Xiaomi 13 Series สมาร์ทโฟนตัวแรงที่หลายคนรอคอย ในตอนนี้ก็มีการเปิดตัวในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย โดยมารอบนี้มีการจับมือกับแบรนด์กล้องชื่อดังอย่าง Leica ถือว่าเป็นรุ่นที่ 2 ต่อจาก Xiaomi 12S Ultra ที่มีการเปิดตัวในช่วงปลายปี 2022 สำหรับ Xiaomi 13 Series มีการเปิดตัวด้วยกัน 2 รุ่นคือ Xiaomi 13 และ Xiaomi 13 Pro แน่นอนว่าสเปคจัดให้มาแรงขั้นสุดทุกส่วน สมกับเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงของ Xiaomi ด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snadragon 8 Gen 2 พร้อมกล้องเลนส์ออฟติคอล Leica ให้โหมด และฟีลตามแบบฉบับ Leica เรียกว่าหาไม่ได้จากที่ไหน
Lazada : https://c.lazada.co.th/t/c.Y0GLa5
Shopee : https://shope.ee/5UzeLc2VM1 และ https://shope.ee/LIq08nZUw
Xiaomi 13 Pro และ Xiaomi 13 จะมีดีไซน์ตัวเครื่องที่แตกต่างกัน โดย Xiaomi 13 Pro มีตัวเครื่องแบบขอบโค้งดูทันสมัย และใหญ่กว่า ส่วน Xiaomi 13 จะใช้ดีไซน์แบบขอบเรียบทั้ง 4 ด้านดูคลาสสิก
หน้าจอแสดงผล Xiaomi 13 Pro จะเป็นจอโค้งกว้าง 6.73 นิ้ว ความละเอียด WQHD+ (3200x1440 พิกเซล) และ Xiaomi 13 เป็นจอแบบเรียบกว้าง 6.36 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400x1080 พิกเซล) ทั้งคู่ใช้พาแนล E6 AMOLED ใช้อัตรา Refresh Rate แบบ Adaptive สูงสุด 120Hz และมีการครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass Victus
เหนือหน้าจอแสดงผลใช้ดีไซน์รอยแหว่งแบบจอเจาะรู ในนั้นมีกล้องหน้า ความละเอียด 32MP และขอบหน้าจอด้านบนเป็นลำโพงเสียง
ล่างหน้าจอแสดงผล ไม่มีปุ่มใช้งานแบบฮาร์ดแวร์ โดยปุ่มนำทางมาในรูปแบบซอฟแวร์ และรองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
ข้างซ้ายตัวเครื่อง ไม่มีปุ่ม และพอร์ตการใช้งาน
ข้างขวาตัวเครื่อง มีปุ่มใช้งานพื้นฐาน โดยปุ่มยาวเป็นปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียง และปุ่มเล็กเป็นปุ่มเพาเวอร์
ส่วนบนตัวเครื่อง ทางซ้ายเป็นช่องลำโพง ตรงกลางเป็นเลเซอร์ IR และขวาสุดเป็นรูไมโครโฟน
ใต้ตัวเครื่อง ซ้ายสุดเป็นช่องใส่ถาดซิมการ์ด โดยถาดรองรับ Nano SIM 2 ช่อง ถัดมาตรงกลางเป็นพอร์ต USB Type-C ต่อมาทางขวาเป็นไมโครโฟน และลำโพงเสียง
พลิกมาที่ด้านหลัง โมดูลกล้องจะเป็นทรงสี่เหลี่ยมแบบนูนลอยตัว (Floating lens design) บนนั้นติดตั้งกล้องหลังมา 3 กล้อง มีการเคลือบสาร Anti Glare เพื่อลดแสงสะท้อน ส่วนล่างขวาโมดูลเป็นไฟแฟลช LED และคำว่า Leica นอกจากนี้ฝาหลังยังเป็นแบบ 3D Bio-Ceramic มีความแข็งแกร่งสูง เงาดูสวยงาม
อุปกรณ์ภายในกล่อง
กล้องถ่ายรูปเซนเซอร์ใหญ่ 1 นิ้ว ขนมาให้ 3 ตัว
Xiaomi 13 Pro จัดหนักใส่กล้องหลัง และกล้องหน้ามาให้แบบเบิ้มๆ โดยกล้องหลังติดตั้งมา 3 ตัว ประบกอบไปด้วยกล้องหลักเซนเซอร์ IMX989 ขนาด 1 นิ้ว ความละเอียด 50MP ครอบคลุมความยาวโฟกัสตั้งแต่ 14 มิลลิเมตร, กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 50MP ครอบคลุมความยาวโฟกัส 23 มิลลิเมตร และกล้อง Telephoto ความละเอียด 50MP ครอบคลุมความยาวโฟกัสถึง 75 มิลลิเมตร ถือว่าเป็นระดับกล้อง DSLR เลยทีเดียว โดยกล้องยังมีระบบออโตโฟกัสที่รวดเร็ว ให้ช่วงไดนามิกจับแสงที่ดี และให้รายละเอียดอย่างสมจริง ในขณะที่กล้องหน้าก็ให้ความละเอียดมาสูงถึง 32MP รองรับการถ่ายเซลฟี่ตอนกลางคืนอีกด้วย
กล้องออฟติคอล Leica
ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นที่ 2 ที่ได้จับมือร่วมพัฒนากล้องกับแบรนด์ Leica ซึ่งเข้ามาเติมเต็มให้การถ่ายรูประดับมืออาชีพได้อย่างดี โดยการใช้งานกล้องถ่ายรูปผ่าน Xiaomi 13 Pro จะมีโหมดที่ชื่อว่า Leica Authentic Look และ Leica Vibrant Look สำหรับโหมดแรกจะให้ภาพที่สดใส และความสว่างมากขึ้น ส่วนโหมดที่ 2 จะมีโทนสีแบบกล้องฟิล์ม โดยสีจะออกมาทึบๆ ลึกๆ ให้ความรู้สึกแบบกล้องเก่าๆ นอกจากนี้ยังมีโหมด Portrait มีสามารถปรับเอฟเฟคฟิลเตอร์ได้ฟีลแบบ Leica
ซอฟแวร์กล้องทำงานกับ AI ได้ลงตัว
กล้องของ Xiaomi 13 Pro มีการทำงานร่วมกับ AI และยังมีระบบโฟกัสที่รวดเร็วแม่นยำ ด้วยเทคโนโลยี Xiaomi ProFocus สามารถโฟกัสวัตถุที่เคลื่อนที่ได้แบบอัตโนมัติ ทั้งนี้นี้กล้องยังให้ความอิสระระดับมืออาชีพ ด้วยกล้อง RAW DNG 10bits สามารถนำไฟไปใช้งานกับเหล่าซอฟแวร์ของ Adobe และบันทึกวิดีโอแบบ Dolby Vision ได้ง่ายๆ
บันทึกวิดีโอสูงสุดระดับ 8K และตอนกลางคืนมีกันสั่นแบบ HyperOIS
ส่วนการบันทึกวิดีโอ ก็มีระบบกันสั่น HyperOIS ช่วยให้การบันทึกวิดีโอมีความนิ่งระดับสูง และยังบันทึกวิดีโอได้สูงสุดระดับ 8K แถมตอนกลางคืนก็มีระบบ 4K Ultra Night Video ช่วยให้การถ่ายวิดีโอในที่แสงน้อย หรือตอนกลางคืนเป็นเรื่องง่ายไปเลย
หน้าจอแสดงผล E6 AMOLED อัตรารีเฟรช 120Hz
หน้าจอแสดงผลจับเอาพาแนลในใหม่ล่าสุดมาให้ใช้งานกันไปเลย โดยเป็น E6 AMOLED โดยเป็นหน้าจอปรับความสว่างได้สูงสุดถึง 1,900nits และมีความลึกของสีระดับ 10nits ครอบคลุมสีแบบ 100% sRGB และ 100% P3 แสดงสีได้สดสวยงาม ทั้งนี้ยังรองรับการแสดงผลคอนเทนด์ต่างๆ ได้มากมายอาทิ HDR10, HDR10+, Dolby Vision, Pro HDR และ HLG ว่ากันง่ายๆ คือเหมือนเอาหน้าจอสมาร์ทีวีตัวท็อปในปัจจุบันมาให้เลย
ไม่พอแค่นั้นหน้าจอยังมีการแสดงผลที่ลื่นตาลื่นนิ้วเป็นพิเศษ ด้วยเทคโนโลยี AdaptiveSync Pro ปรับอัตรา Refresh Rate ให้แบบอัตโนมัติตั้งแต่ 1 ถึง 120Hz ตามความเหมาะสมกับการใช้งานในขณะนั้นๆ ช่วยในการประหยัดแบตเตอรี่ได้มากทีเดียว
สเปคแรงชุดใหญ่ใส่ Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
ทางด้านสเปคมาเต็มระบบด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 ถือว่าเป็นชิปเซ็ตระดับท็อป สามารถใช้งานได้แบบราบรื่นทั้งการเล่นเกมปรับกราฟฟิกสวยๆ และการใช้งานทั่วไป นอกจากนี้ยังมีตัวรับสัญญาณที่ดี ด้วยมาตรฐาน Wi-Fi พร้อมระบบ Qualcomm FastConnect (HBS) ช่วยให้เชื่อมต่อได้ทั้งสัญญาณ 5GHz และ 6GHz รองรับความเร็วสูงสุดถึง 5.8Gbps และมีการเชื่อมต่อที่เสถียรมากๆ
ทดสอบการเล่นเกม
การเล่นเกมเปิดสุดได้เลย โดยเกมที่กินสเปคสูงๆ อย่าง Genshin Impact ก็สามารถปรับเป็นขั้นสูง และใช้เฟรมเรตเป็น 60fps ได้ แต่ถ้าจะไม่ให้หน่วงเครื่องจนเกินไป ก็แนะนำให้ปรับเป็นระดับกลางจะดีกว่า ส่วนอีกเกมเป็นเกม PUBG Mobile ก็สามารถปรับได้ถึงระดับ UltraHD และใช้เฟรมเรตระดับสูงได้สบายๆ พร้อมภาพที่สวยงาม
ระบบความปลอดภัยไบโอเมตริก
ระบบความปลอดภัยไบโอเมตริก Xiaomi 13 Pro จัดมาให้ 2 แบบคือ สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ที่จดจำลายนิ้วมือได้สูงสุด 5 ลาย และมีการสแกนที่รวดเร็ว ส่วนอีกแบบเป็นการสแกนใบหน้า ซึ่งจดจำใบหน้าได้ 2 แบบ และสามารถสแกนใบที่แสงน้อยได้
ตัวเครื่องได้มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68
Xiaomi 13 Pro และ Xiaomi 13 มาพร้อมตัวเครื่องมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสูงสุดในบรรดาสมาร์ทโฟนที่ขายในท้องตลาดทั่วไป สามารถปรับฝุ่นในระดับดีเยี่ยม และกันน้ำในระดับดีเยี่ยมเช่นกัน
แบตเตอรี่ 4820mAh ชาร์จเร็ว 120W
แบตเตอรี่มีขนาด 4820mAh ถือว่าเป็นขนาดใหญ่ใช้งานได้ตลอดทั้งวันในการใช้งานแบบพื้นฐาน โดยการทดสอบใช้เล่นเกม PUBG Mobile แบบกราฟฟิก UltraHD ได้ 1 ชั่วโมง จากแบตเตอรี่ 56% ลดลงมาเหลือ 40% นอกจากนี้ยังมีอีกความโดดเด่นนั้นก็ถือการชาร์จเร็วผ่านสาย GaN สูงถึง 120W ซึ่งในการทดสอบน่าประทับใจมากๆ จากแบตเตอรี่ 15% อีกครั้งชั่วโมงก็เต็ม 100% ไปแล้ว (อาจจะเต็มก่อนด้วย) ตรงนี้ทาง Xiaomi ได้เคลมไว้ว่าใช้เวลาชาร์จเพียง 19 นาที จากแบตเตอรี่ 0% กลับมาเต็ม 100% ทั้งนี้ยังรองรับการชาร์จแบบไร้สาย 50W และแบ่งแบตเตอรี่ให้เครื่องอื่นได้อีก 10W
สเปคของ Xiaomi 13 Pro
ระบบปฏิบัติการ
Xiaomi 13 Pro รันบนระบบปฏิบัติการ MIUI 14 บนพื้นฐาน Android 13 โดยยังคงเน้นการปรับแต่งให้ใช้งานได้ลื่น และเสถียรมากขึ้น พร้อมกับการปรับแต่งเพื่อให้ผู้ใช้งานได้ใช้งานในแบบที่ตัวเองถนัด นอกจากนี้แอพฯ และการบริการของ Google ต่างๆ ก็สามารถใช้งานได้ปกติ
หน้าจอหลัก
ในส่วนหน้าจอหลักก็มีการตั้งค่าให้ปรับแต่งมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอหลักแบบคลาสสิก, แบบลิ้นชัก, หรือโหมดง่าย นอกจากนี้ยังสามารถปรับขนาดของไอคอนแอพฯ และปรับเปลี่ยนสีได้ด้วย ส่วนถาดเครื่องมือด่วน และการแจ้งเตือนก็ปัดหน้าจอลงได้ตามเดิม
ปุ่มนำทาง
ปุ่มนำทางมีให้เลือกใช้งาน 2 แบบคือ ปุ่มนำทาง 3 ปุ่ม และท่าทางสัมผัส สามารถไปปรับแต่งได้ที่ การตั้งค่า > หน้าจอหลัก > การนำทางของระบบ
ปรับแต่งการแสดงผลของหน้าจอ
นอกจากความสุดของหน้าจอแสดงผล การปรับแต่งต่างๆ ก็มีให้เลือกหลากหลายเช่นกัน แถมมีการทำงานกับ AI อีกด้วย โดยส่วนใหญ่เป็นการปรับความละเอียด และการแสดงผลที่สวยงามมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ความละเอียด, ปรับคุณภาพวิดีโอ, การปรับปรุงภาพด้วย AI การปรับปรุง AI HDR สามารถไปปรับแต่งได้ที่ การตั้งค่า > แสดงผล
ปรับอัตรา Refresh Rate
หน้าจอของ Xiaomi 13 Pro มีอัตรา Refresh Rate สูงสุดที่ 120Hz ซึ่งใช้งานสามารถเลือกให้ปรับแบบ Adaptive อัตโนมัติ หรือกำหนดค่า Refresh Rate ค้าง 60Hz หรือ 120Hz ไว้ตลอดเวลาก็ได้ สามารถไปปรับแต่งได้ที่ การตั้งค่า > แสดงผล > อัตรารีเฟรช
โหมดมืด
โหมดมืดเป็นการปรับธีมเป็นสีดำ และตัวหนังสือสีขาว เพื่อให้ใช้งานผ่านหน้าจอได้สบายตามากขึ้น เวลาใช้งานในที่แสงน้อย นอกจากนี้ยังเป็นการประหยัดพลังงานอีกทาง เพราะหน้าจอเป็นพาแนล AMOLED สามารถเปิดการใช้งานได้ที่ การตั้งค่า > แสดงผล > โหมดมืด
โหมด Always-On Display
นอกจากนี้หน้าจอยังรองรับการใช้งานโหมด Always-On Display หรือจอแสดงผลแบบเปิดตลอด เมื่อพักหน้าจอแสดงผลจะมีการบอกข้อมูลสำคัญเช่น วันเวลา, การแจ้งเตือน, เปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ เป็นต้น นอกจากนี้ยังปรับแต่งแบบรูปแบบต่างๆ ได้หลากหลาย ไปเปิดใช้งานได้ที่ การตั้งค่า > จอแสดงผลแบบเปิดตลอด และหน้าจอล็อก
การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง
ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้
ความแตกต่างของ Xiaomi 13 Pro และ Xiaomi 13
สรุปราคา Xiaomi 13 Pro และ Xiaomi 13 ที่ขายในประเทศไทย
ในตอนนี้ทั้ง Xiaomi 13 Pro และ Xiaomi 13 มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดให้จองล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 1 - 10 มีนาคม 2566 พิเศษรับฟรีเฉพาะช่วงพรีออเดอร์ รับไปเลยสมาร์ทวอทช์ Xiaomi Watch S1 Pro มูลค่า 9,990 บาท และ Xiaomi Leica Premium Set มูลค่า 1,999 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 11,989 บาท ส่วนการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 มีนาคม 2566 หาซื้อได้ทาง Xiaomi Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่งประเทศ รวมไปถึงช่องทางร้านค้าออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม
ขอขอบคุณ : Xiaomi Thailand
แคตตาล็อกตัวเครื่อง : Xiaomi 13 Pro
https://www.siamphone.com/spec/xiaomi/13_pro.htm
จอ OLED 10-bit
1188 x 2790 พิกเซล
กล้องหน้า 16MP
Qualcomm Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core
Android 13
RAM 8 GB
ROM 256 GB
4,310 mAh
ชาร์จไว 33W
nubia Flip สมาร์ทโฟน หน้าจอ 6.9 นิ้ว Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core ราคา 19,990 บาท