เรียกว่า Huawei Nova 7 SE 5G ถูกส่งมาเอาใจ คนที่ต้องการสัมผัสความเร็วสัญญาณ 5G ในงบสบายกระเป๋าโดยเฉพาะ เนื่องจากมีราคาเปิดตัวเพียง 11,900 บาทเท่านั้น ด้วยสเปคภายในที่ใช้ชิปเซ็ต Kirin 820 5G ทำให้มีความรวดเร็วในการใช้งาน และยังสนับสนุนการใช้งาน 5G ทุกเครือข่ายในประเทศไทยอีกด้วย ในขณะที่กล้องถ่ายรูปก็เป็นอีกสิ่งที่โดดเด่น เพราะให้กล้องหลังมาถึง 4 เลนส์ ความละเอียดสูงสุดที่ 64MP พร้องกล้องหน้าก็มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายเซลฟี่ตอนกลางคืน จากระบบอัลกอริธึม Denoising BM3D ที่พบได้ในกล้อง SLR ทำให้ภาพเซลฟี่ตอนกลางคืนมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จเร็วระดับเรือธงอย่าง Huawei SuperCharge แบบ 40W อีกด้วย
ขนาดตัวเครื่องของ Huawei Nova 7 SE 5G มีขนาด 162.31x75x8.58 มิลลิเมตร และน้ำหนักตัวอยู่ที่ 189 กรัม ซึ่งเป็นขนาดที่กำลังพอดีมือกับการใช้งานสำหรับสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน
หน้าจอแสดงผล LTPS LCD กว้าง 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400x1080 พิกเซล) และมีดีไซน์รอยแหว่งแบบจอเจาะรู
เหนือหน้าจอแสดงผล รอยแหว่งจอเจาะรูจะอยู่มุมบนซ้ายของหน้าจอ ในนั้นมีกล้องหน้า ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และเหนือหน้าจอขึ้นไปอีกจะพบกับลำโพงเสียงสำหรับการสนทนา
ล่างหน้าจอแสดงผล ไม่มีปุ่มการใช้งานใดๆ โดยปุ่มนำทางจะมาในรูปซอฟแวร์บนหน้าจอแสดงผล
ข้างซ้ายตัวเครื่องมีช่องใส่ถาดซิมการ์ด ซึ่งถาดเป็นแบบ Hybrid รองรับการใส่ซิม 2 ช่องแบบ Nano SIM โดยช่องที่ 2 จะรองรับซิมสัญญาณ 5G เพียงช่องเดียว หรือจะยอมเสียสละ 1 ซิมการ์ดเพื่อใส่ SD NM ความตุสุงสุด 256GB
ข้างขวาตัวเครื่อง บนด้านบนเป็นปุ่มเพิ่มเสียง และลดเสียง ส่วนปุ่มเรียบด้านล่างเป็นปุ่มเพาเวอร์ และเป็นที่สแกนลายนิ้วมืออีกด้วย
บริเวณส่วนบนตัวเครื่อง มีรูไมโครโฟนเพียงอย่างเดียว
บริเวณส่วนใต้ตัวเครื่อง ทางซ้ายสุดเป็นช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ถัดมาทางขวาเป็นรูไมโครโฟน ตามมาด้วยพอร์ต USB Type-C และขวาสูดเป็นลำโพงเสียง
ผลิกมาที่ฝาหลัง จะพบกับกล้องหลัง 4 เลนส์อยู่มุมบนซ้าย ทุกเลนส์ถูกจัดเรียงเป็นแนวตั้งบนแท่นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ข้างขวากล้องทั้งหมดจะเป็นไฟแฟลช ส่วนดีไซน์ของฝาหลังจะเป็นแบบผิวกระจก 3 มิติ มีการสะท้อนแสงในมุมมองต่างๆ และล่างสุดเป็นโลโก้ Nova ขนาดใหญ่ (ถ้าเป็นสีชมพูจะเป็นโลโก้ Nova ขนาดเล็ก)
สเปคของ Huawei Nova 7 SE 5G
RAM และพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน
ตัวเลือก RAM และพื้นที่เก็บข้อมูลภายในของ Huawei Nova 7 SE 5G จะมีเพียงตัวเลือกเดียวคือ RAM 8GB + ROM 128GB ซึ่งจากที่ใช้งานจริงๆ มีการดาวน์โหลดแอพฯ ที่ใช้งานในการทดสอบ ก็พบว่ามีการกินพื้นที่ไปกว่า 30GB ทำให้เหลือพื้นที่ใช้งานจริงๆ ประมาณ 98GB ก็ถือว่ายังเหลือเยอะสำหรับการดาวน์โหลดแอพฯ อื่นๆ หรือเก็บรูปและวิดีโอ แต่หากยังไม่พอก็สามารถเพิ่ม SD NM Card ได้สูงสุดอีก 256GB
ระบบปฏิบัติการ
ตั้งแต่เปิดเครื่องมา Huawei Nova 7 SE 5G จะรันบนระบบปฏิบัติการ EMUI 10.1 บนพื้นฐาน Android 10 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดจาก Huawei ทำให้มีฟีเจอร์ รูปร่างหน้าตา และการตั้งค่าที่เป็นแบบใหม่ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม Huawei Nova 7 SE 5G ก็เป็นเหมือนสมาร์ทโฟนของ Huawei รุ่นหลังๆ ที่จะไม่มีการติดตั้ง GMS หรือ Google Mobile Service มาตั้งแต่ต้น และจะใช้ HMS หรือ Huawei Mobile Service แทน
หน้าจอหลัก
ในส่วนหน้าจอหลัก จะมีความเรียบง่ายตามฉบับ EMUI 10.1 โดยรูปแบบของโลโก้แอพฯ จะเป็นสี่เหลี่ยมขอบมน และมีการปรับเปลี่ยนอะนิเมชั่นต่างๆ ให้ดูน่าใช้งานมากยิ่งขึ้น ส่วนสไตล์หน้าจอหลัก จะมีให้ปรับเปลี่ยนได้ 2 แบบคือ มาตรฐาน แอพฯ จะอยู่ในหน้าจอหลักทั้งหมด หรือ ลิ้นชัก ซึ่งแอพฯ ทั้งหมดจะเก็บไปอยู่ในลิ้นชักทั้งหมด สามารถไปปรับแต่งได้ที่ การตั้งค่า > หน้าจอหลัก & วอลเปเปอร์ > สไตล์ของหน้าจอหลัก
การควบคุมทิศทาง
การควบคุมทิศทางของ Huawei Nova 7 SE 5G ตอนแรกเมื่อแกะกล่องออกมา ระบบจะเป็นแบบท่าทางควบคุมทิศทาง แต่หากใครยังติดใช้งานปุ่มนำทาง 3 ปุ่มก็สามารถเข้าไปเปลี่ยนได้เช่นกัน โดยไปที่ การตั้งค่า > ระบบและการอัปเดต > การควบคุมทิศทางระบบ
AppGallery
AppGallery จะเป็นที่สำหรับดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นมาใช้งาน เนื่องจาก Huawei Nova 7 SE 5G ไม่มี Play Store ติดตั้งมาให้ แม้ว่าเบื้องต้น แอพฯ หลักๆ ที่ใช้งานกันประจำอาจจะไม่มีให้ดาวน์โหลดมากนัก แต่ทาง Huawei ก็เริ่มทะยอยนำแอพฯ ต่างๆ ที่คนไทยนิยมใช้มาลง AppGallery บ้างแล้ว โดยมีทั้งแอพฯ ธนาคาร, แอพฯ ท่องเที่ยว, แอพฯ ช็อปปิ้ง, และล่าสุดเป็นแอพฯ ตระกูล Line
*** ยังสามารถดาวน์โหลดไฟล์แบบ .apk มาติดตั้งเอาได้ภายหลัง
โหมดมืด
Huawei Nova 7 SE 5G สามารถปรับแต่งธีมเป็น โหมดมืด ได้ ด้วยการเข้าไปที่ การตั้งค่า > จอแสดงผลและความสว่าง > โหมดมืด ซึ่งระบบจะเปลี่ยนเปลี่ยนธีมให้เป็นสีดำทันที และมีการใช้สีตัวหนังสือที่เป็นสีขาว แต่ไม่สว่างมาก สามารถใช้งานในที่แสงน้อยในสบายตามากยิ่งขึ้น
แท่นหลายหน้าต่าง
แท่นหลายหน้าต่าง จะช่วยให้ผู้ใช้งานบน Huawei Nova 7 SE 5G สามารถใช้งานแบบ Multi Windows หรือการแบ่งหน้าจอได้ง่ายขึ้น โดยวิธีการเริ่มใช้งานแท่นหลายหน้าจอ ก็สามารถเริ่มด้วยการเลื่อนขอบหน้าจอทางซ้ายหรือขวา แล้วค้างเอาไว้ จากนั้นจะมีแท่นหลายหน้าต่างเด้งขึ้นมา เมื่อกดแอพฯ ที่อยู่ในถาด จะเป็นการแบ่งหน้าจอแบบ Pop-up แต่หากเลื่อนแอพฯ ออกมานอกถาดจะเป็นการแบ่งหน้าจอ 2 หน้าหน้าบนล่าง ทั้งนี้ผู้ใช้งานสามารถจัดการได้อีกว่า จะเอาแอพฯ ไหนให้อยู่ในถาด
การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง
ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้
ขุมพลัง Kirin 820 5G
Huawei Nova 7 SE 5G จะถูกขับเคลื่อนด้วยชุมพลัง Kirin 820 5G ซึ่งเป็นชิปเซ็ตระดับกลาง แต่มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ยอดเยี่ยม ทำให้การใช้งานพื้นฐานเป็นไปอย่างราบรื่น แถมยังเป็นชิปเซ็ตแบบ 7 นาโนเมตร ช่วยให้ประหยัดพลังงานอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีโมเดม 5G ภายใน ทำให้การตัวเครื่อง Huawei Nova 7 SE 5G สามารถใช้งานสัญญาณ 5G ได้
ทดสอบการใช้งานสัญญาณ 5G
ใครที่อย่างลองสัมผัสประสบการณ์ 5G แต่มีงบที่จำกัด ก็ขอแนะนำ Huawei Nova 7 SE 5G รุ่นนี้เลย เพราะมีราคาเริ่มต้นเพียง 11,900 บาทเท่านั้น ทีนี่มาดูความเร็วของ 5G กันดีกว่าจะรวดเร็วขนาดไหน (ทดสอบจากสนามบินดอนเมือง ด้วยซิมจาก True) ผลที่ออกมาก็ปรากฏว่าได้ความเร็วไปกว่า 200Mbps และมีค่าเฉลี่ยประมาณ 180Mbps ถือว่ารวดเร็วทัยใจวัย 5G เลยทีเดียว
ทดสอบการเล่นเกม
ด้วยขุมพลัง Kirin 820 5G ที่เป็นชิปเซ็ตระดับกลางๆ ทำให้การเล่นเกมก็อยู่ในระดับกลางๆ ไปด้วย โดยการเล่นเกม PUBG Mobile ต้องปรับกราฟฟิกระดับสมดุล ถึงจะสามารถปรับเฟรมเรตแบบ Ultra ได้ ส่วนอีกเกมอย่าง Marvel Super Hero สามารถปรับได้สุด และดันเฟรมเรตไประดับสูง เมื่อไปเล่นจริงๆ ก็ทำเฟรมเรตอยู่ที่ 60fps แต่จังหวะบวกกันอาจมีเฟรมเรตตกลงนิดหน่อย แต่ไม่ส่งผลกับการเล่น
ระบบความปลอดภัย สแกนนิ้วมือ และสแกนใบหน้า
ระบบรักษาความปลอดภัยในเครื่อง Huawei Nova 7 SE 5G จะมีให้ใช้งาน 2 แบบคือ การสแกนใบหน้า และการสแกนลายนิ้วมือ โดยการสแกนใบหน้าสามารถสแกนได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อต้องสแกนในที่แสงน้อย หน้าจะเพิ่มระดับแสงเพื่อทำให้สแกนได้ ส่วนการปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือ ปุ่มสแกนจะอยู่ที่ปุ่มเพาเวอร์ ซึ่งการใช้งานจริงก็ถือว่ามีความรวดเร็ว และปลดล็อกได้อย่างดีเยี่ยม และสามารถจดจำลายนิ้วมือได้ถึง 5 ลายนิ้วมือ
แบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 40W
สำหรับความอึดของแบตเตอรี่ ก็สามารถใช้งานพื้นฐานตลอดทั้งวันได้สบายๆ เพราะ Huawei Nova SE 7 5G มีแบตเตอรี่มาให้ถึง 4,000mAh แถมยังรองรับระบบชาร์จเร็วระดับเรือธงอย่าง Huawei SuperCharge 40W อีกด้วย ทำให้การชาร์จแบตเตอรี่ผ่านสายมีความรวดเร็วอย่างมาก
การใช้งานกล้องถ่ายรูป
ในการใช้งานกล้องถ่ายรูป ก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของ Huawei Nova 7 SE 5G ด้วยกล้องหลังที่ให้มาถึง 4 เลนส์ ความละเอียด 64+8+2+2 ล้านพิกเซล ใช้ถ่ายรูปทั้งมุมกว้าง มุมใกล้ และสภาพแสงตอนกลางคืนได้อย่างดี ในขณะที่กล้องหน้าก็ให้มาถึง 16 ล้านพิกเซล และสามารถใช้งานเซลฟี่ตอนกลางคืนได้อีกด้วย ทั้งหมดยังมีการทำงานร่วมกับ AI ช่วยในการปรับแต่งภาพ, เบลอพื้นหลัง และปรับแต่งหน้าสวยให้มีความสวยงาม
คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่ง
คุณสมบัติการถ่ายภาพวีดีโอ
ขอขอบคุณ : Huawei Technologies (Thailand) Co., Ltd. โทร 0-2654-3622
ข้อมูลผู้ใช้ร่วมแสดงความเห็นกับ Huawei Nova 7 SE 5G
https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=462261
แคตตาล็อกตัวเครื่อง : https://www.siamphone.com/spec/huawei/nova_7_se.htm
จอ OLED 10-bit
1188 x 2790 พิกเซล
กล้องหน้า 16MP
Qualcomm Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core
Android 13
RAM 8 GB
ROM 256 GB
4,310 mAh
ชาร์จไว 33W
nubia Flip สมาร์ทโฟน หน้าจอ 6.9 นิ้ว Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core ราคา 19,990 บาท