Huawei Mate 40 ขุมพลัง Kirin 9000 และกล้อง Leica จัดหนักตามสูตร

Huawei ยังคงร้อนแรงส่งท้ายปีเช่นเคย ด้วยการส่ง Huawei Mate 40 Series สมาร์ทโฟนซีรี่ย์เรือธง ที่มักเปิดตัวพร้อมกับชิปเซ็ตตัวแรงรุ่นใหม่ โดย Huawei Mate 40 Series กอดคอมาพร้อมกันถึง 4 รุ่นคือ Huawei Mate 40, Huawei Mate 40 Pro, Huawei Mate 40 Pro+ และ Porsche Design Huawei Mate 40 RS ทั้งหมดมีการใช้ขุมพลังตัวใหม่อย่าง Kirin 9000 จะมีเพียงรุ่นเล็กสุดอย่าง Huawei Mate 40 เท่านั้นที่ใช้ Kirin 9000E ส่วนกล้องถ่ายรูปยังจัดหนักตามสูตรความเป็นกล้องที่ร่วมพัฒนากับ Leica เช่นเคย

Huawei Mate 40 Pro และ Huawei Mate 40 Pro+
Huawei Mate 40 Pro+ จะใช้วัสดุจากเซรามิกในการผลิตตัวเครื่อง ส่วนหน้าจอทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมหน้าจอแสดงผล OLED โค้ง 88 องศา กว้าง 6.76 นิ้ว ความละเอียด 2,772 x 1,344 พิกเซล รองรับปุ่มกดลดเสียงเพิ่มเสียงแบบสัมผัส และปุ่มฮาร์ดแวร์ นอกจากนี้ยังมีอัตรา Refresh Rate สูงสุดที่ 90Hz ความเร็วการตอบสนองสัมผัส 240Hz และรองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ส่วนแบตเตอรี่ภายในมีขนาด 4,4000mAh รองรับการชาร์จเร็ว 66W ผ่านพอร์ต USB Type-C และชาร์จไร้สาย 50W

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  พรีวิว HUAWEI Mate X6 ก้าวใหม่ของสมาร์ทโฟนจอพับ ผสมความทนกับความบางอย่างลงตัว
• 
  HMD Arc สมาร์ทโฟนรุ่นเล็ก ระบบปฏิบัติการ Android 14 Go แบตเตอรี่ 5,000mAh

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่

ชิปเซ็ตใช้เป็น Kirin 9000 ซึ่งเป็นขุมพลัง 8 Core ความเร็วสูงสุด 3.13GHz ขนาด 5 นาโนเมตร มี GPU Mali-G78 จำนวน 24 คอร์ และชิป NPU คู่แบ่งเป็น 1 คอร์ใหญ่ และ 1 คอร์เล็ก แน่นอนว่าประสิทธิภาพการทำงานสูงรวดเร็วแน่นอน ทั้งนี้ภายในชิปเซ็ตยังมีโมเดมรองรับสัญญาณ 5G ในตัว สนับสนุนสัญญาณ Wi-Fi 6+ รับความเร็วอินเตอร์เน็ตได้สูงถึง 2.4Gbps ส่วนด้านพลังเสียงจะมาพร้อมลำโพงคู่สเตริโอ

มาต่อกันที่กล้องถ่ายรูป ทั้ง 2 รุ่นมีการจากวางกล้องในฐานวงกลม และกล้องมีการร่วมพัฒนากับ Leica เช่นเคย โดย Huawei Mate 40 Pro มีด้วยกัน 4 เลนส์ ตัวหลัก Super Sensing Wide ใช้เซนเซอร์ RYYB ขนาดพิกเซล 1.22u รูรับแสง f/1.9 และมีระบบกันสั่น OIS ต่อมาเป็นเลนส์ Ultra Wide Cine ความละเอียด 20MP รูรับแสง f/1.8 ด้านการซูมมีเลนส์ Telephoto 5x Periscope พร้อมกันสั่น OIS และเลนส์สุดท้ายเป็น Laser Sensor ช่วยให้การ Autofocus มีความรวดเร็ว และแม่นยำเป็นพิเศษ

Huawei Mate 40 Pro+ มาพร้อมกันถึง 5 เลนส์ทีเดียว ความพิเศษจะอยู่ที่เลนส์ Ultra Wide Cine ทีมีเลนส์ Free-form ภายใน ช่วยให้ถ่ายมุมกว้างแบบภาพไม่บิดเบียว และอีกเลนส์ที่เพิ่มเข้ามาคือ Telephoto 10x Periscope ที่ช่วยให้ซูมได้แบบคมชัดไม่เสียรายละเอียด

Huawei Mate 40 Pro และ Huawei Mate 40 Pro+ มีกล้องหน้าคู่ในรอยแหว่งแบบจอเจาะรู เลนส์หลัก ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และอีกเลนส์เป็น Depth ช่วยให้เซลฟี่หน้าชัดหลังเบลอได้สวยงาม และยังช่วยในการสแกนใบหน้าได้อย่างแม่นยำ

• กล้องหลังของ Huawei Mate 40 Pro
  - เลนส์หลัก Super Sensing Wide เซนเซอร์ RYYB ขนาด 1/1.28 นิ้ว ความละเอียด  50MP รูรับแสง f/1.9 เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.28 นิ้ว
  - เลนส์ Ultra Wide Cine ความละเอียด 20MP รูรับแสง f/1.8
  - เลนส์ Telephoto 5x Periscope ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/3.4 กันสั่น OIS
  - เลนส์ Laser Sensor
  
  
• กล้องหลังของ Huawei Mate 40 Pro+
  - เลนส์หลัก Super Sensing Wide เซนเซอร์ RYYB ขนาด 1/1.28 นิ้ว ความละเอียด 50MP รูรับแสง f/1.9 ระบบกันสั่น OIS
  - เลนส์ Ultra Wide Cine ความละเอียด 20MP รูรับแสง f/2.4 มีเลนส์ Free-form ในตัว
  - เลนส์ Telephoto 10x Periscope ความละเอียด 8MP รูรับแสง f/4.4 กันสั่น OIS
  - เลนส์ Telephoto 3x ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/2.4 กันสั่น OIS
  - เลนส์ 3 มิติ ToF

Porsche Design Huawei Mate 40 RS
รุ่นพิเศษโดดเด่นในเรื่องของดีไซน์ และฟีเจอร์ที่เพิ่มขึ้นมา โดยดีไซน์ตัวเครื่องเป็นแบบเซรามิก มีให้เลือก 2 สีคือ สีขาว และดำ พร้อมใช้การออกแบบไม่เหมือนรุ่นปกติ รวมไปถึงกล้องหลังที่จัดเรียงแบบแปดเหลี่ยม มีกล้องเหมือนกับ Huawei Mate 40 Pro+ แต่จะเพิ่มเซนเซอร์วัดอุณภูมิเข้ามาอีกอย่าง

Huawei Mate 40
Huawei Mate 40 จะเป็นรุ่นเล็กที่สุดในการเปิดตัวครั้งนี้ โดยมีหน้าจอแสดงผลโค้งพาแนล OLED กว้าง 6.5 นิ้ว ความละเอียด 2376 x 1080 พิกเซล อัตรา Refresh Rate 90Hz และความไวต่อการสัมผัส 240Hz รองรับการสแกนลาบนิ้วมือบนหน้าจอ และมีดีไซน์รอยแหว่งแบบจอเจาะรู ในนั้นมีกล้องเลนส์เดียว ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล

กล้องหลังถูกติดตั้งมา 3 เลนส์ จัดว่างบนแท่นวงกลม แต่ละเลนส์ประกอบไปด้วยเลนส์หลัก Super Sensing Wide ความละเอียด 50MP, Ultra Wide ความละเอียด 16MP, Telephoto 3x ความละเอียด 8MP สามารถซูม Optical ระยะใกล้ได้ 3 เท่า และ Optical ระยะไกลได้ 5 เท่า

สเปคภายในใช้ชิปเซ็ต Kirin 9000E ซึ่งเป็นชิปที่แรงน้อยกว่า Kirin 9000 เพราะชิปกราฟฟิกเพียง 22 คอร์ และ NPU ขนาดใหญ่เพียงตัวเดียว ในขณะที่แบตเตอรี่มีขนาด 4,200mAh รองรับการชาร์จเร็ว 40W ผ่านพอร์ต USB Type-C ไม่รองรับการชาร์จไร้สาย

ราคา

• Huawei Mate 40 ราคา 899 ยูโร (ประมาณ 33,200 บาท)
• Huawei Mate 40 Pro ราคา 1,200 ยูโร (ประมาณ 43,500 บาท)
• Huawei Mate 40 Pro+ ราคา 1,400 ยูโร (ประมาณ 51,800 บาท)
• Porsche Design Huawei Mate 40 RS ราคา 2,300 ยูโร (ประมาณ 85,000 บาท)
  *** นี้เป็นราคาเปิดตัวแบบค่าเงินยูโร หากมีการมาขายในไทย ราคาจะลดลงอีกประมาณ 20-30%