รีวิว Nokia 8.1 สมาร์ทโฟนทุกความสมบูรณ์แบบ ดีไซน์สวย ใช้งานลื่น และไม่มีลอยแพด้วย Android One

รีวิวโทรศัพท์มือถือ Nokia 8.1 - โนเกีย

Nokia 8.1 ความคุ้มค่าขั้นสุดกับสมาร์ทโฟนระดับกลางที่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพระดับสูงและความสวยงามของดีไซน์ที่ดูพรีเมี่ยม ตั้งแต่หน้าจอแสดงผลแบบ PureDisplay พร้อมรอยบากฝังกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ทำงานผ่านขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 710 Octa Core, RAM 4GB ความจุ 64GB แถมด้วยกล้องหลังคู่จาก Carl Zeiss รองรับ AI จดจำฉาก ยังใช้งานได้ไหลลื่น การันตีการอัปเดทด้วยโครงการ Android One จาก Google

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

Nokia 8.1 ใช้ดีไซน์โลหะที่ครอบทับด้วยกระจกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยเพิ่มความทนทานด้วยโลหะรอบข้างตัวเครื่อง จับถือได้ถนัดมือ ในขนาดรอบตัวเครื่องที่ 154.8 x 75.76 x 7.97 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 180 กรัม

ด้านหน้าจอ Nokia 8.1 มาพร้อมกับหน้าจอรอยบากแบบ PureDisplay ทำให้สีสันมีความสด ครบทุกเฉด ในขนาด 6.18 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2246 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 18.7:9 แถมรองรับ HDR10 ให้ได้รับภาพวิดีโอคุณภาพสูงอีกด้วย

เหนือหน้าจอแสดงผลของ Nokia 8.1 มาแบบรอยบากที่มีกล้องหน้าความละเอียด 20MP ลำโพงสำหรับสนทนา และระบบเซ็นเซอร์ต่างๆ จะอยู่ที่ฝั่งขวาสุด

ด้านล่างหน้าจอมีเพียงโลโก้ Nokia เท่านั้น โดยปุ่มนำทางต่างๆ จะอยู่ในหน้าจอ

ฝั่งซ้ายของตัวเครื่องมีเพียงช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM จำนวน 2 ช่องเท่านั้น

ที่ฝั่งขวามีทั้งปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่มล็อคเครื่อง

ด้านบนของตัวเครื่องมีไมโครโฟนตัวที่ 2 และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.

ส่วนด้านล่างของตัวเครื่องมีไมโครโฟนตัวที่ 1, พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวหลัก

และสุดท้ายที่ด้านหลังมีกล้องหลังคู่จาก ZEISS ในแนวตั้ง ซึ่งจะมีความนูนออกมาจากตัวเครื่องเล็กน้อย โดยทางซ้ายมีไฟแฟลชคู่ และถัดลงมาที่ด้านล่างมีระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่

อุปกรณ์ภายในกล่อง

ตัวเครื่อง Nokia 8.1
อะแดปเตอร์
สาย USB Type-C
หูฟังแบบ In-Ear
อุปกรณ์เปิดถาดซิม
ข้อมูลการใช้งานเบื้องต้น

สรุปสเปค Nokia 8.1

ขนาดตัวเครื่อง : 154.8 x 75.76 x 7.97 มิลลิเมตร
น้ำหนัก : 180 กรัม
หน้าจอแสดงผล PureDisplay แบบ IPS-LCD กว้าง 6.18 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2246 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 18.7:9 รองรับ HDR10
หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 710 Octa Core ความเร็ว 2.2 GHz
GPU : Adreno 616
RAM 4 GB
ROM 64 GB รองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอก MicroSD Card สูงสุด 400 GB
ระบบปฎิบัติการ Android 9 Pie และไม่มีการครอบทับ UI ใดๆ
กล้องถ่ายรูปหลังคู่จาก ZEISS แบ่งเป็น
- เลนส์หลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมระบบกันสั่นไหว OIS ไฟแฟลชคู่ Dual Hi-Cri และรองรับ AI จดจำฉากและซีน
- เลนส์ที่ 2 ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
กล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รองรับ AI จดจำฉากและซีน
รองรับการใช้งานซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ซิม (ช่องที่ 2 ให้เลือกระหว่าง MicroSD Card หรือ NanoSIM)
รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11b/g/n/ac, Bluetooth 5.0 และ USB Type-C
แบตเตอรี่ความจุ 3,500 mAh รองรับเทคโนโลยีเพิ่มความเร็วในการชาร์จ 18W

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

ระบบปฏิบัติการ

สำหรับ Nokia 8.1 มาพร้อมกับประบบปฎิบัติการ Android 9 Pie โดยไม่มีการครอบทับ UI ใดๆ แถมยังอยู่ในโครงการ Android One จาก Google ที่รองรับการอัปเกรดเวอร์ชันถึง 2 ปี พร้อมได้รับการันตีอัปเดทความปลอดภัยประจำเดือนติดต่อกันถึง 3 ปี

หน้าตา UI

หน่วยความจำคงเหลือ

หลังเปิดเครื่องและทำการอัปเดทแอพพลิเคชั่นต่างๆ ทั้งหมด Nokia 8.1 เหลือพื้นที่ให้ใช้งานจริงประมาณ 50GB จากทั้งหมด 64GB

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง

ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย AnTuTu Benchmark v7.1.7 ได้ 171,057 คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย Geekbench 4 ได้คะแนน Single-Core ที่ 1,818 และคะแนน Multi-Core ที่ 5,898
ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย 3DMark ได้ 1,827 คะแนน
ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้

Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
Orientation Sensor เซ็นเซอร์ปรับมุมมองหน้าจอ (คล้ายตัววัดระดับน้ำ)
Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
Gyroscope Sensor เซนเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน
Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
Magnetic Sensors เซ็นเซอร์ตรวจจับแม่เหล็ก

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

หน่วยประมวลผลระดับกลางแต่ฉลาดขั้นสุด

Nokia 8.1 ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 710 ที่ถือว่าเป็นชิปเซ็ตรุ่นท็อปสุดในตระกูลระดับกลาง แถมยังใช้งานได้แทบไม่ต่างจากรุ่นท็อป ตั้งแต่เรื่องประหยัดพลังงาน การเล่นเกมไหลลื่น แถมมี AI ช่วยในการประมวลผลการทำงานโดยรวมอีกด้วย

ทดสอบการเล่นเกม

เรามาดูความแรงของขุมพลัง Snapdragon 710 กับการเล่นเกม 2 เกมกันบ้าง ทั้ง ROV และ PUBG Mobile โดยเกมแรกอย่าง ROV ก็เล่นได้อย่างไม่มีปัญหาใดๆ ปรับทุกอย่างได้สุดหมด แถมเล่นโหมด 5 VS 5 ก็จัดเฟรมเรทไปเต็มๆ แบบไม่เหวี่ยงอยู่ที่ 60fps

ส่วน PUBG Mobile ก็สามารถปรับได้ในระดับ HD เฟรมเรทสูง โดยสามารถเล่นได้ลื่น แต่อาจมีเฟรมเรทตกบ้าง เลยต้องปรับระดับเฟรมเรทให้อยู่ที่ระดับกลางจะทำให้เล่นได้ลื่นขึ้น

แบตเตอรี่อึดพร้อม Fast Charge

นอกจากใช้งานได้ลื่นๆ แล้ว ยังให้แบตเตอรี่มาที่ 3,500 mAh โดยมีฟีเจอร์ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie อย่าง Adaptive Battery (แบตเตอรี่แบบปรับอัตโนมัติ) ที่จะช่วยลดการทำงานที่ทำให้แบตฯ หมดเร็ว และการทำงานเบื้องหลังด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ หากใช้งานไปแล้วแบตฯ ใกล้จะหมด Nokia 8.1 ยังรองรับเทคโนโลยี Fast charging 18W ช่วยให้ชาร์จได้เร็วมากขึ้น

โครงการ Android One รับอัปเดททุกเดือน

ถือว่าน่าจะเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคนสำหรับ Android One ที่เป็นโครงการที่ส่งตรงมาจาก Google ให้ได้รับอัปเดทความปลอดภัยประจำเดือนติดต่อกัน 3 ปี แถมยังได้อัปเกรดเป็น Android รุ่นต่อไปถึง 2 รุ่น ทั้ง Android Q และ Android R

ระบบความปลอดภัย

ด้านระบบความปลอดภัยก็ให้มาเกือบครบตั้งแต่การใช้การวาดรูปแบบ, PIN และรหัสผ่าน รวมถึงระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง ที่มีความแม่นยำและสแกนได้รวดเร็วมาก เพียงแค่แตะก็ปลดล็อคทันที อย่างไรก็ตาม ระบบสแกนใบหน้าจะอยู่ในหมวดของ Smart Lock ซึ่งก็ทำงานรวดเร็วเช่นกัน

กล้อง

เรื่องกล้อง Nokia 8.1 ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน เพราะทั้งกล้องหน้าและหลังมาพร้อม AI Scene Detection สามารถจดจำซีนได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมาก โดยตัวของกล้องหน้ามาพร้อมกับความละเอียด 20 ล้านพิกเซล มีฟิลเตอร์และสติ๊กเกอร์ตกแต่งเพิ่มความสนุกในการถ่ายภาพด้วย

ส่วนกล้องหลังมาพร้อมเลนส์คู่จาก Carl Zeiss ในความละเอียด 12+13 ล้านพิกเซล รองรับระบบกันสั่นไหว OIS โดยมีฟีเจอร์ไลฟ์โบเก้สามารถปรับหลังเบลอได้หลายระดับ และเมื่อถ่ายออกมาแล้ว เราจะเข้าไปปรับให้เปลี่ยนไปเบลอหลัง เบลอหน้า หรือเบลอข้างๆ ก็ทำได้ตามใจชอบ

นอกจากนี้ อีกฟีเจอร์ที่แทบจะมีในเฉพาะ Nokia ก็คือ Dual-Sight ที่เป็นการถ่ายภาพ, วิดีโอ หรือ Live Stream ผ่านกล้องหน้าและกล้องหลังได้พร้อมกัน เพิ่มความแปลกใหม่ให้ไม่เหมือนใครอีกด้วย

คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่ง

ความละเอียดภาพถ่ายกล้องหลัง : 4032 x 3024 (12MP-4:3), 3200 x 2400 (8MP-4:3), 2592 x 1944 (5MP-4:3), 4032 x 2268 (9MP-16:9), 3840 x 2160 (8MP-16:9), 4032 x 2016 (8MP-18:9) พิกเซล
ความละเอียดภาพถ่ายจากกล้องหน้า : 5184 x 3880 (20MP-4:3), 4032 x 3024 (12MP-4:3), 5184 x 2916 (15MP-16:9), 4032 x 2268 (9MP-16:9), 5184 x 2592 (13MP-18:9), 4032 x 2016(8MP-18:9), พิกเซล
Google Lens : เปิด, ปิด
การเคลื่อนไหว : เปิด, ปิด
สติ๊กเกอร์ : เปิด, ปิด
ปรับหน้าเนียน : เปิด, ปิด
มุมมอง : กล้องเดี่ยว, กล้องคู่, P-I-P
จับเวลา : ปิด, 3, 10 วินาที
ไฟแฟลช : เปิด, อัตโนมัติ, ปิด
การตรวจสอบฉาก : เปิด, ปิด
สนับสนุน HDR : เปิด, ปิด
การควบคุมชัตเตอร์ : เปิด, ปิด
เสียงชัตเตอร์ : อัตโนมัติ, เปิด, ปิด
แส้นแนว : เปิด, ปิด
ลายน้ำ : เปิด, ปิด
ภาพแบบมิเรอ์จากกล้องด้านหน้า : เปิด, ปิด
แท็กที่ตั้งถูมิศาสตร์ : เปิด, ปิด

คุณสมบัติการถ่ายภาพวีดีโอ

ความละเอียดของภาพวีดีโอจากกล้องหลัง : 3240 x 2160 (UHD 4K), 1920 x 1080 (FHD 1080p), 2160 x 1080 (18:9 FHD), 1280 x 1080 (720p HD) พิกเซล
ความละเอียดของภาพวิดีโอจากกล้องหน้า : 1920 x 1080 (FHD 1080p), 2160 x 1080 (18:9 FHD), 1280 x 1080 (720p HD), 720 x 480 (480p SD) พิกเซล
สติ๊กเกอร์ : เปิด, ปิด
มุมมอง : กล้องเดี่ยว, กล้องคู่, P-I-P
Live : ปิด, Youtube, Facebook
ไฟแฟลช : เปิด, ปิด
เสียงชัตเตอร์ : เปิด, ปิด
แส้นแนว : เปิด, ปิด
แท็กที่ตั้งถูมิศาสตร์ : เปิด, ปิด