รีวิว OnePlus 7T Pro เมื่อนักฆ่าเรือธงขอส่งท้ายปี 2019 ด้วย Snapdragon 855+ พร้อมรับพรจาก Android 10 ทันที

รีวิวโทรศัพท์มือถือ OnePlus 7T Pro - วันพลัส

เป็นไปตามธรรมเนียมของแบรนด์ OnePlus เมื่อมีการส่งสมาร์ทโฟนรุ่นหลักในช่วงต้นปี ก็จะมีรุ่นอัปเกรตออกมาต่อเนื่องในช่วงปลายปีทันที โดยในปลายปี ค.ศ. 2019 ก็ได้ส่ง OnePlus 7T Pro สมาร์ทโฟนฉายานักฆ่าเรือธง รุ่นต่อยอดของ OnePlus 7 Pro ที่มีการอัปเกรตชิปเซ็ตเป็น Qualcomm Snapdragon 855+ แบบ 7 นาโนเมตร ซึ่งเป็นหนึ่งในชิปเซ็ตตัวแรงที่สุดภายในปีนี้ พร้อมหน้าจอ Fluid Display กว้าง 6.67 นิ้ว สัมผัสลื่นๆ ด้วย อัตรารีเฟรขเรต 90Hz และที่สำคัญเมื่อแกะกล่องออกมา ก็จะได้ประสบการณ์ใหม่จากระบบปฏิบัติการ Android 10 ทันที นอกจากยังมีการอัปเกรตในเรื่องของแบตเตอรี่เป็น 4,085mAh รองรับการชาร์จเร็ว Warp Charge 30T แบบ 30W จากทั้งหมดราคาของ OnePlus 7T Pro จะอยู่ที่ 26,990 บาท เท่านั้น

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

ตัวเครื่องของ OnePlus 7T Pro มีขนาด 162.6x75.9x8.8 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 206 กรัม ซึ่งมีขนาดเท่าเดิมเหมือน OnePlus 7 Pro ยังคงจับใช้งานได้อย่างถนัดมือ เครื่องไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป

หน้าจอแสดงผลขอบโค้ง Fluid Display กว้าง 6.67 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (3120x1440 พิกเซล) อัตราส่วน 19.5:9 สัมผัส Refresh Rate 90Hz ดีไซน์แบบไร้รอยแหว่ง และมีการครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass

เหนือหน้าจอแสดงผล มีลำโพงเสียงขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง เป็นได้ทั้งลำโพงสำหรับการสนทนา และลำโพงเสียง เมื่อเปิดกล้องป็อปอัพขึ้นมา จะพบกับกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล

ใต้หน้าจอแสดงผล ไม่มีปุ่มการใช้งานใดๆ ปุ่มนำทางจะเป็นรูปแบบซอฟแวร์ และสังเกตุได้ว่าขอบหน้าจอกับตัวเครื่องค่อนข้างมีความบางมากทีเดียว

ข้างซ้ายตัวเครื่อง มีปุ่มยาวคือปุ่มเพิ่มเสียง และลดเสียง

ข้างขวาตัวเครื่อง มีการใช้งานอยู่ 2 ปุ่ม ปุ่มบนคือปุ่มเลื่อน สำหรับเปิดโหมดเสียงเรียกเข้าเป็นสั่นหรือมีเสียง ส่วนปุ่มล่างคือปุ่มเพาเวอร์สำหรับเปิดปิดเครื่อง หรือพักหน้าจอ

ส่วนบนตัวเครื่อง ด้านซ้ายเป็นที่อยู่ของกล้องป็อปอัพ และข้างขวาเป็นรูไมโครโฟน

ส่วนใต้ตัวเครื่อง ซ้ายสุดเป็นช่องใส่ถาดซิมการ์ด โดยถาดรองรับซิมการ์ดแบบ Nano SIM 2 ช่อง ถัดมาทางขวาเป็นพอร์ต USB Type-C ต่อมาเป็นช่องไมโครโฟน และขวาสุดเป็นลำโพงเสียง

ผลิกมาที่ฝาหลังตัวเครื่อง จะพบกับกล้องหลังเรียงกันเป็นแนวตั้งแบบ 3 เลนส์ ความละเอียด 48+8+16 ล้านพิกเซล ใต้กล้องมีไฟแฟลช Dual LED และข้างซ้ายของกล้องเป็นเซนเซอร์โฟกัส ช่วยในการโฟกัสวัตถุให้ดียิ่งขึ้น ส่วนการดีไซน์จะเป็นสี Haze Blue โฉมใหม่สวยงามกว่าเดิม และมีการครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass อีกชั้น

อุปกรณ์ภายในกล่อง

ตัวเครื่อง OnePlus 7T Pro
สาย USB Type-C
อะแดปเตอร์ Warp Charge 30W
เคสซิลิโคนใส
เข็มนำถาดซิมออก
Invitation Letter
สติ๊กเกอร์ OnePlus
คู่มืการใช้งาน และใบรับประกัน

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

สเปคทั้งหมดของ OnePlus 7T Pro

ขนาดตัวเครื่อง : 162.6 x 75.9 x 8.8 มิลลิเมตร
น้ำหนัก : 206 กรัม
หน้าจอแสดงผล : Fluid Display กว้าง 6.67 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (3120x1440 พิกเซล) อัตราส่วน 19.5:9 ความละเอียดพิกเซล 516PPI ความสว่างสูงสุด 1000nits อัตรา Refresh Rate สูงสุด 90Hz และเคลือบด้วยกระจก 3D Gorilla Glass
ชิปเซ็ต : Qualcomm Snapdragon 855+ ความเร็ว 2.96GHz
ชิปกราฟฟิก : Adreno 640
RAM : 8GB LPDDR4X
ROM : 256GB แบบ UFS 3.1
ระบบปฏิบัติการ : OxygenOS บนพื้นฐาน Android 10
กล้องหลัง 3 เลนส์ มีเลเซอร์โฟกัส และไฟแฟลช Dual LED
- เลนส์หลัก Sony IMX586 ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.6 กันสั่น OIS และ EIS
- เลนส์ Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
กล้องหน้าป็อปอัพ ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 รองรับกันสั่น EIS
ระบบเสียง : ลำโพงคู่ Stereo Speakers สนับสนุน Dolby Atmos
ระบบความปลอดภัย : สแกนใบหน้า, สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
รองรับซิมการ์ดแบบ Nano SIM 2 ช่อง
การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 2.4G/5G, Bluetooth 5.0, GPS / A-GPS, NFC, พอร์ต USB Type-C 3.1
แบตเตอรี่ : 4,085mAh รองรับชาร์จเร็ว 30W Warp Charge 30T

RAM และพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน

เมื่อแกะกล่องเปิดเครื่องมาครั้งแรก จะพบว่าพื้นที่เก็บข้อมูลภายในของ OnePlus 7T Pro จะเหลือประมาณ 227GB จากความจุเต็ม 256GB เพราะระบบมีการกินพื้นที่ไปกว่า 29GB ส่วนเรื่องของ RAM จะอยู่ที่ 8GB ตามสเปคที่ระบุไว้

ระบบปฏิบัติการ Android 10

OnePlus 7T Pro จะมาพร้อมระบบปฏิบัติการ OxygenOS เวอร์ชั่น 10.0 และที่สำคัญเป็นพื้นฐานจาก Android 10 ตั้งแต่แรกเลย ทำให้ระบบการใช้งานจะเป็นแบบใหม่ มีการใช้งานที่รวดเร็วขึ้น และมีการจัดการแบตเตอรี่ที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังได้ใช้งานฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้ามาใช้งานอย่างเช่น การแชร์ไปยังผู้ติดต่อโดยตรง และการตั้งค่าความสำคัญของการแจ้งเตือน

ปุ่มนำทาง และท่าทางนำทาง

ปกติสมาร์ทโฟน Android รุ่นอื่นๆ เมื่อใช้งานครั้งแรกจะมาพร้อมปุ่มนำทางแบบ 3 ปุ่มทางด้านล่างของหน้าจอแสดงผล แต่สำหรับ OnePlus 7T Pro จะเป็นแบบท่าทางนำทางตั้งแต่แรก โดยการใช้งานเมื่อปัดหน้าจอซ้ายขวาเพื่อย้อนกลับ เลื่อนจากล่างขึ้นบนเพื่อกลับหน้าโฮม และเลื่อนจอข้างล่างขึ้นบน แล้วกดค้างจะไปหน้าแอพฯ ก่อนหน้า แต่หากใครที่ชอบการใช้งานแบบ 3 ปุ่มเหมือนเดิม ก็เข้าไปตั้งค่าได้ที่ การตั้งค่า > ปุ่ม&ท่าทาง > แถบนำทาง&รูปแบบ

โหมดเสริมคุณภาพวิดีโอ

การวิดีโอจากหน้าจอ OnePlus 7T Pro จะได้อรรถรสมากขึ้น เมื่อเปิดโหมดเสริมคุณภาพวิดีโอ ซึ่งจะให้วิดีโอมีสีที่สดมากขึ้น โดยเข้าไปเปิดใช้งานได้ที่ การตั้งค่า > การแสดงผล > ตัวเสริมคุณภาพวิดีโอ

ไลฟ์ดิจิทัล และการควบคุมโดยผู้ปกครอง

ในส่วนนี้จะเป็นการบอกระยะเวลาในการใช้งานแอพฯ ต่างๆ ในแต่ละวัน และยังสามารถดูได้อย่างละเอียดในรูปแบบแดชพอร์ดของแต่ละแอพฯ ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมโดยผู้ปกครองได้อีก ด้วยการใช้ Family Link ของ Google เพื่อควบคุมสมาร์ทโฟนจากระยะใกล้ เข้าไปใช้งาน ไลฟ์ดิจิทัล และการควบคุมโดยผู้ปกครอง ได้ที่ การตั้งค่า > ไลฟ์ดิจิทัลและการควบคุมโดยผู้ปกครอง

เปิดการใช้งานด่วน

หลังจากสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ผู้ใช้งานสามารถกดค้างต่อลงไปตรงตำแหน่งนั้นได้ เพื่อเริ่มใช้งาน ค้นด้วยเสียง, หมายเหตุใหม่, ห้องสมุด และกิจกรรมใหม่ หรือจะเพิ่มทางลัดอื่นๆ เช่นกล้อง, การตั้งค่าอื่นๆ และแอพฯ ภายในเครื่อง สามารถเข้าไปเปิดใช้งาน และเพิ่มทางลัดทั้งหมดได้ที่ การตั้งค่า > อรรถประโยชน์ > เปิดการใช้งานด่วน

แอปคู่ขนาน

แอปคู่ขนานคือการก็อปปี้แอพฯ ที่มีอยู่แล้วออกมาอีกอัน ซึ่งส่วนใหญ่แอพฯ ที่รองรับจะเป็นแอพฯ ประเภทสังคมออนไลน์ โดยจะสะดวกต่อผู้ใช้งานที่มีบัญชี 2 บัญชี เพื่อการล็อกอินได้ 2 บัญชีพร้อมกัน และไม่ต้องล็อกอินเข้าๆ ออกๆ ในแอพฯ เดียว สามารถเข้าไปเพิ่มแอพคู่ขนานได้ที่ การตั้งค่า > อรรถประโยชน์ > แอพคู่ขนาน

การลดความสว่าง DC หรือ DC Dimming

หากผู้ใช้งานผ่านหน้าจอ แล้วเกิดอาการหน้าจอกระพริบในบางช่วงเวลาที่ใช้งาน ในเครื่อง OnePlus 7T Pro ก็มีโหมด การลดความสว่าง DC เพื่อแก้ปัญหาในจุดนี้ ซึ่งระบบจะทำการลดความสว่างของหน้าจอโดยการเปลี่ยนวงจรไฟฟ้า ทำให้ลดอาการหน้าจอกระพริบได้ สามารถเข้าไปเปิดใช้งานได้ที่ การตั้งค่า > อรรถประโยชน์ > ห้องปฏิบัติการ OnePlus > การลดความสว่าง DC

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง

ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย AnTuTu Benchmark v7.0.5 ได้ 483,389 คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพการอ่านเขียนข้อมูล AndroBench ได้คะแนน Sequential Read ที่ 1441.12 MB/s และ Sequential Write 394.46 MB/s
ผลการทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย 3DMark Overall Sling Shot Extreme - OpenGL ES 3.1 ได้ 6,244 คะแนน และ Sling Shot Extreme - Vulkan 5,498 คะแนน
ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้

Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
Orientation Sensor เซ็นเซอร์ปรับมุมมองหน้าจอ
Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
Gyroscope Sensor เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน
Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
Magnetic Sensors เซ็นเซอร์ตรวจจับแม่เหล็ก

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

หน้าจอ Fluid Display สัมผัสลื่น Refresh Rate 90Hz

ความโดดเด่นของ OnePlus 7T Pro คงหนีไม่พ้นในส่วนของหน้าจอแสดงผล โดยหน้าจอจะมีการสัมผัสที่ไหลลื่นด้วยอัตรา Refresh Rate ที่ 90Hz รับรองว่าใครที่หลงเข้ามาได้ลองใช้ จะพบกับลื่นจนถอนตัวไม่ได้แน่ๆ ซึ่งตั้งแต่เปิดเครื่องมาระบบจะตั้งค่าให้เป็น 90Hz ตั้งแต่แรก แต่ผู้ใช้งานก็ยังสามารถเข้าปรับเป็น 60Hz ได้ที่ การตั้งค่า > การแสดงผล > อัตรารีเฟรชหน้าจอ เพื่อการปรับหยัดแบตเตอรี่ที่มากขึ้น แต่ก็เชื่อว่าไม่ค่อยมีใครปรับกลับมาใช้ 60Hz ซักเท่าไหร่ เมื่อได้สัมผัส 90Hz ไปตั้งแต่แรก

นอกจากนี้หน้าจอ Fluid Display ยังเป็นหน้าจอแบบโค้งพาแนล AMOLED พร้อมความกว้างถึง 6.67 นิ้ว ความละเอียดสูงสุดระดับ QHD+ รองรับการรับชมคอนเทนด์แบบ HDR10+ เรียกได้ว่าเป็นอีกสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอแสดงผลแบบครบเครื่อง ทั้งความใหญ่ แสดงผลได้อย่างคมชัด สีสด และยังมีการสัมผัสที่ไหลลื่นสุด

ใช้งานแบบแรงๆ รวดเร็วด้วย Snapdragon 855+

OnePlus 7T Pro ยังคงความเป็นสมาร์ทโฟนฉายานักฆ่าเรือธงไว้ได้อย่างดี ด้วยการนำฟีเจอร์ และฟังก์ชั่นระดับท็อปต่างๆ มารวมไว้ทั้งหมด ทำให้การใช้งานก็เป็นไปอย่างราบรื่น ด้วยการอัปเกรดขุมพลังเป็น Snapdragon 855+ ที่มีความแรงมากกว่า Snapdragon 855 ประมาณ 15% ยังไม่พอ ROM ยังเป็นแบบ UFS 3.0 ทำให้การโอนย้ายไฟล์มีความรวดเร็วมากเป็นเท่าตัว

ใช้เล่นเกมได้แบบลื่นๆ ควบคุมความร้อนด้วย Liquid Cooling

สเปคเครื่องมาแรงจัดเต็มขนาดนี้ ด้านการเล่นเกมของ OnePlus 7T Pro ก็คงไม่มีปัญหาใดๆ สามารถใช้เล่นเกมยอดฮิตในปัจจุบันทั้งหมดได้แบบสบายๆ และยังมีโหมดการเล่นเกมอย่าง Game Space และ Fnatic Mode ที่คอยช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมมากขึ้น พร้อมกับจัดการการแจ้งเตือนต่างๆ ได้ดั่งใจ ส่วนการควบคุมความร้อนก็มีระบบระบายความร้อนด้วย Liquid Cooling ทำให้ควบคุมความร้อนภายในเครื่องได้ดี และยังชาร์จแบตเตอรี่พร้อมเล่นเกมได้ด้วยได้อย่างปลอดภัย

ROV = เกม ROV เวอร์ชั่นใหม่สามารถใช้ OnePlus 7T Pro เล่นได้แบบไม่มีปัญหา โดยสามารถตั้งค่ากราฟฟิกได้ที่ระดับ Ultra พร้อมดันเฟรมเรตระดับสูงได้สบายๆ ซึ่งในการเล่นจริงก็ทำเฟรมเรตได้ที่ 59-60 fps ตลอดเวลา รวมไปถึงตอนปะทะสาดสกิลกันหนักๆ เฟรมเรตก็ไม่ตกให้เห็น

PUBG Mobile = เมื่อเข้าเกมมาครั้งระบบจะตั้งค่าเริ่มต้นให้ในระดับ HD แต่ผู้ใช้งานก็สามารถเข้าไปปรับให้สูงขึ้นไปอีกในระดับ HDR HD ได้อีก และยังดันเฟรมเรตได้ถึงระดับสูงสุด ในการโดดร่มจริงๆ ก็มีเล่นเกมที่ลื่นเอามากๆ เมื่อผสมกับการสัมผัสระดับ 90Hz ก็ยิ่งทำให้การเล่น PUBG Mobile มีความสมบูรณ์แบบเอาเรื่องสุดๆ

Call of Duty Mobile = เกมแนวยิงบนมือถือใหม่ล่าสุดอย่าง Call of Duty Mobile ก็ใช้เล่นได้แบบไร้ปัญหา พร้อมการปรับกราฟฟิกระดับ Very High และปรับเฟรมเรตได้ในระดับ MAX เมื่อเข้าสงครามไปยิงกันจริงๆ ก็เล่นได้แบบสบายมากยิงได้แบบเพลินๆ ลื่นมากๆ

สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ

OnePlus 7T Pro จะมาพร้อมระบบความปลอดภัย สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ซึ่งตำแหน่งการสแกนจะอยู่บริเวณด้านล่างของหน้าจอ โดยการสแกนถือว่ามีความรวดเร็วมากทีเดียว พร้อมกับจดจำลายนิ้วมือได้ถึง 5 ลายนิ้วมือ นอกจากนี้การสแกนก็มีความสะดวกมากๆ เพียงหยิบตัวเครื่องขึ้น หรือแตะลงไปที่หน้าจอ 1 ครั้ง ตำแหน่งที่ต้องสแกนลายนิ้วมือก็จะปรากฏขึ้นมาให้สแกนทันที

ปลดล็อกด้วยใบหน้า

อีกระบบความปลอดภัยของ OnePlus 7T Pro จะเป็นการปลดล็อกด้วยใบหน้า โดยการใช้งานจริงๆ ก็พบว่ามีความรวดเร็วมากๆ ทั้งตอนจดจำใบหน้า และการปลดล็อกเข้าใช้งานในเครื่อง ส่วนการสแกนใบหน้าตอนกลางคืนก็สามารถทำได้ เพราะมีระบบ Face Unlock Assistive Lighting ทำให้หน้าจอสว่างขึ้นเพื่อจะได้เห็นใบหน้าในการปลดล็อก แต่ข้อเสียงของการปลดล็อกด้วยใบหน้าคือ กล้องหน้าป็อปอัพจะเด้งขึ้นมาตลอดเมื่อมีการใช้งาน ทำให้มอเตอร์ของกล้องป็อปอัพอาจจะพังเร็วกว่ากำหนด

ลำโพงคู่ ระบบเสียง Dolby Atmos

ด้านระบบเสียงของ OnePlus 7T Pro จะเป็นลำโพงคู่ Stereo Speaker ซึ่งเสียงจะออกมาสมบูรณ์จาก 2 ฝั่ง และยังรองรับการปรับแต่งเสียงด้วยระบบ Dolby Atmos เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์แบบในด้านเสียงเพลงมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ระบบ Dolby Atmos ยังนำมาปรับแต่งเสียงกับการใช้หูฟังได้อีกต่อ เรียกว่าเสียงดีทั้งจากลำโพง และหูฟังเลยทีเดียว (เสียดายไม่รองรับหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตร)

เพิ่มแบตเตอรี่เป็น 4,085mAh รองรับชาร์เร็ว Warp Charge 30T

ในส่วนของแบตเตอรี่ จะถูกเพิ่มมาเป็น 4,085mAh ซึ่งแบตเตอรี่ขนาดนี้ พร้อมกับขุมพลัง Snapdragon 855+ แบบ 7 นาโนเมตร เชื่อได้เลยว่าเมื่อชาร์จเต็ม 100% ยังไงก็ใช้งานมาตรฐานเพียงพอต่อวันอย่างแน่นอน ไม่พอแค่นั้นยังรองรับการชาร์จเร็วแบบใหม่คือ Warp Charge 30T ชารจเร็วด้วยกำลังไฟสูงสุด 30W ทั้งนี้ระบบ Warp Charge 30T ยังสามารถชาร์จไฟพร้อมกับใช้งานได้อย่างปลอดภัยอีกด้วย

กล้องถ่ายรูป

การใช้งานกล้องถ่ายรูปบน OnePlus 7T Pro ก็ถือว่ามีโหมดการใช้งานที่ครบเข้ากับยุคปัจจุบัน ทั้งการถ่ายมุมกว้าง มุมใกล้ ถ่ายตอนกลางคืน และหน้าชัดหลังเบลอ เนื่องจากมีกล้องหลัง 3 เลนส์ โดยเลนส์หลัก Sony IMX586 ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เลนส์แบบ 7P ผสมกับเลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ที่เพิ่มมุมกว้างได้ถึง 117 องศา และเลนส์ Telephoto ทำให้ซูมแบบ Optical ได้ถึง 3 เท่า ส่วนการโฟกัสก็มีความเสถียรมากขึ้นด้วยเพราะได้ความสามารถของเลเซอร์โฟกัสดจ้ามาช่วย นอกจากนี้ยังรองรับระบบกันสั่น OIS และ EIS สามารถถ่ายวิดีโอได้แบบลื่นๆ และได้ความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 4K 60fps

ในขณะที่กล้องหน้าก็เป็นแบบกล้องหน้าป็อปอัพ Sony IMX471 ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ทำให้การถ่ายเซลฟี่ยังมีความสวยงามำแสมควร และใบหน้ายังดูสวยขึ้นไปอีกด้วยโหมดปรับแต่งใบหน้า นอกจากนี้ด้วยผลของกล้องหน้าแบบป็อปอัพยังช่วยให้หน้าจอแสดงผลไม่มีรอยแหว่งใดๆ อีกด้วย

เลนส์ Ultra Wide Angle 117 องศา

ความพิเศษของเลนส์ Ultra Wide Angle จากกล้องหลัง ทำให้การถ่ายมามีมุมมอง และรูปแบบของภาพในรูปแบบใหม่ๆ ซึ่งจะช่วยในให้ถ่ายมุมกว้างได้มากขึ้นถึง 117 องศา พร้อมกับเก็บรายละเอียดรอบข้างภายในภาพได้มากกว่าเดิม โดยภาพที่ออกมาก็ถือว่ามีความสวยงาม และยังได้ภาพที่มีความละเอียดพอสมควร ด้วยความละเอียดของกล้อง 16 ล้านพิกเซล

มุมใกล้สูงสุด 2.5 เซนติเมตร

ใครที่เป็นสายถ่ายรูปดอกไม้ ต้องได้ใช้โหมด Super Macro หรือโหมดมุมใกล้แน่ๆ ด้วยความสามารถในการถ่ายใกล้ได้ถึง 2.5 เซนติเมตร ทำให้ภาพในระยะใกล้ๆ มีความคมชัด และเก็บรายละเอียดได้ค่อนข้างสมบูรณ์

โหมดกลางคืน

การถ่ายรูปในที่แสงน้อย หรือในตอนกลางคืน ก็สามารถนำ OnePlus 7T Pro ออกไปถ่ายรูปได้สบายๆ เพราะมีการรองรับโหมดทิวทัศน์กลางคืน ทำให้ถ่ายภาพตอนกลางคืน หรือในที่แสงน้อยได้แบบสวยงาม และยังใช้ร่วมกับเลนส์ Ultra Wide Angle ได้อีกด้วย ซึ่งจะได้ทั้งภาพตอนกลางคืนที่สวยงาม ในแบบฉบับมุมกว้าง 117 องศา ไปพร้อมๆ กัน

โหมด Portrait หน้าชัดหลังเบลอ

OnePlus 7T Pro จะรองรับการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ หรือโหมด Portrait ก็การเบลอภาพพื้นหลังถือว่ามีการเบลอที่ค่อนข้างสมบูรณ์ ตัดขอบกับส่วนหน้าได้ดี มีการรองรับการปรับแต่งใบหน้าเพิ่มเติมอีก 3 ระดับ และยังสามารถใช้ร่วมกับเลนส์ Ultra Wide Angle ได้ด้วยจากการใช้งานกล้องหลัง แต่ลูกเล่นต่างๆ ดูจะน้อยไปหน่อย เพราะไม่มีโหมดเอฟเฟคแสง เพื่อเพิ่มความสนุกในการใช้งานโหมด Portrait

โหมดกันสั่น Super Stable

ส่วนของการถ่ายวิดีโอ OnePlus 7T Pro จะมีระบบ Super Stable เพื่อการถ่ายวิดีโอที่นิ่ง เมื่อผสมกับระบบ OIS ก็ยิ่งทำให้การถ่ายวิดีโอมีความนิ่งเป็นอย่างมาก แต่การเปิดใช้งาน Super Stable จะสามารถใช้งานได้ในการบันทึกวิดีโอแบบ 1080P เท่านั้น

คุณสมบัติการถ่ายภาพ

ความละเอียดของภาพถ่ายจากกล้องหลัง : 4000x3000 (4:3), 4000x1824 (เต็มจอ), 3000x3000 (1:1) พิกเซล
ความละเอียดของภาพถ่ายจากกล้องหน้า : 4608x3456 (4:3), 4608x2112 (19.5:9), 3456x3456 (1:1) พิกเซล
โหมดถ่ายภาพ : รูปภาพ, ซูม 3 เท่า, มุมกว้าง 0.6, แนวตั้ง (Portrait), ทิวทัศน์กลางคืน, โหมดโปร,หน่วงเวลา, พาโนรามา
ตัวจับเวลา : ปิด, 3, 5, 10 วินาที
แฟลช : อัตโนมัติ, ปิด, เปิด
โหมดมาโคร : ปิด, เปิด
โหมดที่กำหนดเอง : เลือกโหมดแสดงบนหน้าจอเริ่มต้น
การปรับเลนส์มุมกว้างพิเศษ : ปิด, เปิด
การควบคุม HDR ด้วยมือ : ปิด, เปิด
การตรวจจับเนื้อหาอัฉริยะ : ปิด, เปิด
เก็บข้อมูลตำแหน่งที่ตั้ง : ปิด, เปิด
เสียงชัตเตอร์ : ปิด, เปิด
ถ่ายภาพด่วน : ปิด, เปิด
ตาราง : ไม่มี, 3x3, 4x4, อัตราส่วนทอง
ภาพถ่ายลายน้ำบน OnePlus : ปิด, เปิด
ภาพถ่ายสะท้อน (เซลฟี่) : ปิด, เปิด
ฮิตโตแกรม (โปร) : ปิด, เปิด
เส้นอ้างอิงแนวนอน (โปร) : ปิด, เปิด

คุณสมบัติการบันทึกวิดีโอ

ความละเอียดของภาพวีดีโอจากกล้องหลัง : 3840 x 2160 (4K-60FPS), 3840 x 2160 (4K) 1920 x 1080 (1080p-60FPS), 1920 x 1080 (1080p) พิกเซล
ความละเอียดของภาพวีดีโอจากกล้องหน้า : 1920 x 1080 พิกเซล
แฟลช : ปิด, เปิด
Super Stable กันสั่น : เปิด, ปิด
โหมดถ่ายวิดีโอ : ปกติ, การหน่วงเวลา, เคลื่อนไหวช้า