สรุปจุดเด่น Apple Watch 7 จัดเต็มแบบเต็มจอ ชาร์จเร็วขึ้นสูงสุด 33%

Apple Watch 7 อีกหนึ่งอุปกรณ์เสริมที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมาถึงเจนเนอเรชั่นที่ 7 แล้ว ต้องบอกว่ารุ่นใหม่แข็งแรงทนทานมากกว่าเดิมยิ่งขึ้น พร้อมอัพเกรดสเปก ปรับดีไซน์ให้ทันสมัยเข้ากับได้ทุกแฟชั่นมากยิ่งขึ้นด้วย โดยตรงกับที่ได้ระบุในจุดขายว่านี่คือเป็นมากกว่านาฬิกา กับคำนิยามที่โดดเด่นว่า : Apple Watch ที่ทนทานที่สุดเท่าที่เคยมีมา จัดเต็มแบบเต็มจอ และนวัตกรรมด้านสุขภาพสุดล้ำ

ด้านดีไซน์ของนาฬิกา Apple Watch Series 7

สำหรับนาฬิการุ่นใหม่นี้ก็ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์แฟชั่นมากยิ่งขึ้น พร้อมให้ความอิสระกับผู้ใช้งานในการเลือกสายนาฬิกา, ตัวเรือน หรือแม้แต่ไอคอนภายในหน้าปัดนาฬิกา เพื่อบ่งบอกถึงความเป็นคุณนั่นเอง ขณะที่วัสดุตัวเรือนมีให้เลือกทั้งแบบ อะลูมิเนียม สแตนเลสสตีล ไทเทเนียม โดยขนาดตัวเรือน 41 มม. และ 45 มม. ทั้งนี้ด้วยหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นนี้ Apple ได้ใส่ Keyboard แบบ QWERTY มาให้ด้วย

ด้านจุดเด่นของนาฬิกา มีอะไรบ้าง

1. หน้าจอใหญ่ขึ้น แต่ขนาดตัวเรือนไม่เพิ่มขึ้น : ความท้าทายคือการสร้างจอภาพใหญ่ขึ้น โดยที่ขนาดตัวนาฬิกาแทบจะต้องไม่เพิ่มขึ้นเลย หน้าจอได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมขึ้นใหม่หมดโดยลดขอบหน้าจอลง 40% ทำให้มีพื้นที่หน้าจอมากกว่า Series 6 เกือบ 20% และมากกว่า Series 3 เกิน 50% อีกด้วย

2. ตัวเรือนอะลูมิเนียม : ตัวเรือนดูกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียว ออกแบบด้วยวัสดุพิเศษ ทนการแตกร้าว ด้วยหน้าจอแบบคริสตัลหนามากขึ้น 50% ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา พร้อมทนฝุ่น มาตรฐานรับรอง IP6X ส่วนการทนทานน้ำกันน้ำขณะว่ายน้ำด้วยความสามารถในการทนน้ำที่ระดับ WR50 มีความสามารถในการทนน้ำที่ระดับ 50 เมตร ตามมาตรฐาน ISO 22810:2010

3. นาฬิกาจอภาพที่ไม่เคยหลับ : หน้าจอ Retina แบบติดตลอด ทำให้ชัดเจน ไม่จำเป็นต้องยกข้อมือ หรือแตะหน้าจอแล้ว การจะดูเวลา หรือกลไกหน้าปัด และข้อมูลแจ้งเตือนอื่นๆ เพราะหน้าจอภาพจะติดอยู่ตลอด พร้อมสว่างมากขึ้นถึง 70% เมื่ออยู่ในที่ร่ม

4. อนาคตของสุขภาพ บนจอภาพแบบเต็มๆ : ตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจกับออกซิเจนในเลือดเสมอ หากมีอัตราที่สูง หรือต่ำจนเกินมาตรฐานสากลนาฬิกามีการแจ้งเตือนทันที, ตรวจสอบรอบเดือนว่ามาตรงตามช่วงเวลาหรือไม่, การแจ้งเตือนเมื่อเสียงดังเกินไปจนทำให้เกิดผลกระทบต่อการได้ยิน รวมถึงฟีเจอร์การนำทางที่มีเข็มทิศ พร้อมระบุรายละเอียดชัดเจน ความชัน ละติดจูด ลองจิจูด และระดับความสูง และการบอกคุณว่าควรเคลื่อนไหวบ้าง ไม่ให้นั่ง หรืออยู่ที่เดิมจนนานเกินไป เป็นต้น

5. การโทรฉุกเฉนทั่วโลก : เฉพาะรุ่นเซลลูลาร์เท่านั้นโดยสามารถโทรติดต่อบริการฉุกเฉินทั่วโลกได้แล้วใน 150 ประเทศ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ใช้ในระหว่างการเดินทางได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้การโทรฉุกเฉินทั่วโลกจะทำงานร่วมกับการตรวจจับการล้ม เมื่อคุณเปิดการใช้งานตั้งค่านี้ หาก Apple Watch ตรวจจับได้ว่าผู้ใช้ล้มรุนแรง ไม่เคลื่อนไหวเป็นเวลาประมาณหนึ่งนาที

6. การค้นหาข้อมูลเรียลไทม์ : โดยเรือนนาฬิการองรับการใช้งาน SIRI เต็มรูปแบบ หากคุณอยากรู้อะไรก็สามารถค้นหาได้เลย ไม่ว่าจะเป็น เพลง, รูปภาพ, สถานที่, ตำแหน่งต่าง ๆ เป็นต้น

7. ชาร์จเร็วทันใจ : การชาร์จแบตฯ ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด รวดเร็วกว่าที่เคยเพื่อให้คุณพร้อมลุยได้ทันที โดยสถาปัตยกรรมการชาร์จที่ได้รับการปรับปรุงใหม่และสาย USB‑C สำหรับการชาร์จเร็วจะช่วยให้คุณชาร์จ Apple Watch จาก 0 ถึง 80% ได้ในเวลาประมาณ 45 นาที ชาร์จเร็วกว่าเดิม 33% เมื่อเทียบกับ Apple Watch Series 6

8. แอปแผนที่ มือนำทางของคุณ : ไม่ว่าคุณจะกำลังเดิน หรือขับรถอยู่ แอปพิลเคชั่นแผนที่จะทำให้ทุกก้าวกลายเป็นเรื่องง่ายๆ โดย Taptic Engine จะสะกิดเบาๆ เพื่อบอกให้คุณรู้เมื่อถึงเวลาต้องเลี้ยวซ้ายหรือขวา คุณเลยไม่จำเป็นต้องคอยดูนาฬิกา

9. เชื่อมสายใยในครอบครัวไว้บนข้อมือ : คุณสมบัติ "การตั้งค่าครอบครัว" ให้คุณจับคู่ iPhone ของคุณกับนาฬิกาของเด็กๆ หรือผู้สูงอายุที่ไม่มี iPhone เป็นของตัวเอง ทุกคนจึงต่อติดถึงกันผ่านโทรศัพท์หรือข้อความได้ตลอด

Apple Watch Series 7 มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 399 ดอลลาร์ หรือประมาณ 13,xxx บาท 

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  รีวิว Maono DM40 Pro ไมโครโฟนไร้สายสำหรับเกมเมอร์และนักสร้างคอนเทนต์ที่ครบเครื่อง
• 
  รีวิว Baseus Inspire Series ซีรีส์หูฟังที่ Sound by Bose

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่