แม้ว่า Huawei Mate 20 จะเป็นรุ่นเล็กที่สุดในตระกูล Mate 20 ซีรี่ย์ แต่การใช้งานทั้งหมดยังเหลือล้น ด้วยแรงขับเคลื่อนระดับท็อปอย่าง Kirin 980 ที่มีชิป NPU คู่ ทำให้ระบบจะทำงานร่วมกับ AI อย่างชาญฉลาด เพื่อจัดการประสิทธิภาพในด้านต่างๆ ให้ออกมาสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังคงไว้ลาย ด้วยกล้องหลัง 3 เลนส์ โดยหนึ่งในนั้นเป็นเลนส์ Leica Ultra-Wide Angle ทำให้เก็บได้ทุกรายละเอียดในแบบมุมกว้าง ซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่ 24,990 บาท ส่วนการใช้งานด้านต่างๆ จะเป็นเช่นใด ติดตามได้ในการรีวิว
ตัวเครื่อง Huawei Mate 20 ทำจากอะลูมิเนียมกับกระจก ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ส่วนด้านหลังมีดีไซน์แบบโค้ง ทำให้จับใช้งานได้อย่างถนัดมือ โดยตัวเครื่องมีขนาด 158.2 x 77.2 x 8.3 มิลลิเมตร น้ำหนัก 188 กรัม
หน้าจอแสดงผล IPS-LCD กว้าง 6.53 นิ้ว อัตราส่วน 18.7:9 ความละเอียด FHD+ (2244 x 1080 พิกเซล) ความละเอียดพิกเซล 381PPI มีช่วงสี DCI-P3, แสดงสีได้กว่า 16.7 ล้านสี และมีการครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass
เหนือหน้าจอแสดงผล มีรอยแหว่งเป็นรูปทรงหยดน้ำ ในรอยแหว่งมีกล้องหน้า ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 และเหนือกล้องมีลำโพงสำหรับการสนทนา
ใต้หน้าจอแสดงผล ไม่มีการใช้งานใดๆ โดยปุ่มนำทางทั้ง 3 ปุ่ม จะมาในรูปแบบซอฟแวร์อยู่ในหน้าจอ ทั้งนี้ยังมีการกินพื้นที่ของหน้าจอลงมามากพอสมควร เห็นส่วนตัวเครื่องเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ด้านซ้ายตัวเครื่องมีช่องใส่ถาดซิมการ โดยเป็นถาดแบบ Hybrid รองรับซิมแบบ Nano SIM 2 ช่อง หรือสามารถเสียสละ 1 ช่องเพื่อใส่ NM Card ความจุสูงสุด 256GB
ด้านขวาตัวเครื่อง มีปุ่มเพิ่มเสียงและลดเสียงอยู่ด้านบน ในขณะที่ด้านล่างมีปุ่มเพาเวอร์ ซึ่งมีการเล่นลวดลายให้มีความขรุขระ เพื่อให้รู้ว่าเป็นปุ่มเพาเวอร์ และรอบปุ่มมีการลงสีเป็นสีแดง
ข้างล่างตัวเครื่อง มีพอร์ต USB Type-C อยู่ตรงกลาง และมีรูไมโครโฟนขนาบอยู่ 2 ข้างของพอร์ต ส่วนขวาสุดเป็นช่องลำโพงเสียง
ข้างบนตัวเครื่อง มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิมเตรอยู่ทางซ้าย ถัดมาทางขวาเป็นรูไมโครโฟน ต่อด้วยช่องเทคโนโลยีอินฟราเรต และขวาสุดเป็นรูไมโครโฟน
ผลิกมาที่ด้านหลังตัวเครื่อง มีดีไซน์ด้านหลังโค้งอย่างที่บอกไว้ข้างบน พร้อมกล้องหลังเลนส์ Leica 3 เลนส์ (Wide Angle Lens, Ultra Wide Angle, Telephoto) ความละเอียด 12+16+8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 + f/2.2 + f/2.4 ตามลำดับ กับไฟแฟลชแบบ Dual LED โดยทั้งหมดจะเรียงกันเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม
อุปกรณ์ภายในกล่อง
สเปคทั้งหมดของ Huawei Mate 20
พื้นที่เก็บข้อมูล
ตัวเลือกพื้นที่เก็บข้อมูลของ Huawei Mate 20 จะมีเพียงตัวเลือก 128GB เท่านั้น โดยหลังจากได้เครื่องมา ก็ได้จัดการดาวนโหลดเกม, แอพพลิเคชั่นทดสอบเครื่อง และถ่ายรูปไปบางส่วน พอนำไปร่วมกับเนื้อที่ของระบบ ที่มีแอพฯ จากโรงงานมาด้วย ปรากฏว่ากินเนื้อที่ไป 32.71GB เท่านั้น ซึ่งพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 128GB ถือว่าเหลือๆ สบาย
ระบบปฏิบัติการ EMUI 9.0
Huawei Mate 20 จะมาพร้อมระบบปฏิบัติการพื้นฐาน Android 9.0 Pie ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด (ตอนทำรีวิว) แต่ก็มีการปรับแต่งด้วย EMUI 9.0 โดยเป็นระบบปฏิบัติการของ Huawei โดยเฉพาะ ทำให้มีหน้าตาอินเตอร์เฟส และฟีเจอร์ตั้งค่าต่างๆ ที่แตกต่างออกไป ส่วนฟีเจอร์เด่นๆ จะมีดังต่อไปนี้
หน้าจอหลัก, หน้าจอล็อก, ถาดแอพฯ ด่วน
ในส่วนของหน้าจอหลัก จะมีการออกแบบสไลต์เฉพาะตัวแบบ EMUI แต่ก็สามารถไปปรับแต่งรูปแบบหน้าจอหลักภายหลังได้ ด้วยการเข้าไปที่ การตั้งค่า > หน้าจอหลัก & วอลเปเปอร์ > สไตล์ของหน้าจอหลัก
ในขณะที่หน้าจอล็อกจะมีลูกเล่นเปลี่ยนพื้นหลังทุกครั้งที่ปลุกเครื่องขึ้นมา และถาดแอพฯ ด่วน จะสามารถเปิดใช้งานได้ด้วยการเลื่อนจากหน้าจอข้างบนลงมาข้างล่าง พร้อมดูการแจ้งเตือนจากตรงนี้ได้ด้วย
ฟีเจอร์หลัก Android 9.0 Pie
บนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie จะไม่มีฟีเจอร์การใช้งานเด่นๆ อะไรมากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการเพิ่มความเร็วในการใช้งาน และจัดการแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้นานขึ้น แต่ฟีเจอร์หลักจาก Android Oreo ก็ยังใช้งานได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น แบ่งหน้าจอ, Picture in picture, จุดการแจ้งเตือน และ Google play Instant
ปรับหน้าจอแสดงผล
EMUI 9.0 จะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานปรับแต่ง ความสว่าง, สีของหน้าจอ, ความละเอียดของหน้าจอ, ขนาดข้อความ และการแสดงผล ได้ตามใจชอบ สามารถเข้าไปตั้งค่าได้ที่ การตั้งค่า > การตั้งค่าการแสดงผล
โหมดสบายตา
หากต้องการใช้ Huawei Mate 20 ในตอนกลางคืน EMUI 9.0 ก็มีโหมดปรับแสงให้สบายตาเมื่อใช้งานในตอนกลางคืน โดยระบบจะกรองแสงสีฟ้าออก เพื่อลดความล้าของสายตา สามารถเข้าไปตั้งค่าได้ที่ การตั้งค่า > การตั้งค่าการแสดงผล > สี & สบายตา > โหมดสบายตา
ปิดรอยแหว่ง
รอยแหว่งทรงหยดน้ำของ Huawei Mate 20 ถือว่าเป็นดีไซน์รอยแหว่งแบบใหม่ ที่มีความเล็กมากทีเดียว แต่หากผู้ใช้ยังเกิดไม่ชอบใจกับรอยแหว่งนี้ ก็สามารถเข้าไปปิดได้เช่นกัน โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > การตั้งค่าการแสดงผล > การตั้งค่าการแสดงผลเพิ่มเติม > ขอบดำ
แอปคู่แฝด
เป็นการก็อปปี้แอพพลิเคชั่นขึ้นมาอีกแอพฯ หนึ่ง โดยจะให้ก็อบปี้แอพพลิเคชั่นสังคมออนไลน์ เพื่อการเข้าใช้งาน 2 บัญชีจาก 2 แอพฯ โดยไม่ต้องสลับบัญชีไปๆ มาๆ ในแอพฯ เดียว สามารถเข้าไปตั้งค่าได้ที่ การตั้งค่า > แอป > แอปคู่แฝด
โหมดประหยัดแบตเตอรี่
โหมดประหยัดแบตเตอรี่ จะมีให้เลือก 2 ระดับคือ 1. โหมดประหยัดพลังงาน จะเป็นการประหยัดพลังงานบางส่วน เช่น จำกัดกิจกรรมของแอปพื้นหลัง และปิดการใช้งานซิงค์อีเมล์ 2. โหมดประหยัดพลังงานขั้นสูง จะเป็นการปิดการใช้งานเกือบทั้งหมด โดยจะใช้ได้เพียง โทรเข้าโทรออก, ส่งข้อความ, ดูรายชื่อ และแอพฯ ที่เลือกให้ใช้งานได้อีก 3 แอพฯ ทั้ง 2 โหมดการประหยัดพลังงาน สามารถเข้าไปเริ่มใช้งานได้ที่ การตั้งค่า > แบตเตอรี่
การใช้งานมือเดียว
การใช้งานอินเตอร์เฟสแบบมือเดียว จะเป็นการลดหน้าจอลงมุมล่างซ้าย หรือล่างขวาของหน้าจอ ส่วนวิธีเริ่มใช้งานจะสามารถเริ่มได้ด้วยการ รูดปุ่มนำทางไปทางซ้ายหรือขวา เพิ่อลดขนาดหน้าจอ
การควบคุมทิศทางระบบ
ปกติการควบคุมสิ่งต่างๆ จะใช้ปุ่มนำทางเป็นค่าเริ่มต้น แต่ผู้ใช้ก็สามารถเปลี่ยนการควบคุมเป็นแบบใหม่ได้อีก 2 แบบ
โหมดแบบง่าย
เป็นการปรับเปลี่ยนอินเตอร์เฟสของหน้าจอหลัก ให้มีการใช้งานที่ง่ายขึ้น ซึ่งจะมีความสะอาด ดูเรียบง่าย และมีไอคอนขนาดใหญ่ สามารถเข้าไปเปิดโหมดแบบง่ายได้ที่ การตั้งค่า > ระบบ > โหมดแบบง่าย
ระบบเสียงดังกระหึ่มแบบ Dolby Atmos
ด้านระบบเสียง Huawei Mate 20 ก็มีระบบเสียงแบบ Dolby Atmos ทำให้เสียงเมื่อเสียบหูฟังมีมิติรอบทิศทาง แยกฝั่งซ้ายและขวาได้อย่างดีเยี่ยม
การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง
ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้
ชิปเซ็ต Kirin 980
Huawei Mate 20 จะใช้ชิปเซ็ต Kirin 980 ซึ่งเป็นขุมพลังระดับสูง สถาปัตยกรรมขนาด 7 นาโนเมตร ทำให้มีประสิทธิภาพในการทำงานที่รวดเร็ว พร้อมการประหยัดพลังงานที่ดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Dual NPU เพื่อการทำงานร่วมกับ AI ที่ชาญฉลาดมากยิ่งขึ้น ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งชิปประมวลผลที่ทำงานทุกอย่างได้สมบูรณ์แบบ และราบลื่นทีเดียว
หน้าจอแสดงผล และรอยแหว่งทรงหยดน้ำ
หน้าจอแสดงผลของ Huawei Mate 20 มีความกว้างถึง 6.53 นิ้ว อัตราส่วน 18.7:9 ความละเอียด FHD+ ถือว่ามีความใหญ่ให้มุมมองในการใช้งานที่กว้างขึ้น และยังมีความละเอียดที่คมชัดอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีรอยแหว่งทรงหยดน้ำ ซึ่งเป็นรอยแหว่งที่มีความเล็กที่สุด เพิ่มเนิ้อที่ของหน้าจอให้มากขึ้น
ทดสอบการเล่นเกม
การเล่นเกมทุกเกมเป็นไปได้อย่างราบลื่น จากผลของแรงขับเคลื่อนของ Kirin 980 ที่ทั้งแรงและทรงพลัง ซึ่งในการทดสอบก็ได้ทำการทดสอบจาก 4 เกมยอดฮิต ดังต่อไปนี้
จากการทดสอบเกม PUBG Mobile มีความลื่นตั้งแต่เปิดแอพพลิเคชั่นเกมและช่วงกำลังเข้าเกม ทั้งนี้กราฟฟิกยังสามารถปรับได้ในยระดับสูงสุด ระหว่างยิงและสัมผัสหน้าจอทุกอย่างมีความลื่นทั้งหมด
ในเกม ROV ก็ไม่มีปัญหา ตั้งแต่เปิดแอพพลิเคชั่น ยันเข้าไปในเกม ซึ่งระบบต่างๆ มีความไหลลื่นเอามากๆ ทั้งนี้ยังทำเฟรมเรตสูงสุดได้ที่ 60fps และเมื่อช่วงปะทะกันเฟรมเรตก็ไม่ตกจนเห็นอาการ ถือว่าเล่นได้อย่างสบายๆ
เกมใหม่มาแรง Ragnarok M Eternal Love ก็สามารถเล่นได้แบบไร้ปัญหา ไม่ว่าจะเล่นเองหรือปล่อยบอทเอาไว้ก็หายห่วง แต่ระหว่างทดสอบดูเหมือนจะมีปัญหาที่ระบบสัมผัสอยู่ ไม่สามารถกดไปที่อินเตอร์เฟสได้ตรงตามที่ต้องการ
เกมรถแข่งกราฟฟิกสวยงามอย่าง Asphalt 9 ก็ไม่มีปัญหา สามารถเล่นได้อย่างไหลลื่น พร้อมกับแสดงกราฟฟิกออกมาได้อย่างสวยงาม
แบตเตอรี่ 4,000mAh
Huawei Mate 20 จะมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 4,000mAh ซึ่งทำให้การใช้งานมีความเพียงพอต่อ 1 วัน ทั้งนี้ยังมีระบบ SuperCharge จาก Huawei ทำให้ชาร์จไฟเพียง 30 นาที จะได้แบตเตอรี่ถึง 58%
สแกนใบหน้า
ระบบสแกนใบหน้าของ Huawei Mate 20 มีความรวดเร็วในการจดจำใบหน้าขั้นเริ่มต้น และการสแกนใบหน้าหน้าเพื่อเข้าใช้งานเครื่องมากทีเดียว แต่ยังไม่สามารถสแกนใบหน้าในที่แสงน้อย หรือใส่แว่นและใส่หมวกได้อย่างแม่นยำ เนื่องจากไม่แผงกล้องสแกนในหน้าแบบ 3 มิติ
สแกนลายนิ้วมือ
การสแกนลายนิ้วมือ เป็นอีกหนึ่งระบบรักษาความปลอดภัยของ Huawei Mate 20 ส่วนที่สแกนจะอยู่ด้านหลังตัวเครื่องใต้กล้องถ่ายรูป โดยการสแกนมีความรวดเร็ว และเสถียรมากทีเดียว นอกจากนี้ยังสามารถจดจำลายนิ้วมือได้สูงสุดถึง 5 ลายนิ้วมือ
กล้องถ่ายรูปภาพ
เรื่องของกล้องถ่ายรูป คือจุดเด่นหลักของ Huawei Mate 20 ซีรี่ย์อยู่แล้ว แม้ว่า Huawei Mate 20 จะเป็นรุ่นเล็กที่สุดในการเปิดตัว แต่ก็ยังมีการใช้งานที่ครบถ้วน และยังมาพร้อมกล้องหลัง Leica 3 เลนส์ โดยแบ่งเป็น เลนส์ Wide Angle ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 + เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 + เลนส์ Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 สามารถซูมแบบ Optical ได้ 2 เท่า
ในขณะที่กล้องก็จัดมาเพื่อการถ่ายเซลฟี่แบบชัดๆ ด้วยความละเอียดถึง 24 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 นอกจากนี้การใช้งานกล้องถ่ายรูปทั้งหมดยัง มีการทำงานร่วมกับ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของรูปภาพขึ้นมาอีกระดับ
เลนส์ Ultra Wide Angle
ทาง Huawei ได้หันมาใช้เลนส์ Ultra Wide Angle จากเดิมที่ใช้เลนส์ Mono ใน Huawei P20 Pro เพราะดูเลนส์กว้างจะมีการตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากกว่า เนื่องจาก Ultra Wide Angle จะทำให้เก็บภาพต่างๆ ในมุมที่กว้างได้มากทีเดียว สำหรับการใช้งานจะต้องปรับเป็นการซูมแบบ 0.6 เท่า ถึงจะเป็นการใช้กล้องเลนส์ Ultra Wide Angle
ภาพปกติ ใช้เลนส์กว้าง
ซูม 0.6x เพื่อใช้เลนส์ Ultra Wide Angle
โหมด Macro ถ่ายภาพด้วยระยะห่างเพียง 2.5 เซนติเมตร
ในโหมด Macro จะทำให้การถ่ายภาพระยะใกล้ๆ เพียง 2.5 เซนติเมตร มีความสวยงาม และเผยรายละเอียดออกมาอย่างชัดเจน ซึ่งหลักการทำงานของโหมด Macro จะได้ตัวช่วยอย่าง AI เข้ามาช่วยในฟีเจอร์นี้ และเวลาใช้ Huawei Mate 20 จับภาพสิ่งของในระยะใกล้ๆ โหมดนี้จะทำงานแบบอัตโนมัติ พร้อมกับแสดงโหมดขึ้นมาว่า Super Macro
AI ประมวลภาพ
การถ่ายรูปจะเป็นเรื่องง่ายทันที เพราะ Huawei Mate 20 มีระบบ AI สมองกลในการปรับแต่งภาพให้มีความสวยงามแบบอัตโนมัติ นอกจากนี้ระบบ AI ยังสามารถแยกแยะสถานกาณณ์ต่างๆ ได้มากกว่า 1500 แบบ และจับภาพได้ถึง 25 โหมด
โหมดภาพบุคคล
การถ่ายภาพในโหมดบุคคลบน Huawei Mate 20 ถือว่ามีการเบลอภาพพื้นหลังที่สวยงาม ด้วยการทำงานของกล้องและระบบ AI โดยภาพที่ออกมามีการทำให้ภาพใบหน้าดูโดดเด่น และเบลอภาพพื้นหลังได้อย่างเป็นธรรมชาติ หากภาพใบหน้ายังไม่สวยถูกใจ ก็สามารถปรับใบหน้าสวยในโหมดนี้ได้ทันที
ทั้งนี้ในโหมดภาพบุคคล ยังสามารถเพิ่มลูกเล่นด้วยการปรับไฟในส่วนพื้นหลังที่เบลอ ให้เป็นรูปต่างๆ เช่น วงกลม, หัวใจ, การหมุน และแผ่นดีสก์ หรือจะปรับแสงไฟในรูปแบบต่างๆ ได้อีกด้วยเช่นกันทั้ง บูธถ่ายภาพ, ม่ายบังแสงพับได้, ป็อป, แสงบนเวที
โหมดกลางคืน
การถ่ายภาพตอนกลางคืนจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาทันที ด้วยการกดชัตเตอร์และรอเวลาประมาณ 5 วินาที เนื่องจากมีระบบ AI Image Stabilization ซึ่งทำให้การถ่ายภาพตอนกลางคืนออกมาสมบูรณ์แบบ สวยงาม และภาพมีความสมดุลคมชัด แถมยังไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องในการกดชัตเตอร์อีกด้วย
Hivision
นอกเหนือจากระบบ AI ในการช่วยถ่ายรูปได้อย่างสวยงาม Huawei Mate 20 ยังมีความสามารถของระบบ AI อัจฉริยะในการทำงานร่วมกับกล้องถ่ายรูปอีกอย่างคือ Hivision ซึ่งจะมีลูกเล่นให้ใช้งานถึง 4 อย่างคือ ระบุสิ่งของ, ช้อปปิ้ง, แปลภาษา และ สแกน QR Code สามารถเริ่มใช้งานได้ภายในแอพฯ กล้องถ่ายรูป และไปที่เมนูบนซ้ายสุด
จะช่วยให้ผู้ใช้งานรู้ได้ว่า สิ่งของที่กล้องกำลังจับอยู่คืออะไร และจะให้ข้อมูลรายละเอียดกับสิ่งของสิ่งนั้น รวมไปถึงแสดงลิ้งค์เพื่อให้ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมในเว็บไซต์
คุณสามารถเลือกซื้อสิ่งของที่อยู่ตรงหน้าได้ทันทีผ่านกล้องถ่ายรูป โดยระบบจะพาไปซื้อสิ่งของที่กล้องกำลังจับอยู่ ผ่านทางร้านค้าออนไลน์ชื่อดังทันที
เพียงแค่นำกล้องไปจับภาพที่มีข้อความ ระบบก็จะแปลภาษาในรูปภาพนั้นให้ทันทีแบบอัตโนมัติ โดยตอนนี้ระบบมีการรองรับภาษาถึง 10 ภาษาด้วยกัน (จีน, อังกฤษ, ญี่ปุ่น, เกาหลี, สเปน, ฝรั่งเศส, รัสเซีย, อิตาลี, เยอรมัน, โปรตุเกส)
ตอนนี้สามารถนำกล้องจาก Huawei Mate 20 ไปสแกนรหัส QR Code ได้ทันที โดยไม่ต้องดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นเสริมมาช่วยใช้งาน
คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่ง
คุณสมบัติการถ่ายภาพวีดีโอ
ขอขอบคุณ : Huawei Technologies (Thailand) Co., Ltd. โทร 0-2654-3622
ข้อมูลผู้ใช้ร่วมแสดงความเห็นกับ Huawei Mate 20
https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=458412
แคตตาล็อกตัวเครื่อง : http://www.siamphone.com/spec/huawei/mate_20.htm
จอ OLED 10-bit
1188 x 2790 พิกเซล
กล้องหน้า 16MP
Qualcomm Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core
Android 13
RAM 8 GB
ROM 256 GB
4,310 mAh
ชาร์จไว 33W
nubia Flip สมาร์ทโฟน หน้าจอ 6.9 นิ้ว Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core ราคา 19,990 บาท