รีวิวแท็บเล็ต Apple iPad 10.2 (2021) - แอปเปิ้ล

ก็มาถึงคิวแท็บเล็ตบ้างหลังจากปล่อยให้ iPhone 13 Series ได้โชว์ตัวไปก่อนหน้า โดยเป็น iPad 10.2 (2021) ซึ่งดูจากรูปร่างหน้าตาแล้ว ดูไม่ค่อยมีอะไรตื่นเต้นซักเท่าไหร่ ซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริงๆ โดยมีการอัปเกรดจากรุ่นปีก่อนด้วยการใช้ชิปเซ็ตที่แรงขึ้นเป็น A13 Bionic รันบนระบบปฏิบัติการ iPadOS 15 และยกเครื่องกล้องหน้าใหม่ ใช้เป็นเลนส์ Ultra-Wide เพิ่มความละเอียดเป็น 12MP พร้อมรองรับฟังก์ชั่นใหม่อย่าง Center Stage หรือชื่อภาษาไทยคือ จัดให้อยู่ตรงกลาง ทั้งนี้ยังคงรองรับ Apple Pencil รุ่นที่ 1 ตามเดิม และความจุเริ่มต้นที่ 64GB ในราคาเริ่มต้นที่ 11,400 บาท

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

ตัวเครื่องของ iPad 10.2 (2021) ยังมีขนาดเท่าเดิมคือ 250.6x174.1x7.5 มิลลิเมตร และน้ำหนักจะแบ่งเป็นตามรุ่นคือ รุ่น Wi-Fi มีน้ำหนัก 487 กรัม และรุ่น Wi-Fi + Cellular มีน้ำหนัก 498 กรัม

หน้าจอแสดงผล Retina Display พาแนล IPS-LCD กว้าง 10.2 นิ้ว ความละเอียด 2160x1620 พิกเซล

เหนือหน้าจอแสดงผล มีกล้องหน้า Ultra-Wide ความละเอียด 12MP รองรับการใช้งานฟังก์ชั่น Center Stage

ล่างหน้าจอแสดงผล จะพบกับปุ่มโฮมเป็นทรงกลม กดค้างเพื่อเรียกใช้งาน Siri และยังเป็นที่สแกนลายนิ้วมืออย่าง Touch ID อีกด้วย

ข้างซ้ายตัวเครื่อง มีแถบแม่เหล็กเป็นวงกลม 3 อัน ซึ่งตรงที่เป็นที่ติดกับอุปกรณ์เคส

ข้างขวาตัวเครื่อง 2 ปุ่มด้านบนเป็นปุ่มเพิ่มเสียง และลดเสียง ส่วนด้านล่างเป็นช่องใส่ถาดซิมการ์ดโดยถาดจะรองรับ Nano SIM 1 ช่อง (ช่องใส่ซิมการ์ดจะมีเฉพาะรุ่น Wi-Fi + Cellular)

ส่วนบนตัวเครื่อง ทางซ้ายสุดเป็นช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ถัดมาตรงกลางเป็นรูไมโครโฟน และขวาสุดเป็นปุ่มเพาเวอร์

ส่วนใต้ตัวเครื่อง ตรงกลางเป็นพอร์ต USB Lightning และ 2 ฝั่งซ้ายขวาเป็นลำโพงเสียง

พลิกมาที่ฝาหลัง มุมบนซ้ายเป็นกล้องหลัง ความละเอียด 8MP (ไม่มีไฟแฟลช) ถัดมาตรงกลางบนแผ่นสีดำๆ จะมีไมโครโฟนอีก 1 ตัว ส่วนตรงกลางฝาหลังมีโลโก้ Apple แปะอยู่ และล่างสุดมีข้อความเขียนว่า iPad

 

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • ตัวเครื่อง iPad 10.2 (2021)
  • อะแดปเตอร์พอร์ต Type-C จ่ายไฟสูงสุด 20W
  • สาย USB Type-C To Lightning
  • เข็มนำถาดซิมออก
  • สติ๊กเกอร์ Apple 2 อัน
  • คู่มือการใช้งาน และใบรับประกัน

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

สเปคของ iPad 10.2 (2021)

  • ขนาดตัวเครื่อง : 250.6x174.1x7.5 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : รุ่น Wi-Fi น้ำหนัก 487 กรัม, รุ่น Wi-Fi + Cellular น้ำหนัก 498 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล : Retina Display พาแนล IPS-LCD กว้าง 10.2 นิ้ว ความละเอียด 2160x1620 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซล 264ppi ปรับความสว่างได้สูงสุด 500nits
  • ชิปเซ็ต : A13 Bionic
  • ที่เก็บข้อมูลภายใน : 64GB, 256GB
  • ระบบปฏิบัติการ : iPadOS 15
  • กล้องหลัง ความละเอียด 8MP รูรับแสง f/2.4
  • กล้องหน้า Ultra-Wide ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/2.4
  • เครือข่าย : 4G รองรับ Nano SIM 1 ช่อง และ eSIM (เฉพาะรุ่น Wi-Fi + Cellular)
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 2.4/5GHz, Bluetooth 4.2, GPS/GNSS, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ต USB Lightning
  • ระบบความปลอดภัย : TouchID
  • ระบบเสียง : ลำโพงคู่ Stereo และไมโครโฟน 2 ตัว
  • รองรับ Apple Pencil รุ่นที่ 1
  • แบตเตอรี่ : สนับสนุนการชาร์จเร็ว 20W

ตัวเลือกที่เก็บข้อมูลภายใน
พื้นที่เก็บข้อมูลภายในของ iPad 10.2 (2021) มีการขยับขั้นต่ำสุดให้เป็น 64GB ทำให้เก็บข้อมูลได้มากขึ้น แต่ iPad 10.2 (2021) ที่ทางเราได้มารีวิวเป็นรุ่น 256GB ซึ่งจากการเปิดเครื่องครั้งแรก ระบบมีการกินพื้นที่ไป 14.5GB ทำให้เหลือพื้นที่ใช้งานจริงๆ ประมาณ 241.5GB

ระบบปฏิบัติการ
iPad 10.2 (2021) จะรันระบบปฏิบัติการ iPadOS 15 ทันทีตั้งแต่แกะกล่อง และล่าสุดในวันที่รีวิวมีการอัปเดตเป็น iPadOS 15.1 แล้วด้วย

หน้าจอหลัก
หน้าจอหลักยังเป็นรูปแบบเดิมๆ เหมือนกับ iPhone และ iPad รุ่นใหม่ๆ โดยใช้ไอคอนแอพพลิเคชั่นต่างๆ เป็นสี่เหลี่ยมขอบมน สามารถรวมแอพฯ ในโฟลเดอร์ได้ มีถาด Dock ด้านล่าง และเมื่อปัดไปขวาสุดจะเป็นคลังแอพพลิเคชั่นทั้งหมดในเครื่อง นอกจากนี้ยังสามารถดูการแจ้งเตือนได้ด้วยการปัดหน้าจอด้านบนทางขวาลง และเปิดแผง Control Center ด้วยการปัดหน้าจอบนขวาลง

ภาพพื้นหลัง หรือ Wallpaper
ในการปรับเปลี่ยน Wallpaper สามารถเข้าไปที่ การตั้งค่า > ภาพพื้นหลัง ซึ่งในนั้นมีทั้งภาพแบบเคลื่อนไหว หรือภาพนิ่ง โดยในนั้นจะมีรูปแบบใหม่ๆ ให้เลือก ที่สำคัญภาพนิ่งจะมีการเปลี่ยนตาม โหมดมืด หรือโหมดสว่างให้ด้วย

Widget
แน่นอนว่า iPad 10.2 (2021) ที่เป็นระบบปฏิบัติการ iPadOS 15 จะมาพร้อมการเพิ่ม Widget ในหน้าจอหลัก ซึ่งก็มีเลือกให้เพิ่ม และปรับแต่งมากมาย โดยการเพิ่ม Widget ให้กดค้างในพื้นที่วางบนหน้าจอหลัก จากนั้นกดเครื่องหมาย + ทางมุมบนซ้าย

ถาด Dock
ถาด Dock จะอยู่ทางด้านล่างในหน้าจอหลัก หรือจะเรียกใช้งานเมื่ออยู่ในแอพฯ อื่นๆ ก็ได้ ด้วยการค่อยๆ เลื่อนหน้าจอทางด้านล่างขึ้น ในถาด Dock จะมีแอพฯ ที่เลือกใช้งานบ่อยๆ (สามารถปรับเปลี่ยนได้) และทางขวาเป็นแอพฯ ที่ใช้งานล่าสุด

Split Screen หรือการแบ่งหน้าจอ
การแบ่งหน้าจอจะต้องใช้ถาด Dock ช่วย เมื่อการเปิดใช้งานอยู่แล้ว 1 แอพพลิเคชั่น จากนั้นให้เปิดถาด Dock ขึ้นมา และลากแอพฯ ในนั้นออกจาก Dock ก็จะเป็นการแบ่งหน้าจอ โดยสามารถแบ่งได้สูงสุด 2 หน้า ซึ่งมีให้เลือกเป็น 2 ฝั่งซ้ายขวา หรือ 1 หน้าจอเป็นหน้าจอ Pop-Up

โหมดมืด
โหมดมืด จะเป็นการเปลี่ยนธีมเป็นสีดำ และใช้ตัวหนังสือสีขาว เพื่อการใช้งานที่สบายตามากขึ้นในการใช้งานในที่แสงน้อย แต่ต้องเป็นแอพพลิเคชั่นที่รองรับเท่านั้น โดยเข้าไปเปลี่ยนโหมดมืดได้ที่ การตั้งค่า > จอภาพและความสว่าง

การใช้งาน True Tone
iPad 10.2 (2021) มีการรองรับการใช้งานฟังก์ชั่น True Tone ซึ่งหน้าจอจะปรับแสง และลดแสงสีฟ้าออก ให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมที่ใช้งานในขณะนั้นแบบอัตโนมัติ ช่วยในการใช้งานผ่านหน้าจอได้สบายตามากขึ้น

Memoji
การสร้าง Memoji ยังสามารถสร้างได้ในแอพฯ ข้อความ โดยยังสามารถปรับแต่งรูปร่างหน้าตาได้ตามใจชอบ และมีการใส่เสื้อผ้าเพิ่มเข้ามาด้วย

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง

  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพตัวเครื่องด้วย AnTuTu Benchmark v9.0.4 ได้ 641,754 คะแนน
  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย 3DMark Wild Life Extreme ได้ 2,128 คะแนน
  • ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

หน้าจอแสดงผล Retina Display 10.2 นิ้ว
iPad 10.2 (2021) ก็ยังมาพร้อมหน้าจอกว้าง 10.2 นิ้ว ตามชื่อรุ่น โดยใช้พาแนล IPS-LCD ซึ่งเหมาะกับการใช้งานทั่วไป รวมไปถึงงานกราฟฟิก และตัดต่อวิดีโอ ที่จะให้แสงสีที่สมจริง ไม่ฉูดฉาดจนเกินไป นอกจากยังมีความละเอียดสูงถึง 2160x1620 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซล 264ppi ปรับความสว่างได้สูงสุด 500nits และยังรองรับการใช้งาน True Tone กรองแสงสีฟ้า กับความสว่าง ให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมที่กำลังใช้งาน

ชิปเซ็ต A13 Bionic
A13 Bionic จะเป็นชิปเซ็ตที่ขับเคลื่อนความแรงให้กับ iPad 10.2 (2021) โดยมีความแรงกว่ารุ่นที่แล้วถึง 20% ทั้งด้านการประมวลผล ประมวลกราฟฟิก และ Neural Engine ที่ฉลาดมากขึ้น ซึ่งสามารถทำงานได้รวดเร็วไม่ว่าจะเป็น การใช้งานทั่วไป การเล่นเกม หรือแม้แต่ตัดต่อวิดีโอ

ทดสอบการเล่นเกม
แม้ว่า iPad 10.2 (2021) จะไม่ได้ใช้งานชิปเซ็ตตัวแรงสุดในปี 2021 อย่าง A15 Bionic และได้ใช้ชิปเซ็ตรุ่นเก่าไปก่อนหน้า 2 ปี แต่เอาจริงๆ A13 Bionic ก็ยังเป็นชิปเซ็ตที่รุนแรงทรงประสิทธิภาพแม้ว่าจะเป็นชิปเซ็ตรุ่นเก่าก็ตาม โดยสามารถใช้เล่นเกมบนกราฟฟิกระดับสูงๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม ขนาดเกมปราบเซียนอย่าง Genshin Impact ก็ยังเอาอยู่

  • Genshin Impact : เกมนี้ค่อนข้างต้องการทรัพยากรสเปคที่มากพอสมควร แต่การนำมาเล่นบน iPad 10.2 (2021) ก็สามารถเล่นบนกราฟฟิกระดับสูงสุดได้ พร้อมดันเฟรมเรตไปถึงระดับ 60fps แต่พอเล่นไปนานๆ อาจเกิดความร้อนสะสม ก็แนะนำว่าอย่าปรับสูงจนเกินไป ให้ปรับต่ำ และ 60fps จะดีกว่า

  • PUBG Mobile : ในเกม PUBG Mobile เรียกว่าเล่นได้แบบไร้ปัญหา และสามารถเล่นบนกราฟฟิกสูงสุดที่ Ultra HD พร้อมเฟรมเรตระดับ Ultra เรียกว่าได้ทั้งภาพสวย และความไหลลื่นเป็นอย่างมาก

TouchID
iPad 10.2 (2021) ยังคงมาพร้อมระบบความปลอดภัยอย่าง TouchID หรือการสแกนลายนิ้วมือ โดยที่สแกนลายนิ้วมือจะอยู่ที่ปุ่ม Home ซึ่งมีการทำงานที่รวดเร็ว สแกนปุ๊บก็เข้ามาหน้าจอหลักทันที

รองรับปากกา Apple Pencil รุ่นที่ 1
iPad 10.2 (2021) จะสนับสนุนการใช้งานร่วมกับ Apple Pencil รุ่นที่ 1 ซึ่งจากที่ทดสอบใช้งานก็ยังให้ความรู้ดี เหมือนจับปากกาดินสอจริงๆ นอกจากนี้ยังสนับสนุนฟังก์ชั่น ขีดเขียนข้อความ ทำให้เขียนคำลงไปช่องข้อความ ระบบจะมีการเปลี่ยนเป็นข้อความตัวพิมพ์ให้ทันที นอกจากนี้ยังมีระบบลบ เลือก แทรก เชื่อมกัน เพื่อสะดวกต่อการเขียนข้อความอีกด้วย สามารถไปเรียนรู้การใช้งานเพิ่มเติมได้ที่ การตั้งค่า > Apple Pencil > ลองขีดเขียนข้อความ (เบื้องต้นยังรองรับเฉพาะภาษาอังกฤษเท่านั้น)

 

ใช้งานกับ Smart Keyboard เพื่อความสะดวกในการพิมพ์
ใช้งานร่วมกับ Smart Keyboard เพื่อเปลี่ยน iPad 10.2 (2021) เป็นเครื่องโน็ตบุ๊คย่อมๆ ช่วยในการพิมพ์งานได้อย่างสะดวก ที่สำคัญยังมีน้ำหนักเบาดูไม่เทอะทะ

แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ของ iPad 10.2 (2021) ไม่ได้ระบุขนาดมา แต่จากที่ใช้งานพื้นฐานทั่วไปแบตเตอรี่ก็มีความอึดพอสมควร น่าจะเพียงพอต่อการใช้งานในหนึ่งวัน ทั้งนี้ยังรองรับการชาร์จเร็ว 20W ผ่านสาย โดยจากที่ทดสอบใช้งานชาร์จแบตเตอรี่ที่ 31%ใช้เวลาในการชาร์จหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ก็ได้แบตเตอรี่มาเป็น 90%

การใช้งานกล้องถ่ายรูป
กล้องถ่ายรูปของ iPad 10.2 (2021) ยังคงมีกล้องหลังเลนส์เดียว ความละเอียด 8MP แต่สิ่งที่ยกเครื่องใหม่คือกล้องหน้า เพราะเปลี่ยนมาใช้เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 12MP และยังรองรับการใช้งานฟังก์ชั่นใหม่อย่าง Center Stage

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง
กล้องหลังความละเอียดจะอยู่ที่ 8MP และไม่ได้มีโหมดอะไรพิเศษมาก ซึ่งการถ่ายภาพก็ยังดูปกติไม่ได้หวือหวาอะไรเท่าไหร่ ซึ่งความโดดเด่นจริงๆ จะอยู่ที่การใช้งานจากกล้องหน้ามากกว่า

 

 

 

กล้องหน้า Ultra-Wide ความละเอียด 12MP
ในส่วนกล้องหน้าถือว่ายกเครื่องมาใหม่เลย โดยให้เป็นกล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 12MP จากเดิมรุ่นที่แล้วเป็นเลนส์ธรรมดา และมีความละเอียดเพียง 1.2MP เท่านั้น แน่นอนว่าการเซลฟี่จะดูดีขึ้น แถมยังใช้โหมดมุมกว้างได้ด้วย

 

ระบบ Center Stage หรือ จัดให้อยู่ตรงกลาง
การใช้งาน Center Stage จะเป็นการใช้งานผ่านวิดีโอคอล ซึ่งกล้องหน้าจะมีการปรับตำแหน่งให้คนที่กำลังถูกถ่าย หรือตัวเราเองอยู่ในเฟรมตลอดเวลา โดยกล้องจะมีการโยกไปมาให้แบบอัตโนมัติ แบบไม่ต้องไปสัมผัสตัวเครื่องเลย เบื้องต้นสามารถใช้ฟังก์ชั่น Center Stage บนแอพพลิเคชั่นอื่นได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น Line หรือ Zoom และแน่นอนว่า Facetime จาก Apple ก็ใช้งานได้แน่นอน

Apple

ข้อมูลผู้ใช้ร่วมแสดงความเห็นกับ : iPad 10.2 (2021)
https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=465441

แคตตาล็อกตัวเครื่อง : https://www.siamphone.com/spec/apple/ipad_10.2_(2021).htm

ตัวอย่างภาพจากกล้อง Sample & Photo

ข้อมูลสเปคSpecification

5G

หน้าจอ

10.2 นิ้ว
จอ Retina Display 1620x2160 Pixels

กล้องหลัง

8 MP

กล้องหน้า 12MP

หน่วยประมวลผล

Apple A13 Bionic Hexa Core ความเร็ว 2.65 GHz

ระบบปฏิบัติการ

iPad OS 15

หน่วยความจำ

แบตเตอรี่

iPad 10.2 (2021) สมาร์ทโฟน หน้าจอ 10.2 นิ้ว
จอ Retina Display 1620x2160 Pixels Apple A13 Bionic Hexa Core ความเร็ว 2.65 GHz ราคา 11,400 บาท

ฟังก์ชั่นรายละเอียด
หน้าจอ10.2 นิ้ว
จอ Retina Display 1620x2160 Pixels
ระบบปฏิบัติการiPad OS 15
หน่วยประมวลผล Apple A13 Bionic Hexa Core ความเร็ว 2.65 GHz
กล้องหลัง8 MP
กล้องหน้า12MP
หน่วยความจำ
ซิมการ์ด Nano-SIM ไม่สามารถโทรออกได้
ระบบเชื่อมต่อWIFI802.11 a/b/g/n/ac WIFIHotspot Bluetooth4.2
แบตเตอรี่

รุ่นใกล้เคียงRecommend

nubia Neo 3 GT

  • หน้าจอ : 6.8″ AMOLED 1080x2392 Pixels
  • ระบบปฏิบัติการ : One UI 3.5 based on Android 11
  • หน่วยประมวลผล : Unisoc T9100 Octa Core ความเร็ว 2.7 GHz
  • กล้องหลัง : 50 MP
  • กล้องหน้า : 16MP
  • หน่วยความจำ : RAM 12 GB | ROM 256 GB
  • แบตเตอรี่ : 6000mAh (Standard Battery) ชาร์จเร็ว

realme 14 5G

  • หน้าจอ : 6.67″ AMOLED 1080x2400 Pixels
  • ระบบปฏิบัติการ : One UI 3.5 based on Android 11
  • หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 6 Gen 4 Octa Core ความเร็ว 2.3 GHz
  • กล้องหลัง : 50 MP
  • กล้องหน้า : 16MP
  • หน่วยความจำ : RAM 12 GB | ROM 256/512 GB
  • แบตเตอรี่ : 6000mAh (Standard Battery) ชาร์จเร็ว

Samsung Galaxy A26

  • หน้าจอ : 6.7″ Super AMOLED 1080x2340 Pixels
  • ระบบปฏิบัติการ : One UI 3.5 based on Android 11
  • หน่วยประมวลผล : Exynos 1380 Octa Core ความเร็ว 2.4 GHz
  • กล้องหลัง : 50 MP
  • กล้องหน้า : 13MP
  • หน่วยความจำ : RAM 8 GB | ROM 256 GB
  • แบตเตอรี่ : 5000mAh (Standard Battery) ชาร์จเร็ว

Samsung Galaxy A56

  • หน้าจอ : 6.7″ Super AMOLED 1080x2340 Pixels
  • ระบบปฏิบัติการ : One UI 3.5 based on Android 11
  • หน่วยประมวลผล : Exynos 1580 Octa Core ความเร็ว 2.9 GHz
  • กล้องหลัง : 50 MP
  • กล้องหน้า : 12MP
  • หน่วยความจำ : RAM 12 GB | ROM 256 GB
  • แบตเตอรี่ : 5000mAh (Standard Battery) ชาร์จเร็ว

Samsung Galaxy A36

  • หน้าจอ : 6.7″ Super AMOLED 1080x2340 Pixels
  • ระบบปฏิบัติการ : One UI 3.5 based on Android 11
  • หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 6 Gen 3 Octa Core ความเร็ว 2.4 GHz
  • กล้องหลัง : 50 MP
  • กล้องหน้า : 12MP
  • หน่วยความจำ : RAM 8 GB | ROM 128 GB
  • แบตเตอรี่ : 5000mAh (Standard Battery) ชาร์จเร็ว
ราคา Apple iPad (9th Gen)
ราคาเปิดตัว11,400 ฿.
ราคากลาง
ราคาโดยประมาณจาก สยามโฟนฯ
(คำนวณหาค่าเฉลี่ย x̄ จากร้านค้าทั้งหมดที่มีจำหน่ายผลิตภัณฑ์รุ่นนี้)
11,400 ฿.
เช็คราคา Apple iPad (9th Gen)Powered by store.siamphone.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รีวิวโดย: ปิตุภูมิ นันทวิทยา ภาพโดย: สิรภพ ผิวทอง
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2564

30,368VIEWS

แบ่งปันบทความ

สินค้าออนไลน์