AIS จับมือ ZTE เปิดตัว 5G mmWave SA ย่านความถี่ 26GHz ครั้งแรกในประเทศไทย

ZTE Corporation จับมือ AIS และ Qualcomm Technologies ประสบความสำเร็จในการทดสอบการใช้งาน mmWave เทคโนโลยี SA (5G Standalone Architecture) ที่ศูนย์นวัตกรรม A-Z Center  กรุงเทพฯ โดยความสำเร็จไม่เพียงแต่ส่งผลให้ประเทศไทยกลายเป็นผู้นำด้านการสำรวจคลื่น mmWave ในภูมิภาคอาเซียน อีกทั้ง ยังนับเป็นก้าวสำคัญในการเปิดตัว mmWave สู่แวดวงธุรกิจ ซึ่งมีศักยภาพตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและอุตสาหกรรมที่มีความหลากหลายในประเทศไทย

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  ทรู ดีแทค 5G ชวนเป็นเจ้าของ Samsung Galaxy S25 ที่มาพร้อม Galaxy AI ผู้ช่วยส่วนตัวคนใหม่ ก่อนใคร
• 
  HONOR Magic7 Pro 5G สมาร์ทโฟนเรือธงพลัง AI กล้องโหด สเปคจัดเต็ม เปิดราคาแล้ว

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่

ในระหว่างการทดลองเทคโนโลยี mmWave SA ได้ผลเกินความคาดหมาย ด้วยการดาวน์ลิงก์ความเร็วเหนือระดับ 7.04Gbps และ การอัปลิงก์ความเร็ว 2.12Gbps โดยเป็นผลที่น่าประทับใจอย่างมาก และความหน่วงจากต้นทางถึงปลายทางน้อยกว่า 4 มิลลิวินาที นับเป็นผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม ซึ่งได้จากการใช้ Qualcomm CPE ที่ขับเคลื่อนผ่าน Snapdragon® X65 5G Modem-RF System จาก Qualcomm Technologies ทำงานร่วมกับอุปกรณ์โครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย mmWave AAU ที่ชุดใหม่ล่าสุดของ ZTE ที่มีประสิทธิภาพความเร็วใช้เวลาในการรับส่งข้อมูลน้อยที่สุด ผ่านเทคโนโลยีสุดล้ำแห่งยุค ช่วยตอบสนองและยกระดับให้ผู้ใช้งานได้อย่างฉับพลันทันที สามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหล อาทิ เกมออนไลน์ ที่ให้ความคมชัดความจริงเสมือน และการเชื่อมต่อใช้งานร่วมกันระหว่างอุปกรณ์อัจฉริยะได้อย่างราบรื่น ความสำเร็จจากการทดสอบนี้ เชื่อว่าจะเปิดกว้างให้กับวงการธุรกิจ และผู้บริโภคให้ก้าวสู่โลกแห่งความเป็นไปได้

หากเปรียบเทียบการทำงานระหว่าง mmWave EN-DC, mmWave NR-DC และ mmWave SA ที่ใช้ความกว้างความถี่ด้าน Download 4x200MHz และ ความกว้างความถี่ด้าน Upload 2x200MHz บนคลื่น 26GHz อย่างเดียวแล้ว พบว่า จะช่วยลดความซับซ้อนของระบบการทำงานของเครือข่าย อีกทั้ง ลดความหน่วงในการทำงานได้ดีกว่าการทำงานใน EN-DC หรือ NR-DC 

การนำเสนอประสิทธิภาพการใช้งาน mmWave SA นับว่า มีส่วนช่วยขับเคลื่อนให้วงการธุรกิจ ให้เติบโตเชิงพาณิชย์ได้อย่างรวดเร็ว ผ่านเทคโนโลยี 5G mmWave ในประเทศไทย โดย AIS, Qualcomm และ ZTE มุ่งมั่นที่จะพัฒนาความเร็วและขยายขีดความสามารถของ 5G พร้อมทั้ง ปรับปรุงประสิทธิภาพ ให้ใช้งานเชื่อมต่อและการทำงานในภาพรวมได้อย่างดีบนแอปพลิเคชัน เพื่อเปิดโอกาสใหม่ๆให้กับทั้ง การใช้งานส่วนบุคคล องค์กรธุรกิจ และภาคอุตสาหกรรมต่างๆ