[เล่าสู่กันฟัง] เมื่ออุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนอิ่มตัว จุดเปลี่ยนคืออะไร

ถ้าหากนึกถึงอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน ณ ช่วงเวลานี้เริ่มอิ่มตัว เนื่องจากไม่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ เช่นเดียวกับดีไซน์เก่าๆ ที่นำมาเสนอต่อผู้บริโภค หลายๆ แบรนด์ต่างหันมาใช้กลยุทธ์เติมแต่งสเปค ขายได้แน่มาชูโรง ทำให้การเปิดตัวรุ่นใหม่แต่ละครั้ง ไม่มีความรู้สึกน่าสนใจเหมือนแต่ก่อน เมื่อวางจำหน่ายผลตอบรับไม่ดีเท่าที่ควร คล้ายๆ ว่า มาไวไปไวกันเลยทีเดียว อีกเหตุผลอาจเป็นเพราะสมาร์ทโฟนแต่ละรุ่นในปัจจุบัน ทำหน้าที่ได้ครบถ้วน จึงไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนรุ่นใหม่ รวมถึงสภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ ทว่าในช่วงเวลา 2-3 ปี ต่อจากนี้เราอาจจะเห็นการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง ?

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  รีวิว HONOR 200 Smart 5G คุ้มค่าเกินราคา สุดยอดสมาร์ทโฟนสำหรับคนชอบลุย
• 
  ลือ! iPhone 17 และ iPhone 17 Air ยังไม่มีซูม Optical 5x ฟีเจอร์นี้มีเฉพาะรุ่น Pro

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่

1. จุดเปลี่ยนความแปลกใหม่ด้านดีไซน์ : เมื่อโลกของสมาร์ทโฟนพับได้กำลังเติบโต มีหลายๆ แบรนด์ ต่างพัฒนาให้มีลูกเล่นและความแปลกใหม่มากที่สุด บางทีเทคโนโลยีและนวัตกรรมนั้นอาจมีการนำมาพัฒนาต่อยอดในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน เช่น เครื่องมีขนาดเล็กลง แต่หน้าจอยังใหญ่เหมือนเดิม เป็นต้น

2. นวัตกรรมของ AI : เดิมทีมีแค่คำสั่งเสียง แต่ก็เป็น Google Assistant ของ Google และ Siri ของ Apple ส่วน Bixby จาก Samsung ทว่ารายหลังก็ไม่สามารถทลายกำแพงที่ใช้นิยมกันอย่างแพร่หลาย อาจเป็นเพราะ Bixby จะใช้ได้กับสมาร์ทโฟนของซัมซุงเท่านั้น อย่างไรก็ตามในอนาคตคงต้องติดตามว่าจะมี AI แบบใด มาสร้างความเปลี่ยนแปลง เพราะระบบปัญญาประดิษฐ์ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในหลายๆ อุตสาหกรรมแล้ว

3. 5G เป็นที่แพร่หลาย และสำคัญมากยิ่งขึ้น : ผู้ใช้งานทั่วไปอาจดูไกลตัวเกินไป เนื่องจาก 5G จะเหมาะกับกลุ่มอุตสาหกรรมมากกว่าการใช้งานทั่วไป ซึ่งความเร็วระดับ 4G LTE ก็ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันได้แล้ว โดย 5G อาจต้องรอประเด็นใดประเด็นหนึ่งเข้ามาจั่วหัวให้ผู้ใช้งานทั่วไปต้องขวนขวายหามาใช้ นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ

4. ความเป็นหนึ่งเดียวของทุกอุปกรณ์ : ปัจจุบันหูฟังไร้สาย, SmartWatch, SmartBand, Smart Glasses รวมถึงเหล่า Gadget ต่างๆ เริ่มมีบทบาทกับสมาร์ทโฟนมากขึ้น ในด้านฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อและการควบคุม แต่อาจจะง่ายกว่านี้ถ้าทุกอย่างถูกมัดรวมอยู่ในเมนูฟังก์ชั่นเดียว เพราะถ้ามี 10 อุปกรณ์ บางครั้งเราต้องใช้ 10 แอปพลิเคชั่นในการควบคุมสั่งการก็เป็นได้ เป็นอีกความลำบากซับซ้อน ทว่าถ้ามีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเกิดขึ้น นี่อาจเป็นการจุดประกายไอเดียความนิยมครั้งใหม่

5. ปลอดภัยและรัดกุมกว่านี้ : อย่างที่เห็นในปัจจุบัน หลายๆ คนตกเป็นเหยื่อการโจรกรรมทางสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็นลิงก์แอบแฝง, การใช้งานไม่เหมาะสม หรือการโดนแฮ็กต่างๆ หากมีการพัฒนาอุดช่องโหว่จะช่วยเรียกความศรัทธากลับขึ้นมา เพราะบางครั้งการระวังไม่พอ อาจเผลอกันได้บ้าง แต่การเผลอนั้นถ้ามีแจ้งเตือยหรือล็อกใดๆ ก็ตาม จึงเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น

6. โลก metaverse : แม้ดูเหมือนจะยังเป็นเรื่องไกลตัวและยังไม่มีความจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ทว่าการที่สมาร์ทโฟนจะกลายเป็นอุปกรณ์ที่พาผู้ใช้อย่างเราเข้าสู่โลกของเมต้าคงน่าตื่นเต้นไม่น้อย คงต้องดูกันต่อไปว่าในอนาคตจะเป็นอย่างไร

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 6 เหตุผลที่นำมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อนๆ คิดว่ามีเหตุผลไหนเพิ่มเติมหรือไม่ นำมาแชร์กันได้เลย นอกจากนี้คุณลองมาคิดเล่นๆ คาดหวังอะไรกันบ้างกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่อยากให้มีบนสมาร์ทโฟน ถ้ามีแล้วคุณอยากจะใช้งาน!!