Redmi Note 14 Pro+ 5G สมาร์ทโฟนตัวจบในซีรี่ย์ Note 14 พกความโดดเด่นมาอย่างน่าสนใจ จุดเด่นที่เน้นออกมาขายคือ กล้องหลัง AI จำนวน 3 ตัว ที่มีความละเอียดสูงถึง 200MP ไม่พอแค่นั้นยังเน้นไปทางความแข็งแกร่งรอบตัว ทั้งการกันน้ำกันฝุ่น IP68 หน้าจอมีการปกป้องด้วยกระจก Gorilla Glass Victus 2 และมีโครงสร้างการผลิตทนทานระดับ 5 ดาว ส่วนสเปคก็จัดหนักด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 7s Gen 3 ได้หน้าจอ AMOLED ความละเอียด 2K อัตรา Refresh Rate สูงสุด 120Hz เรียกมาแบบเน้นๆ เอาใจสายคุ้มกันเต็มๆ
ดีไซน์ตัวเครื่องของ Redmi Note 14 Pro+ 5G จะเป็นดีไซน์แบบโค้งๆ ทั้งหน้าจอ และฝาหลัง โดยมีขนาด และน้ำหนักแบ่งเป็น 2 ขนาดคือ
และรายละเอียดรอบตัวเครื่องมีดังนี้ หน้าจอแสดงผลเป็นแบบโค้ง พาแนล AMOLED กว้าง 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1.5K (2712x1220 พิกเซล) อัตรา Refresh Rate สูงสุด 120Hz ปรับความสว่างได้สูงสุด 3000nits และมีการครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass Victus 2
กล้องชัดสวยเวอร์แบบความละเอียด 200MP
จุดขายสำหรับของ Redmi Note 14 Pro+ 5G จะอยู่ในส่วนกล้องถ่ายรูป โดยกล้องหลักมีเซนเซอร์ขนาดใหญ่ถึง 1/1.4 นิ้ว รูรับแสง f/1.65 และกันสั่นแบบ OIS ตอบโจทย์การถ่ายภาพนิ่ง และวิดีโอ ไม่พอแค่นั้นยังทำงานร่วมกับอีก 2 กล้องทั้งกล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 8MP และกล้อง Macro ความละเอียด 2MP รองรับใช้งานทั้งมุมกว้าง และภาพระยะใกล้ๆ
เสริมด้วยระบบ E2E AI remosaic ภาพสวยขึ้นแบบง่ายๆ
นอกจากจะมีกล้องที่เน้นๆ จัดสเปคเต็มๆ มาแล้ว ยังมีการทำงานร่วมกับระบบ AI ที่เป็นแบบ E2E AI remosaic ใช้เสริมแต่งภาพให้ดูสวยงามมากขึ้นทั้ง AI Expansion, AI Erase Pro ที่ลบวัตถุที่ไม่ต้องการในภาพได้ และ AI Film ช่วยให้การบันทึกวิดีโอแบบจัดเต็ม
ตัวเครื่องทนทานสูงระดับ 5 ดาว
นอกจากจะถ่ายรูปสวย Redmi Note 14 Pro+ 5G ยังใส่จุดขายเรื่องความแข็งแกร่งมาด้วย โดยได้ความแข็งแกร่งรอบตัวเครื่องระดับ 5 ดาว หน้าจอแสดงผลมีการครอบดับด้วยกระจก Gorilla Glass Victus 2 ถือว่าเป็นกระจกป้องกันแบบเดียวกับสมาร์ทโฟนเรือธง ไม่พอแค่นั้นยังมีระบบ Wet Touch 2.0 ไม่ว่านิ้ว หรือหน้าจอเปียกอยู่ ก็ยังสามารถสัมผัสใช้งานหน้าจอได้ปกติ ส่วนมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นได้ระดับสูงที่ IP68
ชิปเซ็ตแรงด้วย Snapdragon 7s Gen 3
Redmi Note 14 Pro+ 5G ถูกขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 7s Gen 3 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตขนาด 4 นาโนเมตร ความแรงระดับน้องๆ เรือธง สามารถใช้งานทั่วไปได้แบบลื่นๆ หายห่วง และยังใช้เล่นเกมในกราฟฟิกสูงๆ ได้ด้วย ทั้งนี้ยังมีการทำงานร่วมกับ RAM สูงสุด 12GB LPDDR4X และระบบปฏิบัติการใหม่ของ Xiaomi อย่าง HyperOS ทำให้ทุกอย่างใช้งานได้อย่างลงตัว
หน้าจอชัดเต็มๆ ระดับ 1.5K
หน้าจอแสดงผลก็มาระดับเรือธงเช่นเดียวกัน โดยเป็นหน้าจอแบบ CrystalRes AMOLED กว้าง 6.67 นิ้ว ความละเอียดสูงถึง 1.5K (2712x1220 พิกเซล) ปรับอัตรา Refresh Rate ได้สูงสุด 120Hz และปรับความสว่างได้สูงถึง 3000nits ส่วนการแสดงสีก็สดคมชัดแบบ 12-bit ขอบเขตสีกว้างแบบ DCI-P3 มีอัตราส่วนความต่างที่ 5,000,000:1 และรองรับคอนเทนด์ทั้ง Do;by Vision และ HDR10+ ไม่พอแค่นั้นการถนอมสายตาก็มาเต็มได้มาตรฐานจาก TÜV Rheinland ทั้ง ลดแสงสีฟ้า กับหน้าจอกระพริบ 1920Hz PWM Dimming
เรื่องเสียงหายห่วง ลำโพงคู่ Stereo
ความบันเทิงของหน้าจอให้มาเต็มๆ ไปแล้ว ด้านพลังเสียงก็กระหึ่มตอบรับความบันเทิงทุกรูปแบบ ด้วยลำโพงคู่แบบ Stereo รองรับระบบเสียงแบบ Dolby Atmos ด้วยเช่นกัน
ระบบความปลอดภัยไบโอเมทริก
ความปลอดภัยมั่นใจได้ 2 ชั่น เพราะ Redmi Note 14 Pro+ 5G มาพร้อมระบบความปลอดภัยสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ และการสแกนใบหน้า ที่เป็นการสแกนด้วยระบบ AI เพิ่มความแม่นยำได้อย่างดี
ชาร์จเร็วผ่านสาย 120W Xiaomi HyperCharge
เรื่องของแบตเตอรี่ให้มาด้วยขนาดใหญ่ถึง 5,110mAh ใช้งานแบบเบาๆ ได้ทั้งวันแน่นอน แต่ความพิเศษจริงๆ จะอยู่ที่การชาร์จไร้สาย โดนรองรับสูงถึง 120W แถมยังมีอะแดปเตอร์จ่ายไฟ 120W มาให้ทันทีจากในกล่อง
สเปคของ Redmi Note 14 Pro+ 5G
ราคา และการจัดจำหน่าย
ในตอนนี้ Redmi Note 14 Pro+ 5G มีการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยสนนราคาอยู่ที่ 14,990 บาท (12GB+512GB) มีให้เลือก 2 สีคือ Frost Blue, Midnight Black, และ Lavender Purple
จอ OLED 10-bit
1188 x 2790 พิกเซล
กล้องหน้า 16MP
Qualcomm Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core
Android 13
RAM 8 GB
ROM 256 GB
4,310 mAh
ชาร์จไว 33W
nubia Flip สมาร์ทโฟน หน้าจอ 6.9 นิ้ว Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core ราคา 19,990 บาท