Lightyear 0 รถพลังงานแสงอาทิตย์คันแรกของโลกวิ่งนาน 7 เดือน ไม่ต้องชาร์จไฟเข้า

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้ากำลังมาแรง และจะมาเปลี่ยนอนาคต หมดยุคการใช้น้ำมันเร็วๆ นี้ เพราะต่างประเทศเองก็เริ่มหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า 100% แล้ว อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีและนวัตกรรมไม่มีหยุดยั้งพัฒนาอยู่แล้ว

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  Apple เปิดตัวคอลเลกชั่น Black Unity ปี 2025 การเฉลิมฉลองความหลากหลายและวัฒนธรรมชาวผิวดำ
• 
  Xiaomi YU7 รถไฟฟ้า SUV รุ่นใหม่ เตรียมเปิดตัวในช่วงเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม 2025

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่

ล่าสุดบริษัท Lightyear สตาร์ทอัพ EV สัญชาติเนเธอร์แลนด์ พัฒนารถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์ Lightyear 0 ที่วิ่งได้โดยไม่ต้องชาร์จไฟฟ้าเลย โดยในหนึ่งวัน เมื่อคุณใช้งานกลางแจ้ง หรือจอดกลางแจ้ง แผงโซล่าจะรับแสงอาทิตย์ พร้อมแปลงพลังงานชาร์จแบตเตอรี่ ทำให้วิ่งได้ไกลต่อเนื่องทุกทุกระยะ 70 กิโลเมตร ด้วยเหตุผลนี้ Lightyear เคลมว่าผู้ขับขี่ระยะทางสั้น ๆ อาจสามารถขับขี่ได้เกือบ 7 เดือน โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องเสียบปลั๊กชาร์จแต่อย่างใดเลย

แผงโซล่าเซลล์ลักษณะ Built-in ไม่ต้องติดตามเพิ่มเติม (ประกอบมาจากรถยนต์) ประกอบด้วยพื้นผิวฝากระโปรงหน้า หลังคา และแผงกระจกบานหลัง กินพื้นที่รวม 5 ตารางเมตร ส่วนตัวถังวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ แข็งแรงทนทาน แต่มีน้ำหนักเบา สำหรับมิติตัวรถยนต์ ขนาดยาว 5,083 มม. กว้าง 1,972 มม. และสูง 1,445 มม. น้ำหนัก 1,575 กก. ซึ่งถือว่าเบามากเมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์ประเภทอื่น

ภายในห้องโดยสาร Lightyear 0 รองรับผู้โดยสาร 5 ที่นั่ง ออกแบบทันสมัย แต่เรียบง่าย ใช้วัสดุไม่เบียดเบียนสัตว์ เพื่อความยั่งยืน เช่น หนังวีแกน (Vegan) ร่วมกับผ้าไมโครไฟเบอร์คุณภาพสูง รีไซเคิลได้ การประดับเป็นลายไม้จากต้นปาล์ม แผงควบคุมมีหน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว แบบทัชสกรีน

การขับเคลื่อนใช้พลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว กระจายแรงบิดสู่ล้อทั้ง 4 ได้อิสระ จ่ายไฟโดยแบตเตอรี่ขนาดความจุ 60 กิโลวัตต์-ชั่วโมง เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 10 วินาที ความเร็วสูงสุดทำได้ 160 กม./ชม. ระยะทางวิ่งคาดการณ์ 625 กม. ต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง (WLTP) ถ้าหากวิ่งด้วยความเร็วคงที่ 110 กม./ชม. จะวิ่งได้ไกล 560 กม.

รถยนต์ Lightyear 0 เตรียมเปิดให้ Test Drive เป็นครั้งแรกเดือนกรกฎาคม 2022 ส่วนการผลิตเพื่อเชิงพาณิชย์จะเริ่มในปีนี้ ช่วงเริ่มต้นจะผลิตรถยนต์เพียง 946 คันเท่านั้น ราคาประมาณ 263,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 9.2 ล้านบาท)