เมื่อ มือถือตกน้ำ ต้องทำอย่างไร?

มีวิธีมากมายที่ช่วยปกป้องมือถือของคุณให้รอดพ้นจากน้ำและความชื้น ไม่ว่าจะเลือกใช้งานสมาร์ทโฟนรุ่นที่มีคุณสมบัติกันน้ำ ใช้เคสหรือซองกันน้ำ ใช้อุปกรณ์เสริมหรือเทคโนโลยีกันน้ำต่างๆ เข้ามาช่วย แต่ถ้าอุปกรณ์ของคุณไม่มีวิธีการปกป้องใดๆ และมีเหตุไม่คาดฝันขึ้น เช่น ทำสมาร์ทโฟนตกในแอ่งน้ำ เปียกฝนอย่างหนักจนน้ำเข้าเครื่อง หรือเกิดเหตุการณ์อื่นๆ ที่เสี่ยงต่อภาวะน้ำเข้าเครื่องและอาจทำให้เครื่องเสียหาย มาดูวิธีการปฏิบัติเบื้องต้นที่ถูกต้องกันว่าควรปฏิบัติอย่างไรเมื่อ "มือถือตกน้ำ"

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  หลุดภาพแรก vivo X200S พร้อมภาพต้นแบบ vivo X200 Ultra ดีไซน์กล้องสุดล้ำ!
• 
  Sonos Arc Ultra ซาวด์บาร์รุ่นใหม่ พร้อมเทคโนโลยี Sound Motion พลิกโฉมวงการเสียง

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่

- หยิบมือถือขึ้นมาจากน้ำให้ไวที่สุด แล้วจำไว้ว่า "อย่ากดปุ่ม ใดๆ ทั้งสิ้น ยิ่งกด น้ำยิ่งซึมเข้าไปในตัวเครื่อง"

- เปิดฝาหลัง "ถอดแบตเตอร์รี่ ซิม การ์ดหน่วยความจำ" ออกมาเช็ดให้แห้ง รวมทั้งเช็ดเครื่องให้แห้งโดยใช้ผ้าแห้ง เพื่อป้องกันไฟลัดวงจรเบื้องต้น

ที่สำคัญคือ ห้าม!!!

• ห้ามใช้ไดร์เป่าผมเป่าให้เครื่องแห้ง เพราะความร้อนจากไดร์เป่าผมอาจทำให้อุปกรณ์บางชิ้นเสียหาย และอาจจะทำให้ไอน้ำที่อยู่ภายในเครื่องกระจายไปอยู่ในมุมอื่นที่ยากต่อการเช็ด
• ห้ามนำมือถือไปแช่แข็งในช่องฟรีซตู้เย็น เพราะเมื่อน้ำกลายเป็นน้ำแข็ง เมื่อนำออกมาจากตู้เย็นก็ละลายเป็นน้ำอยู่ดี ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น!!
• ห้ามใช้สำลีปั่นหูหรือทิชชู่ซับน้ำ เพราะเศษสำลีหรือทิชชู่อาจจะหลุดออกมาติดอยู่ในเครื่องโดยไม่ได้ตั้งใจ
• ห้ามนำมือถือไปอบแห้งในเตาอบ ไม่เช่นนั้นมือถือคงได้ระเบิดกระจายอย่างที่เป็นข่าวให้เห็นกัน
• ห้ามเขย่าเครื่องเด็ดขาด เพราะน้ำอาจจะกระจายไปทั่วเครื่อง

สมาร์ทโฟนบางรุ่นสามารถเช็คแถบเซ็นเซอร์มาตรวัดระดับความชื้นบนเครื่อง (ถ้ามี) หากแถบหรือจุดสีขาวเปลี่ยนเป็นสีแดง ก็เป็นอันแน่นอนแล้วว่าเครื่องของคุณหมดเงื่อนไขของประกันทันที ทีนี้ก็ต้องมาพึ่งตัวเองในขั้นตอนต่อไป

- ถ้าทำมือถือตกใส่สารละลาย จะต้องใช้ความอดทนในการเช็ดทำความสะอาดเครื่องเป็นอย่างมาก แม้ว่าคุณจะทำให้ความชื้นในเครื่องหายไปได้ แต่เกร็ดเกลือ, เกล็ดน้ำตาล หรือคราบอื่นๆ อาจจะตกค้างภายในเครื่อง จึงต้องค่อยๆ ซับสารละลายนั้นออกก่อนเท่าที่ทำได้และระมัดระวังอย่าให้สารละลายกระจายไปจุดอื่นเพิ่มอีก

- วางเครื่องไว้บริเวณที่มีอากาศอบอุ่น แห้งและอากาศถ่ายเทสะดวกอย่างน้อย 1 ชั่วโมง (ห้ามนำไปตากแดดเพราะความร้อนจากแสงแดดมีอุณหภูมิสูงเกินไปอาจทำให้อุปกรณ์หรือวงจรภายในเสียหาย)

- ถ้ายังไม่แน่ใจว่ามือถือแห้งแล้ว ลองแช่มือถือของคุณลงในภาชนะบรรจุข้าวสาร เพราะข้าวสารจะช่วยดูความชื้นออกจากมือถือของคุณได้ แช่กันข้ามคืนไปเลยอย่างน้อย 24 ชั่วโมง

หลังจากปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้มือถือตกน้ำเรียบร้อยแล้วก็ลองเปิดเครื่องดูใหม่ แม้จะเปิดเครื่องติดและใช้งานได้ตามปกติแล้วก็ตาม สุดท้ายต้องนำไปเช็คที่ศูนย์ เพื่อให้ช่างตรวจทำความสะอาดอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อความปลอดภัยของตัวผู้ใช้เองด้วย แต่ทางป้องกันที่ดีที่สุดคือใช้มือถือระมัดระวังไม่ทำหล่นน้ำ และหาซองกันน้ำมาใส่เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่มาแบบไม่คาดคิด เพื่อที่มือถือจะได้อยู่กับคุณไปตลอดอายุการใช้งาน