เจาะลึก ! การผลิตแก้วย่อยสลายได้ลดปัญหาสิ่งแวดล้อมจริงไหม

ในยุคที่ปัญหาสิ่งแวดล้อมทวีความรุนแรง ผู้คนต่างแสวงหาทางออกเพื่อลดการใช้พลาสติกอันเป็นปัญหาร้ายแรงต่อโลก การผลิตแก้วย่อยสลายได้ ถูกนำเสนอเป็นทางเลือกใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่จริงๆ แล้วแก้วเหล่านี้มีประสิทธิภาพในการลดปัญหาสิ่งแวดล้อมได้จริงไหม บทความนี้จะพาไปเจาะลึกเบื้องหลังการผลิตแก้วย่อยสลายได้ โดยวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียและหาคำตอบว่าแก้วเหล่านี้เป็นทางออกที่ยั่งยืนจริงหรือไม่ ?

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  สรุปจุดเด่นและสเปค TCL NXTPAPER 14 หน้าจอ NXTPAPER 3.0 ลำโพง 4 ตัว กล้องหน้าคู่ แบตฯ 10000mAh
• 
  รีวิว HUAWEI nova 13 Pro ยกกำลังเซลฟี่กับกล้องหน้าคู่ 60+60MP มีระบบ AI หล่อสวยได้ทุกช็อต

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่

แก้วที่ย่อยสลายได้คืออะไร ?

การผลิตแก้วย่อยสลายได้เกิดจากวัสดุธรรมชาติ เช่น แป้งข้าวโพด ชานอ้อย หรือเยื่อกระดาษ ผ่านกระบวนการผลิตที่แตกต่างจากแก้วทั่วไป โดยไม่ใช้ซิลิกา วัสดุเหล่านี้เมื่อเสื่อมสภาพจะกลับสู่สภาพธรรมชาติได้เองภายในระยะเวลาหนึ่ง โดยไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม

ประเภทของแก้วที่ย่อยสลายได้

• แก้ว PLA (Polylactic Acid): ผลิตจากแป้งข้าวโพด PLA เป็นพลาสติกชีวภาพที่ย่อยสลายได้ นิยมใช้ทำแก้วน้ำ ถุงพลาสติก และบรรจุภัณฑ์อาหาร
• แก้ว PHA (Polyhydroxyalkanoates): ผลิตจากจุลินทรีย์ PHA เป็นพลาสติกชีวภาพอีกประเภทที่มีคุณสมบัติคล้าย PLA แต่มีความทนทานต่อความร้อนและสารเคมีมากกว่า
• แก้วเซลลูโลส: ผลิตจากเยื่อกระดาษ แก้วเซลลูโลสมีความยืดหยุ่นสูง ทนทานต่อความร้อน แต่ไม่ทนทานต่อน้ำ เหมาะสำหรับบรรจุภัณฑ์อาหารแห้ง

ข้อดีของการผลิตแก้วย่อยสลายได้

• ลดปัญหาขยะพลาสติก: แก้วที่ย่อยสลายได้ ช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกที่สะสมในสิ่งแวดล้อม
• เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: วัสดุที่ใช้ผลิตแก้วมาจากธรรมชาติ เมื่อเสื่อมสภาพจะย่อยสลายกลับสู่สภาพแวดล้อม ไม่เป็นพิษต่อดินและน้ำ
• ปลอดภัยต่อสุขภาพ: แก้วที่ย่อยสลายได้ ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ ปลอดภัยต่อการสัมผัสอาหาร

กระบวนการผลิตแก้วย่อยสลายได้

1. การเตรียมวัตถุดิบ: วัตถุดิบหลัก เช่น แป้งข้าวโพด ชานอ้อย หรือเยื่อกระดาษ จะถูกนำมาบดละเอียดและผสมกับสารเติมแต่งอื่นๆ เช่น สารเพิ่มความแข็งแรง สารหล่อลื่น
   2. การขึ้นรูป: ส่วนผสมจะถูกนำไปขึ้นรูปโดยวิธีต่าง ๆ เช่น การเป่า การอัดขึ้นรูป หรือการรีด
   3. การอบ: ชิ้นงานที่ขึ้นรูปแล้ว จะถูกนำไปอบที่อุณหภูมิสูงเพื่อให้แข็งตัว
   4. การตกแต่ง: ชิ้นงานที่ผ่านการอบแล้ว อาจถูกตกแต่งเพิ่มเติมด้วยสี ลวดลาย หรือสติกเกอร์

ทางเลือกอื่นในการลดปัญหาสิ่งแวดล้อม

• การใช้แก้วน้ำส่วนตัว: พกแก้วน้ำส่วนตัวไปใช้แทนการซื้อน้ำขวด
• การรีไซเคิล: แยกขยะและรีไซเคิลอย่างถูกวิธี
• การลดการใช้: ลดการใช้พลาสติกในชีวิตประจำวัน

การผลิตแก้วย่อยสลายได้ ถือเป็นทางเลือกที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดการใช้พลาสติกและปัญหาขยะ แต่ผู้บริโภคจำเป็นต้องเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน และเลือกใช้แก้วให้เหมาะสมกับสภาวะการใช้งาน ซึ่งหากต้องการลดปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน จำเป็นต้องใช้วิธีอื่นร่วมด้วย