สมาร์ทโฟน (Smartphone) | วันที่ : 6 ธันวาคม 2562
ค่อนข้างเป็นที่แน่นอนแล้วว่าปี 2020 จะยุคของสมาร์ทโฟน 5G โดย Qualcomm ผู้ผลิตชิปเซ็ตประมวลผลชื่อดังได้เปิดตัวสองชิปเซ็ตรุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ ใช้ชื่อเรียกว่า Snapdragon 865 ที่สานต่อความสำเร็จจาก Snapdragon 855 และรุ่นกลางอย่าง Snapdragon 765/765G ซึ่งทุกชิปเซ็ตข้างต้นจะรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 5G นั่นหมายความว่าโลกที่ไร้พรมแดนใกล้เกิดขึ้นจริงแล้ว : 5G คืออะไร? มีประโยชน์อย่างไร เรื่องใกล้ตัวคุณมากกว่าที่คิด

เริ่มจากชิปเซ็ตรุ่นท็อปกันก่อน Snapdragon 865 มีจุดเด่นอย่างไร
อย่างที่เกริ่นข้างต้นว่าเป็นรุ่นสานต่อความสำเร็จของ Snapdragon 855 ทว่าในรุ่นใหม่นี้ จุดเด่นได้ทิ้งไปไกลจนถึงโลกอนาคตเลย ซึ่งไฮไลท์อันโดดเด่นคือ สามารถถ่ายภาพได้ที่ความละเอียด 200 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุด 8K ที่ 30 เฟรมต่อวินาที นั่นหมายความว่าการถ่ายภาพของสมาร์ทโฟนจะถูกยกระดับมากขึ้น ส่วนประสิทธิภาพการประมวลผล ระบุว่าในภาพรวมดีกว่าเดิมทั้ง CPU/GPU อีก 25% โดยการเชื่อมต่อ 5G ได้ใช้โมเด็ม Snapdragon X55 5G Modem-RF System ซึ่งจะเป็นโมเด็มเชิงพาณิชย์รุ่นแรกที่วางจำหน่ายทั่วไปด้วยเช่นกัน โดยทำความเร็วได้สูงสุด 7.5 Gbps.
อย่างไรก็ตามด้านการเชื่อมต่อก็เข้าสู่ยุค WiFi 6 แล้ว ส่วน Bluetooth ได้มีการพัฒนาเสียงให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น ด้วยชิปเซ็ตเฉพาะ Qualcomm FastConnect 6800 นอกจากนี้ชิปเซ็ต Snapdragon 865 มีศูนย์กลางบริหารที่เรียกว่า AI Engine เปรียบเหมือนหัวใจของชิปเซ็ต ทำหน้าที่ควบคุมทรัพยากรภายในเครื่องอย่างแม่นยำ เสถียร ส่วนเทคโนโลยีการผลิตจะอยู่ที่ 7 นาโนเมตร รองรับการแสดงผลของภาพแบบ Dolby Vision, H.265 (HEVC), HDR10+, HLG, HDR10, H.264 (AVC), VP8, VP9 ขณะที่หน้าจอแสดงผลได้สูงสุดความละเอียด 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที ให้ช่วงสีกว้าง 2020 color gamut พร้อมเทคโนโลยี HDR10 และ HDR10+
ทั้งนี้ Snapdragon 865 จะมีอยู่ในสมาร์ทโฟนปีหน้าอย่างแน่นอน โดยแบรนด์ชั้นนำได้คอนเฟิร์มมาแล้ว อาทิ Xiaomi, OPPO, ZTE, Motorola เป็นต้น

นอกจากเปิดตัวรุ่นท็อปก็ยังเผยโฉม Snapdragon 765/765G โดยเป็นชิปเซ็ตรุ่นกลางรุ่นแรกของโลกที่รองรับการเชื่อมต่อ 5G โดยจะมีโมเด็มเฉพาะเช่นกัน มีชื่อเรียกว่า Snapdragon X52 Modem-RF System ทำความเร็วในการดาวน์โหลดได้สูงสุด 3.7 Gbps. และอัพโหลด 1.6 Gbps. ซึ่งผลิตที่ระดับเทคโนโลยี 7 นาโนเมตร สำหรับภาพรวมของประสิทธิภาพระบุว่าหน่วยประมวลผลดีขึ้น 20% ด้านกราฟิก Adreno 620 ให้การประมวลผลภาพดีขึ้น 20% นอกจากนี้ยังได้อัพเกรดศูนย์กลางบริหารของชิปเซ็ต AI Engine มาเป็นยุคที่ 5 แล้ว ภาพรวมคือดีขึ้นอีกสองเท่า โดยข้อแตกต่างระหว่าง 765/765G คือ ความเร็วในการประมวลผลของ CPU และ GPU ที่แตกต่างกัน

สำหรับสองชิปเซ็ตข้างต้นจะเห็นในสมาร์ทโฟนช่วงไตรมาสที่ 1 หรืออย่างช้าก็ไตรมาสที่สองในปี 2020 ก็เป็นเรื่องราวดีๆ ที่เราผู้ใช้งานจะอยู่ในยุค 5G โดยที่ไม่ต้องจ่ายราคาแพงแล้ว เพราะช่วงเวลาของการแข่งขันก็เริ่มด้วยเช่นกัน...
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.fonearena.com วันที่ : 6 ธันวาคม 2562
Samsung Galaxy A07 5G โผล่ทดสอบ Geekbench! ใช้ชิปเซ็ต Dimensity 6300 พร้อมรัน Android 16 ตั้งแต่แ...
vivo Y31 5G สมาร์ตโฟน 5G รุ่นทนทานยันแบตเตอรี่ เริ่มวางขายในประเทศไทย
HONOR X9d 5G สมาร์ตโฟนสุดทน พร้อมรับแรงกระแทกทั่วไทย ในราคาหมื่นต้นๆ
realme C85 Series 5G ลุยได้ทุกจังหวะชีวิตด้วยแบต 7000mAh ราคาเริ่มต้น 5,xxx
realme C85 Series ประกาศราคาในไทย มาครบทั้ง 4G และ 5G กับสมาร์ตโฟนตัวคุ้มสเปคครบ
HUAWEI FreeClip 2 หูฟังไร้สาย Clip-On เสียงดีขึ้น เบาขึ้น และคุยสายได้เนียนขึ้น
OnePlus Ace 6T เคาะวันเปิดตัว! ประเดิมชิปฯ Snapdragon 8 Gen 5 รุ่นแรกของโลก
HUAWEI FreeBuds Pro 5 หูฟังไร้สาย TWS มาพร้อมชิป Kirin A3 รับรองเสียง Lossless สตีมมิ่ง 4.6Mbps
OPPO Reno 15c สมาร์ตโฟนชิปเซ็ต Snapdragon 7 Gen 4 กล้องหลัง 3 ตัว Sony LYT-600
Xiaomi 17 Ultra รุ่น Global โผล่ฐานข้อมูล FCC! ยืนยันมาแน่ พร้อม HyperOS 3 และกล้อง Periscope 200MP