รีวิว SHURE AONIC FREE หูหังไร้สายสุดเท่ เบสหนักแต่นุ่มนวลไม่แหลม ฟังเพลงอะไรก็เพลิน

หากใครกำลังมองหาหูฟังไร้สายที่จะทำให้คุณได้รับประสบการณ์ฟังอะไรก็เพลินในราคาไม่ถึงหมื่น กับแบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้านคุณภาพเสียงมาอย่างยาวนานอย่าง SHURE ละก็ ขอแนะนำเลยหูฟังไร้สาย Shure Aonic Free หูฟังไร้สายสุดเท่ มาพร้อมจุดเด่น คุณภาพเสียงระดับสตูดิโอเต็มทุกมิติเสียง ตัดเสียงรบกวนได้เงียบสนิม ให้โทนเบสที่นุ่มลึก นุ่มนวล ไม่แหลม เสียง เคลียร์ ทั้งยังเลือกปรับแต่ง EQ ผ่านแอป Shure Plus PLAY ได้ด้วย เพื่อให้เลือกรูปแบบเสียงได้ตรงกับโทนดนตรี ดาวน์โหลดผ่าน iOS และ Android โดยหูฟังฟังเพลงนานประมาณ 7 ชั่วโมง หากรวมเคสแล้ว ก็เพิ่มระยะเวลาการฟังเป็น 21 ชั่วโมง เรียกได้ว่าชาร์จหนึ่งครั้งอยู่นานเกือบหมดวันเลย ถือว่าน่าสนใจมากๆ

Shure Aonic Free สำหรับระบบตัดเสียงรบกวน ไม่ได้มีแค่ไมโครโฟนเท่านั้น ความพิเศษ คือ มีเทคโนโลยี Sound Isolating เมื่อคุณเปิดโหมดตัดเสียงรบกวนนี้ ไมโครโฟนจะทำหน้าที่ควบคู่กับเทคโนโลยีดังกล่าว สามารถตัดเสียงรบกวนได้เงียบสนิท ไม่มีการรบกวนจากโลกภายนอกเลย

ส่วนอีกไฮไลท์คือการออกแบบหูฟังที่เป็นลักษณะสอดเข้าไปในช่องหู พร้อมกับจุกหูฟังโฟมคุณภาพสูง มีลักษณะนุ่ม สวมใส่สบาย ไม่ระคายเคืองและทำให้เป็นอันตรายต่อช่องหู ด้วยการดีไซน์ควบคู่กับวัสดุ ทำให้ช่วยลดเสียงภายนอกได้มากถึง 37 เดซิเบล ในทางกลับกันเมื่อเปิดได้ยินเสียงรอบข้างก็จะมีโหมด Environment Mode ให้คุณได้ยินเสียงภายนอก รวมถึงเสียงของคู่สนทนาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

สำหรับเคสและหูฟัง ผลิตจากวัสดุทนทาน ใช้งานได้ทุกสถานการณ์ แม้โดนน้ำกระเด็น หรือหูฟังจะเปื้อนเหงื่อก็ยังใช้งานได้ ดังนั้นจึงเหมาะเป็นเพื่อนคุณทุกไลฟ์สไตล์ประจำวัน โดยหูฟังจะมีจุกหูฟัง 3 ขนาดในกล่อง ได้แก่ S/M/L

แต่จุดที่น่าเสียดาย คือ หูฟัง ไม่สามารถควบคุมด้วยการแตะ หรือสัมผัสได้ ต้องกดผ่านปุ่มกดอย่างเดียว แต่ปุ่มหูฟังแต่ละข้าง ค่อนข้างใหญ่ จึงกดง่ายพอสมควร

ปุ่มควมคุมก็แล้วแต่ตามตั้งค่า ไม่ว่าจะเป็น การควบคุมการโทร, การเล่นเพลง, หยุดเพลง, เล่นเพลงถัดไป, เล่นเพลงย้อนหลัง รวมถึงเพิ่มเสียง/ลดเสียง

การควบคุมทำได้โดย (โหมดโทร)

• กด 1 ครั้ง : เมื่อมีสายเรียกเข้า ถ้ากดจะรับสาย
• กด 1 ครั้ง : เมื่อสนทนาเสร็จ กดแล้วจะวางสาย
• กดค้าง 2 วินาที : ตัดสายเรียกเข้า
• กด 2 ครั้ง ติดต่อกัน : เปิดโหมด ENVIRONMENT
• กด 3 ครั้ง ติดต่อกัน : ปิดไมค์/เปิดไมค์

การควบคุมทำได้โดย (โหมดใช้งานเสียง)

• กดหนึ่งครั้ง และกดค้าง ที่หูฟังด้านซ้าย จะเป็นการลดเสียง
• กดหนึ่งครั้ง และกดค้าง ที่หูฟังด้านขวา จะเป็นการเพิ่มเสียง
• กดหนึ่งครั้ง : เล่นเพลง/หยุดเพลง
• กด 2 ครั้ง ติดต่อกัน : เปิดโหมด ENVIRONMENT
• กด 3 ครั้ง ติดต่อกัน : เรียกใช้งานคำสั่งเสียง

การเชื่อมต่อก็ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่าน Bluetooth 5.0 รองรับการเชื่อมต่อลื่น ไม่หน่วง ในรัศมีการใช้งาน 10 เมตร รองรับมัลติโค้ด Qualcomm aptXTM, AAC และ SBC นั่นหมายความว่าเสียงของคุณจะอยู่ในระดับ Hi-Res ใช้งานร่วมกับไฟล์เสียงคุณภาพสูงได้

การเชื่อมต่อ

• กดค้าง 2 วินาที : เปิดการใช้งานหูฟัง
• กดค้าง 4 วินาที : ปิดการใช้งานหูฟัง
• กดค้าง 5 วินาที หลังจากปิดใช้งานหูฟัง : เปิดโหมดจับคู่การเชื่อมต่ออุปกรณ์ ผ่าน Bluetooth

สำหรับเคสของหูฟังใช้งานง่าย ดีไซน์โค้งมน แต่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ฝาหูฟังจะไม่มีแม่เหล็ก เปิดปิดเอาได้เลย ซึ่งด้านหน้าเคสมีไฟ LED แสดงสัญลักษณ์ เช่น กำลังชาร์จแบตฯ หูฟัง เป็นต้น

ช่องเสียบชาร์จแบตเตอรี่จะอยู่ด้านหน้าเคส ผ่านพอร์ต USB Type-C หากเสียบสายชาร์จ กำลังชาร์จอยู่จะแสดงจุดไฟ LED สีส้ม

ไฮไลท์น่าสนใจเพิ่มเติมคือ การใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชั่น Shure Plus PLAY เพื่อปรับแต่ง EQ ของเสียง รวมถึงตั้งค่าควบคุมการใช้งานหูฟัง ที่สำคัญเลยคือการอัปเดตเฟิร์มแวร์ต่าง ๆ นั่นก็เพื่อให้หูฟังของคุณล่าสุดอยู่เสมอ

อุปกรณ์ภายในกล่อง Shure Aonic Free

• หูฟังไร้สาย
• กล่องเคส
• สายชาร์จ USB-C
• Form Sleeve 3 ขนาด S/M/L
• คู่มือการใช้งาน
• ใบรับประกันสินค้า

Shure Aonic Free วางจำหน่ายแล้วที่ร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ ในราคา 8,990 บาท พร้อมให้คุณใช้งานได้มั่นใจมากยิ่งขึ้นด้วยการรับประกัน 2 ปี ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท มหาจักรดีเวลอปเมนท์ จำกัด หรือ www.mahajak.com

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  ชาว POCO F7 Ultra กรี๊ด! HyperOS 3 บน Android 16 มาแล้ว UI ใหม่ สวยลื่นกว่าเดิม
• 
  สัมผัสประสบการณ์เสียง Audiophile แบบไร้ขีดจำกัด ด้วยหูฟัง HDB 630 รุ่นใหม่

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่