รีวิว vivo V25 Pro 5G ถ่ายพอร์ตเทรตสวยทุกค่ำคืน อัดแน่นด้วยสเปคแรง ครอบคลุมทุกการทำงานที่ยอดเยี่ยม

vivo V25 Pro 5G อีกหนึ่งสมาร์ทโฟนในซี่รี่ย์อันโดดเด่น ชูโรงกล้องถ่ายพอร์ตเทรตยามค่ำคืนที่สวยงาม ด้วยกล้องความละเอียด 64MP และเทคโนโลยีกันสั่น OIS ในV25 Pro มาพร้อมโหมด Super Night Portrait ให้คุณถ่ายเซลฟี่ได้คมชัดแม้ในยามค่ำคืน หน้าจอแบบ 3D Curved พาเนล AMOLED ขนาด 6.56 นิ้ว FHD+ อัตราการรีเฟรช 120Hz สามารถรีเฟรชได้สูงสุดถึง 300Hz ใช้งานลื่นไหลให้สีสันคมชัด ขุมพลัง MediaTek Dimensity 1300 จับคู่ RAM 8GB ที่มีเทคโนโลยี Extended RAM 3.0 สามารถเพิ่ม RAM เสมือนได้อีกสูงสุด 8GB แบตเตอรี่จุกๆ 4830 mAh ที่มาพร้อมกับชาร์จเร็ว 66W FlashCharge อีกด้วย

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

vivo V25 Pro 5G มีขนาดตัวเครื่อง 158.9×73.52×8.62 มม. น้ำหนัก 190 กรัม ถือจับเครื่องได้กำลังพอดี สัมผัสได้ถึงความบางเบา ใช้งานสะดวก

จอแสดงผลเป็นแบบ 3D Curved ที่มีความโค้ง ใช้พาเนล AMOLED ขนาด 6.56 นิ้ว ความละเอียด 2376×1080 (FHD+) การแสดงผลคมชัด สีสันสวยสด มีความลื่นไหลด้วยอัตราการรีเฟรช 120Hz

ส่วนบนของจอแสดงผล ติดตั้งกล้องหน้า ความละเอียด 32MP อยู่ตรงกลาง เหนือขึ้นไปเป็นลำโพงเสียง

ส่วนล่างของหน้าจอ vivo V25 Pro 5G เป็นการนำทางระบบ สามารถใช้ได้ทั้งแบบ 3 ปุ่ม และการควบคุมแบบสัมผัสจากการตั้งค่า

ตัวเครื่องด้านบน vivo V25 Pro 5G มีไมโครโฟน พร้อมขอบเครื่องเล่นลวดลายแบบประกาย

ด้านขวามีปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง ถัดลงมาเป็นปุ่ม Power ใช้สำหรับเปิด ปิด และล็อคหน้าจอเครื่อง 

ด้านซ้ายของเครื่อง vivo V25 Pro 5G ไม่มีการใช้งานใดๆ

ส่วนด้านล่างมีพอร์ตแบบ USB Type C อยู่ตรงกลาง ถัดไปทางขวาเป็นลำโพงเสียง ส่วนทางซ้ายนั้นเป็นไมโครโฟน และช่องใส่ถาดซิมการ์ดแบบ 2 ช่อง ที่รองรับ Nano SIM ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้

สำหรับด้านหลัง vivo V25 Pro 5G ที่มุมซ้ายบน จะเห็นโมดูลกล้องทรงสี่เหลี่ยม ติดตั้งกล้องหลัง 3 เลนส์ประกอบด้วย กล้องหลัก 64MP มีกันสั่น OIS + กล้อง Ultra-Wide 8MP + กล้อง Macro 2MP และไฟแฟลช

ฝาหลังในสี Starlight Black ที่ได้มารีวิว มีความสวยงามประกายระยิบระยับ ผิวสัมผัสแบบด้าน ทำให้เกิดรอยนิ้วมือได้ยากขึ้น

สเปคเบื้องต้นสมาร์ทโฟน vivo V25 Pro 5G

• ระบบปฏิบัติการ : Funtouch OS 12 บนพื้นฐาน Android 12
• ขนาดตัวเครื่อง : 158.9 × 73.52 × 8.62 มม.
• น้ำหนัก 190 กรัม
• หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด FullHD+
• ชิปเซ็ต : MediaTek Dimensity 1300
• GPU : Mali-G68 MC4
• RAM : 12GB
• พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 256GB
• ถาดซิมการ์ด ประเภท DUAL SIM-Slot
• กล้องหลัง 3 เลนส์ ประกอบด้วย
  • กล้องหลัก ความละเอียด 64MP OIS (f/1.89)
  • เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8MP (f/2.2)
    
  • เลนส์ Macro ความละเอียด 2MP (f/2.4)
• กล้องหน้า ความละเอียด 32MP (f/2.45) พร้อม Auto-Focus
• การเชื่อมต่อ : 5G, 4G, 3G, Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac 2.4GHz+5GHz, Bluetooth 5.2, Wi-Fi Direct, GPS, GLONASS, NFC
• พอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่ : ความจุ 4,830 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 66W FlashCharge

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

หน่วยประมวลผลและหน่วยความจำ

vivo V25 Pro 5G ใช้ขุมพลังระดับเรือธง MediaTek Dimensity 1300 ใช้กระบวนการผลิตระดับ 6nm มีประสิทธิภาพสูง ลดการใช้พลังงาน รองรับการสแตนด์บาย Dual 5G ผสานการทำงานกับ RAM 12GB ที่มีเทคโนโลยี Extended RAM 3.0 สามารถเพิ่ม RAM เสมือนได้อีกสูงสุด 8GB เมื่อรวมกับสเปคตัวเครื่อง ทำให้ vivo V25 5G มี RAM ได้มากถึง 20GB ช่วยให้การทำงานที่ต้องใช้กราฟฟิคสูงๆ อย่างเช่นการเล่นเกม การสตรีมมิ่งต่างๆ ไหลลื่นทั้งยังสลับการใช้งานไปมาระหว่างแอปพลิเคชั่นได้อย่างไม่มีสะดุด

ระบบปฏิบัติการ

vivo V25 Pro 5G ขับเคลือนด้วยแพลตฟอร์ม Funtouch 12 ที่ยกระดับการปกป้องความเป็นส่วนตัวให้สูงขึ้นด้วยคุณสมบัติใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการปักหมุดแอป ตัวบ่งชี้ความเป็นส่วนตัว ตำแหน่งโดยประมาณ การปลดล็อคเพื่อปิดโทรศัพท์ แดชบอร์ดความเป็นส่วนตัว และอัลบั้มที่สามารถซ่อนได้ บนหน้าตา UI ที่ดูสบายตา ใช้งานง่าย และปรับแต่งได้ตามความต้องการใช้งานของแต่ละบุคคล

หน้าตา UI หลัก

การปรับเปลี่ยนในแบบของคุณ

vivo V25 Pro 5G ผสานการทำงานของอินเทอร์เฟทและซอร์ฟแวร์ได้อย่างสวยงาม และสามารถเลือกใช้ทั้ง วอลเปเปอร์, ลักษณะไอคอน, การจัดวางแอพฯ, สี, ตัวอักษรและขนาดตัวอักษร และไอคอน ที่มีอยู่หลายรูปแบบ เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานได้ หรือจะดาวน์โหลดมาเพิ่มจากทางออนไลน์ทำได้ด้วย โดยเข้าไปปรับแต่งได้ที่ การตั้งค่า > การปรับเปลี่ยนในแบบของคุณ

แสดงบนหน้าจอตลอด

แสดงบนหน้าจอตลอด (Alway on Display) สามารถเลือกรูปแบบนาฬิกา รวมถึงเวลาในการแสดงผล และการแจ้งเตือนที่มีความสำคัญได้ เพื่อให้แสดงอยู่โดยไม่ต้องปลุกหน้าจอขึ้นมา แต่อาจทำให้ต้องใช้พลังงานแบตเตอรี่เพิ่มขึ้น

ธีมมืด

เป็นการปรับธีมของการแสดงผลให้มืดลง เพิ่มความสว่างของตัวอักษรให้มากขึ้น ช่วยในการถนอมสายตาเมื่อผู้ใช้งานมองหน้าจอในที่มืดหรือแสงน้อย ช่วยในการประหยัดพลังงานของเครื่อง สามารถตั้งค่าให้เปิด-ปิดธีมมืดเป็นเวลา หรือจะเปิดตามที่เราต้องการตลอดเวลาก็ทำได้เช่นกัน โดยเข้าไปตั้งค่าได้ที่ การตั้งค่า > จอแสดงผลและความสว่าง > ธีมมืด

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง vivo V25 Pro 5G

• ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็ว AnTuTu Benchmark : 694,237 คะแนน
• ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวม Geekbench 5 ได้คะแนน Single-Core : 857 คะแนน และ Multi-Core : 2 496 คะแนน
• ผลการทดสอบกราฟิกด้วย 3D MARK (Wild Life) : 4 330 คะแนน
• ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้

• Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
• Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
• Orientation Sensor เซ็นเซอร์ปรับมุมมองหน้าจอ
• Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
• Gyroscope Sensor ตรวจวัดการทรงตัว
• Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
• Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

ดีไซน์สวยหรู สะกดทุกสายตา

vivo V25 Pro 5G มาพร้อมขนาดที่จับถือได้สบาย น้ำหนักเบา ถือใช้งานในเวลานานไม่เมื่อมือ ส่วนฝาหลัง 2 สี 2 สไตล์ ใช้การให้สีที่ต่างกัน ทำให้สีสันมีความแตกต่างทั้งจากสีที่สะท้อนออกมา และสัมผัสของพื้นผิวที่ได้ ในเครื่องสี Surfing Blue จะมีฝาหลังพื้นผิวกระจกสัมผัสละเอียดอ่อนที่ใช้เทคโนโลยี Fluorite AG Glass สามารถเปลี่ยนสีได้หลายสีภายใต้แหล่งกำเนิดแสงอัลตราไวโอเลต เช่น แสงแดด ช่วยให้มีมุมมองที่ต่างกันเมื่อดูจากแสงตกกระทบ ส่วนในสี Starlight Black ที่เราได้มารีวิว จะมีสัมผัสแบบแมท ฝาหลังเปล่งประกายระยิบระยับ ดูสวยงามหรูหรา จับสบายมือ อีกทั้งยังป้องกันรอยนิ้วมือได้เป็นอย่างดีอีกด้วย  

• สี Starlight Black ดวงดาวระยิบระยับนับล้านดวงที่ปกคลุมท้องฟ้า เพิ่มความลึกลับและเสน่ห์ในค่ำคืนอันเงียบสงบ
• สี Surfing Blue ดื่มด่ำกับท้องทะเลสีคราม สายลมที่สดชื่นราวกับเล่นกระดานโต้คลื่นไปตามชายหาด

หน้าจอ 120Hz แบบ 3D Curved 

นอกจากความสวยงามของตัวเครื่องแล้ว ดีไซน์หน้าจอใหม่แบบ 3D Curved ของ vivo V25 Pro 5G ยังช่วยให้รูปลักษณ์ดูสวยงามน่าสัมผัส ยกระดับให้เป็นสมาร์ทโฟนพรีเมี่ยม จอพาเนล AMOLED ขนาด 6.56 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2376×1080 พิกเซล) มีการแสดงผลที่คมชัด สว่างสู้แสงกลางแจ้งได้ดี สำหรับสีสันต่างๆ มีความสดเต็มอิ่ม มาาพร้อมอัตราการรีเฟรช 120Hz สามารถรีเฟรชได้สูงสุดถึง 300Hz ใช้งานลื่นไหล รองรับเทคโนโลยี HDR10+ ให้รับชมคอนเทนต์ต่างๆ ได้เต็มอรรถรส มีมาตรฐานการป้องกันแสงสีฟ้าอย่าง SGS Low Blue Light Certification มาให้ด้วย

กล้องหลัง 64MP OIS Night Portrait พอร์ตเทรตสวยทุกค่ำคืน

vivo V25 Pro 5G มาพร้อมกับสโลแกน "พอร์ตเทรตทุกคืนพิเศษของคุณ" เพราะฉะนั้น จึงจัดเต็มในเรื่องของสเปคกล้องแบบไม่กั๊ก เริ่มจากกล้องหลัง 3 เลนส ซึ่งประกอบด้วย กล้องหลัก ความละเอียด 64MP กับเทคโนโลยีกันสั่น OIS, เลนส์ Super Wide-Angle ความละเอียด 8MP และเลนส์ Macro ความละเอียด 2MP

สำหรับการถ่ายภาพทั่วไปจากกล้อง ทั้งภาพความละเอียดสูง ภาพมุมกว้าง และภาพมาโคร ทำออกมาได้สมบูรณ์ สีสันของภาพมีความใกล้เคียงกับของจริง มุมมองกว้างเก็บวิวได้อย่างครอบคลุม ไม่บิดเบี้ยว การจับโฟกัสและภาพแบบเร็วพบความเบลอน้อยลง ในส่วนของตัวอาคารที่มีแสงและเงา ภาพออกมาสว่างสวยคมชัด

ภาพพอร์ตเทรต

ฟีเจอร์ Natural Portrait ช่วยให้การถ่ายภาพบุคคลทำออกมาได้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ทั้งในส่วนของใบหน้าของตัวแบบ และการตัดขอบระหว่างบุคคลกับพื้นหลัง และยังมี ฟีเจอร์ Bokeh Flare Portrait ที่ผสมผสานระหว่างความเบลอของกล้องสองตัว สร้างเอฟเฟ็กต์โบเก้ที่นุ่มนวล ให้ถ่ายภาพพอร์ตเทรตเวลากลางคืนแบบคมชัด สร้างดวงไฟที่งดงาม ผ่านกล้องมือถือโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ระดับมืออาชีพให้ยุ่งยาก

Super Night Portrait

สำหรับการถ่ายภาพกลางคืนของ vivo V25 Pro 5G ทำออกมาได้ค่อนข้างสมบูรณ์ ด้วยกล้องความละเอียดสูง 64MP และเทคโนโลยีกันสั่น OIS และยังมีโหมด Super Night Portrait เข้ามาช่วยปรับความสว่างชัดของภาพ ให้ภาพถ่ายกลางคืนมีความชัด จับแสงได้ดีขึ้น แต่ไม่โอเวอร์จนไม่เหลือมนต์เสน่ห์ของยามค่ำคืน

กล้องหน้าคมชัดสูง 32MP พร้อม Eye AF Selfie

vivo V25 Pro 5G มาพร้อมกล้องหน้าความคมชัดสูง 32 ล้านพิกเซล และยังมี Eye Autofocus ที่ช่วยจับโฟกัสสายตา ทำให้ภาพออกมาดูสวยงามเป็นธรรมชาติ และยังดูมีชีวิตชีวา เพราะไม่หลุดโฟกัสจากสายตานั่นเอง พร้อมกันนี้ยังปรับความสวยงามของใบหน้า ผิว และลบริ้วรอยต่างๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ คงเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคลไว้ได้ ไม่ดูหลอกตา

การถ่ายวิดีโอ

ด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบไฮบริดของ vivo V25 Pro 5G จึงช่วยให้ภาพวิดีโอมีที่มีความเคลื่อนไหวนั้น ดูสมูทมากขึ้น อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ต่างๆ เข้ามาเสริมให้การถ่ายวิดีโอมีความสวยงาม เหมาะสมกับสถานการณ์แวดล้อมต่างๆ ที่เกิดขึ้น ดังนี้

โหมด Bokeh Portrait Video ที่เป็นการผสมผสานของอัลกอริธึมที่ยอดเยี่ยมระหว่างโบเก้ และเอฟเฟกต์แสงธรรมชาติ ทำให้วัตถุหรือบุคคลดูโดดเด่นขึ้น จากภาพพื้นหลังที่เบลอลงอย่้างมีมิติ

Video HDR ผสานหลายเฟรมในช่วงไดนามิกสูง ใช้ในการถ่ายวิดีโอในสภาวะย้อนแสง เพื่อเพิ่มความชัดเจนให้กับวิดีโอมากขึ้น ช่วยให้ใบหน้าชัดเจนไม่มืด ส่วนแสงที่สาดเข้ามาก็ไม่จ้าจนไม่สวามารถเห็นรายละเอียดต่างๆ ในภาพได้

Super Night Video ฟังก์ชั่น Super Night Video หรือการถ่ายวิดีโอยามค่ำคืนของ vivo V25 Pro 5G ที่ได้อัพเกรดใหม่ล่าสุด ทำให้คลิปที่ได้มีความสว่างชัดขึ้น ลดการเกิดนอยส์ เห็นรายละเอียดต่างๆ ของภาพได้ชัดขึ้น

รองรับ 5G แบบคู่ 

vivo V25 Pro 5G มาพร้อมแพลตฟอร์มเรือธง MediaTek Dimensity 1300 ที่รองรับการใช้งาน 5G แบบ Dual ทำให้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมีความรวดเร็ว ลื่นไหล เหมาะสำหรับการใช้งานของคนยุคปัจจุบัน

โหมด Game Boost

สำหรับคนที่ชื่นชอบการเล่นเกมก็มีโหมด Game Boost ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการเล่นเกมให้ดีขึ้น เช่น การจัดการกับทรัพยากรภายในให้เป็นระบบ, การจัดการพลังงาน รวมไปถึงการเปิดรับหรือปิดแจ้งเตือนต่างๆ ให้เหมาะสมกับที่เราต้องการ นอกจากนี้ยังมีระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว Liquid Cooling เพื่อช่วยลดอุณหภูมิของเครื่องให้เย็นลงด้วย

แบตอึด ชาร์จไว 66W FlashCharge

vivo V25 Pro 5G ให้แบตเตอรี่มาที่ความจุ 4830mAh ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องตลอดวัน และยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 66W FlashCharge ที่ชาร์จเพียง 40 นาทีก็ได้แบตเตอรี่เต็มแล้ว แถมยังปลอดภัย จับดูแล้วตัวเครื่องไม่ร้อน มาพร้อม Smart Charging Engine ที่ช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้อย่างมาก จากการจัดการการชาร์จอย่างเหมาะสมที่สุดตามสถานการณ์การใช้งานที่แตกต่างกัน

หูฟังไร้สาย vivo TWS Air

ไม่ได้มีเพียง vivo V25 Pro 5G สมาร์ทโฟนถ่ายพอร์ตเทรตสวยทุกค่ำคืนเท่านั้น vivo ยังได้เปิดตัว vivo TWS Air หูฟังรุ่นใหม่ ดีไซน์เบากว่า น้ำหนักเบาเพียง 3.5 กรัม ที่มอบพลังเสียงครบมิติ ด้วยไดรเวอร์เสียงขนาดใหญ่ ปรับจูนเสียงใน vivo Golden Ears Acoustics Lab จากผู้เชี่ยวชาญด้านเสียง เพลิดเพลินกับการใช้งานที่ยาวนานถึง 25 ชั่วโมง

ดีไซน์ที่เบากว่า

vivo TWS Air นับเป็นหูฟังที่มีความเบาที่สุดในบรรดาหูฟังแบบไร้สายของ vivo ด้วยน้ำหนักเพียง 3.5 กรัม เมื่อสวมใส่ไม่รู้สึกหนักหูเลย

ตัวหูฟังมีความโค้งมนที่เข้ากับสรีระของหู นอกจากจะทำให้การสวมใส่มีความสบายมากขึ้น ยังสามารถยึดเกาะได้ดีขึ้น ไม่ลื่นหลุดง่ายแม้มีการเคลื่อนไหว ก้านหูฟังถูกดีไซน์ให้สั้นลงถึง 4 มม. ส่งผลให้ไม่เกะกะในเวลาที่เคลื่อนไหวร่างกายเร็วๆ อย่างการออกกำลัง

สำหรับเคสชาร์จมีความโค้งมน และกลมกลิ้งกว่าเดิม ด้านนอกเป็นส่วนของไฟแสดงสถานะ มีปุ่มกดเพื่อรีเซ็ตหรือทำการเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่ด้านหลัง ส่วนด้านล่างเป็นช่องเสียบสายชาร์จแบบ Type C

หูฟัง vivo TWS Air และตัวเคสชาร์จจะมีสีที่เหมือนกัน โดยมีมาให้เลือก 2 สี ได้แก่

• Bubble White : พื้นผิวมันวาวผสานกับสีขาวสดใส ให้ความรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและสดชื่น
• Pebble Blue : การเคลือบผิวแบบสามชั้น ให้ผิวสัมผัสแบบแมททนทานต่อรอยนิ้วมือ

การเชื่อมต่อ

หูฟัง vivo TWS Air รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่านระบบ Bluetooth 5.2 สามารถเชื่อมต่อได้อย่างง่ายดายกับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต Android กับ Google Fast Pair เพียงเปิดฝาเคสและนำมาวางใกล้กับอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อ เปิดบลูทูธของอุปกรณ์ กดปุ่มด่านหลังของเคส vivo TWS Air จนกว่าไฟสถานะจะกระพริบเป็นสีขาว เพื่อแสดงว่าพร้อมจะทำการเชื่อมต่อ จากนั้นกดเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อย

นอกจากนี้ คุณยังสามารถดูสถานะของ หูฟัง vivo TWS Air พร้อมตั้งค่าการใช้งาน รวมถึงการควบคุมต่างๆ ได้ ผ่านทางแอปพลิเคชั่น "หูฟัง vivo" ด้วย

มอบเสียงที่ครบมิติ

แม้ว่าหูฟัง vivo TWS Air จะมีน้ำหนักที่เบามาก แต่สามารถขับเสียงออกมาได้อย่างมีพลัง ด้วยไดร์เวอร์ขนาดใหญ่พิเศษ 14.2 มม. ทำให้ได้เสียงที่คมชัด มาพร้อมวอยซ์คอยล์ทองแดงจาก Daikoku ที่เพิ่มความนุ่มลึกของเสียงเบสให้น่าฟัง อีกทั้งยังมี Bio-carbon fiber composite diaphragm ทำจากวัสดุน้ำหนักเบาที่มีความแข็งแกร่ง ให้รายละเอียดความถี่ระดับกลางและสูงที่ชัดเจนมากขึ้น ทำให้ในเสียงพูดหรือเสียงการร้องมีความคมชัด เพิ่มประสิทธิภาพในการระบายอากาศ ด้วยการออกแบบพลศาสตร์ของไหล เพื่อให้อากาศเข้าและออกจากช่องเสียงได้อย่างอิสระ เพิ่มประสบการณ์การฟังให้ครบถ้วนทุกมิติเสียงที่ต้องการ

เทคโนโลยีเอฟเฟกต์ DeepX 2.0

หากคุณต้องการลงรายละเอียดของเสียง ให้เหมาะกับคอนเทนต์ต่างๆ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการฟัง ก็สามารถปรับแต่งอย่างลงตัว ด้วยระบบเอฟเฟกต์เสียงระดับมืออาชีพที่สามารถปรับเสียงแตกต่างกันได้ 3 สไตล์ ดังนี้

• Mega Bass เสียงเบสที่หนักแน่นกับเพลงร็อคและ R&B
• Clear High Pitch เสียงที่เคลียร์ใสกับดนตรีคลาสสิกและบลูส์
• Clear Voice เสียงก้องกังวานกับเพลงป๊อปและเพลงบัลลาดแสนโรแมนติก

ตัดเสียงรบกวนด้วย Dual-Mic

หูฟัง vivo TWS Air มาพร้อทกับไมโครโฟนคู่และอัลกอริธึม AI ระบบตัดเสียงอัจฉริยะ ที่จะลดเสียงรบกวนจากการโทร ให้เสียงที่ดังและชัดเจน แม้จะมีเสียงรบกวนใจรอบตัว ท่อลมรูปตัว L แบบใหม่ลดการต้านทานเสียงลมอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากการทดสอบพบว่า ในขณะที่สวมใส่เพื่อทำงานฟังเพลง สามารถได้ยินเสียงเพลงได้ดีขึ้น และเมื่ออยู่ในการสนทนา ปลายสายสามารถได้ยินเสียงพูดของเราได้ชัดเจนดี แม้อยู่ในที่สาธาณะ

ใช้งานได้ยาวนาน 25 ชั่วโมง

สามารถเพลิดเพลินไปกับเสียงอันไพเราะของหูฟัง vivo TWS Air ได้ยาวนานมากถึง 25 ชั่วโมง (เมื่อชาร์จกับเคสชาร์จ) ทำให้การใช้งานตลอดทั้งวันไม่มีปัญหา ใช้เวลาในการชาร์จเต็มประมาณ 1 ชั่วโมงจากเคส ส่วนการชาร์จทั้งชุดจะใช้เวลาประมาณ 140 นาที สำหรับตัวหูฟังเอง ชาร์จเพียง 10 นาที ใช้งานได้ 1.5 ชั่วโมงเลยทีเดียว

ราคาและการวางจำหน่าย

หูฟัง vivo TWS Air มีมาให้เลือก 2 สี คือ Bubble White และ Pebble Blue (ที่รีวิว) วางจำหน่ายราคาเพียง 1,999 บาท 

สำหรับ vivo V25 Pro 5G รุ่น 12GB + 256GB มีให้เลือก 2 สี 2 สไตล์ ได้แก่ สี Starlight Black และสี Surfing Blue ในราคา 19,999 บาท เปิดให้จองได้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. 65 - 28 ก.ย. 65 พร้อมรับหูฟัง TWS Air กระเป๋าหิ้วและ E-VIP (ประกันตัวเครื่องเป็น 2 ปี และประกันหน้าจอแตก 1 ครั้ง 1 ปี) มูลค่ารวม 13,297 บ.

หาซื้อได้ที่ vivo Brand Shop ทุกสาขาและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

แคตตาล็อกตัวเครื่อง  vivo V25 Pro 5G : https://www.siamphone.com/spec/vivo/v25_pro_5g.htm