สมาร์ทโฟน (Smartphone) | วันที่ : 23 เมษายน 2563
ในที่สุด Motorola ก็มาจับตลาดสมาร์ทโฟน 5G เหมือนกับค่ายอื่นๆ บ้าง โดยได้เปิดตัว Motorola Edge Series ซึ่งเป็นซีรี่ย์ใหม่รองรับสัญญาณ 5G และยังมีดีไซน์หน้าจอโค้ง พร้อมลูกเล่นแสงไฟที่ขอบหน้าจอ ทั้งนี้ Motorola Edge Series จะเปิดตัวพร้อมกันถึง 2 รุ่นคือ Motorola Edge และ Motorola Edge+
Motorola Edge+
ความโดดเด่นของ Motorola Edge+ จะเป็นรุ่นเรือธงจัดเต็มในทุกๆ ด้านไล่มาตั้งแต่ดีไซน์ สเปคภายใน และกล้องถ่ายรูป รวมไปถึงการรองรับสัญญาณ 5G แบบ mmWave โดยใช้ขุมพลัง Snapdragon 865 5G, RAM 12GB และ ROM 256GB แบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W รองรับการชาร์จไร้สาย 15W ใช้พอร์ต USB-C และมีลำโพงคู่แบบ Stereo Speaker


หน้าจอแสดงผลของ Motorola Edge+ เป็นแบบจอโค้ง พร้อมลูกเล่นแสงไฟขอบหน้าจอ ใช้พาแนล OLED กว้างถึง 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ดูคอนเท้นด์แบบ HDR10+ ได้ มีอัตรา Refresh Rate ที่ 90Hz รองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ และมีรอยแหว่งแบบจอเจาะรูมุมบนซ้ายของหน้าจอ ในนั้นมีกล้องหน้า ความละเอียด 25 ล้านพิกเซล

กล้องหลังมาด้วยกันถึง 4 เลนส์ ประกอบไปด้วยเลนส์หลักความละเอียดสูงถึง 108 ล้านพิกเซล กันสั่น OIS สามารถใช้งาน 4 in 1 Pixel binning เพื่อภาพระดับ 27MP, ต่อมาเป็นเลนส์ Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล กันสั่้น OIS ซูมแบบ Optical ได้ 3 เท่า, เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เพิ่มมุมกว้างได้ 117 องศา และเลนส์ ToF

Motorola Edge
สำหรับ Motorola Edge จะเป็นรุ่นที่เล็กกว่า Motorola Edge+ แต่ยังรองรับสัญญาณ 5G อยู่เหมือนกัน เพราะใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 765G และลดความประสิทธิภาพของกล้องหลัง โดยเลนส์หลักเหลือความละเอียด 64 ล้านพิกเซล, เลนส์ Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซูมแบบ Optical ได้ 2 เท่า ส่วนเลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และเลนส์ ToF ยังอยู่เหมือนเดิม


หน้าจอแสดงผลจะเหมือนกับตัว + โดยเป็นจอโค้งพร้อมลูกเล่นแสงไฟขอบหน้าจอ ใช้พาแนล OLED กว้าง 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ อัตรา Refresh Rate 90Hz ดูคอนเท้นแบบ HDR10+ ได้ รองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ และมีรอยแหว่งแบบจอเจาะรูอยู่มุมบนซ้าย ในนั้นมีกล้องหน้า ความละเอียด 25 ล้านพิกเซล

รายละเอียดอื่นๆ นอกจาก Snapdragon 765G ยังมีการใช้ RAM 6GB, ROM 128GB เพิ่ม MicroSD Card ได้ และมีแบตเตอรี่ 4,500mAh รองรับการชาร์จเร็ว 18W ผ่านพอร์ต USB-C แต่ไม่รองรับการชาร์จไร้สาย และมีลำโพงคู่แบบ Stereo Speaker

ทั้ง Motorola Edge และ Motorola Edge+ จะรันบนระบบปฏิบัติการ Android 10 และการันตีการอัปเดตเป็น Android 11 ในอนาคตแน่นอน Motorola Edge+ พร้อมวางขายแบบ Global ในช่วงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2563 ราคาอยู่ 1,199 ยูโร (ประมาณ 41,000 บาท) ส่วน Motorola Edge จะวางขายแบบ Global ช่วงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2563 เช่นกัน และมีราคาเริ่มต้น 599 ยูโร (ประมาณ 20,000 บาท)
*** หากมีการนำมาขายในประเทศไทยราคาจะถูกกว่านี้ เพราะเปิดตัวเป็นค่าเงินยูโร ราคาจะสูงกว่าปกติ
แหล่งที่มา : GSMarena , Gizmochina
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
วันที่ : 23 เมษายน 2563
Samsung Galaxy A07 5G โผล่ทดสอบ Geekbench! ใช้ชิปเซ็ต Dimensity 6300 พร้อมรัน Android 16 ตั้งแต่แ...
vivo Y31 5G สมาร์ตโฟน 5G รุ่นทนทานยันแบตเตอรี่ เริ่มวางขายในประเทศไทย
HONOR X9d 5G สมาร์ตโฟนสุดทน พร้อมรับแรงกระแทกทั่วไทย ในราคาหมื่นต้นๆ
realme C85 Series 5G ลุยได้ทุกจังหวะชีวิตด้วยแบต 7000mAh ราคาเริ่มต้น 5,xxx
realme C85 Series ประกาศราคาในไทย มาครบทั้ง 4G และ 5G กับสมาร์ตโฟนตัวคุ้มสเปคครบ
OnePlus Ace 6T เคาะวันเปิดตัว! ประเดิมชิปฯ Snapdragon 8 Gen 5 รุ่นแรกของโลก
Xiaomi 17 Ultra มาไวเกินคาด! ลือเปิดตัวสายฟ้าแลบธันวาคมนี้ เผยกล้องหลัง 3 ตัว พร้อมเทเลโฟโต 200MP
HUAWEI FreeBuds Pro 5 หูฟังไร้สาย TWS มาพร้อมชิป Kirin A3 รับรองเสียง Lossless สตีมมิ่ง 4.6Mbps
Nubia V80 Design ได้หน้าจอกว้างขึ้น 6.75 นิ้ว และเพิ่ม Dynamic RAM ได้สูงสุด 20GB
HONOR X9d 5G เปิดตัวสุดปัง! ยอดขายวันแรกโตกว่ารุ่นก่อน 2.91 เท่า 8 ชั่วโมงที่แล้ว