Microsoft เปิดตัว Surface Laptop Studio 2 ใช้ขุมพลังจาก Intel Core i7 Gen 13th รองรับ Intel Evo แรงขึ้นสองเท่า

Microsoft ได้เปิดตัว Surface Laptop Studio 2 ในงาน Special Event เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2023 ที่นิวยอร์ก

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  Casio ครบรอบ 50 ปี เปิดตัวแหวนนาฬิกาดิจิตอลวงแรก วางขายในไทยแล้ว
• 
  ทรู ดีแทค 5G ชวนเป็นเจ้าของ Samsung Galaxy S25 ที่มาพร้อม Galaxy AI ผู้ช่วยส่วนตัวคนใหม่ ก่อนใคร

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่

Surface Laptop Studio 2 ใช้ CPU Intel Core i7-13700H รองรับ Intel Evo แรงขึ้นสองเท่าเมื่อเทียบกับ Surface Laptop Studio รุ่นแรก, RAM สูงสุด 64GB DDR5X, พื้นที่เก็บข้อมูลแบบ SSD สูงสุด 2TB ในส่วนของการ์ดจอจะมีให้เลือกดังนี้ NVIDIA GeForce RTX 4050, NVIDIA GeForce RTX 4060 และ NVIDIA GeForce RTX 2000 Ada พร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home

Surface Laptop Studio 2 ใช้หน้าจอทัชสกรีน PixelSense Flow HDR ขนาด 14.4 นิ้ว สัดส่วน 3:2 รีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz โปรไฟล์สีสลับได้ระหว่างโหมด sRGB และ Vivid รองรับการแสดงผลแบบ HDR Plus และ Dolby Vision IQ

มีทัชแพดแบบสัมผัสที่อัปเกรดมาจากรุ่นแรกซึ่งสามารถให้การตอบสนองแบบสัมผัสในระดับที่ละเอียดยิ่งขึ้น พร้อมปรับจูนความตรงของสีมาให้จากโรงงาน นอกจากนี้ยังรองรับการเขียนด้วยปากกา Surface Slim Pen 2 ด้วย

Surface Laptop Studio 2 ยังคงดีไซน์เหมือนกับรุ่นแรก ไปจนถึงโทนสีแพลตตินัม การเปลี่ยนแปลงภายนอกเพียงอย่างเดียวคือพอร์ต ใช้พอร์ต Thunderbolt 4 USB-C คู่เหมือนกับใน Surface Laptop Studio รุ่นแรก

ทางด้านซ้ายมีพอร์ต USB-A เพิ่มเข้ามาใหม่ข้างพอร์ต Thunderbolt 4 USB-C คู่ และทางด้านขวาของตัวเครื่องจะเป็นช่องอ่าน microSD card, พอร์ต Magnetic Surface Connect และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. 

Surface Laptop Studio 2 สร้างจากอะลูมิเนียมเมื่อเทียบกับแมกนีเซียมอัลลอยด์จากรุ่นแรกซึ่งทำให้หนักกว่าและหนากว่าเล็กน้อย พร้อมความทนทานที่ดีขึ้นด้วย

Surface Laptop Studio 2 ยังรองรับ Windows Studio Effects ช่วยใส่เอฟเฟกต์ background blur กับกล้องเว็บแคม ที่ระดับของตัว OS เลย รองรับการแสดงผลเกม Auto HDR และ Variable Refresh Rate แม้เล่นเกมแบบย่อเป็นหน้าต่าง Microsoft Defender SmartScreen ช่วยป้องกันการกรอกรหัสผ่านลงในแอปฯ หรือเว็บประสงค์ร้ายได้

Surface Laptop Studio 2 มีราคาเริ่มต้นที่ 1,999 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 74,XXX บาท โดยเริ่มต้นที่ Core i7 และตัวท็อปสุดราคา 3,699 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว ๆ 137,XXX บาท โดยจะเริ่มจัดส่งให้กับผู้ซื้อตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2023 เป็นต้นไป

แหล่งที่มา windowscentral