Razer Phone 2 เป็นสมาร์ทโฟนตอบโจทย์การเล่นเกมแบบจัดหนัก ด้วยการใส่ขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 845 ความเร็ว 2.8GHz พร้อมด้วยระบบระบายความร้อยด้วยของเหลว Vapor Chamber และยังได้เพิ่มลูกเล่นที่กำลังเป็นที่นิยมของเหล่านักเล่นเกมอย่างการเปลี่ยนแสงไฟ RGB ในส่วนโลโก้ Razer ที่อยู่ด้านหลังตัวเครื่อง ทั้งนี้ฟีเจอร์เด่นจากรุ่นแรกอย่างหน้าจอปรับอัตรารีเฟรชเรตได้สูงสุด 120Hz ก็ยังคงอยู่ตามเดิม จากทั้งหมดมีราคาในประเทศไทยอยู่ที่ 27,990 บาท หาซื้อได้เฉพาะ AIS เท่านั้น ส่วนการใช้งานจริงๆ จะเป็นเช่นใด มาติดตามกันในรีวิวได้เลย
ตัวเครื่อง Razer Phone 2 จะมีรูปทรงและดีไซน์ไม่ต่างจาก Razer Phone รุ่นแรก คือเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม โดยรุ่นที่ได้มารีวิวจะเป็นรุ่น Mirror ซึ่งมีความเป็นกระจกสะท้อนเงาดูพรีเมี่ยม และใช้วัสดุเป็นอะลูมิเนียมในการผลิต โดยตัวเครื่องมีขนาด 158.5 × 78.99 × 8.5 มิลลิเมตร ส่วนรุ่น Satin ที่ด้านหลังเป็นสีดำด้าน ทาง Razer มีการเปิดตัวมาแล้ว แต่ยังไม่มีกำหนดวางขาย
หน้าจอแสดงผล IGZO LCD กว้าง 5.72 นิ้ว อัตราส่วน 16:9 ความละเอียด WQHD (2560x1440 พิกเซล) แสดงผลรีเฟรชเรตได้สูงสุด 120Hz ใช้เทคโนโลยี UltraMotion และมีการครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5 พร้อมกับเทคโนโลยีป้องกันรอยนิ้วมือ ที่สำคัญมาความชัดและสว่างมากขึ้นกว่า Razer Phone รุ่นแรก
เหนือหน้าจอแสดงผล มีลำโพงเสียงด้านหน้า เป็นระบบเสียง Dolby Atmos ด้านซ้ายเป็นกล้องหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 และถัดมาทางขวาเป็นช่องเซนเซอร์
ล่างหน้าจอแสดงผล มีลำโพงอีกตัวทำให้เป็นลำโพงคู่ด้านหน้า และเป็นระบบเสียง Dolby Atmos
ฝั่งซ้ายตัวเครื่อง มีปุ่มสำหรับเพิ่มเสียงและลดเสียง และมีช่องใส่ถาดซิมการ์ดอยู่ด้านบน โดยเป็นถาดแบบ Hybrid รองรับ NanoSIM 2 ซิม และต้องเสียสละ 1 ซิมหากต้องการใส่ MicroSD การ์ด รองรับความจุสูงสุด 2TB ที่สำคัญการออกแบบด้านข้างตัวเครื่องจะไม่ได้สะท้อนเงาเหมือนกระจกด้านหลัง โดยจะเป็นดีไซน์แบบดำด้าน
ฝั่งขวาตัวเครื่อง มีปุ่มเพาเวอร์สำหรับพักหน้าจอหรือเปิดปิดเครื่อง และยังเป็นที่สแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อกเข้าใช้งานอีกด้วย ส่วนการเล่นลวดลายก็เป็นสีดำด้านเช่นกัน
ด้านล่างตัวเครื่อง มีเพียงพอร์ตการเชื่อมเสียบสาย USB แบบ USB Type-C เท่านั้น ในพอร์ตนี้ยังเป็นอะแดปเตอร์ 24-bit DAC Audio เพื่อการฟังเสียงที่มีคุณภาพผ่านหูฟังหรือลำโพง (ไม่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิมเตร แต่มีสายแปลง USB Type-C เป็นช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร)
ในส่วนด้านหลังตัวเครื่อง นอกจากจะมีการดีไซน์แบบกระจกที่สวยงาม ยังมีลูกเล่นที่น่าสนใจตรงโลโก้งู Razer ด้วยการเปลี่ยนสีได้ตามต้องการ จากเทคโนโลยี Razer Chroma ปรับสี RGB ได้กว่า 16.8 ล้านสี พร้อมกับรองรับการชาร์จแบบไร้สายทางด้านหลัง ในขณะที่กล้องหลังเป็นแบบคู่แนวนอน ความละเอียด 12+12 ล้านพิกเซล (เลนส์หลักเป็นเลนส์กว้าง รูรับแสง f/1.75 มีป้องกันสั่นไหวด้วย OIS ส่วนเลนส์เสริมเป็นเลนส์ Telephoto รูรับแสง f/2.6) และมีไฟแฟลชแบบ Dual LED Dual tone อยู่ตรงกลางระหว่างกล้อง
สเปคทั้งหมดของ Razer Phone 2
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการพื้นฐานของ Razer Phone 2 จะมาเป็น Android 8.1 Oreo ตั้งแต่แกะออกจากกล่อง ทำให้ฟีเจอร์หลักๆ บนเวอร์ชั่นนี้จะสามารถใช้งานได้ทั้งหมด ทั้ง แบ่งหน้าจอ, จุดการแจ้งเตือน, Picture in picture, Google Play Instant, Google Assistant และ Google Lens
Nova Lancher
หน้าตา UI ของ Razer Phone 2 จะมีตามแบบ Nova Lancher เพราะมีการติดตั้งมาให้ในเครื่องจากโรงงาน ซึ่งหน้าตาก็ดูเรียบๆ สวยงามโทนสีตั้งต้นจะเป็นสีเขียวสลับดำ ส่วนความพิเศษของ Nova Lancher คือการปรับแต่งลูกเล่นในส่วนการใช้งานในส่วนต่างๆ ให้มีเอกลักษณ์ตามที่ผู้ใช้ชอบ เช่น อนิเมชั่นเวลาเปิดแอพฯ, อนิเมชั่นเวลาเลื่อนแอพฯ ในหน้าโฮม, เปลี่ยนพื้นหลัง, จัดตำแหน่งการวางแอพฯ, ปรับแต่ง Dock หรือปัดหน้าจอขึ้นเพื่อไปยังแอพฯ ที่ผู้ใช้เลือก เป็นต้น
RAM / ความจุภายใน
ด้วยความเป็นสมาร์ทโฟนสำหรับการเล่นเกม จะให้ RAM มาน้อยๆ ก็คงดูไม่จืด ซึ่ง Razer Phone 2 ก็อัดแน่นมาให้เน้นๆ ด้วย RAM ถึง 8GB มั่นใจการใช้งานแบบลื่นๆ ได้ ส่วนความจุภายในหรือ ROM ก็มีมาให้ 64GB ซึ่งรุ่นที่วางขายจะมีรุ่นนี้รุ่นเดียว คือ RAM 8GB / ROM 64GB
โหมดประหยัดแบตเตอรี่
แม้ว่าแบตเตอรี่ของ Razer Phone 2 จะมีมาให้ถึง 4,000mAh แต่โหมดประหยัดพลังงานก็เป็นสิ่งขาดไม่ได้ ซึ่ง Razer Phone 2 ก็มีโหมดนี้มารองรับให้อีกชั้น เมื่อเปิดโหมดประหยัดพลังงาน ตรงปุ่มโฮมและแทบแสดงสถานะต่างๆ ทางด้านบน จะเปลี่ยนเป็นสีแดง นอกจากนี้ยังตั้งค่าได้ด้วย หากแบตเตอรี่เหลืออยู่ที่กี่ % ให้เข้าโหมดประหยัดแบตเตอรี่แบบอัตโนมัติ สามารถเข้าไปตั้งค่าได้ที่ การตั้งค่า > แบตเตอรี่ > โหมดประหยัดแบตเตอรี่
ปรับแสงตอนกลางคืน
Razer Phone 2 ก็เหมือนกับสมาร์ทโฟน Android รุ่นอื่นๆ ที่มีโหมดแสงตอนกลางคืนมาให้ ซึ่งจะเป็นการกรองแสงสีฟ้าออก ทำให้หน้าจอออกเป็นสีส้มๆ และจะสบายตามากยิ่งขึ้นเมื่อใช้งานตอนกลางคืน พร้อมตั้งช่วงเวลาได้ด้วยว่าจะให้เริ่มโหมดปรับแสงตอนกลางคืนเวลาไหนแบบอัตโนมัติ เข้าไปตั้งค่าได้ที่ การตั้งค่า > การแสดงผล > แสงตอนกลางคืน
ปรับอัตรารีเฟรชเรตของหน้าจอ
นี้คือจุดแข็งหลักของ Razer Phone 2 ด้วยหน้าจอที่รองรับอัตรารีเฟรชเรตสูงสุดถึง 120Hz และไม่จำเป็นต้องเล่นเกมเท่านั้นถึงเปิดใช้ได้ ซึ่งปกติหน้าจอจะถูกตั้งค่าให้มีอัตรารีเฟรชเรตที่ 90Hz แต่ก็สามารถเข้าไปปรับเป็น 120Hz ได้ที่ การตั้งค่า > การแสดงผล > อัตราการรีเฟรช โดยจะมีให้เลือก 3 ระดับคือ 60Hz, 90Hz, และ 120Hz (ยิ่งสูงยิ่งสูบแบตเตอรี่มากขึ้น)
การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง
ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้
แอพฯ Cortex และทดสอบการเล่นเกม
การเล่นเกมหนักๆ กินสเปคสูงๆ ไม่ใช่ปัญหาของ Razer Phone 2 เพราะเกิดมาเป็นสมาร์ทโฟนเพื่อการเล่นเกมทั้งมี ด้วยขุมพลัง Snapdragon 845 พร้อม RAM 8GB ทำให้ทำงานหรือเล่นเกมทุกอย่างได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ยังมีแอพฯ Cortex ในการจัดประสิทธิภาพในการเล่นเกม ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าเกมที่เล่น จะให้ใช้ CPU, ความละเอียดหน้าจอ หรือเปิด FPS ในระดับไหน ส่วนการทดสอบเล่นเกมต่างๆ สามารถดูได้ทางด้านล่าง
เกม PUBG Mobile สามารถเข้าไปเล่นได้อย่างไหลลื่น ยังสามารถปรับกราฟฟิกระดับสูงสุด รวมไปถึงปรับความละเอียดหน้าจอเป็นแบบ HD HDR ก็ได้เช่นกัน ซึ่งการเข้าไปเล่นจริงๆ ถือว่ามีความลื่นมาก ผสมกับหน้าจอที่ปรับอัตรารีเฟรชเรตได้ 120Hz ถือว่าตอบโจทย์กับเกมแนว FPS อย่างแท้จริง
สำหรับเกม ROV แทบจะเล่นได้อย่างลื่นสบายเอามากๆ ปรับกราฟฟิกระดับสูงสุดของเกมได้ และยังทำเฟรมเรทได้สูงสุดระดับ 60fps ตลอดเวลา แม้ว่าจะตอนเข้าปะทะอาจจะมีแกว่งๆ แต่ก็ไม่ถึงกับเห็นผล เฟรมเรทก็เกาะอยู่แถวๆ 60fps แบบไร้ปัญหา ภาพในเกมก็สวยงามเอาเรื่อง
เรียกได้ว่าเกมนี้สเปคไม่แน่นจริงเล่นไม่ได้แน่ๆ เพราะตัวเกมกินทรัพยากรค่อนข้างสูง แต่สำหรับ Razer Phone 2 ถือว่าเล่นได้อย่างสบายๆ
เป็นอีกเกมรถแข่งที่เน้นไปด้านกราฟฟิก และถือว่าเป็นเกมรถแข่งที่กินทรัพยากรเป็นระดับต้นๆ แต่ Razer Phone 2 ก็สามารถเล่นได้ไม่มีปัญหา
หน้าจอ UltraMotion 120Hz และรองรับคอนเทน HDR
การปรับหน้าจอให้มีค่ารีเฟรชเรทสูงสุดได้ 120Hz คือจุดเด่นตั้งแต่ Razer Phone รุ่นแรก ซึ่ง Razer Phone 2 ก็ยังมีการนำมาใช้ ทำให้หน้าจอยังคงแสดงผลลื่นตาเอามากๆ ไม่ว่าจะเล่นเกมหรือใช้งานปกติ โดยเป็นผลพวงจากเทคโนโลยี UltraMotion
นอกจากนี้ยังรองรับคอนเทนแบบ HDR ทำให้เสพคอนเทนแบบ HDR10 หรือ Dolby Vision ได้เต็มรูป เมื่อผสมกับความละเอียดระดับ QWHD ยิ่งทำให้ทั้ง สี, ความสว่าง และความคมชัดมีมากยิ่งขึ้น
ระบบระบายความร้อน Vapor Chamber
Razer Phone 2 เป็นสมาร์ทโฟนที่ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมแบบจัดเต็มอยู่ และยังมีระบบระบายความร้อนอย่าง Vapor Chamber ซึ่งเป็นระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว ทำให้ควบคุมอุณหภูมิภายในได้ดี
แต่จากที่ทดสอบกับเกม Ragnarok M Eternal Love ปรับสุดทุกอย่างจากแอพฯ Cortex ปรากฏว่า เล่นไปเพียงแปปเดียว ตัวเครื่องค่อนข้างร้อนอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ผิดคาดไปพอสมควร
ปรับแสง RGB ด้วยการดีไซน์จาก Razer Chroma
ลูกเล่นนี้อาจจะโดนใจเหล่าเกมเมอร์หลายๆ คน ด้วยการปรับแสงไฟแบบ RGB ตรงโลโก้ Razer ด้านหลังตัวเครื่อง โดยแสงไฟ RGB เป็นเทคโนโลยี Razer Chroma เหมือนกับเหล่าอุปกรณ์เกมมิ่งเกียร์ของ Razer
สามารถเข้าไปปรับแต่งสีได้จากแอพฯ Chroma ซึ่งจะมีให้เลือกการแสดงผลของไฟอยู่ 3 แบบ
1. BREATHING = ไฟค่อยๆ หาย ค่อยๆ มา แบบสีเดียว
2. STATIC = แสดงแสงที่เลือกเอาไว้ตลอดเวลา
3. SPECTRUM = แสดงสีวนไฟเรื่อยๆ
ระบบเสียงดีเยี่ยม ลำโพงคู่, Dolby Atmos และ 24-BIT DAC
ในเรื่องของระบบเสียงเรียกว่า Razer Phone 2 จัดเต็มทีเดียว ด้วยลำโพงคู่ด้านหน้า และยังเป็นระบบเสียงแบบ Dolby Atmos ทำให้สนับสนุนเสียงคอนเทนด์แบบ HDR และ 5.1 Surround รอบทิศ หากไม่สะดวกรับฟังจากลำโพง ก็สามารถต่อหูฟังแบบ USB Type- C หรือเสียบหัวแปลง USB Type-C เป็น 3.5 มิลลิเมตร ก็ได้เช่นกัน เพราะด้านในมี 24-BIT DAC ทำให้ได้รับเสียงเต็มรูปแบบเช่นกัน
กันน้ำกันฝุ่น IP67
Razer Phone 2 จะมาพร้อมมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP67 ซึ่งกันน้ำได้ลึกถึง 1 เมตร
สแกนลายนิ้วมือ
ระบบรักษาความปลอดภัยบนเครื่อง Razer Phone 2 คือ ระบบสแกนลายนิ้วมือ ซึ่งที่สแกนจะอยู่ตรงปุ่มเพาเวอร์ แต่หลังจากทดสอบการใช้งาน พบว่ายังสแกนได้ไม่ค่อยแม่นยำ แต่มีการตอบสนองที่เร็ว
กล้องถ่ายรูป
ด้วยการที่ Razer Phone 2 เป็นสมาร์ทโฟนสำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ ทำให้เรื่องของกล้องถ่ายรูปอาจจะไม่ใช่ฟีเจอร์เด่นมากนัก แต่ก็ถือว่ามีการปรับการใช้งานให้ดีขึ้นกว่า Razer Phone รุ่นแรกพอสมควร โดยสเปคจะมีกล้องหลังคู่ ความละเอียด 12+12 ล้านพิกเซล เป็นเลนส์กว้าง รูรับแสง f/1.75 และ Telephoto รูรับแสง f/2.6 สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุด 4K ในขณะที่กล้องหน้า มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 บันทึกวิดีโอได้ 1080p ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ มีดังต่อไปนี้
โหมดสวยงาม ปรับหน้าสวย
ใครว่า Razer Phone 2 ไม่ใส่ใจเรื่องกล้อง เพราะมีการใส่ฟีเจอร์ปรับหน้าสวยมาให้ด้วย แต่จะสามารถใช้ได้จากกล้องหน้าเท่านั้น ซึ่งการปรับจะเป็นการเกลี่ยหน้าเสียมากกว่า และไม่ให้โทนสีที่ดูเวอร์เกินไป ภาพรวมถือว่าพอใช้ได้สำหรับสมาร์ทโฟนเพื่อการเล่นเกม
ถ่ายภาพบุคคล
ในโหมดภายถ่ายบุคคล หรือถ่ายแบบหน้าชัดหลังเบลอ จะสามารถใช้ได้ทั้งจากกล้องหน้าและกล้องหลัง แต่ไม่สามารถใช้ร่วมกับโหมดปรับหน้าสวยได้ การเบลอถือว่ามีการเบลอพื้นหลัง ตัดกับทำใบหน้าให้ออกมาโดดเด่นได้ในระดับดี แต่บางครั้งในส่วนกล้องหลัง กลับไม่เบลอใบหน้าคนเมื่อเปิดใช้โหมดนี้
คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่ง
คุณสมบัติการบันทึกวิดีโอ
ใช้คู่กับซิมจาก AIS เล่นเน็ต 4G เร็วแรงเต็มสปีด
เมื่อซื้อ Razer Phone 2 กับ AIS ด้วยราคา 27,990 บาท จะได้ซิมพร้อมแพ็คเกจ AIS 4G Max Speed ทำให้ใช้งานอินเตอร์เน็ตแบบ 4G ได้แบบไม่จำกัด และยังใช้แบบเต็มความเร็ว นาน 3 เดือน เมื่อขึ้นเดือนที่ 4 หากต้องการใช้งซิมนี้ต่อ จะได้ลดราคาแพ็คเกจถึง 50% ส่วนความเร็วจะเป็นเช่นใด สามารถดูการทดสอบจาก nPerf ได้เลย
ขอขอบคุณ : AIS
ข้อมูลผู้ใช้ ร่วมแสดงความคิดเห็นกับ : Razer Phone 2
https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=458357
แคตตาล็อกตัวเครื่อง : https://www.siamphone.com/spec/razer/phone_2.htm
จอ OLED 10-bit
1188 x 2790 พิกเซล
กล้องหน้า 16MP
Qualcomm Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core
Android 13
RAM 8 GB
ROM 256 GB
4,310 mAh
ชาร์จไว 33W
nubia Flip สมาร์ทโฟน หน้าจอ 6.9 นิ้ว Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core ราคา 19,990 บาท