Snapdragon 4 Gen 2 สถาปัตยกรรม 4nm แรงกว่าเดิม 10%

Qualcomm ประกาศเปิดตัวชิปเซ็ตซีรีส์ระดับเริ่มต้นรุ่นใหม่ล่าสุด Snapdragon 4 Gen 2 (SM4450) ซึ่งต่อจาก Snapdragon 4 Gen 1 เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว พร้อมชิปเซ็ตโมเด็มรุ่นใหม่ Snapdragon X61 เป็นชิปเซ็ตตัวแรกในซีรีส์ที่รองรับ 5G เวอร์ชันใหม่มาตรฐาน 3GPP Release 16 สถาปัตยกรรม 4nm ตัวแรกใน Snapdragon 4-series

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  Qualcomm เปิดตัว Snapdragon 6 Gen 4 แรงขึ้น ประหยัดพลังงาน พร้อมรองรับ 5G และ AI
• 
  Qualcomm เปิดตัว Snapdragon G3 Gen 3 ชิปเซ็ตสำหรับเครื่องเล่นเกมพกพารุ่นใหม่ แรงทะลุจอ รองรับ Ray Tracing และ Unreal Engine 5 Lumen!

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่

Snapdragon 4 Gen 2 ผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 4 นาโนเมตรเป็นรุ่นแรกของซีรีส์ระดับเริ่มต้น พร้อม CPU คอร์ประสิทธิภาพตัวใหม่ 2 คอร์ (โอเวอร์คล็อกที่ 2.2GHz) และคอร์ประหยัดพลังงาน 6 คอร์ (2.0GHz) ส่งผลให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 10% เมื่อเทียบกับ Snapdragon 4 Gen 1 ส่วน GPU ใช้ Andreno ที่ยังไม่มีการระบุรุ่นออกมาอย่างชัดเจน

หน่วยความจำในรุ่นนี้อัปเกรดให้รองรับ RAM และ ROM เวอร์ชั่นใหม่กว่าเดิม โดยรองรับ RAM LPDDR5x (สูงสุด 3,200MHz) และ ROM UFS 3.1 (2-lane) มีเทคโนโลยี Quick Charge 4+ ชาร์จแบตเตอรี่ความจุ 2,750 mAh จาก 0 – 50% ใช้เวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้น รองรับหน้าจอแสดงผลความละเอียดสูงสุดที่ FullHD+ รีเฟรชเรท 120Hz รองรับพอร์ตเชื่อมต่อ USB-C 3.2 Gen 1 (ถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูงสุด 5Gbps)

ส่วนสเปคการถ่ายภาพ Snapdragon 4 Gen 2 ลดหน่วยประมวลผลภาพ ISP เหลือแค่ 2 แกน (Dual) เมื่อเทียบกับ Snapdragon 4 Gen 1 ที่มีหน่วยประมวลผลภาพ 3 แกน (Triple) รองรับฟีเจอร์ถ่ายภาพแบบใหม่ Multi-Camera Temporal Filtering (เรียกสั้น ๆ ว่า MCTF) ช่วยลดสัญญาณรบกวนสำหรับวิดีโอได้ดีขึ้น (Noise)

รองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด 1080p 60fps และ 720p 120fps สำหรับการถ่ายแบบสโลว์โมชั่น

รองรับระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EIS) ชิปเซ็ตรุ่นนี้รองรับความละเอียดกล้องสูงสุด 108MP หรือความละเอียดสูงสุด 32MP สำหรับการถ่ายแบบ Zero Shutter Lag ไร้ความหน่วงหลังกดถ่ายทำให้ระบบ Auto Focus ทำงานได้ไวขึ้น (หรือจะใช้กล้องคู่ความละเอียด 16MP + 16MP ก็ได้)

สเปคการเชื่อมต่อมาพร้อมชิปเซ็ตโมเด็ม Snapdragon X61 รองรับ 5G เวอร์ชั่นใหม่มาตรฐาน 3GPP Release 16 ทำให้การเชื่อมต่อ 5G เร็วแรงและเสถียรกว่าเดิม รองรับ 4×4 MIMO ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุด 2.5Gbps และอัปโหลดสูงสุด 900Mbps (แบนด์วิธสูงสุด 100MHz) แถมยังช่วยในเรื่องการประหยัดพลังงานด้วย นอกจากนี้ยังรองรับ Wi-Fi 5 (ac), Bluetooth 5.1 รองรับการถอดรหัสเสียง aptX และ NFC เหมือนเดิม

สมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่จะได้ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 4 Gen 2 คาดว่าจะเปิดตัวเร็วที่สุดในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 นี้ โดยมีสองแบรนด์แรกที่จะได้ใช้งานก่อนใครคือ Xiaomi และ vivo

แหล่งที่มา gsmarena, qualcomm