ตามคำคาดการณ์! Apple เปิดตัว MacBook Air M2 หน้าจอ 15 นิ้ว ภายในงาน WWDC 2023

Apple ได้ทำการเปิดตัว MacBook Air 15 เป็นที่เรียบร้อย ภายในงาน WWDC 2023 ที่จัดขึ้น ณ Apple Park รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อเวลา 11 น. ของวันที่ 5 มิถุนายน ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ 

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  เปิดตัว MacBook Air 2025 ชิปฯ M4 แรงขึ้น พร้อมสีใหม่ Sky Blue และกล้องหน้า 12MP
• 
  Nintendo Switch 2 เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว! เจาะลึกสเปค ราคา วันวางจำหน่าย และเกมเปิดตัว

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่

Highlight ของการเปิดตัว MacBook Air 15 นิ้ว ครั้งนี้คือ หน้าจอพาแนล Liquid Retina ที่มีขนาดใหญ่ถึง 15.3 นิ้วถือว่าผิดจากการคาดการณ์ของสื่อยักษ์ใหญ่หลายสำนัก ที่ทำนายว่าจะมาด้วยขนาด 15.5 นิ้ว แต่กลับกลายเป็น 15.3 นิ้วแทน  

พร้อม Performance ที่ดุดัน ทรงพลัง ด้วยชิปเซ็ต M2 และแบตเตอรี่ไลฟ์ที่ยาวนานถึง 18 ชั่วโมง ระบบเสียงแบบใหม่ 6 ลำโพง ที่กระหึ่ม สมจริงมากกว่าเดิม พร้อมกับดีไซน์บางเฉียบเรียบหรู ไร้พัดลมภายใน ถึงขนาดที่ Apple ออกปากว่า เป็นแล็ปท็อป 15 นิ้ว ที่บางที่สุดในโลกเลยทีเดียว

โดย ภาพรวมสเปคของ MacBook Air 15 นิ้ว มีดังนี้ 

• MacBook Air 15 นิ้ว มาพร้อมกับหน้าจอพาแนล Liquid Retina ขนาด  15.3 นิ้ว ความละเอียดสูงขึ้น 2 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า กว้างเต็มตา ให้ผู้ใช้มองเห็นคอนเทนต์ได้มากขึ้น ทั้งยังมีความสว่างสูงถึง 500nits สีสวยสด เพราะรองรับขอบเขตสีกว่า 1 พันล้านสี ทั้งยังสว่างกว่าแล็ปท็อป PC รุ่นเทียบเท่า ถึง 25%

• มาพร้อมกับกล้อง FaceTime HD ความละเอียดที่ 1080p ให้คุณมั่นใจทุกการวิดีโอคอล และเมื่อรวมเข้ากับโปรเซสเซอร์รับสัญญาณภาพที่ล้ำสมัยจากชิปเซ็ต M2 แล้วด้วย รับรองเลยว่าผู้ใช้จะดูดีขณะวิดีโอคอลแน่นอน พร้อมชุดไมโครโฟน 3 ตัว ช่วยจับเสียงให้ชัดใส ด้วยอัลกอริทึมบีมฟอร์มมิ่งอันล้ำสมัย ให้เสียงดังฟังชัดขณะวิดีโอคอล  
• ใช้ชิปเซ็ต M2 ที่เร็วขึ้นสูงสุด 12 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Air ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel และแล็ปท็อป PC รุ่น 15 นิ้ว ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Core i7 แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 18 ชั่วโมง มากกว่าบน PC ทั่วไปถึง 50% ถึงแม้จะมีจอภาพและประสิทธิภาพที่ดีกว่า 
• ใช้ CPU แบบ 8-core ที่ประกอบด้วยคอร์ด้านประสิทธิภาพ 4 คอร์ และคอร์ด้านประหยัดพลังงาน 4 คอร์ พร้อมด้วย GPU แบบ 10-core เพื่อกราฟิกที่เร็วสุดขีด และ Neural Engine แบบ 16-core ยิ่งกว่านั้นชิป M2 ยังมีแบนด์วิดท์หน่วยความจำ 100GB/s และรองรับหน่วยความจำแบบรวมที่รวดเร็วขนาดสูงสุด 24GB สามารถรับมือกับเวิร์กโหลดที่ซับซ้อนได้อย่างลื่นไหล 

• ดีไซน์บางเฉียบเรียบหรู โดยมีความบางเพียง 11.5 มิลลิเมตรเท่านั้น จึงถือเป็นแล็ปท็อปรุ่น 15 นิ้ว ที่บางที่สุดในโลก พกพาสะดวกเหลือเชื่อด้วยน้ำหนักเพียง 1.51 กก. แต่แข็งแรงทนทาน ทั้งยังบางกว่าเกือบ 40% และเบากว่าประมาณ 200 กรัม เมื่อเทียบกับแล็ปท็อป PC ทั่วไปที่มีขนาดเดียวกัน ทั้งยังเอาอยู่ทุกงานหนักได้แบบเงียบสงบ เพราะไม่มีพัดลมภายในตัวเครื่อง

• ระบบเสียงแบบใหม่อันทรงพลัง ด้วย 6 ลำโพงสุดล้ำ ที่ประกอบด้วยทวีตเตอร์ 2 ตัว และวูฟเฟอร์แบบตัดแรงสั่น 2 ชุด ให้เสียงเบสที่ทุ้มลึกกว่าเดิม 2 เท่าเพื่อเสียงที่แน่นยิ่งขึ้น และยังมี Spatial Audio ที่รองรับ Dolby Atmos พร้อมมอบประสบการณ์ที่สมจริง ไม่ว่าจะฟังเพลงหรือดูภาพยนตร์

• มาพร้อมกับ macOA Ventura ที่เหลือล้น ทรงพลัง และอัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์อันล้ำหน้ามากมาย และ macOS Sonoma รุ่นใหม่ที่ทรงพลังยิ่งกว่า พร้อมเปิดให้ผู้ใช้อัปเกรดเร็วๆ นี้

• MacBook Air 15 นิ้ว ยังมาพร้อม MagSafe สำหรับการชาร์จ, พอร์ต Thunderbolt จำนวน 2 พอร์ต สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมและจอภาพภายนอกความละเอียดระดับ 6K และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร 

MacBook Air 15 นิ้ว มาด้วยกันทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Midnight, Starlight, Silver, และ Space gray ราคาเริ่มต้นที่ 1,299 เหรียญ ในสหรัฐฯ ส่วนราคาไทย เปิดเริ่มต้นที่ 47,900 บาท มีให้เลือก 2 ความจุหลักๆ (สามารถสั่ง Customize เพิ่มเติมได้) ได้แก่ 

• • MacBook Air 15 นิ้ว CPU 8-core, GPU 10-core, RAM 8GB และ SSD 256GB ราคาจะอยู่ที่ 1,299 เหรียญสหรัฐฯ, 47,900 บาทไทย 
  • MacBook Air 15 นิ้ว CPU 8-core, GPU 10-core, RAM 8GB และ SSD 512GB ราคาอยู่ที่ 1,299 เหรียญสหรัฐฯ, 54,900 บาทไทย

MacBook Air 15 นิ้ว เปิดให้ Pre-order แล้ว ในสหรัฐฯ พร้อมเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ 13 มิถุนายน 2023 นี้ ส่วนประเทศไทยจะเริ่มวางขายตอนไหนนั้น ต้องรอติดตามกันต่อไป    

ที่มา : www.apple.com