GARMIN เปิดใช้งาน GARMIN ECG APP ฟีเจอร์วัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ในไทยอย่างเป็นทางการ

GARMIN เปิดใช้งาน ฟีเจอร์วัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ หรือ ECG ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมปล่อยโปรโมชั่นสุดพิเศษในแคมเปญ “Give a Garmin” ที่รวมโมเดลยอดฮิต อาทิ สมาร์ทวอทช์รุ่น VENU 3 รุ่น FORERUNNER 265 รุ่น FORERUNNER 965  รุ่น LILY 2 Classic มาพร้อมกับส่วนลดสูงสุด 15% มุ่งชวนคนไทยมอบสุขภาพที่ดีเป็นของขวัญปีใหม่ด้วยสมาร์ทวอทช์จาก GARMIN ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม – 31 มกราคม 2025

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  GARMIN INSTINCT 3 จอ AMOLED และจอระบบพลังงานแสงอาทิตย์ เอาท์ดอร์สมาร์ทวอทช์ซีรีย์ใหม่
• 
  GARMIN APPROACH ซีรีย์เปิดตัว 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ เติมเต็ม GARMIN GOLF ECO-SYSTEM

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่

ฟีเจอร์ GARMIN ECG APP นี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และตรวจจับสัญญาณของภาวะหัวใจห้องบนเต้นสั่นพริ้ว (AFib) ได้ทุกที่ทุกเวลา โดยใช้เวลาเพียง 30 วินาทีในการบันทึกและประมวลผล พร้อมแสดงผลลัพธ์ทันทีบนสมาร์ทวอทช์ที่รองรับการใช้งาน ทั้งยังสามารถซิงค์ข้อมูลไปยังแอปพลิเคชั่น Garmin Connect บนสมาร์ทโฟนได้ด้วย

GARMIN สมาร์ทวอทช์ที่รองรับการใช้งาน ECG ในปัจจุบัน ได้แก่ รุ่น VENU 2 Plus รุ่น VENU 3 รุ่น FENIX 7 Pro รุ่น EPIX Pro รุ่น QUATIX 7 Pro และรุ่น TACTIX 7 โดยจะต้องอัพเดทซอร์ฟแวร์เวอร์ชั่นล่าสุด

เมื่อเริ่มต้นใช้งานฟีเจอร์ ECG ผู้ใช้จะต้องวางนิ้วโป้งและนิ้วชี้บนแหวนโลหะรอบหน้าปัดนาฬิกาและอยู่นิ่งเป็นเวลา 30 วินาที เซ็นเซอร์บนสมาร์ทวอทช์จะทำการบันทึกคลื่นไฟฟ้าที่ควบคุมการเต้นของหัวใจ จากนั้นจะทำการวิเคราะห์และจำแนกผลลัพธ์ออกเป็น 4 รูปแบบ ได้แก่

• จังหวะไซนัส หมายถึง การเต้นของหัวใจสม่ำเสมอปกติ เกิดขึ้นเมื่อหัวใจห้องบนและห้องล่างเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน
• ภาวะหัวใจห้องบนเต้นสั่นพริ้ว (AFib) หมายถึง หัวใจเต้นในรูปแบบที่ผิดปกติ หัวใจห้องบนและห้องล่างเต้นผิดจังหวะไม่สอดคล้องกัน ซึ่งอาจก่อให้เกิดการไหลเวียนของเลือดในหัวใจไม่เหมาะสม สามารถนำไปสู่โรคหลอดเลือดสมอง ภาวะหัวใจล้มเหลว และปัญหาอื่นๆ ได้
• อัตราการเต้นของหัวใจสูงหรือต่ำเกินไป หากอัตราการเต้นของหัวใจสูงกว่า 120 ครั้งต่อนาที (bpm) หรือต่ำกว่า 50 bpm ฟีเจอร์ ECG จะไม่สามารถตรวจสอบหา AFib ได้ หากผู้ใช้ได้รับผลลัพธ์นี้ซ้ำๆ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
• ไม่สามารถสรุปผลได้ อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น มีการเคลื่อนไหวมากเกินไป เซ็นเซอร์สัมผัสกับผิวหนังระหว่างการบันทึกไม่ดีพอ เป็นต้น

นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถซิงค์ข้อมูลไปยัง Garmin Connect เพื่อดูประวัติทั้งหมด รวมถึงสร้างเป็นรายงาน และส่งออกข้อมูลเป็นไฟล์ PDF เพื่อแชร์กับผู้ให้บริการด้านสุขภาพได้อีกด้วย

นอกจากฟีเจอร์ใหม่แล้ว GARMIN ยังอยากให้คนไทยได้ลองใช้สมาร์ทวอทช์ที่มีฟีเจอร์ติดตามสุขภาพอย่างครบถ้วน เราจึงทำโปรโมชั่นสุดพิเศษในแคมเปญ “Give a Garmin” ที่รวมโมเดลยอดฮิต อาทิ สมาร์ทวอทช์รุ่น VENU 3 รุ่น FORERUNNER 265 รุ่น FORERUNNER 965  รุ่น LILY 2 Classic มาพร้อมกับส่วนลดสูงสุด 15% ชวนคนไทยมอบสุขภาพที่ดีเป็นของขวัญปีใหม่ด้วยสมาร์ทวอทช์จาก GARMIN ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม – 31 มกราคม 2025 ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาการใช้งานฟีเจอร์ ECG และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://gar.mn/DrxKgJPZJ หรือที่ เฟซบุ๊กแฟนเพจ Garmin Thailand และ อินสตาแกรม Garmin Thailand