เปิดตัวไลน์อัพผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มเครื่องเสียงแบบพกพา นำทัพโดยผลิตภัณฑ์วอล์คแมนฉลองครบรอบ 40 ปี มาพร้อมระบบปฎิบัติการ Android 9.0 เพิ่มทางเลือกในการฟังเพลงแบบ MULTI-SOURCE MUSIC ทั้งการเล่นไฟล์เพลง Hi-Res Audio หรือ ฟังเพลงจากบริการสตรีมมิ่งเพลงออนไลน์ เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
ผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มวอล์คแมน
- WALKMAN NW-A100 Series เครื่องเล่นเพลงดิจิทัลพกพาใหม่ขนาดเล็กกะทัดรัด ที่มาพร้อมระบบปฎิบัติการ Android 9.0 เชื่อมต่อแบบไร้สายผ่าน Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi รวมทั้ง LDAC และสตรีมมิ่งเพลงโปรดได้อย่างง่ายดาย หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 3.6 นิ้ว และสั่งงานเล่นเพลงด้วย Walkman Application และโดดเด่นด้วยโปรแกรมพักหน้าจอขณะเล่นไฟล์เพลงคุณภาพสูง เป็นรูปเทปคาสเซ็ตที่เปลี่ยนแปลงตามรูปแบบไฟล์ที่แตกต่างกัน เพื่อย้อนเวลารำลึกถึงวอลค์แมนรุ่นแรกเมื่อ 40 ปีที่แล้ว พร้อมอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีที่ปรับปรุงขึ้นใหม่ล่าสุด อาทิ S-Master HX และ DSEE HX ซึ่งจะช่วยรักษาคุณภาพเสียงให้คมชัดเพื่อคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิม โดย WALKMAN NW-A100 Series มีให้เลือก 3 รุ่น ประกอบด้วย
- WALKMAN NW-A105 มาพร้อมความจำในตัวเครื่อง 16GB
- WALKMAN NW-A106HN ที่มาพร้อมความจำในตัวเครื่อง 32GB พร้อมหูฟังตัดเสียงรบกวน IER-NW510N
- WALKMAN NW-A100TPS ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษในวาระเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปีวอล์คแมน
- WALKMAN NW-A105 เครื่องเล่นเพลงดิจิทัลแบบพกพาระดับไฮเรสออดิโอ มีสไตล์โดดเด่นด้วยสีสันสุดล้ำ ยังมาพร้อมเทคโนโลยีเสียงชั้นเยี่ยมและฟังก์ชั่นการฟังเพลงที่ปรับปรุงขึ้นใหม่ในตัวเครื่องมากมาย เพื่อเพิ่มอรรถรสในการถ่ายทอดเสียงเพลงที่คมชัดแบบ Superior Sound สตรีมมิ่งเพลงผ่านการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ผ่านระบบ Android 9.0 รวมถึงการเชื่อมกับบลูทูธ 5.0 หรือ Wi-Fi หน้าจอขนาด 3.6 นิ้ว ความจำในตัวเครื่อง 16GB โดยสามารถเล่นเพลงเสียงไฟล์ Hi-Res Audio ได้ยาวนานต่อเนื่องสูงสุดถึง 26 ชั่วโมง และสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ด้วย USB Type-C มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีแดง, สีดำ, สีเขียว, สีน้ำเงิน และสีส้ม วางจำหน่ายในราคา 10,990 บาท
- WALKMAN NW-A106HN เครื่องเล่นเพลงดิจิทัลแบบพกพามาพร้อมกับหูฟังตัดเสียงรบกวน IER-NW510N ที่ได้รับการออกมาเพื่อใช้งานกับวอล์คแมนโดยเฉพาะ เพิ่มคุณภาพเสียงที่คมชัดแบบ Superior Sound สามารถสตรีมมิ่งเพลงผ่านการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนระบบ Android 9.0 รวมถึงการเชื่อมกับบลูทูธ 5.0 หรือ Wi-Fi หน้าจอขนาด 3.6 นิ้ว ความจำในตัวเครื่อง 32GB แบตเตอรี่สามารถใช้ได้ยาวนานต่อเนื่องสูงสุดถึง 26 ชั่วโมง และสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ด้วย USB Type-C มีจำหน่ายเฉพาะสีดำ จำหน่ายในราคา 14,990 บาท
- WALKMAN NW-ZX507 เป็นสุดยอดเครื่องเล่นเพลงดิจิทัลแบบพกพาโดดเด่นด้วยคุณสมบัติเฉพาะตัว น้ำหนัก 164 กรัม Real Sound , Real Enjoyment ด้วยโครงสร้างของตัวเครื่องผลิตจากแท่งอะลูมิเนียมตันขึ้นรูปจึงป้องกันสัญญาณรบกวนจาก Electrical Noise ผสานชิ้นทองแดงกลึงช่วยลดค่าความต้านทานปรับปรุงระบบกราวนด์ และตัวเก็บประจุ FT CAP II ที่พัฒนาขึ้นใหม่ (High Polymer Capacitor) เพิ่มกำลังขับให้ภาคขยาย แอมปลิไฟเออร์มีช่วงเสียงร้องที่กว้างและเพิ่มพลังเสียงเบส รวมถึง S-Master HX ที่รองรับไฟล์ DSD แบบ native (11.2 MHz) ฟังก์ชั่นการฟังเพลงที่ปรับปรุงขึ้นใหม่มากมาย Direct Source, 10 Band Equalizer, DSEE HX, DC Phase Linearizer, Dynamic Normalizer, Vinyl Processing และสตรีมมิ่งเพลงผ่านการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนระบบ Android 9.0 รวมถึงการเชื่อมกับบลูทูธ 5.0 (SBC, LDAC, aptX, aptX HD) หรือ Wi-Fi หน้าจอสัมผัสขนาด 3.6 นิ้ว รวมถึงมีช่องหูฟัง 3.5 ม.ม. และสายต่อบาลานซ์ 4.4 ม.ม. ในตัว แบตเตอรี่ใช้ได้ต่อเนื่องสูงสุดถึง 20 ชั่วโมง และเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ด้วย USB Type-C ตัวเครื่องมีจำหน่ายเฉพาะสีดำ วางจำหน่ายในราคา 25,990 บาท
โปรโมชั่นพิเศษสำหรับช่วงแนะนำ เมื่อซื้อวอล์คแมนทั้ง 3 รุ่นจะได้รับของสมนาคุณพิเศษ สำหรับรุ่น NW-A105/106 รับเคส CKS-NWA100 มูลค่า 1,490 บาท และรุ่น NW-ZX507 รับเคสรุ่น CKL-NWZX500 มูลค่า 2,490 บาท สิทธิพิเศษเฉพาะในเดือนธันวาคม 2019 และมกราคม 2020 เท่านั้น
ผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มหูฟัง
- หูฟังตัดเสียงรบกวน WI-1000XM2 หูฟังไฮเรสออดิโอแบบคล้องคอ ที่ต่อยอดมาสู่เจนเนอเรชั่นที่ 2 ของหูฟังในตระกูล 1000X ด้วยเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนแบบ HD Digital Noise Cancelling Processor QN1 ยังมาพร้อมไดร์เวอร์ขับเสียงแบบ Dynamic ขนาด 9 ม.ม. และ Balanced Armature ถ่ายทอดรายละเอียดทุกย่านความถี่เสียงได้ สายคล้องคอด้วยวัสดุซิลิโคนเพื่อการสวมใส่ที่นุ่มสบาย และมีน้ำหนักเบากว่าเดิมเพียง 44 กรัม โดยแบตเตอรี่รใช้งานได้นานสูงสุด 10 ชม. ในขณะเปิดระบบตัดเสียงรบกวน รวมถึงมีฟังก์ชั่น Google Assistant และ Amazon Alex ทั้งยังรองรับ Quick Charge ที่ใช้เวลาในการชาร์จไฟเพียง 10 นาที สามารถเพลิดเพลินกับเพลงสุดโปรดได้ต่อเนื่องอีก 80 นาที มีให้เลือก 2 สีคือ สีดำ และสีเงิน วางจำหน่ายในราคา 10,990 บาท
- หูฟังตระกูล h.ear series มาพร้อมกัน 3 รุ่น ครอบคลุมการใช้งานทั้งแบบครอบหู และสอดหู โดยหูฟังแบบครอบหูรุ่น h.ear on 3 Wireless NC รุ่น WH-H910N เป็นหูฟังไร้สายแบบคาดศีรษะขนาดฟูลไซส์ครอบหู คุณภาพเสียงระดับ Hi-Res Audio ด้วยไดร์เวอร์ขนาดเล็ก 25 มม. ที่ให้เสียงอันทรงพลังเทียบเท่ากับไดร์เวอร์ขนาด 40 มม. พร้อมไมโครโฟนคู่กันเสียงรบกวน ขณะเดียวกันยังมีฟังก์ชั่น Ambient Sound Mode และ Quick Attention Mode ที่เปิดใช้งานได้ทันที เพียงใช้มือวางที่หูฟังด้านขวา ผู้ใช้จะได้ยินเสียงรอบข้างทันที รวมถึงมี Touch Control เพิ่มความสะดวกในการฟังเพลง หรือควบคุมสั่งงานผ่านแอพพลิเคชั่น Sony Headphones Connect บนสมาร์ทโฟนได้ หูฟังเพรียวบาง น้ำหนักเบา รวมถึงมีฟังก์ชั่น Voice Assistant แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 35 ชม. และมี Quick Charge ที่ใช้เวลาในการชาร์จไฟเพียง 10 นาที ฟังเพลงสุดโปรดได้ต่อเนื่องอีก 2.5 ชั่วโมง มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ, สีแดง และสีน้ำเงิน วางจำหน่ายในราคา 9,990 บาท
- หูฟัง h.ear on 3 Mini Wireless รุ่น WH-H810 เป็นหูฟังแบบคาดศีรษะขนาดมินิ คุณภาพเสียงระดับ Hi-Res มาพร้อม Touch Control แบบใหม่เพิ่มความสะดวกในการฟังเพลงควบคุมสั่งงานผ่านแอพพลิเคชั่น Sony Headphones Connect บนสมาร์ทโฟนได้ รองรับการใช้งานได้ยาวนานถึง 30 ชม.ทั้งยังรองรับ Quick Charge ที่ใช้เวลาในการชาร์จไฟเพียง 10 นาที ฟังเพลงสุดโปรดได้ต่อเนื่องอีก 3.5 ชั่วโมง มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีดำ, แดง, สีน้ำเงิน, สีส้ม และสีเขียว วางจำหน่ายราคา 6,990 บาท
- สำหรับรุ่น h.ear in 3 Truly Wireless รุ่น WF-H800 เป็นหูฟังแบบไร้สายแบบ Truly Wireless ด้วยเสียงคุณภาพสูง Exceptional Sound Quality พร้อมไดนามิคไดรเวอร์ขนาด6มม พร้อมเทคโนโลยี DSEE HX หูฟังดีไซน์จากวัสดุที่คัดสรร มีน้ำหนักเบา ออกแบบหูฟังแบบ Tri-Hold พร้อมจุกหูฟังหลายขนาดเพื่อการสวมใส่ที่กระชับพอดีกับช่องหูของแต่ละคน รวมถึงกล่องบรรจุสำหรับการจัดเก็บและชาร์จไฟในตัว สะดวกด้วยปุ่มปรับเสียงบนหูฟัง หรือควบคุมสั่งงานผ่านแอพพลิเคชั่น Sony Headphones Connect รวมถึงฟังก์ชั่นสั่งงานด้วยเสียงในระบบต่างๆ เช่น Google Assistant ใช้งานรวมสูงสุดถึง 16 ชั่วโมง (8ชม+8ชม) คล่องตัวด้วยระบบ Quick Charge ที่ใช้เวลาในการชาร์จไฟ 10 นาที ฟังเพลงสุดโปรดได้ต่อเนื่องอีก 70 นาที มีให้เลือก 5 สีคือ สีดำ, สีแดง, สีน้ำเงิน, สีส้ม และสีเขียว วางจำหน่ายตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2020 ในราคา 6,990 บาท
- เครื่องบันทึกเสียงดิจิตอล Hi-Res Audio แบบพกพารุ่น ICD-UX570F ตอบโจทย์ทั้งการบันทึก และเล่นทั้งเสียงดนตรีและเสียงร้องได้ อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งเสียงบันทึกได้ด้วยโปรแกรม Sound Organize 2 ที่มากับเครื่องที่ช่วยในการปรับแต่งเสียงอัตโนมัติเพื่อให้ได้เสียงบันทึกที่ชัดเจนและมีความดังเหมาะสม มีฟังก์ชั่นการค้นหาข้อมูล มาพร้อมหน้าจอ OLED และ UI ที่พัฒนาขึ้นใหม่ มีระบบชาร์จไวเพียง 3 นาที โดยสามารถใช้งานได้ 60 นาที และสามารถบันทึกวิทยุ FM และสัญญาณภายนอกผ่านรูปแบบ AUX 3.5 มม.ได้อีกด้วย มาพร้อมหน่วยความจำในตัวเครื่อง 4GB และยังเพิ่มความจุมากกว่า 64GB ด้วย Micro SD Card มีให้เลือก 3 สีคือ สีดำ, สีเงิน และสีทอง วางจำหน่ายในราคา 3,990 บาท
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลโซนี่ โทร 02-715-6100 หรือ www.sony.co.th
บทความที่เกี่ยวข้อง
ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่