realme 9 เป็นอีก 1 สมาร์ทโฟนในตระกูล realme 9 Series และมีสเปคคล้ายๆ realme 9i ที่ถูกเปิดตัวก่อนหน้าในประเทศไทย โดยยังให้จุดเด่นมาคล้ายๆ กัน ด้วยหน้าจอ Refresh Rate สูงสุด 90Hz ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 680 และแบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh สนับสนุนชาร์จเร็ว 33W แต่มีการอัพเกรดหน้าจอแสดงผลเป็นพาแนล AMOLED กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียดสูงสุด 108MP โฟกัสอัตโนมัติแม่นยำ มีเทคโนโลยี Nanopixel Plus Technology รวม Pixel 9 in 1 พร้อมดีไซน์ฝาหลังแบบ Ripple Holographic
realme 9 มีขนาดรอบตัวเครื่อง 160.2x73.3x7.99 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 178 กรัม ถือว่าเป็นขนาดสมาร์ทโฟนที่กำลังดี จับใช้งานได้ถนัด และน้ำหนักที่ไม่มีมากเกินไป
หน้าจอแสดงผล AMOLED กว้าง 6.4 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400x1080 พิกเซล) อัตรา Refresh Rate สูงสุด 90Hz ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5 และใช้ดีไซน์รอยแหว่งแบบจอเจาะรู อยู่มุมบนซ้ายของหน้าจอ
เหนือหน้าจอแสดงผล realme 9 ในรอยแหว่งมีกล้องหน้า ความละเอียด 16MP และขอบบนหน้าจอ เป็นลำโพงเสียงสำหรับคุยโทรศัพท์
ล่างหน้าจอแสดงผล ไม่มีปุ่มนำทางแบบฮาร์ดแวร์ โดยปุ่มนำทางจะมาในรูปแบบซอฟแวร์ใช้งานในหน้าจอแสดงผล
ข้างซ้ายตัวเครื่อง realme 9 บนสุดเป็นถาดซิมกาดแบบ 3 ช่อง โดยรองรับ Naon SIM 2 ช่อง และ MicroSD Card อีก 1 ช่อง ถัดลงมาเป็นปุ่มเพิ่มเสียง ลดเสียง
ข้างขวาตัวเครื่อง มีปุ่มใช้งานเพียงปุ่มเดียวคือปุ่ม เพาเวอร์ สำหรับเปิดปิดเครื่อง หรือพักหน้าจอแสดงผล
ส่วนบนตัวเครื่อง realme 9 มีรูเล็กๆ ที่จุด ซึ่งเป็นรูไมโครโฟน
ส่วนใต้ตัวเครื่อง ซ็ายสุดเป็นช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ต่อมาตรงกลางเป็นพอร์ต USB Type-C และขวาสุดเป็นลำโพงเสียง
ผลิกมาที่ฝาหลังตัวเครื่อง realme 9 มุมบนซ้ายเป็นโมดูลกล้องสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีกล้อง 3 ตัวนูนขึ้นมาเล็กน้อย ประกอบไปด้วย กล้องหลัก ความละเอียด 108MP, กล้อง Ultra-Wide และกล้อง Macro พร้อมไฟแฟลช LED ส่วนดีไซน์ฝาหลังเป็นแบบ Ripple Holographic มีโลโก้ realme อยู่มุมบ้างซ้าย
อุปกรณ์ภายในกล่อง realme 9
สเปคของ realme 9
RAM และพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน
ตัวเลือก RAM และพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน จะมีให้เลือก 2 แบบคือ RAM 6GB + ROM 128GB และ 8GB + ROM 128GB ซึ่งเป็น LPDDR4x Dual-Channel และ UFS 2.1 นอกจากนี้ยังมีการเพิ่ม RAM ได้อีก ด้วยระบบการขยาย RAM ซึ่งสามารถเพิ่มได้อีก 5GB
ระบบปฏิบัติการ
ด้านระบบปฏิบัติการรันบน realme UI 3.0 บนพื้นฐาน Android 12 ตั้งแต่แกะออกจากกล่อง ซึ่งมีระบบปฏิบัติการที่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับ realme 9 มีการทำงาน และอนิเมชั่นที่รวดเร็ว รวมไปถึงเน้นการใช้งานที่ดูง่ายๆ และมีฟังก์ชั่นให้ปรับแต่งตามความต้องการที่เยอะพอสมควร
หน้าจอหลัก
ในการเปิดเครื่องมาครั้งแรก การตั้งค่าเริ่มต้นหน้าจอหลัก จะเป็นแบบลิ้นชัก คือปัดขึ้นเพื่อเปิดถาดรวมแอพฯ และแอพฯ ทั้งหมดก็ยังอยู่ในที่หน้าจอหลักทั้งหมดด้วย นอกจากนี้รูปแบบไอคอน, Font, สี และแสงไฟขอบหน้าจอ ก็สามารถปรับแต่งเป็นรูปแบบอื่นๆ ได้ด้วย โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > การปรับเปลี่ยนในแบบของคุณ
Wallpaper, ธีม และ Widget
ทั้ง Wallpaper, ธีม และ Widget ก็มีให้เลือกปรับเปลี่ยนแบบครบๆ ซึ่ง Wallpaper และธีม ทาง realme UI 3.0 ก็มีร้านค้าของตัวเอง ให้เลือกซื้อ หรือดาวน์โหลดมาแบบฟรีๆ ส่วน Widget ก็มีให้เลือกมาใส่หน้าจอหลัก ด้วยการกดค้างในพื้นที่ว่างของหน้าจอหลัก และเลือกเมนู Widget
แถบด้านข้างอัจฉริยะ
แถบด้านข้างอัจฉริยะ จะอยู่ที่ขอบหน้าจอแสดงผล เมื่อเปิดออกมาจะมีเครื่องมือ หรือแอพฯ ต่างๆ ให้เปิดใช้งานได้ทันที โดยเปิดมาจะมาในรูปแบบ Pop-Up สามารถเปิดใช้งานได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องกลับมาหน้าจอหลักอีกครั้ง
การแบ่งหน้าจอ
การแบ่งหน้าจอบน realme 9 ก็สามารถใช้งานได้ง่ายๆ ด้วยวิธีการ รูด 3 นิ้วขึ้นบนหน้าจอ แต่ต้องใช้งานกับแอพฯ ที่รองรับเท่านั้น
โหมดมืด
โหมดมืดก็ตามปกติเหมือนสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนธีมเป็นสีดำ และใช้ตัวหนังสือสีขาว เพื่อที่ใช้งานในตอนกลางคืน หรือที่แสงน้อยได้สบายตา ที่สำคัญ realme 9 ที่หน้าจอเป็นพาแนล AMOLED ก็ยิ่งเป็นการประหยัดพลังงานไปอีกทาง สามารถเปิดใช้งานได้ที่ การตั้งค่า > จอแสดงผลและความสว่าง > โหมดกลางคืน
Always On Display
realme 9 จะรองรับการใช้งานฟังก์ชั่น Always On Display เมื่้อมีการพักหน้าจอ ระบบจะแสดงผลข้อมูลบางอย่างทั้ง วัน, เวลา, เปอร์เซ็นแบตเตอรี่ และการแจ้งเตือน ช่วยให้ไม่ต้องปลุกหน้าจอ และปลดล็อกมาดูภายใน ทั้งนี้ฟังก์ชั่น Always On Display ยังมีให้เลือกปรับแต่งมากมาย สามารถเข้าไปเปิดใช้งาน และปรับแต่งได้ที่ การตั้งค่า > การปรับเปลี่ยนในแบบของคุณ > การแสดงผลหน้าจอตลอดเวลา
ปรับอัตรา Refresh Rate
อย่างที่ทราบว่า realme 9 มาพร้อมหน้าจออัตรา Refresh Rate สูงสุดที่ 90Hz ซึ่งผู้ใช้งานสามารถไปปรับเปลี่ยนเป็น 60Hz หรือปรับแบบอัตโนมัติได้ โดยการเข้าไปที่ การตั้งค่า > จอแสดงผลและความสว่าง > อัตราการรีเฟรชจอภาพ
การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง
ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้
ฝาหลังสวยงามด้วยดีไซน์ Ripple Holographic
ดีไซน์ตัวเครื่องก็สวยใช่เล่น โดย realme 9 มีตัวเครื่องบางเพียง 7.99 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 178 กรัม ส่วนฝาหลังก็สวยงามด้วยลวดลายแบบ Ripple Holographic ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจแสงแดดจากทะเลทราย และเมื่อมีแสงมาสะท้อนจะเกิดเงา 3 มิติ คล้ายคลื่นของทะเลทราย ทั้งนี้กระบวนการผลิต ก็มีความปราณีตอย่างดีถึง 6 ชั้น พร้อมเคลือบ Plasma Atom และ UV-nano Imprinting เพื่อให้เกิดเงาคลื่นแบบ 3 มิติขึ้นมา โดยสีของ realme 9 มีให้เลือก 3 สีคือ Stargaze White, Sunburst Gold, และ Meteor Black สำหรับสีที่ได้มารีวิวคือ Stargaze White
หน้าจอแสดงผล AMOLED อัตรา Refresh Rate 90Hz
realme 9 จะขยับมาใช้หน้าจอพาแนล AMOLED ซึ่งจะให้ความสดของสีที่ดูสดกว่าปกติ พร้อมกับปรับความสว่างของหน้าจอได้ 10240 ระดับ สูงสุด 1000nits ถือว่าการแสดงผลของหน้าจอทำได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะการดูหนังดูซีรี่ย์ นอกจากนี้ยังมีอัตรา Refresh Rate สูงสุด 90Hz ทำให้หน้าจอแสดงผลได้ลื่นมากขึ้น และมีระบบปรับอัตรา Refresh Rate แบบอัตโนมัติ เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน พร้อมช่วยลดการใช้พลังงานแบตเตอรี่ไปอีกชั้น เพราะหากเปิดใช้งาน 90Hz ตลอดเวลาจะเป็นการใช้งานแบตเตอรี่มากจนเกินไป
ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 680 ทำงานพื้นฐานลื่นๆ
แม้ว่าจะเป็นชิปเซ็ตสำหรับเครือข่าย 4G เท่านั้น แต่เรื่องประสิทธิภาพการทำงาน ถือว่าใช้งานมาตรฐานได้ลื่นๆ โดย Qualcomm Snapdragon 680 เป็นชิปเซ็ตกระบวนการผลิตขนาด 6 นาโนเมตร ทำงานร่วมกับชิปกราฟฟิก Adreno 610 ซึ่งมีประสิทธิภาพ CPU เพิ่มขึ้น 25% และ GPU เพิ่มขึ้น 10% นอกจากนี้ยังเป็นชิปเซ็ตที่มีระบบ AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านต่างๆ ได้อย่างฉลาด เช่น การเล่นเกม ใช้งานกล้องถ่ายรูป เป็นต้น
ทดสอบการเล่นเกม
realme 9 อาจไม่ใช้สมาร์ทโฟนสำหรับเล่นเกมกราฟฟิกสูงๆ แต่ก็ยังสามารถเล่นได้ลื่นๆ ในการปรับกราฟฟิกระดับกลาง หรือใช้เล่นเกมที่ต้องการสเปคไม่เยอะ พร้อมมีระบบ Game Space ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นให้ดีขึ้น และยังสามารถจัดการการตั้งค่าต่างๆ ในระหว่างเล่นเกมได้ทันที ส่วนการทดสอบเล่นเกมจริง จะใช้เกม ROV และ PUBG ในการทดสอบ
ระบบความปลอดภัยไบโอเมตริก
realme 9 สนับสนุนระบบความปลอดภัยไบโอเมตริกทั้ง สแกนใบหน้า และสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ซึ่งทั้งคู่ก็มีการทำงานที่นวดเร็ว ทั้งนี้ยังมีลูกเล่นตรงที่สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ด้วยการปรับเปลี่ยนเอฟเฟค ตามแบบที่ชอบ ซึ่งก็มีให้เลือกหลายแบบด้วยกัน
วัดการเต้นของหัวใจ บนที่สแกนลายนิ้วมือ
บริเวณที่สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ยังใช้งานฟังก์ชั่นได้อีกอย่าง นั้นก็คือ การวัดการเต้นของหัวใจ ซึ่งสามารถเปิดใช้งานได้ใน การตั้งค่า > realme Lab > วัดการเต้นของหัวใจ ส่วนการใช้งานก็เพียง แตะนิ้วมือในที่สแกนลายนิ้วมือค้างเอาไว้ ระบบจะทำการวัดการเต้นของหัวใจให้
แบตเตอรี่ 5,000mAh ชาร์จเร็ว 33W
realme 9 มาพร้อมขนาดแบตเตอรี่ใหญ่ถึง 5,000mAh ซึ่งสามารถใช้งานได้นาน และสามารถใช้งานพื้นฐานเพียงพอต่อ 1 วัน ส่วนการชาร์จจะรองรับการชาร์จเร็วผ่านสาย 33W จากการทดสอบ ด้วยแบตเตอรี่ 27% ใช้เวลาชาร์จเพียง 45 นาทีก็เต็ม 100% นอกจากนี้การชาร์จยังมีความปลอดภัยสูง ด้วยการปกป้องถึง 5 ชั้น
1. อะแดปเตอร์ป้องกันการจ่ายไฟเกินกำลัง
2. การป้องกันขณะชาร์จเร็ว
3. ป้องกันการโอเวอร์โหลดอินเทอร์เฟซ
4. ป้องกันกระแสไฟเกินและแรงดันไฟฟ้าเกิน
5. การป้องกันขณะรวมแบตเตอรี่
กล้องถ่ายรูป
การใช้งานกล้องถ่ายรูป ถือว่าเป็นไฮไลท์เด่นของ realme 9 ด้วยการติดตั้งกล้องหลังมา 3 เลนส์ ประกอบไปด้วยเลนส์หลัก เซนเซอร์ Samsung ISOCELL HM6 ความละเอียดสูงถึง 108MP, เลนส์ Ultra-Wide และเลนส์ Macro พร้อมกับเทคโนโลยีช่วยให้ถ่ายภาพออกมาสวยได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็น Nonapixel Plus Technology ช่วยในการรวมพิกเซล 9 in 1 ช่วยให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดี, ระบบออโตโฟกัสที่แม่นยำมากขึ้นถึง 9 เท่า ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับการโฟกัส PDAF และเซนเซอร์ Samsung ISOCELL HM6 และการซูมก็มีเซนเซอร์ Samsung ISOCELL HM6 ช่วยให้ซูมภาพได้ชัดเจน มีความละเอียดมากขึ้น ในขณะที่กล้องหน้า มีความละเอียด 16MP
ถ่ายภาพปกติมีระบบ AI จดจำซีน
กล้องหลังของ realme 9 มีการทำงานร่วมกับ AI ช่วยให้ถ่ายภาพได้สวยงาม ในการกดชัตเตอร์เพียงอย่างเดียว ซึ่งเป็นระบบ AI จดจำซีน ไม่ว่าจะถ่ายภาพในสถานการณ์ไหน ก็มีระบบ AI ช่วยปรับแต่งภาพให้ออกมาสวยงามแบบอัตโนมัติ
โหมดพิเศษ 108MP
ในเมื่อมีกล้องความละเอียดสูงถึง 108MP ก็ต้องมีโหมดพิเศษ 108MP มาด้วย ซึ่งเป็นการใช้ประสิทธิภาพของกล้องนี้อย่างเต็มที่ โดยภาพที่ออกมาจะมีความละเอียดสูงถึง 12,000x9000 พิกเซล ไม่ว่าจะมุมไหนของภาพก็ชัด สามารถครอปได้ทุกส่วนของภาพ
Street Photography Mode 2.0
โหมดจุดขายของสมาร์ทโฟน realme 9 Pro+ ก็ถูกนำมาใส่ให้กับ realme 9 ได้ใช้งานด้วย ซึ่งการถ่ายภาพในโหมดนี้ ภาพที่ออกมาดูย้อนยุค หรือแนวสตรีทอาร์ต ซึ่งจะมีให้เลือกปรับฟิลเตอร์ถึง 3 แบบคือ 90s pop ฟิลเตอร์, DIS snapshot และ Peak&Zoom
โหมดมุมกว้าง
ในการใช้งานโหมดมุมกว้าง จะสามารถเปิดมุมได้ถึง 119 องศา โดยภาพที่ออกมาก็ดูสวยงาม ให้รายละเอียดได้มากขึ้น
โหมดกลางคืน
การถ่ายภาพในโหมดกลางคืน ก็ยังให้ความสวยงามไม่แพ้สมาร์ทโฟนรุ่นพี่ ซึ่งมีการเปิดเผยรายละเอียดในตอนกลางคืนที่สวยงาม แสงสีดูสวย และยังให้บรรยากาศดูเป็นธรรมชาติดี
โหมด Macro
โหมด Macro ไว้สำหรับการถ่ายภาพในระยะใกล้ๆ เช่นภาพแนวธรรมชาติ ดอกไม้ ใบไม้ แมลง เป็นต้น สามารถถ่ายระยะใกล้ถึง 4 เซนติเมตร โดยภาพที่ออกมาก็ให้รายละเอียดที่ชัดเจน ดูสวยงามทีเดียว
โหมด Portrait
การใช้งานในโหมด Portrait หรือหน้าชัดหลังเบลอ ก็มีการทำงานระหว่างกล้อง และซอฟแวร์ที่ลงตัว ตัดเบลอพื้นหลัง และส่วนหน้าได้ดี ทั้งนี้ยังสามารถปรับการเบลอได้ตามใจชอบ ใครชอบเบลอน้อย เบลอมาก ก็เลือกปรับได้ตามใจ
การใช้งานกล้องหน้า ความละเอียด 16MP
กล้องหน้าแม้ว่าจะมีความละเอียด 16MP แต่การถ่ายเซลฟี่ก็ไม่มีปัญหา ยังถ่ายออกมาได้สวยงาม พร้อมกับโหมดปรับแต่งหน้าสวย ช่วยให้ใบหน้าดูเนียนมั่นใจทุกครั้งเวลาถ่ายเซลฟี่ นอกจากนี้ยังใชงานร่วมกับโหมด Portrait ได้ด้วย ทำให้ถ่ายเซลฟี่แบบหลังเบลอได้ง่ายๆ พร้อมกับเลือกปรับความเบลอได้เหมือนกล้องหลัง
ขอขอบคุณ : realme Thailand
ข้อมูลผู้ใช้ร่วมแสดงความเห็นกับ : realme 9
https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=466895
แคตตาล็อกตัวเครื่อง : https://www.siamphone.com/spec/realme/9.htm
จอ OLED 10-bit
1188 x 2790 พิกเซล
กล้องหน้า 16MP
Qualcomm Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core
Android 13
RAM 8 GB
ROM 256 GB
4,310 mAh
ชาร์จไว 33W
nubia Flip สมาร์ทโฟน หน้าจอ 6.9 นิ้ว Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core ราคา 19,990 บาท