พรีวิวหูฟังไร้สาย Vivo TWS Neo ดีไซน์พรีเมียม คุณภาพเสียงแม่นยำระดับ Hi-Res

ต้องบอกว่าตลาดหูฟังไร้สายในไทย ร้อนแรงเลยทีเดียว มีหลากหลายแบรนด์ให้เลือกสรร ทว่าหากคุณต้องการคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res และความพรีเมียม Vivo TWS Neo ก็สามารถตอบโจทย์คุณได้อย่างดี ด้วยการเลือกใช้ชิปเซ็ตเฉพาะจาก Qualcomm ทำให้ปริมาณเสียงที่ถ่ายทอดออกมาแม่นยำ ค่าหน่วงต่ำ มีเทคโนโลยีเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2 รองรับระบบ aptX adaptive ทำให้เสียงมีใกล้เคียงกับแผ่นซีดี และยังมีโหมด Low latency ลดความหน่วงของเสียงกับภาพลงยิ่งขึ้น ซึ่งต่ำสุดถึง 88ms เมื่อเล่นเกม, ดูหนัง หรือวิดีโอคอลอัตโนมัติ โดยก็มั่นใจได้เลยว่าการเชื่อมต่อของคุณจะเสถียร ไม่ติดขัด

Vivo TWS Neo มาพร้อมดีไซน์ตามสมัยนิยม น้ำหนักเบา พกพาสะดวก ส่วนโทนสีทางวีโว่ก็ตั้งใจออกแบบให้มีเอกลักษณ์เฉพาะ เพิ่มความพรีเมียม เกิดความแตกต่าง โดยมีคุณสมบัติรองรับมาตรฐาน IP54 ให้คุณสามารถสวมใส่ออกกำลังกาย หรือโดนน้ำกระเด็นได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเสียหาย

สำหรับหูฟังแต่ละข้าง ทางวีโว่ได้ออกแบบให้ผู้ใช้สวมใส่สบาย ไม่ระคายเคืองต่อผิวหนัง และไม่เจ็บเมื่อใช้งานต่อเนื่อง ดังนั้นจึงสามารถตอบโจทย์ทุกกิจกรรมของคุณได้อย่างดี

หูฟังแต่ละข้างมีไดร์ฟเวอร์ขนาด 14.2 มิลลิเมตร ถือว่ามีขนาดใหญ่กว่าหูฟังไร้สายทั่วไป และวัสดุการผลิตเฉพาะ ประโยชน์คือสามารถถ่ายทอดคุณลักษณะของเสียงแต่ละท่วงทำนองได้ละเอียด คมชัด อ่อนนุ่มมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโทนเสียงต่ำ หรือสูง

นอกจากระบบการเชื่อมต่อที่โดดเด่นอย่างที่กล่าวข้างต้นแล้ว ตัวหูฟังไร้สาย Vivo TWS Neo ยังสามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชั่นที่มีชื่อเรียกว่า DeepX ซึ่งเป็นบริษัทที่ค้นคว้าและวิจัยด้านเสียงโดยเฉพาะ ซึ่งคุณสามารถเลือกการถ่ายทอดรูปแบบเสียงได้ 3 รูปแบบ อาทิ Mega Bass ให้เสียงเบสที่หนักแน่น, Clear Voice เกิดพลังเสียงครบทุก Details และ Clear High Pitch กับเสียงที่ให้คุณ Enjoy จังหวะดนตรี เหมาะกับเพลง R&B หรือ Pop

การใช้งาน Vivo TWS Neo ได้มีการเรียกรูปแบบว่า Slide Control คล้ายกับการเลื่อนสไลด์ แทนการกดปุ่ม จึงให้คุณควบคุมหูฟังได้ง่ายยิ่งขึ้น เช่น เลื่อนขึ้น เลื่อนลงบริเวณก้านหูฟัง เพื่อเพิ่มเสียง/ลดเสียง, กดที่หูฟังสองครั้ง สำหรับเรียกใช้งาน Google Assistant, สายเรียกเข้า หรือควบคุมเพลง หากเป็นการกดค้างคือวางสายและตัดสาย เป็นต้น

Vivo TWS Neo มีรูไมโครโฟนสองตัว แบ่งเป็น สำหรับการสนทนาและตัดเสียงรบกวน โดยโดดเด่นด้วยซอฟต์แวร์ AI ที่จะช่วยปรับแต่งเสียงอัตโนมัติตามสภาพแวดล้อมเสียงขณะนั้น เพื่อให้เสียงคมชัดมากที่สุด เช่น การวิ่ง, การปั่นจักรยาน หรืออยู่ในพื้นที่สาธารณะ นอกจากนี้ยังมีเซนเซอร์บริเวณหูหัง เพื่อตรวจจับช่องหูว่าสวมใส่อยู่ หรือถอดแล้ว เพื่อหยุดและทำงานต่ออัตโนมัติ

หูฟังใช้งานได้ติดต่อกัน 4.5 ชั่วโมง ส่วนเคสเก็บหูฟังสามารถชาร์จต่อได้อีก 22.5 ชั่วโมง ส่วนการชาร์จไฟผ่านพอร์ท USB-Type C

สรุปสเปกหูฟังไร้สาย Vivo TWS Neo

• ขนาดหูฟัง : 33.9 x 18.6 x 16.5 มม.
• ขนาดของเคส : 58.1 x 51.6 x 24 มม.
• น้ำหนักหูฟัง : 4.7 กรัม
• น้ำหนักทั้งหมด : 45.7 กรัม
• ไดร์ฟเวอร์ : 14.2 มม.
• คลื่นความถี่ : 20Hz-20,000Hz
• รองรับการเชื่อมต่อ : BLUETOOTH 5.2
• รองรับแพลตฟอร์ม : Android และ iOS
• มาตรฐานป้องกันน้ำป้องกันฝุ่น : IP54
• พอร์ตชาร์จ : USB Type-C
• แบตเตอรี่เคส : 415mAh
• ระยะเวลาการชาร์จ (รวมเคส) : ประมาณ 100 นาที

สำหรับหูฟังไร้สาย Vivo TWS Neo มีสองสีให้เลือก ได้แก่ MOONLIGHT WHITE และ STARRY BLUE โดยเริ่มวางจำหน่ายวันที่ 17 ก.ค. 2563 ในราคา 2,999 บาท

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  LAVA Yuva 4 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ราคาประหยัด สเปคคุ้มค่าเกินราคา
• 
  iQOO Z9 Turbo เวอร์ชั่นแบตฯ ความจุสูง 6400mAh ขุมพลัง Snapdragon 8s Gen 3 เตรียมเปิดตัวมกราคมนี้

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่