือข่าย รับส่วนลดสูงสุดถึง 8,000 บาท

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

ชิปประมวลผลและหน่วยความจำ

OPPO Reno8 T 5G ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 695 5G Mobile Platform มีหน่วยความจำให้เลือก 2 รูปแบบ คือ RAM 8GB + ROM 128GB และ RAM 8GB + ROM 256GB ซึ่งเป็นเครื่องที่เราได้มารีวิว มาพร้อม RAM Expansion ที่ให้เพิ่มความจุได้มากขึ้นตั้งแต่ 4GB, 6GB และสูงสุด 8GB ตามลำดับ เพื่อสร้าง RAM เสมือนชั่วคราวให้เหมาะสมกับการใช้งาน รันบนระบบปฏิบัติการ ColorOS 13 บนพื้นฐาน Android 13 ปรับเปลี่ยนหน้าตาอินเทอร์เฟตได้หลากหลาย เพิ่มฟีเจอร์การใช้งานที่เข้าถึงง่าย ให้การทำงานที่ราบรื่นสะดวกสบาย บนความปลอดภัยที่มีมากขึ้น

หน้าตา UI

การปรับเปลี่ยนในรูปแบบของคุณ

สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบของธีม, วอลเปเปอร์, รูปแบบของไอคอน, การจัดวางแอป, สี และตัวอักษร ได้อย่างหลากหลาย ทั้งจากที่มีมาให้อยู่แล้ว หรือจะดาวน์โหลดเพิ่มเติมจากในออนไลน์ก็ได้ มีทั้งแบบเสียเงินและฟรี!!

สร้างสรรค์วอลเปเปอร์จากรูปถ่าย หรือรูปภาพที่เราชอบ เพื่อให้ได้สีสันของวอลเปอเปอร์ที่เข้ากับความต้องการของเรา โดยไปที่ ตั้งค่า > การปรับเปลี่ยนในรูปแบบของคุณ > วอลเปเปอร์สร้างสรรค์เอง > เลือกรูปภาพที่ต้องการ ระบบจะทำการประมวลผลเป็นภาพวอลเปเปอร์หลากหลายรูปแบบในโทนสีของภาพที่เลือกมา เพื่อให้คุณนำไปใช้ได้ตามความต้องการ

โหมดสีหน้าจอ

นอกจากความสว่างคมชัดของหน้าจอแล้ว ผู้ใช้งานยังสามารถปรับให้หน้าจอมีความสว่างจ้าขึ้น โดยเข้าไปเลือก "โหมดสีหน้าจอ" เพื่อตั้งค่าได้ตามความต้องการ มีให้เลือก 2 รูปแบบ คือ "เจิดจ้า" จะให้สีที่สดคมและสว่างเจิดจ้า ส่วนรูปแบบ "ธรรมชาติ" จะให้สีที่ดูนุ่มนวลสบายตา แต่ยังคงความคมชัดอยู่

OPPO Omoji

สร้างสรรค์อิโมจิแบบเคลื่อนไหว 3 มิติด้วย OPPO Omoji ที่สามารถเลือกสีผิว รูปทรงใบหน้า ตกแต่งความสวยด้วยเครื่องประดับสุดเก๋กว่า 200 รายการ โดยอัลกอริธึม Face Capture สร้างอวตารของคุณให้แสดงสีหน้าและอารมณ์ได้หลากหลายมากขึ้น สนุกไปกับทุกจินตนาการที่คุณอยากทำโดยไร้ขีดจำกัด คุณสามารถตั้ง Omoji เป็นรูปโปรไฟล์บนแอคเคาท์ หรือนำไปใช้ใน Always-On Display ก็ได้

เข้าไปสร้าง Omoji ได้ที่ การตั้งค่า > บัญชีผู้ใช้ > OMOJI จากนั้นก็ครีเอตอวตารตามความชอบ

การแสดงผลหน้าจอตลอดเวลา

การแสดงผลหน้าจอตลอดเวลา หรือ Always-On Display จะแสดงข้อมูลของวัน, เวลา และการแจ้งเตือนสำคัญ ซึ่งจะปรากฏบนหน้าจอของโทรศัพท์ตลอดเวลา หรือตามความต้องการใช้งานที่ได้ตั้งค่าไว้ และยังมีการอัปเดท Smart Always-On Display (สำหรับเพลง) ช่วยให้ควบคุมการเล่นเพลงบน Spotify ได้ง่ายขึ้นบนหน้าจอที่ล็อกหน้าจออยู่ สามารถเล่นหรือหยุดเพลงชั่วคราวหรือสลับและเลือกเพลย์ลิสต์จากส่วนคำแนะนำได้ โดยไม่ต้องเปิดหน้าจอหรือเปิดหน้าต่างแอป

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง OPPO Reno8 T 5G

ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย AnTuTu Benchmark v9.4.4 ได้ 402,508 คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย Geekbench 5 ได้คะแนน Single-Core ที่ 663 และคะแนน Multi-Core ที่ 1940 คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย 3DMark (Wild Life) ได้ 1 209 คะแนน
ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด