HUAWEI WATCH D สมาร์ทวอทช์ตอบโจทย์สุขภาพ ประเดิมตรวจวัดความดันโลหิตได้ในตัว

HUAWEI WATCH D ถือว่าเป็นถือว่าเป็นอีกสมาร์ทวอทช์คุณภาพ ผสมผสานฟังก์ชั่นการใช้งานทั้งติดตามสุขภาพ และการออกกำลังกายสุดครบเครื่อง โดยเฉพาะด้านสุขภาพ ที่เสิร์ฟมาให้แบบเน้นๆ พร้อมเพิ่มความน่าตื่นเต้น ด้วยการใส่ฟังก์ชั่นการตรวจจับวัดความดันโลหิต หรือ Blood Pressure Monitor ซึ่งสามารถวัดได้ในระดับเดียวกับเครื่องวัดความดันโลหิตทั่วไปในท้องตลาด เซนเซอร์ ECG เพื่อตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และการติดตามสุขภาพอื่นๆ อีกมากมาย เช่น การติดตามการนอนหลับ, วัดความเครียด, วัดค่า SpO2 เป็นต้น นอกจากนี้เรื่องการออกกำลังกายก็ไม่ทิ้งไปไหน มาพร้อมโหมดออกกำลังกายกว่า 70 โหมด ซึ่งมีทั้งในร่ม และกีฬายอดนิยมมากมาย โดย HUAWEI WATCH D มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 14,990 บาท

การดีไซน์ตัวเรือน
ตัวเรือน HUAWEI WATCH D จะเป็นแบบ สี่เหลี่ยมผืนผ้า ใช้วัสดุเป็นอะลูมิเนียม และ Graphite Black โดยมีขนาด 51x38.13.6 มิลลิเมตร และน้ำหนักราวๆ 40.9 กรัม ส่วนปุ่มด้านข้างมีให้ใช้งาน 2 ปุ่มด้วยกัน คือปุ่ม Home และปุ่ม Health จากที่ได้ลองสวมใส่ ถือว่าขนาดค่อนข้างใหญ่ และหนา สำหรับผู้ชายใส่กำลังดี แต่สำหรับผู้หญิงจะดูค่อนข้างใหญ่ แต่หากจะเน้นใส่เพื่อใช้งานฟังก์ชั่นก็ได้อยู่

สายรัดข้อมือ พร้อมถุงลม Airbag
สายรัดข้อมือ เป็นยางแบบ Fluoroelastomer แน่นอนว่าสายประเภทนี้สามารถใช้สวมใส่ได้ทุกโอกาส แต่ไฮไลท์สำหรับของ HUAWEI WATCH D คือการใส่ถุงลม Airbag และปั๊มลมขนาดเล็ก อยู่ด้านในอีกชั้น สำหรับใช้วัดความดันโลหิต ทั้งสายรัดข้อมือ และถุงลม สามารถถอดเปลี่ยนได้ และในกล่องมีแถมให้อีก 2 ขนาดคือ ขนาด M และขนาด L ทั้งคู่

การเชื่อมต่อครั้งแรก
การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนก็ง่ายๆ ตามเดิม ดาวน์โหลดแอพฯ HUAWEI Health มาติดตั้ง จากนั้นก็ทำการเพิ่มอุปกรณ์ภายในแอพฯ จากนั้นให้วาง HUAWEI Watch D กับสมาร์ทโฟนไว้ใกล้ๆ และกดสแกนจะมี HUAWEI Watch D เด้งขึ้นมาให้เชื่อมต่อ ทั้งนี้สมาร์ทโฟนต้องเป็นระบบปฏิบัติการ Android 6.0, iOS 12 และ HarmonyOS 2 ขึ้นไปทั้งหมด

หน้าปัด AMOLED ทรงสี่เหลี่ยม
หน้าปัดนาฬิกาเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าเหมือนกับตัวเรือน ใช้พาแนล AMOLED กว้าง 1.64 นิ้ว ความละเอียด 456x280 พิกเซล และความละเอียดพิกเซล 326ppi ทั้งนี้หน้าจอยังรองรับการสัมผัส จากที่ทดสอบใช้งานก็ถือว่าหน้าจอแสดงสีสันได้ค่อนข้างดี และสามารถสัมผัสสั่งการได้สบายๆ

ดีไซน์หน้าปัดนาฬิกา
หน้าปัดนาฬิกาก็ไม่ให้เลือกเปลี่ยนมากมาย ซึ่งมีแบบทั้งเป็น Widget แสดงค่าสถานะออกกำลังกาย หรือการตรวจจับสุขภาพ และแสดงค่าบอกเวลาแบบเข็มอนาล็อกก็มีให้เลือก เบื้องต้นมีหน้าปัดมาให้ 12 แบบ แต่สามารถไปซื้อ หรือดาวน์โหลดฟรี ได้ที่แอพฯ HUAWEI Health > อุปกรณ์ > หน้าปัดนาฬิกา

พลิกโฉมด้วยการวัดความดันโลหิต
ความโดดเด่นอย่างชัดเจนของ HUAWEI WATCH D คงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจาก ฟังก์ชั่นการวัดความดันโลหิต ถือว่าเป็นการบุกเบิกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ HUAWEI อย่างแท้จริง โดยเน้นให้ใช้งานกับผู้ใหญ่ และเป็นเครื่องวัดความดันโลหิตสูง หรือต่ำ ให้กับผู้ป่วยได้ด้วย สำหรับการวัดความดันโลหิตของ HUAWEI WATCH D เป็นรูปแบบดิจิตอล มีคุณสมบัติการเตือนคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และชีพจรเป็นระยะ พร้อมได้รับการอนุมัติจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาให้จัดเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ประเภทที่ 2

เมื่อเริ่มใช้งานฟังก์ชั่นการวัดความดันโลหิต สายรัดข้อมือจะมีการบีบรัดข้อมือ (ความรู้สึกเครื่องวัดความดันตามโรงพยาบาล) ซึ่งเป็นการรัดจากถุงลม Airbag และปั๊มลมขนาดเล็กที่มีขนาดเท่าเหรียญ สามารถทำแรงดันได้ถึง 40kPa วัดความดันโลหิตได้สูงถึง 230mmHg มีความแม่นยำเทียบกับการเครื่องวัดความดันตามท้องตลาด เพราะมีความดันที่มีความละเอียดสูงถึง 0.01mmHg สามารถสะท้อนความเปลี่ยนแปลงของค่าความดันโลหิตได้แม่นยำ และมีความคลาดเคลื่อนเพียง +-3mmHg เท่านั้น

วิธีการใช้งานฟังก์ชั่นวัดความดันโลหิต
เมื่อเริ่มใช้งานฟังก์ชั่นวัดความดันโลหิต ระบบจะมีการตรวจจับท่าการใช้งาน ซึ่งผู้ใช้ต้องยกแขนข้างที่สวมใส่ HUAWEI WATCH D มาวางบริเวณหน้าอกให้อยู่ในระดับเดียวกับหัวใจ และเอามือและเอามืออีกหนึ่งข้างประคองข้อศอกที่ใส่ HUAWEI WATCH D ไว้เพื่อรักษาระดับ วางเท้าให้ราบไปกับพื้น นั่งหลังตรงปล่อยตัวตามสบายพิงเก้าอี้ และไม่กดฟังก์ชัน airbag เพื่อให้ผลการวัดออกมาถูกต้องมากที่สุด ขอให้นั่งพัก 5 นาทีก่อนการตรวจวัดความดันโลหิต

หากท่าทางไม่ถูกต้อง การวัดค่าความดันในโลหิต จะไม่ได้ค่าที่แน่นอน และมีความคลาดเคลื่อนสูง ซึ่งภายในจะมีระบบ Motion Sensor และเซ็นเซอร์ตรวจจับการเต้นของหัวใจ Pulse Wave Detection ช่วยแจ้งเตือนผู้ใช้งานให้ปรับลักษณะท่าทางให้ถูกต้อง

ฟังก์ชั่นติดตามสุขภาพอื่นๆ
ไฮไลท์เด่นเป็นเรื่องของการวัดความดันโลหิตกันไปแล้ว ด้านฟังก์ชั่นการติดตามสุขภาพอื่นๆ ก็ยังมาครบ และข้อมูลทั้งหมดจะมีการซิงค์ไปยังแอพฯ HUAWEI Health ในอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่ สามารถนำมาดูภายหลังได้

- ECG : การใช้งาน ECG ค่อนข้างมั่นใจได้ เพราะ HUAWEI มีการพัฒนาเพิ่มประสบการร์ และความเชี่ยวชาญอยู่ตลอด โดยให้การวัดความผิดปกติข้องหัวใจ จากคลื่นไฟฟ้าของการเต้นของหัวใจ อย่างแม่นยำ พร้อมได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ตามใบรับแจ้งรายการละเอียดที่ 65-2-2-2-0003968 นอกจากนี้ยังมีการเก็บผลค่า ECG โดยเป็นการวัดแบบ Single lead รับคลื่นหัวใจภายใน 30 วินาที วิเคราะห์ผลแบบเรียลไทม์ พร้อมแจ้งเตือนความผิดปกติเบื้องต้นได้ ซึ่งการวัดจะต้องใช้นิ้งแตะที่ปุ่ม Health (ปุ่มที่มีขอบแดง) ตลอดการวัดค่า

ติดตามการเต้นของหัวใจ : การติดตามการเต้นของหัวใจ ก็มีความแม่นยำสูง วัดได้ตลอดเวลา หรือแม้กำลังทำกิจกรรมใดๆ ก็ตาม โดยมีเทคโนโลยี HUAWEI TruSeen 5.0+ พร้อมโฟโตไดโอดอีก 8 ตัว พร้อม Micro Nano เพื่อรับแสงได้ดีขึ้น

- ติดตามการนอนหลับ HUAWEI TruSleep 2.0+ : นี้คือฟังก์ชั่นติดตามการนอนหลับตัวเก่งของ HUAWEI WATCH D และสมาร์ทวอทช์รุ่นอื่นๆ ซึ่งมีการติดตามการนอนหลับให้ตลอดเวลานอน โดยมีการบอกค่า REM, หลับสนิท และตื่น พร้อมประเมินการนอนการอยู่ในเกณฑ์ไหน พร้อมให้คำแนะนำ เมื่อกลับระบบจะมีการติดตามให้ทันที และสามารถดูสถานะตลอดการนอนในแต่ละวันได้ในแอพฯ HUAWEI WATCH D

- วัดค่า SpO2 : HUAWEI WATCH D มาพร้อมระบบวัดค่า SpO2 สามารถวัดเมื่อไหร่ก็ได้ หรือจะปรับให้วัดตลอดเวลา ก็สามารถไปปรับได้ที่การตั้งค่า แต่การเปิดใช้งานตลอดเวลาจะเป็นการสิ้นเปลืองแบตเตอรี่

- วัดความเครียด HUAWEI TruRelax : เป็นฟังก์ชั่นการวัดความเคลียดตลอดเวลา หากมีความเครียดเกิดขึ้นสูง ระบบจะแจ้งเตือน และให้ทำการกำหนดลมหายใจ เพื่อลดความเครียดที่เกิดขึ้น

- HUAWEI Healthy Living Shamrock : เรียกว่า HUAWEI WATCH D ห่วงใยสุขภาพทุกฝีก้าว โดยระบบนี้จะคอยแจ้งเตือนกิจวัตรต่างๆ ในชีวิตประจำวันให้แบบอัตโนมัติ เช่น ดื่มน้ำ รับประทานยาตามเวลา นับก้าว หรือเตือนเมื่อนั่งติดต่อกันเป็นระยะเวลานานติดตาม

โหมดการออกกำลังกายกว่า 70 โหมด
HUAWEI WATCH D ยังตอบโจทย์การออกกำลังกาย ด้วยโหมดการออกกำลังกายกว่า 70 โหมด ซึ่งมีโหมดทั้งนอกอาคาร ในอาคาร และกีฬาแบบมืออาชีพ ผู้ใช้งานก็สามารถเลือกใช้ได้ตามสะดวก ซึ่งการทดสอบใช้งาน ได้ใช้โหมดฟุตบอล (แต่ในแอพฯ บอกว่ารักบี้) โดยระบบมีการบอกระยะเวลาในการเล่น พร้อมจำนวนแคลลอรี่ที่เฝาผลาญไป ส่วนการเต้นของหัวใจก็มีบอกอย่างชัดเจน แบ่งเป็นในแต่ละช่วงเวลา และบอกสถานะการเต้นของหัวใจว่า มีการเต้นแรง เต้นเบา แต้นปกติ กี่นาที นอกจากนี้ยังมีค่าความเตรียดในระหว่างออกกำลังกายอีกด้วย

ส่วนรายละเอียดอื่นๆ มีระบบระบุตำแหน่ง ผ่านสัญญาณดาวเทียม 5 ระบบทั่วโลก (GPS, Beidou, GLONASS, GALILEO, QZSS) เพื่อให้การระบุตำแหน่งมีความแม่นยำสูง และใช้งานได้ทุกทีทุกเวลา เหมาะกับการออกกำลังกายในโหมดที่มีระยะทาง และตัวเรือน HUAWEI WATCH D มีมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นที่ IP68 พร้อมใส่ลุยได้ทุกกีฬา

ฟังก์ชั่นมัลติมีเดีย
การใช้งานฟังก์ชั่นมัลติมีเดีย ต้องใช้งานเมื่อเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ซึ่งสามารถรับการแจ้งเตือนสายเรียกเข้าได้ แต่คุยสายไม่ได้ ได้แต่ปฏิเสธสาย หรือรับผ่านทางสมาร์ทโฟน ส่วนการแจ้งเตือนอื่นๆ ก็มีการแจ้งเตือนมายัง HUAWEI WATCH D แต่จากการทดสอบ ไม่สามารถตอบกลับแชทของแอพฯ LINE และ Messenger ได้แต่ตอบกลับข้อความสั้นๆ ใน SMS ทั้งนี้ยังสามารถเปลี่ยนเป็นปุ่มชัตเตอร์ ควบคุมเครื่องเล่นเพลง (เปิดเพลงใน HUAWEI WATCH D ไม่ได้) และหาสมาร์ทโฟนได้ด้วย

แบตเตอรี่อึดทนนาน 7 วัน
เรื่องของแบตเตอรี่ ยังคงประทับใจตามฉบับ HUAWEI เข่นเคย โดยมีความจุแบตเตอรี่ที่ 451mAh ใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุด 7 วัน ในการใช้งานทั่วไป จากที่ลองใช้งานชาร์จเต็ม 100% ก่อนนอน เปิดโหมดการเต้นของหัวใจ 24 ชั่วโมง ใช้วัดความดัน 5 ครั้ง วัดค่า SpO2 2 ครั้ง จนถึงเข้านอนตอนเที่ยงคืนอีก ยังเหลือแบตเตอรี่ 

สรุปราคา และการจัดจำหน่าย
เบื้องต้น HUAWEI WATCH D มีการเปิดตัวในประเทศไทย ด้วยราคา 14,990 บาท มีให้เลือกสีดำเพียงสีเดียว สามารถหาซื้อได้ที่หน้าร้าน HUAWEI Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์อย่าง HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Shopee, Lazada และแอปพลิเคชัน  My HUAWEI

*** พิเศษโปรโมชันช่วงพรีออเดอร์ เมื่อสั่งซื้อสินค้าในช่วงพรีออเดอร์ ตั้งแต่ 24 มิถุนายน 2565 ถึง 7 กรกฎาคม 2565 รับทันที HUAWEI Scale 3 มูลค่า 799 บาท