รีวิว ASUS ROG Phone ขั้นสุดของสมาร์ทโฟนเกมมิ่ง ชิปเซ็ตเร็วทะลุปรอท พร้อมอุปกรณ์เสริมครบครัน

รีวิวโทรศัพท์มือถือ ASUS ROG Phone - เอซุส

ASUS ROG Phone คำนิยามใหม่ของชาวแก๊งแห่งเกมเมอร์ (Republic of Gamers) ที่เข้ามาอยู่ในสมาร์ทโฟนเพื่อสร้างความแตกต่างขั้นสุดตั้งแต่ดีไซน์ไปจนถึงสเปคที่เร็วแรงไม่เหมือนใคร โดยมาพร้อมหน้าจอ AMOLED กว้าง 6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Snapdragon 845 Octa-core ที่ความเร็วสูงสุด 2.96 GHz แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ใช้งานได้เต็มที่ด้วย RAM 8GB, ROM 512GB และแบตเตอรี่ 4,000 mAh พร้อมด้วยอุปกรณ์เสริมมากมายเพื่อปลุกจิตวิญญาณของเกมเมอร์ให้เต็มเปี่ยม

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

ASUS ROG Phone มาพร้อมวัสดุกระจกสุดแข็งแกร่งที่ใหม่ที่สุดในตอนนี้อย่าง Gorilla Glass 6 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ที่ด้านหลังจะมีโลหะบางส่วนเพื่อให้ระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้น โดยขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 158.83 x 76.16 x 8.65 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 200 กรัม

ด้านหน้าจอแสดงผลของ ASUS ROG Phone มาพร้อมหน้าจอ AMOLED กว้าง 6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2160 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 18:9 และอัตราเฟรมเรทหน้าจออยู่ที่ 90Hz

เหนือหน้าจอแสดงผลมีระบบเซ็นเซอร์ต่างๆ และไฟบอกสถานะ LED อยู่ทางฝั่งซ้าย, ลำโพงสำหรับสนทนา และด้านขวาสุดมีกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0

ด้านล่างของหน้าจอแสดงผลมีเพียงลำโพงตัวที่ 1 ส่วนปุ่มนำทางต่างๆ จะอยู่ในหน้าจอ

ทางซ้ายของตัวเครื่องมีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM จำนวน 2 ช่อง ถัดลงมาตรงกลางมีพอร์ต 48 Pin สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมอย่างพัดลมระบายความร้อน หรือจะใช้สาย USB Type-C มาชาร์จในพอร์ตนี้ก็ยังได้ (เสียบพอร์ตที่เป็นสีดำเท่านั้น) และล่างสุดมี AirTrigger

ที่ด้านขวาเหนือสุดมีปุ่ม AirTrigger ถัดลงมามีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง, ปุ่มล็อคหน้าจอ และล่างสุดมีปุ่ม AirTrigger อีกตัวหนึ่ง

ด้านบนของตัวเครื่องมีเพียงไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวน

ขณะที่ด้านล่างมีไมโครโฟนตัวที่ 1 อยู่ทางมุมซ้ายสุด, ช่องชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB Type-C และมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. อยู่ทางมุมขวาสุด

และสุดท้ายทางด้านหลังมาพร้อมกล้องคู่แนวนอนความละเอียด 12+8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED ถัดเยื้องลงมาทางขวาเล็กน้อยมีระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และตรงกลางตัวเครื่องมีสัญลักษณ์ ROG พร้อมไฟ RGB ที่สามารถเปลี่ยนสีได้ตามใจชอบ และทางด้านขวาสุดจะเป็นส่วนของโลหะเป็นช่องสำหรับระบายความร้อน

อุปกรณ์ภายในกล่อง

ตัวเครื่อง ASUS ROG Phone
AeroActive Cooler (พัดลมระบายความร้อน)
อะแดปเตอร์ Fast Charge
สายเชื่อมต่อ USB Type-C
อุปกรณ์เปิดถาดซิม
วิธีการใช้งานเบื้องต้น

สรุปสเปค ASUS ROG Phone

ขนาดตัวเครื่อง : 158.83 x 76.16 x 8.65 มิลลิเมตร
น้ำหนัก : 200 กรัม
หน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED กว้าง 6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2160 x 1080) อัตราส่วน 18:9 รองรับ HDR ครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 6
หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 845 Octa-core ความเร็ว 2.96 GHz
GPU : Adreno 630
RAM 8 GB
ROM 512 GB
ระบบปฎิบัติการ Android 8.1 Oreo ครอบทับด้วย ROG Gaming X mode UI
กล้องถ่ายรูปหลังคู่ความละเอียด 12+8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 พร้อมไฟแฟลช LED รองรับ AI ทั้งหมด 16 หมวดแบบเรียลไทม์ และระบบกันสั่นไหว OIS 4 แกน
กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
รองรับการใช้งานซิมการ์ดแบบ Nano SIM 2 ซิม
รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac 2.4 & 5GHz, Bluetooth 5.0, USB Type-C และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
เครือข่าย
GSM 850/900/1800/1900 MHz
WCDMA 6/19/5/8/4/3/2/1
LTE Bands 1/2/3/4/5/7/8/12/13/17/18/19/20/28/29/32
เทคโนโลยีการรับ/ส่งข้อมูล
2G: EDGE/GPRS
3G: HSDPA 42 Mbps, HSUPA 5.76 Mbps
4G: LTE DL 1024 Mbps, LTE UL 150 Mbps
แบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh เทคโนโลยีเพิ่มความเร็วในการชาร์จ (Quick Charge 4+)

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

ระบบปฏิบัติการ

สำหรับ ASUS ROG Phone มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ที่ครอบทับด้วย ROG Gaming X mode UI เพื่อเพิ่มความเท่ให้สมเป็นเกมเมอร์ตัวจริง ทั้งยังไม่ได้ปรับแต่งอะไรมากมายเพื่อให้ประหยัดการทำงานของส่วนต่างๆ มากที่สุด

หน้าตา UI

RAM/ROM

ตั้งแต่เปิดเครื่องและอัปเดทแอพพลิเคชั่นพื้นฐานทั้งหมดแล้วจะเหลือ RAM ให้ใช้จริงประมาณ 4.1GB จากทั้งหมด 8GB และหน่วยความจำภายใน (ROM) เหลือประมาณ 490GB จากทั้งหมด 512GB

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง

ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย AnTuTu Benchmark v7.1.0 ได้ 290,897 คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย Geekbench 4 ได้คะแนน Single-Core ที่ 2,541 และคะแนน Multi-Core ที่ 8,982
ผลการทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย 3DMark ได้ 4,398 คะแนน
ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้

Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
Orientation Sensor เซ็นเซอร์ปรับมุมมองหน้าจอ
Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
Gyroscope Sensor เซนเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน
Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
Magnetic Sensors เซ็นเซอร์ตรวจจับแม่เหล็ก

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

ดีไซน์

ด้านดีไซน์ถือว่า ASUS ออกแบบให้ ROG Phone ดูมีความโฉบเฉี่ยวเหมือนกับได้จับอุปกรณ์ของเกมเมอร์อย่างแท้จริง ตั้งแต่วัสดุที่เป็นกระจก Gorilla Glass 6 สุดแข็งแกร่ง สีสันที่ดูสะดุดตา พร้อมกับพอร์ตเชื่อมต่อที่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับเกมเมอร์ทั้งหลาย

อีกสิ่งที่ชาวเกมเมอร์จะขาดไปไม่ได้ ก็คือเรื่องแสงสีที่ต้องจัดเต็มเพื่อให้มีความสวยงามขณะเล่น ซึ่ง ASUS ROG Phone ก็มีแสง AURA RGB ติดมาที่หลังตัวเครื่องด้วย ซึ่งเราสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ แถมยังให้เลือกด้วยว่าโหมดปกติจะเป็นสีอะไร และเมื่อเปิดโหมด X จะเป็นสีอะไร แต่เท่านั้นยังไม่พอ เพราะเมื่อมีคนที่ใช้ ASUS ROG Phone เหมือนเรา และทำการเล่นเป็นทีม แสงตัวเครื่องจะปรับเป็นสีเดียวกันตามทีมี่ตัวเองอยู่ให้อีกต่างหาก

ทดสอบการเล่นเกม

เราทำการทดสอบ 3 เกมดังทั้ง ROV, PUBG Mobile และ Asphalt 9 : Legends ซึ่งทั้ง 3 เกมก็เล่นได้อย่างไม่มีปัญหา พร้อมกับการเปิดภาพระดับสูงสุด และเฟรมเรทที่ไม่ค่อยเหวี่ยงอีกด้วย แต่สิ่งที่เป็นห่วงก็คือตัวเครื่องเกิดอาการร้อนอยู่พอสมควรแม้เล่นไปเพียงไม่นาน

ROV

PUBG Mobile

Asphalt 9 : Legends

แต่สิ่งที่เป็นฟีเจอร์เด็ดของ ASUS ROG Phone ที่เน้นการเล่นเกมก็มีมากมาย ดังนี้

AirTrigger : ปุ่มที่อยู่ด้านข้างตัวเครื่องเพื่อใช้เสมือนกับ L1 หรือ R1 ในจอยเกมทั่วไป ซึ่งสามารถใช้งานได้ดี ตอบสนองไว และใช้ได้ดีกับเกมแนว Shooting เช่น Garena Free Fire และ PUBG Mobile ทั้งยังสามารถปรับตำแหน่งการวางของ L1/R1 ได้ทั่วทั้งหน้าจอ

Game Genie (เกมจีนี่) : เป็นแถบช่วยเหลือระหว่างการเข้าเล่นเกมที่มีฟังก์ชันมากมาย ทั้งการล็อคปุ่มนำทาง ปิดกั้นการแจ้งเตือน แสดงข้อมูลของการใช้งานจริง เช่น CPU, GPU, แสดง FPS และแบตเตอรี่ เป็นต้น และการเร่งความเร็วเพื่อให้เคลียแคชหรือปิดแอพฯ ที่กำลังใช้งานเบื้องหลังอยู่

ศูนย์เกม : เป็นการแสดงผลข้อมูลการใช้งานในส่วนต่างๆ ของสมาร์ทโฟน ได้แก่ อุณหภูมิ, การใช้ CPU/GPU ณ ตอนนั้น, หน่วยความจำ RAM และพื้นที่การใช้งาน (ROM) คงเหลือเท่าไหร่บ้าง

นอกจากนี้ เรายังสามารถปรับโปรไฟล์ของเกมต่างๆ ก่อนเข้าเล่นได้ด้วย เช่น โปรไฟล์เกม PUBG Mobile เราตั้งค่าได้ว่าเมื่อเข้าเล่น จะให้เปิดโหมด X โดยอัตโนมัติ, ความเร็วของ CPU สูงสุดอยู่ที่เท่าไหร่ หรืออัตรารีเฟรชเรท 60Hz หรือ 90Hz

วิธีการใช้กับ GameVice

1. เชื่อมต่อ GameVice เข้ากับ ASUS ROG Phone
2. เข้าเกมที่รองรับกับอุปกรณ์ เช่น Free Fire หรือ Asphalt 9 : Legends
3. ปัดขวาที่หน้าจอเพื่อเข้าฟีเจอร์ "เกมจีนี่" และเลือก "การจับคู่แป้น"
4. ทำการปรับปุ่มต่างๆ ตามใจชอบ และกดปิด ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

**สำหรับเกมที่ยังไม่รองรับ อาจจะยังปรับได้ แต่ไม่ครบทุกปุ่ม เช่น เกม PUBG Mobile จะปรับได้แค่ปุ่มเดินและปุ่มหมุนกล้องเท่านั้น เป็นต้น

หน้าจอแสดงผลความถี่ 90Hz

หนึ่งในสิ่งที่เกมเมอร์ต้องชอบก็คือความไหลลื่นในการแสดงผลออกมาแน่นอน ซึ่ง ASUS ROG Phone มาพร้อมหน้าจอรีเฟรชเรท 90Hz ช่วยให้การเล่นเกมหรือรับชมวิดีโอเป็นไปได้อย่างเนียนตาเลยทีเดียว ซึ่งจะเห็นอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนหน้าจอปกติ

ชิปเซ็ต Snapdragon 845 ที่เร็วที่สุดในโลก

ปกติแล้ว สมาร์ทโฟนที่ขับเคลื่อนด้วย Snapdragon 845 จะมีความเร็วอยู่ที่ประมาณ 2-7-2.8 GHz ทั้งหมด แต่สำหรับ ASUS ROG Phone จะมีการ Over Clock จากฟีเจอร์ "โหมด X" ที่ให้ความเร็วสูงสุดถึง 2.96 GHz ทำให้การใช้งานดีขึ้น ทั้งความลื่นไหลและการเปิดแอพพลิเคชั่นต่างๆ

มีระบบความความร้อนถึง 3 ชั้น

สำหรับ ASUS ROG Phone มีระบบความร้อน 3 ชั้นด้วยกัน ได้แก่ ชั้นในสุดเป้น 3D Vapor-chamber ท่อไอน้ำเพื่อจับความร้อน ถัดขึ้นมาจะเป็น Copper heat spreader หรือกระจายความร้อนทำจากทองแดง และชั้นนอกสุดจะเป็นแผ่นคาร์บอน (Carbon cooling pad) อย่างไรก็ตาม เมื่อใช้งานจริงก็ยังมีอาการร้อนอยู่

ลำโพงเสียงแบบสเตอริโอคู่หน้า

แน่นอนว่าสมาร์ทโฟนเพื่อคอเกมก็มาพร้อมลำโพงคู่หน้าที่แยกซ้าย-ขวาแบบชัดเจน ไม่ว่าจะเล่นเกมหรือดูวิดีโอ ทั้งยังเป็นแบบ dtsX 7.1 Channel และ Qualcomm aptX ที่รองรับทั้งการใช้ลำโพงหลักและหูฟังบลูทูธอีกด้วย

ความจุแบตเตอรี่ 4,000 mAh

ในเมื่อเป็นสมาร์ทโฟนเพื่อเกมมิ่งสมชื่อ ก็ไม่พลาดที่จะใช้แบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh พร้อมกับเทคโนโลยีเพิ่มความเร็วในการชาร์จกำลังไฟ 30W ซึ่งก็ชาร์จได้เร็วและเป็นที่พอน่าใจอย่างมาก อย่างไรก็ตาม แบตฯ 4,000 mAh กลับหมดเร็วกว่าที่คาดไว้

ระบบความปลอดภัย

นอกจากจะเน้นใช้งานด้วยสเปคแบบจัดเต็มแล้ว ASUS ROG Phone ก็ไม่ลืมที่จะนำระบบความปลอดภัยทั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือและสแกนใบหน้าเข้ามาด้วย ซึ่งระบบความปลอดภัยทั้งคู่ก็ทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ แต่ฝั่งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออาจจะใช้ยากสักหน่อยเพราะอาจแตะไม่โดนเต็มนิ้วมือเท่าไหร่

อุปกรณ์เสริมครบครัน

เรื่องของอุปกรณ์เสริมก็ต้องไม่แพ้ฝั่งของ PC โดย ASUS ROG Phone ก็มีมาให้เลือกใช้งานมากมายตามที่จะสรรหามาเลย ได้แก่

AeroActive Cooler : พัดลมระบายความร้อนที่แถมมากับกล่องอุปกรณ์ โดยสามารถติดกับตัวเครื่องด้านหลังเพื่อลดความร้อนได้อีกทาง

Professional Dock : ใช้สำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น คีย์บอร์ดแลหรือเมาส์ ซึ่งจะมีพอร์ตทั้งหมด 5 พอร์ต ได้แก่ พอร์ตชาร์จแบตเตอรี่หรือเชื่อมต่อข้อมูลแบบ USB Type-C, พอร์ต USB Type-A 3.1 จำนวน 2 พอร์ต, HDMI และพอร์ต Ethernet (ใช้งานอินเทอร์เน็ตแบบ LAN ความเร็วสูงสุด 1,000 Mbps)

GameVice : อุปกรณ์สำหรับต่อเข้ากับตัวเครื่องเพื่อควบคุมเหมือนกับจอยเกม มีทั้งปุ่ม L1/L2/R1/R2, ปุ่มอะนาล็อค ปุ่มลูกศร และปุ่ม A B X Y มาให้แบบครบครัน ซึ่งเราสามารถตั้งค่าปุ่มต่างๆ ที่ต่างกันไปในแต่ละเกมอีกด้วย (คล้ายกับ AirTrigger)

WiGig Display Dock : สำหรับการเชื่อมต่อขึ้นหน้าจอทีวีหรือคอมพิวเตอร์แบบไร้สาย ซึ่งจุดเด่นคือจะไม่เกิดอาการดีเลย์ขณะเล่น หน้าจอสมาร์ทโฟนแสดงผลอย่างไร บนหน้าจอทีวีก็จะแสดงผลตามนั้นเลย

TwinView Dock : อุปกรณ์สุดท้ายที่หลายคนต้องชอบแน่นอน ก็คือการเชื่อมต่อเพื่อเล่นเกม 2 จอ แถมมีปุ่ม L1,L2 / R1,R2 ให้อารมณ์เหมือนกับการเล่นเกมบน Nintendo 3DS โดยหน้าจอด้านล่างคือหน้าจอหลัก ส่วนหน้าจอด้านบนคือหน้าจอเสริมที่จะเป็นตัวช่วยในเรื่องของการเล่นเกม เช่น ใน PUBG Mobile หน้าจอล่างจะเป็นหน้าจอของตัวละครตามปกติ ส่วนหน้าจอด้านบน (หน้าจอที่ 2) จะเป็นการเปิดแผนที่ให้เราดูได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องกดเอง เป็นต้น

ฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ

Always-on-Panel : เป็นการแสดงเวลา วันที่ และแบตเตอรี่ได้ ในช่วงที่หน้าจอกำลังล็อคอยู่ ซึ่งเราสามารถปรับแต่งรูปแบบของนาฬิกาได้อีก 2 แบบตามสไลต์ของ ROG

ปรับอัตราการรีเฟรช : สำหรับใครที่กลัวว่าแบตเตอรี่จะหมดเร็วเมื่อมีอัตราการรีเฟรชสูงถึง 90Hz เราก็สามารถปรับกลับมาอยู่ระดับปกติที่ 60Hz ได้ด้วย โดยให้ไปที่การตั้งค่า > การแสดงผล > อัตราการรีเฟรช > เลือก 60Hz

เปลี่ยนปุ่มนำทาง : ปุ่มนำทางแบบเดิมดูจะน่าเบื่อเกินไปแล้ว ซึ่ง ASUS ROG Phone ก็มีรูปแบบใหม่มาให้ใช้งาน โดยเป็นการปัดขึ้นจากฝั่งซ้ายเพื่อดูแอพฯ ล่าสุด, ปัดขึ้นจากตรงกลางเพื่อเข้าหน้าโฮม และปัดขึ้นจากฝั่งขวาเพื่อย้อนกลับ

Twin Apps : เราสามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นโซเชียลมีเดียได้ 2 บัญชีแบบง่ายๆ โดยให้เข้าไปเปิดฟีเจอร์นี้ได้ที่ การตั้งค่า > ขั้นสูง > Twin Apps > เลือกแอพพลิเคชั่นที่ต้องการใช้งาน 2 บัญชีได้ทันที

กล้อง

และเรื่องสุดท้ายที่แม้ ASUS ROG Phone จะเกิดมาเพื่อเล่นเกม แต่กล้องก็จัดเต็มเหมือนกัน โดยมาพร้อมกับกล้องหลังคู่แบ่งเป็นเลนส์หลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 มีระบบกันสั่นไหว OIS + เลนส์มุมกว้าง 120 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล โดยมีฟีเจอร์ที่โดดเด่น ดังนี้

กล้องมุมกว้าง : สำหรับ ASUS ROG Phone มีเลนส์พิเศษแบบมุมกว้าง 120 องศา ช่วยให้เก็บรายละเอียดในภาพได้ครบ จบในช็อตเดียว แถมยังเลือกเปลี่ยนเลนส์ได้ง่าย เพียงแค่เรากดปุ่มที่ขึ้นมาบนหน้าจอได้ทันที ไม่ต้องรอ AI ประมวลผลว่าควรถ่ายภาพมุมกว้างหรือไม่

AI Photography : ASUS ROG Phone มี AI จดจำซีนทั้งหมด 16 หมวดแบบเรียลไทม์ เช่น อาหาร, ท้องฟ้า, ดอกไม้, พระอาทิตย์ตก, สุนัข, แมว, บุคคล, ตัวอักษร และกลางคืน เป็นต้น ซึ่งเพียงแค่เราเปิดกล้อง ระบบก็จะปรับสีให้เหมาะสมกับวัตถุที่กำลังโฟกัสแบบเรียลไทม์
ความละเอียดสูงสุด (Super Resolution) : จากฟีเจอร์ Super Resolution ช่วยให้เราถ่ายภาพได้ความละเอียดสูงสุดถึง 49 ล้านพิกเซล เพิ่มความคมชัดในทุกพิกเซล ทำให้รายละเอียดของภาพและการซูมหลังการถ่ายไม่มีอาการแตก

ส่วนกล้องหน้าก็มาพร้อมความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 โดยเป็นเลนส์มุมกว้าง 84 องศา และฟีเจอร์อีกเพียบ

ภาพบุคคล : เราสามารถเลือกได้เลยว่าเวลาเซลฟี่ เราจะทำการเบลอฉากหลังหรือไม่ ซึ่งเมื่อทำการเบลอฉากหลัง เราก็สามารถปรับได้อีกว่าจะให้อยู่ในระดับไหนที่เหมาะสม
ปรับหน้าสวย : แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงกล้องหน้าก็คงจะไม่พ้นเรื่องโหมดปรับหน้าสวยอย่างแน่นอน โดย ASUS ROG Phone ก็ปรับหน้าสวยได้แบบอัตโนมัติ แถมยังมีให้ปรับส่วนอื่นอีกเพียบ ทั้งโทนสีผิว, ผิวเนียน, ผิวขาว, ตาโต และแก้มบาง ได้อีกอย่างละ 10 ระดับเลยทีเดียว

คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่ง

ความละเอียดของภาพถ่ายจากกล้องหลัง : 4032 x 3024 (12M-4:3), 4032 x 2268 (9M-16:9), 3024 x 3024 (9M-1:1), 4032 x 2016 (8M-18:9), 2880 x 2160 (6M-4:3), 2880 x 1620 (5M-16:9), 2160 x 2160 (5M-1:1), 2880 x 1440 (4M-18:9) พิกเซล
ความละเอียดของภาพถ่ายจากกล้องหน้า : 3264 x 2448 (8M-4:3), 3264 x 1836 (8M-16:9), 2448 x 2448 (6M-1:1), 3264 x 1632 (5M-18:9), 2240 x 1680 (4M-4:3), 2240 x 1260 (3M-16:9), 1680 x 1680 (3M-1:1), 2240 x 1120 (3M-18:9) พิกเซล
เลนส์กล้อง : กล้องหลัก, กล้องถ่ายภาพมุมกว้าง
HDR : อัตโนมัติ, เปิด, ปิด
อัตราส่วนภาพ : 18:9, 16:9, 4:3, 1:1
เอฟเฟ็กต์ชัดลึดชัดตื้น : เปิด, ปิด
จับเวลา : 2, 5, 10 วินาที
ไฟแฟลช : อัตโนมัติ, เปิด, ปิด
ประทับเวลา : เปิด, ปิด
ลายน้ำของ ASUS : เปิด, ปิด
ชัตเตอร์แบบสัมผัส : เปิด, ปิด
โหมดโฟกัส : โฟกัสอัตโนมัติแบบอัจฉริยะ, โฟกัสอัตโนมัติต่อเนื่อง, ระยะอนันต์
เส้นกริด : ปิด, 3x3, เกลียวก้นหอยฟิโบนัชชี (ขวา), เกลียวก้นหอยฟิโบนัชชี (ซ้าย)
เสียงกล้อง : เปิด, ปิด
บริการระบุตำแหน่งที่ตั้ง : เปิด, ปิด
การป้องกันการกระพริบ : อัตโนมัติ, 50Hz, 60Hz
ตั้งค่าปุ่มปรับระดับเสียงเป็น : ชัตเตอร์, การย่อ/ขยาย
อินสแตนต์คาเมร่า : เปิด, ปิด
โหมดการถ่ายภาพ : อัตโนมัติ, แต่งสวย, Pro, ความละเอียดสูง, พาโนรามา

คุณสมบัติการบันทึกวิดีโอ

ความละเอียดของภาพวีดีโอจากกล้องหลัง : 3840 x 2160 (4K), 3840 x 2160 (4K-60fps), 2160 x 1080 (18:9), 1920 x 1080 (FHD), 1920 x 1080 (FHD-60fps), 1280 x 720 (HD), 640 x 480 (TV) พิกเซล
ความละเอียดของภาพวีดีโอจากกล้องหน้า : 2160 x 1080 (18:9), 1920 x 1080 (FHD), 1280 x 720 (HD), 640 x 480 (TV) พิกเซล
แฟลช : เปิด, ปิด
การป้องกันภาพวิดีโอสั่นไหว : เปิด, ปิด