JBL Tour PRO 3 ระบบตัดเสียงรบกวนด้วย AI ตัวเคสมีหน้าจอแสดงผลทัชสกรีนได้

JBL Tour PRO 3 หูฟังไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุด ที่เข้าใจผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น มากกว่าการแค่ใช้งาน เพราะตัวเคสมีหน้าจอขนาด 1.57 นิ้ว เป็นแบบทัชสกรีนสามารถใช้นิ้วมือควบคุมได้ โดยมีหน้าจอขนาดกว้างกว่ารุ่นเดิม 30% ซึ่งหน้าจอทำหน้าที่โชว์ข้อมูลต่างๆ เช่น ควบคุมการเล่นเพลง, แสดงข้อมูลการติดต่อสื่อสาร, แสดงเบอร์โทรศัพท์มือถือ, แสดงข้อมูลมีเดียต่างๆ รวมถึงตั้งค่าผ่านหน้าจอของเคสหูฟังได้เลย นอกจากนี้ตัวเคสทำหน้าที่เหมือนเครื่องส่งสัญญาณเสียง ยกตัวอย่าง ถ้ากำลังดูอุปกรณ์ที่ต้องการใช้หูฟังก็แค่เสียบสายเชื่อมต่อระหว่างกันจากนั้นก็จะได้ยินเสียงมีเดียในหูฟังไร้สายเลย

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  สรุปวิธีการลดหย่อนประกันชีวิต พร้อมเงื่อนไขและข้อควรรู้
• 
  OnePlus Ace 5 และ OnePlus Ace 5 Pro สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จาก Ace Series ชิปฯ เร็วแรง เอาใจสายเกมมิ่ง

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่

JBL Tour PRO 3 หูฟังแต่ละข้าง ประกอบไปด้วยไดร์ฟเวอร์คู่ มีเทคนิคการควบคุมเสียงเฉพาะ ตั้งแต่ย่านเสียงสูงต่ำ ทำให้ได้เสียงชัดเจน เสียงเบสหนักแน่น โดยมีขนาดไดร์ฟเวอร์ 11 มม. โดยรองรับการถ่ายทอดเสียง Hi-Res และ LDAC แบบ 24bits มาพร้อมรูไมโครโฟน 6 ตัว กับอัลกอริทึม (JBL Crystal AI algorithm) และระบบตัดเสียงรบกวน True Adaptive Noise Cancellation 2.0 ที่ทำงานร่วมกับระบบตัดเสียงทั่วไป ทำให้การติดต่อสื่อสารคมชัดทุกรายละเอียดมากกว่าเดิม

JBL Tour PRO 3 มีเทคโนโลยีการถ่ายทอดเสียงแบบ JBL Spatial 360 และฟีเจอร์ติดตามศรีษะของผู้สวมใส่ เพื่อถ่ายทอดเสียงได้แม่นยำ สำหรับหูฟังแต่ละข้างมีน้ำหนัก 5.6 กรัม น้ำหนักเคส 71.8 กรัม ด้านแบตเตอรี่เมื่อรวมเคส 850mAh ด้านหูฟังแต่ละข้าง 65mAh ถ้าประมาณการใช้งาน (รวมเคส)

• ใช้งานได้ประมาณ 7 ชั่วโมง เมื่อเปิดโหมดตัดเสียงรบกวน (True Adaptive ANC)
• ใช้งานได้ประมาณ 8 ชั่วโมง เมื่อเปิดโหมดตัดเสียงรบกวน
• ใช้งานได้ประมาณ 11 ชั่วโมง เมื่อปิดโหมดตัดเสียงรบกวน

JBL Tour PRO 3 มีสองเฉดสีให้เลือก ได้แก่ Black และ Latte คาดว่าจะนำเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยเร็วๆ นี้