Nokia G310 5G สมาร์ทโฟนรุ่นซ่อมเองได้ ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 480+

มากันอีก 1 รุ่น สำหรับสมาร์ทโฟนซ่อมเองได้จาก HMD Global ภายใต้แบรนด์ Nokia โดยเป็น Nokia G310 5G สมาร์ทโฟน 5G กับความโดดเด่นของสเปคที่น่าสนใจ ด้วยการขับเคลื่อนจาก Qualcomm Snapdragon 480+ ถือว่าเป็นชิปเซ็ต 5G ในระดับเริ่มต้นที่แรงพอสมควร นอกจากนี้ยังมีหน้าจอแสดงผล LCD กว้าง 6.56 นิ้ว ความละเอียด HD+ และอัตรา Refresh Rate สูงสุด 90Hz

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  สรุปจุดเด่นและสเปค TECNO POVA 6 NEO แบตฯ 7000mAh หน้าจอ 120Hz ลำโพง Dolby ATMOS ฟรีลำโพงบูลทูธ!!
• 
  ทำความรู้จัก Infinix HOT 50i หน้าจอ 120Hz เก็บข้อมูลจุใจ 256GB ราคาใหม่ พร้อมสีใหม่สดใส

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่

ด้านกล้องหลัง มีการติดตั้งมา 3 ตัว ประกอบไปด้วย กล้องหลัก ความละเอียด 50MP มีระบบออโต้โฟกัส, กล้อง Depth ความละเอียด 2MP และกล้อง Macro ความละเอียด 2MP ทั้งหมดมีการทำงานร่วมกับ AI Filters และสามาถบนทึกวิดีโอแบบ Nokia OZO Audio เพื่อให้บันทึกเสียงได้ชัดขึ้น ในขณะที่กล้องหน้า มีความละเอียด 8MP

การซ่อมด้วยตนเอง เป็นอีกความโดดเด่นของ Nokia G310 5G โดยมีการจับมือกับ iFixit เพื่อดีไซน์ให้ Nokia G310 5G สามารถซ่อมแซ่มเองได้ง่าย และมาพร้อมชุดซ่อมแซ่ม กับชุดอะไหล่ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ยังมีแบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh สนับสนุนการชาร์จเร็ว 20W และมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิมเมตรมาด้วย

สเปคของ Nokia G310 5G

• หน้าจอแสดงผล : LCD กว้าง 6.56 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1612x720) อัตราส่วน 20:9 อัตรา Refresh Rate สูงสุด 90Hz และกระจกโค้ง 2.5D
• ชิปเซ็ต : Qualcomm Snapdragon 480+
• RAM : 4GB
• ROM : 128GB เพิ่ม MicroSD Card ได้สูงสุด 1TB
• ระบบปฏิบัติการ : Android 13
• กล้องหลัง 3 ตัว ไฟแฟลช LED
  - กล้องหลัก ความละเอียด 50MP
  - กล้อง Depth ความละเอียด 2MP
  - กล้อง Macro ความละเอียด 2MP
• กล้องหน้า ความละเอียด 8MP
• เครือข่าย : 5G / 4G LTE / 3G / 2G
• การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 5, Bluetooth 5.1, ช่องเสียบหูฟัง 3.5mm, พอร์ต USB Type-C (OTG)
• ระบบความปลอดภัยไบโอเมตริก : สแกนใบหน้า, สแกนลายนิ้วมือข้างตัวเครื่อง
• แบตเตอรี่ : 5,000mAh สนับสนุนการชาร์จเร็ว 20W

เบื้องต้น Nokia G310 5G มีการเปิดตัว และวางขายในประเทศสหรัฐอเมริกาก่อน ผ่านทาง T-Mobile และ Metro by T-Mobile โดยมีให้เลือกสีเดียวคือ สีฟ้า สนนราคาอยู่ที่ 186 ดอลลาร์ หรือประมาณ 6,500 บาท ส่วนการวางขายในโซนอื่นๆ ยังต้องนั่งรอลุ้นกันตามระเบียบ