iOS 18 ยกเครื่องระบบ AI ด้วย Apple Intelligence เน้นปรับแต่งได้หลากหลายบน iPhone

ก็ผ่านกันไปแล้วกับงาน WWDC 2024 หรืองานประชุมใหญ่นักพัฒนาประจำปี 2024 ของทาง Apple แน่นอนว่าในงานจะเน้นเปิดตัวระบบปฏิบัติการใหม่ๆ ในแต่ละอุปกรณ์ของ Apple โดย iPhone ก็เตรียมรับประสบการณ์ใหม่ๆ จาก iOS 18 และมารอบนี้ Apple ชัดเจนว่าจะเน้นในเรื่องของระบบ AI หรือระบบอัจฉริยะส่วนบุคคลที่ทาง Apple เรียกว่า Apple Intelligence รวมไปถึงเพิ่มตัวเลือกการปรับแต่งได้เอง เพื่อให้ iPhone มีลูกเล่นมากขึ้น

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  Nothing เปิดตัวอัพเดท OS 3.0 มาพร้อม Photo Gallery
• 
  อัปเดต iOS 18.3.1, macOS 15.3.1 และ watchOS 11.3.1 มาพร้อมฟีเจอร์ที่สาวก Apple ไม่ควรพลาด

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่

Apple Intelligence
Apple เรียกระบบ AI ของพวกเขาว่า Apple Intelligence ซึ่งระบบนี้จะมีการอัปเกรดไปยังอุปกรณ์ต่างๆ ของ Apple ทั้ง iOS 18, iPadOS 18, macOS Sequoia สำหรับ Apple Intelligence จะมีความสามารถในการเข้าใจภาษา และรูปภาพ เพื่อทำสิ่งต่างๆ ระหว่างแอพฯ เช่นสรุปบทความ, ตรวจเช็คคำผิด เป็นต้น ทั้งนี้ยังมีระบบ Private Cloud Compute มาตรฐานใหม่ของความปลอดภัยในการจัดเก็บข้อมูลบน Cloud

ปรับแต่งสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้น
iOS 18 มารอบนี้เพิ่มคุณสมบัติในการปรับแต่งสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้น ทั้งหน้าจอโฮม หน้าจอล็อก และศูนย์ควบคุม โดยหน้าจอหลักสามารถปรับแต่งไอคอนแอพฯ เป็นสีต่างๆ ได้แล้ว หรือจะจัดวางแอป และ Widget ไว้ตรงไหนก็ได้ในหน้าจอหลัก ส่วนศูนย์ควบคุม หรือ Control Center สามารถแต่งเปลี่ยนสีได้ตามใจ และนำส่วนควบคุมของแอปภายนอกมาใส่ได้ เช่นการควบคุมรถ เป็นต้น

Siri คนใหม่โตขึ้นฉลาดขึ้น รวมร่าง ChatGPT
ด้วยหลังของ Apple Intelligence ทำให้ Siri ถูกพัฒนาขึ้นเติบโตเป็นคนใหม่ สามารถพูดคุยอย่างเป็นธรรมชาติ ตอบโต้ได้ดีทั้งเสียง และข้อความ นอกจากนี้ยังรวมร่างกับ ChatGPT เพิ่มความสามารถในการเข้าใจรูปภาพ และเอกสาร แบบไม่ต้องสลับแอปไปมา

แอปรูปภาพ มีมุมมองใหม่ ปรับแต่งได้เอง
แอปรูปภาพ หรือคลังรูปภาพ มีการอัปดีไซน์ใหม่เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากขึ้น ไม่ว่าการจัดวางรูปภาพ ช่วยเลือกรูปตามธีม แยกคอนเทนด์เป็นอัลบั้ม เป็นต้น ส่วนผู้ใช้งานก็สามารถจัดระเบียบคอลเลกชั่น เลือกปัดหมุดได้เอง เพื่อกลับมาดูรูปได้ง่าย

Clean Up ลบวัตถุไม่ต้องการในรูปแบบเนียนๆ
iOS 18 หลังจากนี้จะสามารถลบวัตถุบนรูปภาพได้ โดยมีระบบที่ชื่อว่า Clean Up สามารถลบวัตถุที่ไม่ต้องการในภาพได้แบบง่ายๆ

iMessage ติดต่อกับทุกคนได้
iMessage ถูกเพิ่มลูกเล่นด้วยการเปลี่ยนแปลงใส่รูปแบบตัวอักษรได้ เช่น ตัวหนา, ขีดเส้นใต้, ตัวเอียง หรือขีดฆ่า นอกจากนี้ยังมีระบบข้อความยังรองรับ RCS ส่งข้อความได้หลายประเภท และยังรับส่งข้อความผ่านดาวเทียมได้แล้ว โดยระบบจะเชื่อมต่อกับดาวเทียมที่ใกล้ที่สุด เวลาไม่มีการเชื่อมต่อ Cellular หรือ Wi-Fi ส่วนเรื่องความปลอดภัยก็ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะมีการเข้ารหัส iMessage ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง

แอปเมล์โฉมใหม่
แอปเมล์ถูกปรับหน้าตาให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น โดยมีการจัดระเบียบของเมล์ด้วยการจัดหมวดหมู่ คัดแยกรูปแบบเมล์เป็น ส่วนตัว, Primary, เมล์ยืนยัน, แจ้งเตือนข่าวสาร, โซเชียล, การตลาด, คูปอง Promotion ต่างๆ

Safari ก็ถูกอัปเดตครั้งใหญ่
เว็บเบราว์เซอร์หลักอย่าง Safari ถูกปรับแต่งใหม่ด้วยเช่นกัน โดยโหมด Reader มีการแสดงผลแบบใหม่อ่านง่าย และสรุปเนื้อหาให้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยังสามารถดูตำแหน่ง ฟังแทร็ก จาก Safari ได้ทันที

แอป Password เข้าถึงรหัสผ่านในที่เดียว
แอปรหัสผ่าน หรือแอป Password ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของ Keychain ซึ่งมีความปลอดภัยระดับสูง สำหรับการทำงานหากเอาง่ายๆ ก็เหมือนแอพฯ เก็บรหัสผ่าน รหัส Wi-Fi และรหัสยืนยันต่างๆที่ใช้ในเครื่อง iPhone ทั้งนี้ตัวแอพฯ ยังมีการแจ้งเตือนหากพบจุดอ่อนของรหัส เช่นเดาง่าย หรือใช้ซ้ำๆ หลายที่ รวมไปถึงการเตือนหากรหัสมีการรั่วไหล

เพิ่มความปลอดภัย เพิ่มความเป็นส่วนตัว
iOS 18 จะมีฟีเจอร์จัดการว่าใครสามารถเข้าถึงแอพฯ บนเครื่องเราได้บ้าง หรือมีการแชร์รายชื่อผู้ติดต่อ และ iPhone เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น ต้องเข้ารหัสผ่าน FaceID ถึงจะเปิดแอปที่กำหนดได้ หากไม่ปลดล็อกการแจ้งเตือนก็จะไม่แสดง หรือจะทำการซ่อนแอปก็ได้เช่นกัน

Image Playground
Image Playground ช่วยให้สร้างภาพอะนิเมชั่นได้หลากสไตล์ไม่กี่วินาทีทั้ง Animation, Illustration หรือ Sketch เบื้องต้นอาจจะใช้ได้แค่แอป iMessage และแอปที่สร้างมาโดยเฉพาะ

ด้านบนเป็นเพียงไฮไลท์ส่วนหนึ่งของ iOS 18 เท่านั้น ที่จริงยังมีการอัปเดตต่างๆ อีกหลายส่วนอาทิ Apple Maps, โหมดเกม, Apple Pay, SharePlay ใช้ร่วมกับ Apple Music, แอปโน้ต, แอปบันทึก ส่วน iPhone ที่สามารถอัปเดตเป็น iOS 18 ได้คือ iPhone XR, iPhone XS ขึ้นมาทั้งหมด ทั้งนี้ Apple Intelligence จะมีรุ่น Beta ให้ลองใช้งานเฉพาะบน iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ก่อนเพื่อน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามลิ้งค์ที่อยู่ตรงนี้ https://shorturl.asia/lcBoA