สมาร์ทโฟน (Smartphone)  |   วันที่ : 18 กุมภาพันธ์ 2565

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

ในยุคที่สมาร์ทโฟน 5G กำลังเฟื่องฟู เชื่อว่าหลายคนคงอยากสัมผัสกับประสบการณ์การใช้งานด้านต่างๆ ที่มีความเร็วสูงดูบ้าง จนทำให้ตลาดสมาร์ทโฟน 5G ในไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่หากจะแข่งกันที่ความเร็วเพียงอย่างเดียว อาจทำให้ขาดสุนทรีย์ของการใช้งานด้านอื่นๆ เช่น การถ่ายรูป ที่จะเข้ามาเติมเต็มความสนุกให้กับชีวิต ดังนั้น การมีสมาร์ทโฟน 5G ที่เร็วแรง ด้วยชิป MediaTek Dimensity 900 5G SoC ใน OPPO Reno7 5G และชิบ MediaTek Dimensity 1200-MAX ในรุ่น OPPO Reno7 Pro 5G แถมยังมาพร้อมกล้องถ่ายภาพพอร์ทเทรตที่ดีที่สุด จึงขึ้นแท่นเป็นเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่เราพร้อมจะแนะนำ ด้วยความปังหลายๆ สิ่ง ที่รวมอยู่ในสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นนี้นั่นเอง

OPPO เปิดตัวสมาร์ทโฟน 5G รุ่นใหม่ OPPO Reno7 5G และ OPPO Reno7 Pro 5G ที่มากด้วยความสามารถของกล้อง ด้วยจุดเด่นสุดปังในการถ่ายวิดีโอพอร์ทเทรตได้เสมือนกล้อง DSLR ละลายฉากหลังพร้อมสร้างดวงไฟโบเก้ที่สวยงาม เติมความโดดเด่นให้ภาพพอร์ตเทรตทั้งวิดีโอและภาพนิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหน ก็ถ่ายภาพดุจมืออาชีพ สมกับสโลแกน The Portrait Expert มีความเร็วแรงบนเครือข่าย 5G มอบประสบการณ์การใช้งานที่คุณอยากสัมผัสมานาน ทั้งยังมีดีไซน์ตัวเครื่องอันเป็นเอกลักษณ์ จัดเต็มด้วยสเปคคุณภาพ ในราคาสุดคุ้มที่จะทำให้คุณตกหลุมรัก และก้าวขึ้นแท่นตัวเลือกสมาร์ทโฟน 5G ที่ถ่ายวิดีโอพอร์ทเทรตได้ดีที่สุด

ถ่ายวิดีโอและภาพพอร์ตเทรตระดับมืออาชีพเสมือนกล้อง DSLR

ความโดดเด่นที่ทำให้ OPPO Reno7 5G และ OPPO Reno7 Pro 5G เป็นตัวเลือกสมาร์ทโฟน 5G ที่น่าสนใจที่สุดในตอนนี้ ก็คือการยกระดับฟีเจอร์การถ่ายพอร์ตเทรตอย่าง Bokeh Flare Portrait ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอให้เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เสมือนเอากล้อง DSLR มาไว้บนสมาร์ทโฟนกันเลยทีเดียว โดย OPPO Reno7 5G มาพร้อมกับ AI 3 กล้องหลัง ความคมชัดสูงถึง 64MP และกล้องหน้า ความละเอียด 32MP สำหรับกล้องของตัว Pro อย่าง OPPO Reno7 Pro 5G มาพร้อมกล้องพอร์ตเทรตระดับเรือธงที่ใช้ชิพ Sony Lens ทั้งกล้องหน้ากล้องหลัง กล้องหลังใช้ชิพ Sony IMX766 คมชัดสูงสุด 50MP ส่วนกล้องหน้าใช้ชิพ Sony IMX709 ความละเอียด 32MP ให้ภาพถ่ายที่คมชัดสมจริง อีกทั้งยังสามารถถ่ายภาพความละเอียดสูงถึง 108MP ได้อีกด้วย ช่วยให้ภาพที่ได้มีรายละเอียดสูง มอบความคมชัดเป็นพิเศษ เพื่อนำไปต่อยอดการใช้งานในระดับมืออาชีพได้ง่ายยิ่งขึ้น

 

Portrait Mode ที่เนียนเป็นธรรมชาติ เสมือนถ่ายด้วยกล้อง DSLR

สำหรับฟีเจอร์ Portrait Mode ใน OPPO Reno7 5G และ OPPO Reno7 Pro 5G ที่สามารถปรับระดับค่า F ได้ถึง 25 ระดับ ตั้งแต่ F0.95 - F16 เสมือนกล้อง DSLR ช่วยให้การถ่ายวิดีโอและภาพพอร์ตเทรตด้วยมือถือมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น เหมือนกับสโลแกทน The Portrait Expert ด้วยการที่สามารถปรับค่าระยะชัดลึกได้อย่างละเอียดขึ้น จึงเบลอฉากหลังได้ตามความต้องการ และเนียนเป็นธรรมชาติมากขึ้น

 

 

 

 

Bokeh Flare Portrait สร้างดวงไฟโบเก้สุดปัง

ด้วยกล้องความละเอียดสูงบน OPPO Reno7 5G และ OPPO Reno7 Pro 5G ที่ทำงานร่วมกับอัลกอริธึม AI แบบอัปเดต จึงช่วยมอบดวงไฟโบเก้อันสวยงามให้กับฉากด้านหลังได้สมบูรณ์แบบมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นขนาด สี ความสว่าง และระยะจุดกำเนิดแสงที่ต่างกัน ในขณะที่บุคคลในภาพยังคงความโดดเด่นและสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยการตรวจจับใบหน้า พื้นผิว และโทนสีของภาพ พร้อมมอบวิดีโอและภาพพอร์ตเทรตที่สร้างสรรค์อย่างมีเอกลักษณ์ให้กับคุณในทุกที่ทุกเวลา

 

 

ดีไซน์ฝาหลังฝนดาวตก ระยิบระยับจับตา

ในเรื่องดีไซน์ของ OPPO Reno7 5G และ OPPO Reno7 Pro 5G ก็ทำได้โดดเด่น ไม่แพ้ความสามารถของกล้องถ่ายพอร์ตเทรตเลย ด้วยตัวเครื่องอันบางเฉียบแบบ Ultra Slim Body ของทั้ง 2 รุ่น และความระยิบระยับที่สวยงามสะกดทุกสายตา มีการนำเทคโนโลยี Laser Direct Imaging (LDI) มาใช้บนฝาหลังของสี Startails Blue แกะสลักพื้นผิวให้เกิดลายเส้นที่สวยงาม เสมือนมีดาวตกนับล้านพาดผ่านบนตัวเครื่อง อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี OPPO Glow ให้ความระยิบระยับ พร้อมลดการเกิดรอยนิ้วมือบนตัวเครื่องได้ด้วย ซึ่งทั้ง OPPO Reno7 5G และ OPPO Reno7 Pro 5G มาพร้อม 2 เฉดสีที่สวยงาม ได้แก่

  • สี Startrails Blue สีสันที่ไม่หยุดนิ่ง เปลี่ยนเฉดสีไปตามมุมมองต่างๆ ที่โดนแสงตกกระทบ มอบเอฟเฟกต์ระยิบระยับเปล่งประกายดั่งสะเก็ดดาวนับล้านบนฝาหลังของโทรศัพท์

  • สี Starry Black ใน OPPO Reno7 5G และ สี Starlight Black ใน OPPO Reno7 Pro 5G แม้จะมีชื่อเรียกที่ต่างกัน แต่ความสวยงามเรียกว่ากินกันไม่ลง ด้วยเกรเดียนท์ที่ไล่ระดับระหว่างดำกับน้ำเงินได้อย่างลงตัว ดั่งดวงดาวที่เคลื่อนไหวไปมา มีความระยิบระยับเล็กๆ สวยหรูพรีเมี่ยม เหมาะกับคนที่ต้องการความเรียบแต่หรู เข้ากันได้กับทุกสไตล์

นอกจากนี้ OPPO Reno7 Pro 5G ยังเติมความพิเศษด้วย Orbit Breathing Light แสงแบบ “breathing” รูปแบบวงกลม 3 มิติ ที่ล้อมรอบอยู่บริเวณกล้องบนฝาหลังของโทรศัพท์ โดยจะทำการเปล่งแสงเมื่อมีสายเรียกเข้า, แจ้งเตือน หรือระหว่างทำการการชาร์จ ให้ดีไซน์เหนือระดับยิ่งขึ้น

สเปคที่จัดเต็ม เพื่อการใช้งานรอบด้าน

OPPO Reno7 5G มาพร้อมจอ AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว และ OPPO Reno7 Pro 5G มาพร้อมจอ AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว รองรับ 90Hz Refresh Rate ตอบสนองต่อการสัมผัสไวด้วย 180Hz Touch Sampling Rate ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5 ที่แข็งแกร่ง จอกว้างมองเห็นได้คมชัดทุกคอนเทนต์

 

ทางด้านชิปเซ็ต OPPO Reno7 5G เลือกใช้ MediaTek Dimensity 900 5G SoC และในรุ่น OPPO Reno7 Pro 5G ใช้ชิปเช็ต MediaTek Dimensity 1200-MAX รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 5G และ Wi-Fi 6 เพื่อการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว รันบนระบบปฏิบัติการ ColorOS 12

ซึ่ง OPPO Reno7 5G มาพร้อมกับ RAM 8GB และ ROM 256GB มีเทคโนโลยี RAM Expansion โดยจะปรับเปลี่ยน ROM บางส่วนที่มีอยู่ในตัวเครื่องให้เป็น RAM เสมือน ได้ตามความต้องการ 2GB, 3GB หรือ 5GB เพื่อให้ไม่เกินความจำเป็นต่อความต้องการ และเพียงพอต่อความต้องการใช้งาน ส่วนใน OPPO Reno7 Pro 5G มาพร้อม RAM 12GB และ ROM 256GB อีกทั้งมีเทคโนโลยี RAM Expansion มากที่สุด 7GB มาด้วยเช่นกัน ทำให้การใช้งานลื่นไหล เล่นเกมได้เร็วแรง เปิดปิดสลับแอปพลิเคชั่นได้ไม่มีกระตุก

ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ความจุ 4,500mAh มีเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W SUPERVOOC สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ 100% ในเวลาเพียง 31 นาทีเท่านั้น มอบความสะดวกรวดเร็วให้กับผู้ใช้งาน

 

ราคาวางจำหน่าย

OPPO Reno7 5G ราคา 16,990 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีฟ้า Startrails Blue และสีดำ Starry Black ส่วน OPPO Reno7 Pro 5G ราคา 22,990 บาท มี ให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีฟ้า Startrails Blue และสีดำ Starlight Black ผู้ที่สนใจสามารถจองได้แล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 18 กุมภาพันธ์ พร้อมรับโปรโมชั่นและเซ็ตของพรีเมี่ยม

  • สำหรับผู้ที่จอง OPPO Reno7 5G รับฟรี OPPO Enco Buds และ E-VIP Card ประกันหน้าจอแตก มูลค่ารวม 6,999 บาท
  • สำหรับผู้ที่จอง OPPO Reno7 Pro 5G รับฟรี OPPO Enco Air2 รุ่นใหม่ล่าสุดที่จะเปิดตัวเร็วๆ นี้ และ E-VIP Card ประกันหน้าจอแตก มูลค่ารวม 10,499 บาท 

และพิเศษเมื่อจองผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย จะได้ราคาเริ่มต้นเพียง 6,990 บาท เป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ ณ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดตามต่อได้ที่ https://bit.ly/3LIHisL และ https://bit.ly/358s8ft

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่