ไลฟ์สไตล์ (Lifestyle) | วันที่ : 31 มีนาคม 2566
เข้าสู่ยุคที่การฟังเพลงนั้น กลายเป็นเทรนด์หรือกระแสไปเเล้ว บางคนแค่ได้ยิน หรือเห็นคำว่า Hi-res บน Music Streaming แอปฯที่ตัวเองฟังอยู่ สมองก็สั่งการให้มองว่าเพราะไปเสียทุกเพลง
แต่เอาเข้าจริงๆ เพลงที่เราฟังอยู่นั้นเป็น Hi-res จริงๆ หรือ ต้องเป็นเสียง หรือย่านความถี่แบบไหน ถึงจะเรียกว่า Hi-res ได้ วันนี้เราลองมาดูกัน
Lossless Audio Format คือ รูปแบบไฟล์เสียงที่ถูกบีบอัดเล็กน้อย แต่ยังคงไว้ซึ่งข้อมูลของไฟล์ต้นฉบับจากผู้สร้างแบบเหมือนเดิมทุกประการ โดยที่ไม่ลดทอนความละเอียด หรือข้อมูลของไฟล์ลงเลยแม้แต่น้อย แบบที่เรียกว่า High-resolution หรือ Hi-res ที่เราคุ้นหูนั่นเอง
ซึ่งนามสกุลไฟล์ในตระกูล Lossless Format แบบคร่าวๆ ก็อย่างเช่น FLAC (Free Lossless Audio Codec) , ALAC (Apple Lossless) เเละ WAVE เป็นต้น
Lossless Format นิยมใช้ในอุตสาหกรรมดนตรีใหญ่ๆ อย่างค่ายเพลง หรือการทำเพลง/ดนตรีประกอบภาพยนตร์ ที่ต้องใช้กระบวนการผลิตแบบ Professional หรือในกลุ่มนักฟังเพลงที่ชื่นชอบการเสพอารมณ์ดนตรีแบบต้นฉบับทุกประการ เป็นต้น
แต่! ต้องบอกก่อนว่า Lossless Format นั้น ปัจจุบันยังไม่มีหูฟังไร้สายตัวใดเลยที่รองรับ ไม่แม้กระทั่ง AirPods Max ของ Apple ที่ราคาเกือบ 20,000 บาทด้วย ต้องฟังผ่านหูฟังที่มีสายและรองรับระบบ Hi-res เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่รองรับและสามารถส่งคลื่นเสียงแบบ Hi-res โดยตรงเท่านั้น
นั่นหมายความว่า ต่อให้เราจะ Stream เพลงดังกล่าวบนแพลตฟอร์ม หรืออุปกรณ์ที่บอกว่ารองรับ Hi-res แต่ถ้าฟังผ่านหูฟังไร้สาย นั่นก็แปลว่า "เรายังได้ยินเสียงบนย่านความถี่แบบ Lossy อยู่เช่นเดิม"
ซึ่ง Lossy Audio Format คือ รูปแบบของไฟล์เสียงที่ถูกบีบอัด หรือถูกตัดข้อมูลบางส่วนออก เช่น ย่านความถี่ที่หูมนุษย์ได้ยินยาก เพื่อให้ไฟล์มีขนาดเล็กลงกว่าเดิมมากกว่าครึ่ง เหตุผลคือเพื่อลดต้นทุนการจัดเก็บไฟล์ และเพื่อให้ง่ายและรวดเร็วต่อการ Streaming
และแน่นอน เมื่อไฟล์มีขนาดเล็กลง คุณภาพของไฟล์ก็จะลดลงตามไปด้วย รวมไปถึงสูญเสียย่านความถี่บางย่านไป แต่ก็แลกมากับความสะดวกสบายและความรวดเร็วในการจัดเก็บและการเข้าถึง
นามสกุลไฟล์ในตระกูล Lossy Format ก็อย่างเช่น MP3 , AAC (Advanced Audio Codec) โดยเฉพาะไฟล์แบบ MP3 ที่ได้รับความนิยมและใช้กันอย่างแพร่หลายนับตั้งแต่ยุค 1980 และยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
นั่นเป็นเพราะความกะทัดรัดของชนิดไฟล์ รวมไปถึงการรองรับบนแทบจะทุกอุปกรณ์ และทุกซอฟต์แวร์การ Streaming ดนตรี นั่นเอง ส่วน AAC เปิดตัวภายหลัง MP3 เพื่อตอกย้ำความสำเร็จของ MP3 พร้อมทั้งคุณภาพเสียงที่ดีขึ้น และ Bitrates ที่ต่ำลง
Lossy Format นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในแพลตฟอร์ม Music Streaming ทั่วไป ที่เน้นให้ผู้ใช้ได้สัมผัสกับประสบการณ์ในการใช้งานที่รวดเร็ว ไหลลื่น หรือในกรณีการทำเพลงที่ผู้ผลิตมีข้อจำกัดในด้านพื้นที่การจัดเก็บ Lossy Format ยังให้คุณภาพเสียงในแบบที่ยอมรับได้ นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลหลักๆที่ Format ชนิดนี้เป็นที่นิยมในผู้ใช้หมู่มาก
เราสามารถฟังทั้งสอง Audio Format นี้ได้จากที่ใดบ้าง
Lossless Audio Format สามารถฟังได้ที่แพลตฟอร์ม Music Streaming อย่าง Tidal , Amazon HD , Deezer , Qobuz , Apple Music หรือบนอุปกรณ์สำหรับการ Streaming เพลงโดยตรงเลยอย่าง iPod หรือ Sony Walkman เป็นต้น
ส่วน Lossy Audio Format จะเจอได้จากแพลตฟอร์ม Music Streaming ทั่วไป อย่าง Spotify Free ,YouTube/YouTube Music , JOOX และ SoundCloud เป็นต้น
ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องบอกว่า รสนิยมการฟังเพลง เป็นรสนิยมส่วนบุคคล เราสามารถแนะนำ แต่ไม่สามารถชี้นำใครได้ว่า อันไหนดีกว่า และควรไปตัวไหนดี เราต้องลองด้วยตัวเอง ไม่แน่ เราอาจจะถูกใจใน Format แบบ Lossy มากกว่าแบบ Lossless ที่ดูเหมือนจะเพอร์เฟค ไร้ที่ติ ในสายตาของหลายๆ คน ก็เป็นได้
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.premiumbeat.com วันที่ : 31 มีนาคม 2566
ลือ! Nintendo Switch 2 เตรียมเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าในสหรัฐฯ หลังงาน Nintendo Direct วันที่ 2 เมษายน
Google เลื่อนขาย Pixel 9a เป็นเมษายน เนื่องจากปัญหาคุณภาพชิ้นส่วน
Baseus Eli Sport 1 หูฟังไร้สาย Open-Ear ของดีประกัน 2 ปี เสียเปลี่ยนใหม่ไม่ต้องรอซ่อม
Samsung Galaxy A06 5G หน้าจอ 90Hz กล้องหลัง 3 เลนส์ อัปเดต OS นาน 4 ปี ราคา 5,499 บาท
ลือ! iPhone 18 Pro เตรียมใช้โมเด็มเซลลูลาร์ C2 รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Apple
Xiaomi เปิดตัว Redmi 13X สมาร์ทโฟนราคาประหยัด สเปคคุ้มค่า22 ชั่วโมงที่แล้ว
HONOR Play 60 เผยราคา ดีไซน์ สี และฟีเจอร์หลักที่หลุดออกมา24 ชั่วโมงที่แล้ว