Virtual RAM: STORAGE→RAM คืออะไร มีประโยชน์ยังไง

เรื่องราวของอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนเรียกได้ว่าพัฒนาขึ้นมามาก ต่างๆ ก็ใช้พื้นฐานจากคอมพิวเตอร์มาต่อยอดสร้างฟีเจอร์ใหม่ๆ ขึ้นมา เหมือนกัน Virtual RAM หรือการสร้าง RAM เสมือนจริง ที่ไม่ได้มาจากฮาร์ดแวร์ แต่สามารถเพิ่มตัวเลข RAM ได้ แล้ววิธีนี้คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  ทำความรู้จัก OPPO A3 หน้าจอ 90Hz ดีไซน์สวย ทนน้ำ IP54 มีมาตรฐานทางทหาร ได้ RAM มากขึ้น จ่ายราคาถูกลง
• 
  รีวิว vivo X200 Series สายคอนเสิร์ตต้องโดน ซูมชัดเหมือนติดขอบเวที

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่

Virtual RAM คืออะไร

สำหรับฟีเจอร์นี้หลายๆ แบรนด์ เริ่มนำมาใช้เป็นจุดเด่นอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็น OPPO, Vivo, Xiaomi หรือ realme ซึ่งหนึ่งในข้อเสียของแอนดรอยด์ คือ แม้มี RAM มากขนาดไหน พอใช้งานไปสักระยะหนึ่งก็จะไม่พอ

อีกทั้งแอปพลิเคชั่นส่วนใหญ่จะทำงานแบบพื้นหลังไว้ด้วย หากเปิดพร้อมกัน 10 แอปฯ จะส่งผลให้ตัวเครื่องทำงานช้าลง อาทิ การเปิดแอปพลิเคชั่นช้าลง, การสลับเปลี่ยนใช้งานแอปพลิเคชั่นหน่วง เป็นต้น เรียกว่าถ้าเปิดแอปพลิเคชั่นที่ 11 อาจจะไม่ขึ้นแล้วก็ได้ หรือต้องมีการบังคับปิดแอปฯ ใดแอปฯ หนึ่งไปก่อน ถึงจะเปิดใหม่ได้

ด้วยเหตุผลข้างต้น Virtual RAM จึงให้ประโยชน์ในการเพิ่ม RAM ให้มากขึ้น จากการใช้พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน (ROM) 128GB ยกตัวอย่างว่า สมาร์ทโฟนรุ่นหนึ่งมี RAM 12GB หลักการดังนี้

• เพิ่ม Virtual RAM 5GB : สมาร์ทโฟนรุ่นนี้จะมี RAM 17GB
• ทางกลับกันพื้นที่เก็บข้อมูลภายในจะคงเหลือ 123GB
• เมื่อเลิกใช้งานแล้ว ทุกอย่างจะกลับไปเป็นปกติ คือ RAM 12GB และ ROM 128GB

ประโยชน์ของ Virtual RAM ที่มากกว่าการให้ RAM เพิ่มขึ้นคืออะไร

เทคโนโลยีนี้ไม่ใช้เทคโนโลยีใหม่แต่อย่างใด แต่สามารถทำให้คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์การใช้งานระดับสูงได้ บางคนมีงบจำกัดมีสมาร์ทโฟนแค่ RAM 6GB แต่อยากลองมากกว่านี้ก็ต้องเสียเงินเพิ่มในปริมาณสูง แต่จะดีกว่าไหมแค่คุณแปลงพื้นที่เก็บข้อมูลภายในเครื่อง ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเลย

รวมถึงตอบโจทย์การใช้งานเทคโนโลยี AR&VR ที่จะต้องใช้ RAM ในปริมาณสูง เพื่อการใช้งานไหลลื่น เช่นเดียวกับเกมฟอร์มยักษ์ต่างๆ ในปัจจุบัน

ประสิทธิภาพการใช้งานเทียบเท่า RAM จริงหรือไม่!

สำหรับประสิทธิภาพการใช้งาน ต้องบอกว่าไม่เท่า RAM จริง แต่จะเป็นตัวช่วยประมวลผลแอปพลิเคชั่นที่ไม่ต้องใช้การประมวลหนักนั่นเอง เพื่อเพิ่มพื้นที่ว่างให้กับ RAM จริง ไปประมวลผลแอปพลิเคชั่นที่มีการประมวลผลสูง กล่าวคือจะมีการจัดลำดับความสำคัญ

ทีนี้หากสมาร์ทโฟนของคุณมีเทคโนโลยีพื้นที่เก็บข้อมูลภายในประเภท UFS 2.1, UFS 3.1 ก็จะให้ประสิทธิภาพแตกต่างกันไปด้วย แต่ไม่ได้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากนัก