รีวิว OnePlus 9 Series เพิ่มมิติให้กับกล้องถ่ายรูป ด้วยการจับมือกับแบรนด์ Hasselblad

รีวิวโทรศัพท์มือถือ OnePlus 9 Series - วันพลัส

จากเดิม OnePlus จะชอบผลิตสมาร์ทโฟนที่เน้นความคุ้มค่า จนได้ฉายานักฆ่าเรือธงแต่หลังๆ มานี้พวกเขาพร้อมปรับโฉมภาพลักษณ์แบรนด์ และให้สมาร์ทโฟน OnePlus ในซีรี่ย์ท็อปกลายเป็นเรือธงเสียเองอย่างเต็มตัว และล่าสุด OnePlus 9 Series ก็ถูกเติมเต็มให้เป็นสุดยอดเรือธงไปอีกขั้น ด้วยการเน้นพัฒนากล้องถ่ายรูป ด้วยการจับมือกับแบรนด์ผลิตกล้องถ่ายรูปดิจิตอลชื่อดังอย่าง Hasselblad เพื่อให้ OnePlus 9 Series ที่ให้สเปคแบบจัดเต็มอยู่แล้วทั้งความบันเทิง และการเล่นเกม ได้เปิดประสบการณ์การใช้งานกล้องถ่ายรูปในแบบที่ OnePlus รุ่นก่อนหน้าไม่เคยได้สัมผัส โดย OnePlus 9 Series จะมีให้เลือกใช้งานด้วยกัน 2 รุ่นคือ OnePlus 9 และ OnePlus 9 Pro

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

ขนาดตัวเครื่องของ OnePlus 9 และ OnePlus 9 Pro จะไม่แตกต่างกันมากนัก โดย OnePlus 9 จะมีขนาดที่เล็กกว่า และน้ำหนักเบากว่าเล็กน้อย

OnePlus 9 Pro มีขนาด 163.2x73.6x8.7 มิลลิเมตร น้ำหนัก 197 กรัม
OnePlus 9 มีขนาด 160x74.2x8.7 มิลลิเมตร น้ำหนัก 192 กรัม

หน้าจอแสดงผล OnePlus 9 Pro จะเป็นหน้าจอโค้ง Fluid Display ใช้พาแนล AMOLED กว้าง 6.7 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (3216x1440 พิกเซล) พิกเซลละเอียด 525ppi อัตรา Refresh Rate สูงสุด 120Hz ใช้ดีไซน์รอยแหว่งแบบจอเจาะรู และมีการเคลือบด้วยกระจก Gorilla Glass
*** OnePlus 9 หน้าจอจะไม่โค้ง มีความกว้าง 6.55 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400x1080 พิกเซล) พิกเซลละเอียด 402ppi

เหนือหน้าจอแสดงผล รอยแหว่งจอเจาะรูจะอยู่มุมบนซ้ายของหน้าจอ ในนั้นมีกล้องหน้าเซนเซอร์ Sony IMX471 ความละเอียด 16MP และขอบหน้าจอด้านบนเป็นลำโพงเสียง

ล่างหน้าจอแสดงผล ไม่มีปุ่มนำทางแบบฮาร์ดแวร์ โดยปุ่มจะมาในรูปแบบซอฟแวร์ และส่วนล่างหน้าจอแสดงผลจะเป็นที่สแกนลายนิ้วมืออีกด้วย

ข้างซ้ายตัวเครื่อง มีปุ่มยาวสำหรับเพิ่มเสียง หรือลดเสียง

ข้างขวาตัวเครื่อง จะมีปุ่มให้ใช้งาน 2 ปุ่ม โดยปุ่มลายจะเป็นปุ่ม Toggle ไว้สำหรับปรับโหมดเสียง สามารถปรับได้ 3 ระดับคือ เงียบ, สั่น, เสียง ถัดลงมาเป็นปุ่มเพาเวอร์ สำหรับพักหน้าจอ หรือปิดเปิดเครื่อง

ส่วนบนตัวเครื่อง มีเพียงรูไมโครโฟนอยู่ทางซ้าย

ส่วนใต้ตัวเครื่อง ทางซ้ายเป็นช่องใส่ถาดซิมการ์ด โดนถาดเป็นแบบ NanoSIM สนับสนุน 2 ช่อง ถัดมาทางขวาเป็นรูไมโครโฟน และตรงกลางเป็นพอร์ต USB Type-C ส่วนขวาสุดเป็นลำโพงเสียง

พลิกมาที่ฝาหลังตัวเครื่อง กล้องของ OnePlus 9 จะไม่มีเลนส์ Telephoto มาด้วย ส่วน OnePlus 9 Pro จัดเต็มมา 4 เลนส์ พร้อมไมโครโฟน และไฟแฟลชแบบ Dual LED นอกจากนี้บนโมดูลสี่เหลี่ยมยังมีคำเขียนกำกับไว้ว่า Hasselblad

เลนส์หลักเซนเซอร์ Sony IMX789 ขนาด 1/1.43 นิ้ว ความละเอียด 48MP รูรับแสง f/1.8 และระบบกันสั่น OIS
เลนส์ Ultra-Wide เซนเซอร์ Sony IMX766 ขนาด 1/1.56 นิ้ว ความละเอียด 50MP รูรับแสง f/2.2
เลนส์ Telephoro ความละเอียด 8MP กันสั่น OIS รูรับแสง f/2.4
เลนส์ Monochrome ความละเอียด 2MP

อุปกรณ์ภายในกล่อง

ตัวเครื่อง OnePlus 9 Series
อะแดปเตอร์ Type-C จ่ายไฟ 65W
สาย USB Type-C To Type-C
เคสซิลิโคน
เข็มนำถาดซิมออก
ใบขอบคุณจาก OnePlus
ใบรับประกัน และคู่มือการใช้งาน

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

สเปคของ OnePlus 9 Pro

ขนาดตัวเครื่อง : 163.2x73.6x8.7 มิลลิเมตร
น้ำหนัก : 197 กรัม
หน้าจอแสดงผล : จอโค้ง Fluid Display 2.0 กว้าง 6.7 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (3216x1440 พิกเซล) พิกเซลหนาแน่น 525ppi ความลึกสี 10-bit อัตรา Refresh Rate 120Hz LTPO รอยแหว่งแบบจอเจาะรู และเคลือบด้วยกระจก Gorilla Galss
ชิปเซ็ต : Qualcomm Snapdragon 888 5G
ชิปกราฟฟิก : Adreno 660
RAM : 12GB LPDDR5
ROM : 256GB แบบ UFS 3.1 2-Lane
ระบบปฏิบัติการ : OxygenOS 11 บนพื้นฐาน Android 11
กล้องหลัง 4 เลนส์ พร้อมไฟแฟลช Dual LED
- เลนส์หลักเซนเซอร์ Sony IMX789 ขนาด 1/1.43 นิ้ว ความละเอียด 48MP รูรับแสง f/1.8 และระบบกันสั่น OIS
- เลนส์ Ultra-Wide เซนเซอร์ Sony IMX766 ขนาด 1/1.56 นิ้ว ความละเอียด 50MP รูรับแสง f/2.2
- เลนส์ Telephoro ความละเอียด 8MP กันสั่น OIS รูรับแสง f/2.4
- เลนส์ Monochrome ความละเอียด 2MP
กล้องหน้า ความละเอียก 16MP รูรับแสง f/2.4
เครือข่าย : 5G / 4G สนับสนุน NanoSIM 2 ช่อง
การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 6 (2.4 / 5GHz), Bluetooth 5.2, NFC, GPS, GLONASS, Galileo, พอร์ต USB Type-C 3.1
ระบบเสียง : ลำโพงคู่ รองรับเสียง Dolby Atmos
ระบบความปลอดภัย : สแกนใบหน้า, สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
แบตเตอรี่ : 4,500mAh สนับสนุนชาร์จเร็วผ่านสาย 65W และไร้สาย 50W

RAM และพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน
ตัวเลือกของ RAM และ ROM ของ OnePlus 9 Pro จะมีตัวเลือกเดียวคือ 12GB+256GB และเป็นแบบ LPDDR5 + UFS 3.1 2-Lane ซึ่งทำให้เครื่องมีความลื่น พร้อมกับการอ่านเขียนข้อมูลที่รวดเร็ว เมื่อเปิดเครื่องมาครั้งแรกระบบจะมีการกินพื้นที่ไป 24.71GB ทำให้เหลือพื้นที่ใช้งานจริงๆ ประมาณ 230GB
*** OnePlus 9 จะมี RAM 8GB + ROM 128GB (LPDDR5 + UFS 3.1 2-Lane)

ระบบปฏิบัติการ OxygenOS 11
ทั้ง OnePlus 9 และ OnePlus 9 Pro จะรันบนระบบปฏิบัติการ OxygenOS 11 บนพื้นฐาน Android 11 แน่นอนว่าเป็น OxygenOS ความคลีนต้องมาก่อน ซึ่งไม่มีแอพฯ จากโรงงานมากให้รก ส่วนการใช้งานก็มีความเร็ว และสมูทมากกว่าเดิม เพราะมีฟังก์ชั่นอย่าง Turbo Boost 3.0 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ RAM ทำให้เปิดปิดแอพฯ ต่างๆ ได้มากขึ้นถึง 25%

หน้าจอหลัก
หน้าจอหลักของ OnePlus 9 Series ก็จะดูสะอาดตาน่าใช้งาน มีถาดเก็บแอพฯ พร้อมกับรวมแอพฯ ไว้หน้าจอหลัก ส่วนไอคอนแอพฯ และไอคอนระบบต่างๆ เป็นแบบวงกลม แต่ก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นรูปแบบอื่นได้ โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > การกำหนดเอง > ไอคอนระบบ หรือชุดไอคอน

Wallpaper
ในส่วน Wallpaper ก็ปรับเปลี่ยนได้ตามใจ โดยมีทั้งแบบนิ่ง หรือแบบ Live ให้เลือกใช้งาน และยังมี Wallpaper แบบ Canvas ซึ่งจะวาดลายเส้นให้กับรูปที่ผู้ใช้งานเลือก แต่ระบบนี้ยังเป็นการทดสอบอยู่

โหมดมืด
ในส่วนโหมดมืดเมื่อเปิดใช้งาน จะเป็นการปรับเปลี่ยนธีมเป็นสีดำ และตัวหนังสือสีขาว เพื่อให้ใช้งานในตอนกลางคืนได้สะดวกขึ้น แถมยังเป็นการประหยัดแบตเตอรี่ไปด้วยในตัว เพราะหน้าจอของ OnePlus 9 Series เป็นพาแนล AMOLED ทั้งคู่ นอกจากนี้เมื่อเปิดใช้งานโหมดมืด ยังสามารถเลือกแอพพลิเคชั่นบุคคลที่ 3 ให้ปรับเปลี่ยนธีมเป็นสีดำตามไปได้ด้วย แต่ต้องเป็นแอพฯ ที่รองรับเท่านั้น สามารถไปเปิดใช้งานโหมดมืดได้ที่ การตั้งค่า > การแสดงผล > โหมดมืด

นาฬิกาบนหน้าจอแสดงผล
การทำงานของ นาฬิกาบนหน้าจอแสดงผล จะคล้ายๆ Always-On Display เมื่อมีการพักหน้าจอแสดงผล นาฬิกาบนหน้าจอแสดงผล จะปรากฏขึ้นมา ซึ่งจะบอกข้อมูลต่างๆ อย่างเช่น เวลา, วันที่, การแจ้งเตือน และเปอร์เซ็นแบตเตอรี่ ทั้งนี้ดีไซน์ยังมีให้เลือกปรับเปลี่ยนอีกด้วย โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > กำหนดเอง > นาฬิกาบนหน้าจอแสดงผล

การตั้งค่าอัตรา Refresh Rate
สำหรับ OnePlus 9 และ OnePlus 9 Pro จะมาพร้อมอัตรา Refresh Rate สูงสุดที่ 120Hz ซึ่งสามารถไปปรับลดเป็น 60Hz ได้อยู่ เพื่อเป็นการประหยัดแบตเตอรี่ สามารถเข้าไปที่ การตั้งค่า > ขั้นสูง > อัตราการรีเฟรช แต่ทางด้าน OnePlus 9 Pro จะมาพร้อมระบบ LTPO ซึ่งเป็นระบบปรับอัตรา Refresh Rate ให้แบบอัตโนมัติเหมาะสมกับการใช้งานในขณะนั้น

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง

ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็ว AnTuTu Benchmark : 750,291 คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวม Geekbench 5 ได้คะแนน Single-Core : 1117 คะแนน และ Multi-Core : 3602 คะแนน
ผลการทดสอบกราฟิกด้วย 3D MARK (Wild Life) : 5742 คะแนน
ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้

Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
Orientation Sensor ตรวจวัดความเอียง
Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
Gyroscope Sensor ตรวจวัดการทรงตัว
Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

ดีไซน์สวยงาม พร้อมมาตรฐาน IP68
OnePlus 9 Pro เอาจริงดูผ่านๆ อาจจะดูธรรมดา แต่ทาง OnePlus ก็ใส่รายละเอียดมาพอสมควร อย่างเช่นกรอบเป็นอะลูมิเนียมบาง 2.2 มิลลิเมตร และตัวเครื่องโค้งจับถนัด ซึ่งมีความสมดุล และจับใช้งานเป็นเวลานานๆ ได้ดี ไม่พอแค่นั้นยังได้มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 พร้อมกับตัวเลือกสี 3 สีคือ สีเทา Morning Mist, สีเขียว Pine Green และสีดำ Stellar Black ส่วนสีที่ได้มรีวิวจะเป็น สีเทา Morning Mist

หน้าจอเทพๆ ดูหนังก็ดี เล่นเกมก็ลื่น
ด้านความบันเทิงในการดูหนังดูซีรี่ย์ OnePlus 9 Pro ก็ตอบโจทย์ได้ดี แทบจะเป็นสมาร์ททีวีแบบย่อมๆ ก็ว่าได้ เพราะได้หน้าจอเป็นพาแนล AMOLED ซึ่งได้สีที่คมชัด และยังมีความละเอียดสูงถึง QHD+ ปรับความสว่างได้สูงสุด 1,300nits สนับสนุนคอนเทนด์ HDR10+ และมีเทคโนโลยี MEMC ที่ช่วยดูวิดีโอได้แบบลื่นขึ้ย ด้วยการแทรกเฟรมเข้าไป ซึ่งฟีเจอร์นี้มักอยู่ในสมาร์ททีวี

ส่วนอัตรา Refresh Rate จะปรับได้สูงสุดถึง 120Hz พร้อมกับเทคโนโลยีพิเศษอย่าง LTPO ซึ่งช่วยปรับอัตรา Refresh Rate ให้แบบอัตโนมัติ ตามความเหมาะสมในการใช้งานในขณะนั้น โดยสามารถปรับได้ถึง 1 Hz ไปจนถึง 120Hz ทั้งนี้ช่วงการสัมผัสในขณะเล่นเกมก็มีความลื่นขึ้น เพราะมีอัตราความเร็วในการสัมผัสถึง 360Hz จากเทคโนโลยี Hyper Touch เรียกว่าสายเล่นเกมลื่นถึงใจแน่นอน

การเล่นเกม เร็วไม่ต้องสืบกับ Snapdragon 888
ในการเล่นเกม OnePlus 9 Pro สามารถจัดเต็มได้ทีเดียว ด้วยขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 888 ผสมกับระบบ Pro Gaming Mode ที่ช่วยในการปลดล็อกพลังของ CPU และ GPU จึงทำให้เล่นเกมได้แบบเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น และยังมีการจัดการการแจ้งเตือนต่างๆ เพื่อให้ไม่มาขัดจังหวะในการเล่นเกม ส่วนการระบายความร้อนจะเป็นแบบระบบระบายความร้อนถึง 5 ชั้น โดยมีชื่อว่า OnePlus Cool Play ทำให้ลดความร้อนระหว่างเล่นเกมได้ดีขึ้น

เกม PUBG Mobile ไม่มีปัญหาใดๆ และสามารถปรับกราฟฟิกระดับ Ultra HD พร้อมกับเฟรมเรตระดับ Ultra ได้ ซึ่งจะได้ภาพที่สวยงาม (โดยเฉพาะน้ำ) และความนิ่งระดับดีเยี่ยม แต่หากต้องการเข้าโหมดจริงจังเน้นความลื่น ภาพไม่ต้องสวยมาก ก็แนะนำให้ปรับเป็น HDR HD และดันเฟรมเรตเป็นสูงสุด

เกมต่อมาเป็น LOL Wild Rift เกม MOBA บนสมาร์ทโฟน ถือว่าเป็นอีกเกมที่ไม่มีปัญหา แถมยังดันเฟรมเรตไปได้ถึง 120fps แบบสบายๆ ซึ่งการเล่นจริงก็มีความลื่นเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะกดสกิลกันยับๆ เจอกันแบบ 5-5 ก็ยังไม่มีอาการเฟรมเรตตกให้เห็น และเลี้ยง fps ได้ที่ 118-120 ตลอดเวลา

สุดท้ายเป็นเกมจอมปราบเซียนอย่าง Genshin Impact เพราะเป็นเกมที่ต้องการสเปคค่อนข้างสูง หากต้องการเล่นกราฟฟิกระดับสูง แต่ OnePlus 9 Pro ก็สามารถเล่นได้อยู่ในกราฟฟิกระดับสูง แต่ดูจะตึงๆ เครื่องไปหน่อยหากเล่นเป็นเวลานานๆ ก็ขอแนะนำให้ปรับกราฟฟิกเป็น ต่ำ หรือปานกลางจะดีกว่า และถ้าหากอยากได้ความลื่นก็ปรับเฟรมเรตเป็น 60fps

ชาร์จแบตเตอรี่รวดเร็ว 65W และยังสนับสนุนชาร์จไร้สาย 50W
แบตเตอรี่ของ OnePlus 9 Pro และ OnePlus 9 จะมีขนาด 4,500mAh ซึ่งจากที่ลองใช้งานจริงกับ OnePlus 9 Pro ปรากฏว่า ใช้เล่นเกม PUBG Mobile ปรับกราฟฟิก Ultra HD ความสว่างสูงสุด เชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi 5GHz เป็นเวลา 1 ชั่วโมงก็พบว่า จากแบตเตอรี่ 52% ลดลงมาเหลือ 24%

ส่วนการชาร์จทั้งคู่จะสนับสนุนชาร์จเร็ว 65W หรือ Warp Charge 65T ผ่านสาย ในขณะที่การชาร์จไร้สาย OnePlus 9 จะสนับสนุน 15W และ OnePlus 9 Pro จะสนับสนุน 50W ส่วนการทดสอบชาร์จผ่านสายกับ OnePlus 9 Pro จากแบตเตอรี่ 24% ใช้เวลาชาร์จไป 30 นาที ได้แบตเตอรี่กลับมาถึง 96%

การใช้งานกล้องถ่ายรูป หลังจับมือกับ Hasselblad
จากที่ผ่านมาสมาร์ทโฟนจาก OnePlus จะเน้นสเปคการใช้งานที่รวดเร็วเข้าไว้ แต่เรื่องของกล้องถ่ายรูปยังไม่โดดเด่นเท่าไหร่ แต่การมาของ OnePlus 9 Series ถือว่าจัดหนักที่เดียว เพราะมีการดึงแบรนด์ Hasselblad เข้ามาร่วมพัฒนาเรื่องกล้องถ่ายรูปให้กับซีรี่ย์นี้ แน่นอนว่าการถ่ายรูปต้องไปธรรมดาแน่นอน ซึ่งการจับมือครั้งนี้จะทำให้กล้องถ่ายสีที่แม่นยำ และดูเป็นธรรมชาติ พร้อมกับการปรับแต่งรูปภาพ และระบบสีใหม่ในชื่อระบบว่า Natural Color Calibration with Hasselblad ไม่พอแค่นั้นยังได้ฟิลลิ่งเหมือนใช้กล้องของ Hasselblad แท้ๆ เพราะมีการปรับแต่งปุ่มกดถ่ายวิดีโอให้เป็นสีส้ม รวมไปถึงเสียงปุ่มชัตเตอร์เหมือนกับกล้อง Hasselblad อีกด้วย

Hasselblad คือแบรนด์อะไร ?
สำหรับแบรนด์ Hasselblad คือผู้บุกเบิกกล้องเทคโนโลยีชั้นสูง และเลนส์ดิจิตอลขนาดกลางมากว่า 80 ปี และเป็นแบรนด์ที่ทั่วโลกยอมรับ หากย้อนไปช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ปี 1841 นาย Victor Hasselblad ได้ผลิตกล้องดิจิตอลขนาดกลางเป็นเจ้าแรกของโลก ซึ่งมีคุณภาพไฟล์ที่สูง พร้อมสีที่แม่นยำเป็นธรรมชาติ ซึ่งตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กล้องของ Hasselblad ก็เป็นที่ไว้วางใจของช่างภาพมาโดยตลอด รวมไปถึงวิดีโอที่บันทึกก้าวแแรกของมนุษย์ที่ไปเหยียบดวงจันทร์เป็นคนแรก ก็เป็นกล้องจาก Hasselblad ใช้ในการบันทึกภาพทั้งหมด

โหมดภาพปกติ
กล้องเลนส์หลักของ OnePlus 9 Series จะใช้เซนเซอร์ Sony IMX776 ซึ่งมีขนาดใหญ่ถึง 1/1.56 นิ้ว ทำให้ความมีคุณภาพสูง และสัญญาณรบกวนที่ลดลง ส่วนภาพที่ออกมายังคัดสรรด้วยเทคโนโลยีชั้นนำ ได้แก่ เลนส์ 2x2 บนชิป (OCL), ไฟล์ RAW 12 บิต, ISO แบบคู่และ DOL-HDR ให้ความเร็วในการโฟกัสที่เร็วขึ้น นอกจากนี้ภาพยังดูสวยงามทั้งกลางวัน และกลางคืน

ภาพความละเอียดสูง
ในโหมดนี้จะเป็นการดึงประสิทธิภาพของเลนส์ 48MP ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด โดยภาพที่ออกมาจะมีขนาด 8000x6016 พิกเซล ไม่ว่ามุมไหนของภาพก็จะคมชัด หรือจะนำไปครอปเป็นส่วนๆ ภาพที่ครอปก็ยังชัดเจน

ภาพมุมกว้าง
เลนส์ Ultra-Wide มีความละเอียดสูงถึง 50MP เลยทีเดียว ทำให้ภาพมุมกว่างมีความสวยงามอย่างมาก ที่สำคัญยังเป็นเลนส์ Freeform Lens ทำให้การเบี้ยวของภาพแทบไม่เห็น ถึงจะเบี้ยวก็เบี้ยวแค่ 1% เท่านั้น

โหมดซุปเปอร์มาโคร
ด้วยผลของเลนส์ Freeform Lens ทำให้ถ่ายภาพในระยะใกล้ๆ ด้วยโหมดซุปเปอร์มาโครได้ด้วย ซึ่งจะโฟกัสสิ่งของในระยะใกล้ๆ ได้ถึง 4 เซนติเมตร

โหมดทิวทัศน์กลางคืน
ภาพถ่ายตอนกลางคืนถือว่าสวยงามใช่เล่น เรียกว่าไม่เสียแรงที่ทำการปรับแต่งร่วมพัฒนากับแบรนด์ Hasselblad

ภาพบุคคล
การเบลอพื้นหลังถือว่าทำได้ดี มีการเบลอตัดกับส่วนหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมกับโหมดปรับแต่งหน้าสวย ที่ทำให้ใบหน้าดูโดดเด่นเป็นพิเศษ

การบันทึกวิดีโอ
การบันทึกวิดีโอของ OnePlus 9 Series สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุดถึง 8K ที่ 30fps ส่วนรุ่น OnePlus 9 Pro จะถ่ายวิดีโอแบบ 4K ที่ 120fps นอกจากนี้ยังมีระบบกันสั่นแบบ OIS และ EIS ทำให้การถ่ายวิดีโอดูนิ่ง ภาพออกมาดูสมูทชวนชม