แก็ดเจ็ต (Gadget) | วันที่ : 13 พฤษภาคม 2565
HUAWEI FreeBuds SE เป็นหูฟังไร้สาย TWS ในช่วงระดับเริ่มต้น แต่มีพร้อมด้วยคุณภาพแบบเต็มคำ ด้วยดีไซน์เล็กพกพาสะดวก และหูฟังใช้การสวมใส่แบบ Semi In-Ear ทำให้ใส่ได้สะดวกสบาย และรับเสียงได้อย่างสมดุล นอกนี้ยังมีไดรเวอร์เสียงขนาด 10 มิลลิเมตรการเชื่อมต่อไร้สายระบบ Bluetooth 5.2 และฟังก์ชั่นอื่นๆ ที่ตอบโจทย์การใช้งานแบบคุ้มราคา เพียง 1,899 บาท
ดีไซน์หูฟัง และตัวเคส
ตัวเคสของ HUAWEI FreeBuds SE เป็นรูปทรงวงรี ฐานแบน สามารวางบนที่เรียบได้ และมีฝาเปิดปิดทางด้านบน ส่วนผิวเป็นแบบมันเงา มีไฟแจ้งเตือนสถานะด้านหน้า และด้านหลังเป็นพอร์ต USB Type-C ด้านขนาดก็ถือว่าพกพาได้ถนัด ด้วยขนาดกะทัดรัดเพียง 27.5x35.5x70.0 มิลลิเมตร น้ำหนัก 40.7 กรัม (รวมหูฟัง)
ขณะที่ตัวหูฟัง HUAWEI FreeBuds SE จะเป็นแบบไร้สาย TWS แบ่ง 2 ข้างซ้ายขวา และเป็นหูฟังไร้สายแบบมีก้านยาวลงมา โดยก้านมีรูปทรงคล้ายๆ เมล็ดข้าว และผิวเป็นแบบมันเงาเหมือนกับตัวเคส ส่วนบริเวณที่สวมใส่ จะออกแบบดีไซน์แบบ Semi In-Ear มีจุกซิลิโคนเพื่อให้สวมใส่ได้สบาย แต่หากหลวม หรือแน่นเกินไป ในกล่องจะมีให้เปลี่ยนอีก 2 ขนาด รวมทั้งหมด 3 ขนาด
ประสบการณ์ใหม่กับ Semi In-Ear Design
การสวมใส่ของ HUAWEI FreeBuds SE ถือว่าพิเศษกว่าใคร ด้วยการดีไซน์แบบ Semi In-Ear ซึ่งมีส่วนลำโพงเข้าไปในหูฟังเล็กน้อย เพื่อเกิดความสมดุลทั้งด้านการสวมใส่ที่รู้สึกสบาย แต่ยังได้รับความบันเทิงจากเสียงอย่างเต็มที่ โดยแตกต่างจากดีไซน์แบบ Open-fit ที่ดูหลวมๆ และ In-Ear ที่ดูแน่นเกินไป
จากที่ได้ลองสวมใส่ ก็ถือว่าสวมใส่ได้ดีจริง ไม่แน่นจนเกินไป และลองสะบัดๆ หัวดู ตัวหูฟังก็ยังเกาะหูได้อย่างแน่น ไม่เหมือนจะหลุดออกจากหู ทั้งนี้ตัวจุกซิลิโคนยังมีแถมมาให้อีก 2 ขนาด รวมที่ใส่อยู่ก็เป็น 3 ขนาด หากใครที่ใส่ไปแล้วดูไม่สบายตัว ก็ลองเปลี่ยนใช้งานดูได้
การเชื่อมต่อไร้สาย ด้วยระบบ Bluetooth 5.2
การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ แทบไม่ต้องกังวล เนื่องจาก HUAWEI FreeBuds SE ใช้เทคโนโลยีเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.2 ช่วยให้เชื่อมต่อได้รวดเร็ว และเสถียรเป็นอย่างมาก
หากมีการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของ HUAWEI ที่รันบนระบบปฏิบัติการ EMUI 10 ขึ้นไป จะมีระบบ Pop-Open Instant Pairing ทำให้การเชื่อมต่อมีความรวดเร็วมากขึ้น เพียงทำการเปิดฝาเคส หน้าจอของสมาร์ทโฟนก็จะมีหน้าต่าง Pop-Up เด้งขึ้นมาให้เชื่อมต่อทันที และยังสามารถแสดงสถานะแบตเตอรี่ได้ทั้งตัวหูฟัง และตัวเคสอีกด้วย
**** เบื้องต้นจากที่ทดสอบยังใช้งานระบบ Pop-Open Instant Pairing ไม่ได้ อาจจะมีการอัปเดตจากทาง HUAWEI ในอนาคต
พลังไดรเวอร์ 10mm คุณภาพเสียงเกินราคา
มากันที่ไฮไล์เด่นของ HUAWEI FreeBuds SE ในเรื่องของพลังเสียง โดยภายในได้ใช้ไดรเวอร์ขนาด 10 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นไดรเวอร์ขนาดใหญ่หากเทียบกับราคาที่ได้มา และยังมีไดอะแฟรมโพลีเมอร์ความไวสูง สั่นส่งเสียงออกมาได้อย่างดีเยี่ยม
จากการทดสอบฟังเพลง ก็ถือว่าให้พลังเสียงที่ดีเยี่ยม ให้พลังเบสลูกใหญ่พอตัว ฟังได้กำลังดีไม่แน่นจนเกินไป เสียงแหลมก็ไม่บาดหู มีเวทีเสียงที่ไม่กว้างมาก และเสียงร้องที่ชัดเจน เพราะถูกเน้นเสียงออกแบบ 3 แชลแนล ซึ่งเอาจริงๆ ทาง HUAWEI เคลมไว้ว่า เหมาะกับฟังเพลงแนวป็อป แต่จากที่ได้ทดสอบแล้ว ก็สามารถใช้ฟังเพลงได้ทุกแนว
Audio & Noise Reduction ตัดเสียงรบกวนระหว่างคุยสาย
สามารถใช้ HUAWEI FreeBuds SE คุยสายโทนศัพท์ได้ เพราะบริเวณก้าน ภายในมีการติดตั้งไมโครโฟนมาด้วยข้างละตัว ที่สำคัญยังคุยสายในสภาพแวดล้อมเสียงดังได้ดี เพราะมีระบบ Audio & Noise Reduction ลดเสียงเพลง และตัดเสียงรบกวน เพื่อการสนทนาที่ชัดเจน จากที่ได้ทดสอบ ก็ถือว่าฟังเสียงคู่สายได้ดีขึ้น และเสียงที่พูดออกไปคู่สายก็ยังได้ยินชัดพอประมาณ
Smart wear detection ถอดก็หยุด ใส่ก็เล่นต่อ
ฟังก์ชั่น Smart wear detection ถือว่าหาไม่ได้ง่ายๆ กับคู่ฟังราคาเท่านี้ แต่สามารถหาได้จาก HUAWEI FreeBuds SE โดยฟังก์ชั่น Smart wear detection เป็นเซนเซอร์อินฟราเรต สามารถระบุได้ว่าหูฟังตอนนี้อยู่ในหู หรือถอดออกจากหูผู้ใช้ หากมีการถอดออกเพลงจะหยุดเล่นให้ทันที เมื่อนำกลับมาสวมใส่เพลงก็จะเล่นต่อ ที่สำคัญเซนเซอร์อินฟราเรตมีการตรวจจับที่เร็ว และฉลาดมากๆ ถอดปุ๊บเพลงก็หยุดทันที และเมื่อใส่เพลงก็เล่นต่อเนื่องได้เลย
สั่งการได้ด้วยการสัมผัส 2 ครั้งที่หูฟัง
ตัวข้างหูฟังของ HUAWEI FreeBuds SE ยังสนับสนุนการสั่งการด้วยการสัมผัส ซึ่งค่าเริ่มต้นจะเป็นการแตะ 2 ครั้ง เพื่อหยุด หรือเล่นเพลง สามารถใช้งานได้ทั้งคู่ฟังข้างซ้าย และขวา แต่การสั่งการตรงนี้สามารถปรับแต่งได้เอง และแยกการสั่งการฝั่งซ้ายกับขวาให้ไม่เหมือนกันได้ แต่ต้องเข้าไปปรับแต่งในแอพฯ HUAWEI AI Life
แบตเตอรี่ฟังเพลงติดต่อกันได้รวมถึง 24 ชั่วโมง
เรื่องของแบตเตอรี่จะสามารถฟังเพลงติดต่อกันได้ 6 ชั่วโมง หากรวมกับเคสก็จะเป็น 24 ชั่วโมง ส่วนการชาร์จก็ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงแบตเตอรี่ก็เต็มแล้ว และการชาร์จก็หาอุปกรณ์มาชาร์จได้ง่าย เพราะตัวเคสมีพอร์ตแบบ USB Type-C
แอพฯ HUAWEI AI Life
ภายในแอพฯ HUAWEI AI Life นอกจากไว้ตั้งค่าท่าทางการสัมผัส ยังสามารถดูสถานะแบตเตอรี่ของหูฟัง และตัวเคส รวมไปถึงการอัปเดต และเปิดปิดฟังก์ชั่น Smart wear detection
สรุปราคาของ HUAWEI FreeBuds SE
ก็เรียกว่าเป็นอีกหูฟังตัวคุ้ม ได้พลังเสียง และฟังก์ชั่นเกินราคา โดย HUAWEI FreeBuds SE จะมีให้เลือก 2 สีคือ สีเขียว และสีขาว สนนราคาเบาๆ เพียง 1,899 บาทเท่านั้น เตรียมเปิดให้พรีออเดอร์ในวันที่ 18 - 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 และวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 ทางช่องทางออนไลน์เท่านั้น
โปรโมชั่นช่วงพรีออเดอร์
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
วันที่ : 13 พฤษภาคม 2565
Sonos จัดเต็มส่งท้ายปีกับโปรโมชั่น 12.12 ให้คุณช้อปฟินด้วยส่วนลดสูงสุดกว่า 30%
เตรียมเปิดตัว HUAWEI MatePad 12 X แท็บเล็ตฟังก์ชันเรือธง ผสานการทำงานกับอุปกรณ์เสริมอย่างไร้รอยต่อ
DJI Mic Mini ไมโครโฟนไร้สายขนาดเล็กรุ่นใหม่ในตระกูล OsmoAudio
OPPO ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่แบบจัดเต็ม ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำสมัยพร้อมโปรโมชั่น
Xiaomi Store สาขาเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน จัดกิจกรรมและโปรโมชันพิเศษฉลองเปิดสาขา
เปิดตัว HUAWEI FreeBuds Pro 4! หูฟังไร้สายรุ่นแรกที่ใช้ HarmonyOS NEXT
iQOO 13 5G เจ้าของความแรง Snapdragon Elite 8 + RAM สูงสุด 16GB เคาะราคาในไทย 27,900 เท่านั้น
Redmi Watch 5 สมาร์ทวอทช์รุ่นแรกรันบน HyperOS 2 หน้าจอสี่เหลี่ยม AMOLED กว้าง 2.07 นิ้ว
HONOR X9c Smart สมาร์ทโฟนกล้องหลังคู่ 108MP ชิปเซ็ต Dimensity 7025-Ultra
Redmi ฉลอง 11 ปี ปล่อยโลโก้ใหม่! พร้อมเปิดตัว Redmi K80 เรือธงสเปคจัดเต็ม
เตรียมเปิดตัว HUAWEI MatePad 12 X แท็บเล็ตฟังก์ชันเรือธง ผสานการทำงานกับอุปกรณ์เสริมอย่างไร้รอยต่อ
iQOO Neo 10 Series สเปคเทพ กล้องสวย ดีไซน์โดนใจ เปิดตัว 29 พฤศจิกายนนี้