องค์กร (Corporate) | วันที่ : 7 สิงหาคม 2564
Xiaomi ถูกจัดอันดับอยู่ในรายชื่อฟอร์จูนโกลบอล 500 เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน โดยในปีนี้อยู่ในอันดับที่ 338 ซึ่งก้าวขึ้นมาจากอันดับที่ 422 ในปีก่อนหน้าถึง 84 อันดับ และการเติบโตนี้ยังส่งผลให้เป็นบริษัทในรายชื่อฟอร์จูน 500 ที่มีอัตราการเติบโตเร็วที่สุดในหมวดหมู่อินเทอร์เน็ตและการค้าปลีกอีกด้วย
การเติบโตของเสียวหมี่เป็นผลจากการขยายตลาดเข้าสู่ตลาดระดับไฮ-เอ็น การเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดต่างประเทศ และการพัฒนารูปแบบใหม่สำหรับธุรกิจค้าปลีก
เสียวหมี่มุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยีหลักต่าง ๆ ที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การของผู้ใช้ อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งในตลาดไฮ-เอ็นด้วยสมาร์ทโฟนตระกูล Mi 10 และ Mi 11 โดยในไตรมาสที่ 1/2564 ยอดการจัดส่งสมาร์ทโฟนระดับโลกของเสียวหมี่ที่มีราคาตั้งแต่ 3 พันหยวนขึ้นไป ในจีนแผ่นดินใหญ่ หรือตั้งแต่ 300 ยูโรขึ้นไปในตลาดโลก มีจำนวนสูงเกินกว่า 4 ล้านเครื่อง
การขยายตลาดของเสียวหมี่ทั่วโลกยังช่วยส่งเสริมอัตราการเติบโตในภาพรวมอีกด้วย โดยเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เสียวหมี่ประกาศว่าบริษัทฯ เป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับที่ 2 ของโลก อ้างอิงจากจากรายงานของ Canalys โดยมีส่วนแบ่งการตลาดวัดจากยอดการส่งมอบสมาร์ทโฟนที่ร้อยละ 17 ซึ่งสูงกว่า Apple นอกจากนี้ในตลาดสากลต่าง ๆ เสียวหมี่มีอัตราการเติบโตปีต่อปีถึงร้อยละ 300 ในตลาดละตินอเมริกา ร้อยละ 150 ในตลาดแอฟริกา และมากกว่าร้อยละ 50 ในตลาดยุโรปตะวันตก สมาร์ทโฟนของเสียวหมี่วางจำหน่ายในกว่า 100 ตลาดทั่วโลก เป็นผู้นำตลาดในอย่างน้อย 12 ตลาด อีกทั้งยังเป็นแบรนด์ที่มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 2 ในยุโรป และยังเป็นผู้นำตลาดสมาร์ทโฟนของประเทศอินเดียมาอย่างต่อเนื่องถึง 15 ไตรมาส
เมื่อกล่าวถึงด้านการค้าปลีกรูปแบบใหม่ ร้านค้าปลีกของผลิตภัณฑ์เสี่ยวหมี่นั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากตั้งแต่ปี 2563 โดย ณ สิ้นเดือนเมษายน 2564 นั้น จีนแผ่นดินใหญ่มีร้านเสียวหมี่ (Mi Stores) มากกว่า 5,500 สาขา และเสี่ยวหมี่ยังมีร้านเสี่ยวหมี่อีกกว่า 1 พันแห่งทั่วโลก โดยเสียวหมี่กำลังขยายช่องทางค้าปลีกของตนไปทั่วทุกมุมโลก
เสียวหมี่ยังคงลงทุนด้านการวิจัยและการพัฒนา รวมไปถึงด้านบุคลากรอย่างต่อเนื่อง โดยมีโครงสร้างการตอบแทนใหม่ๆมากมายสำหรับทีมงานด้านการวิจัยและพัฒนา อีกทั้งยังขยายโครงการเสียวหมี่สมาร์ทแฟกทอรี่ไปสู่เฟส 2 ด้วย มร. เหลย จุน กล่าวในโอกาสครบรอบ 10 ปีของเสียวหมี่ว่า “ในทศวรรษหน้า เสียวหมี่จะเป็นแรงขับเคลื่อนรายใหม่ในอุตสาหกรรมการผลิต” โดยระบบการผลิตแบบอัจฉริยะจะกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยที่เป็นจุดแข็งในการแข่งขันของเสียวหมี่
นอกเหนือจากการเป็นผู้นำตลาดสมาร์ทโฟน อุปกรณ์ AIoT และอุตสาหกรรมการผลิตแบบอัจริยะ เสียวหมี่ยังพร้อมจะก้าวเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าฉัจริยะ โดยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เสียวหมี่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะก่อตั้งบริษัทลูกบริษัทใหม่เพื่อบริหารจัดการธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ โดยมี มร.เหลย จุน เป็นผู้บริหารสูงสุด และจะลงทุนอย่างน้อย 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายใน 10 ปีข้างหน้า โดยเงินลงทุนก้อนแรกจะอยู่ที่ 10 ล้านหยวน โดยเสียวหมี่มีเป้าหมายจะผลักดันรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะให้เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ช่วยส่งเสริมการเติบโตให้กับบริษัทฯ
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
วันที่ : 7 สิงหาคม 2564
iQOO 13 5G ขุมพลัง Snapdragon 8 Elite แบต 6150mAh รองรับ 120W FlashCharge พร้อม Bypass Charging
รีวิว HONOR 200 Smart 5G คุ้มค่าเกินราคา สุดยอดสมาร์ทโฟนสำหรับคนชอบลุย
Infinix ปล่อยเซอร์ไพรส์ HOT 50 Pro+ Series สีสันพิเศษ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุข
iQOO 13 5G เจ้าของความแรง Snapdragon Elite 8 + RAM สูงสุด 16GB เคาะราคาในไทย 27,900 เท่านั้น
HONOR X9c Smart สมาร์ทโฟนกล้องหลังคู่ 108MP ชิปเซ็ต Dimensity 7025-Ultra
OPPO Find X8 Series สมาร์ทโฟนแฟลกชิปพลัง AI ซูมไกล 120 เท่า ด้วย AI Telescope Zoom
สรุปจุดเด่นและสเปค OPPO Pad 3 Pro หน้าจอ 144Hz ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3 ลำโพง 8 ตัว แบตฯ 9510mAh
ทำความรู้จัก TECNO SPARK 30C หน้าจอ 120Hz ทนน้ำทนฝุ่น IP54 ลำโพงสเตอริโอ มีชาร์จเร็ว
Blackview Active 10 Pro มาแล้ว! แท็บเล็ต 5G แบตฯ อึด กล้องเทพ ลดแรงแค่ 7 วันเท่านั้น!
iQOO Neo 10 Series สเปคเทพ กล้องสวย ดีไซน์โดนใจ เปิดตัว 29 พฤศจิกายนนี้