รีวิว Redmi Note 8 Pro ขับเคลื่อนด้วย Helio G90T กล้องหลังคมๆ 4 เลนส์ ความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล

รีวิวโทรศัพท์มือถือ Redmi Note 8 Pro - เรดหมี่

ช่วงนี้เทรนด์กล้องความละเอียด 64 ล้านพิกเซลกำลังมาแรงทีเดียว ซึ่งทาง Redmi ก็กลัวจะน้อยหน้า ทำการส่งสมาร์ทโฟนที่มีกล้อง 64 ล้านพิกเซลมาด้วยเช่นกัน โดยเป็นรุ่น Redmi Note 8 Pro สมาร์ทโฟนคุ้มๆ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง MediaTek Helio G90T รองรับการเล่นเกมลื่นๆ จากระบบ Game Turbo 2.0 และมีการระบายความร้อนด้วย LiquidCool System ส่วนเรื่องกล้องถ่ายรูปอย่างที่เกริ่นไปตอนแรก มีกล้องหลังรวม 4 เลนส์ เลนส์หลัก Samsung GW1 ความละเอียด 64MP พร้อมกับเลนส์ Ultra Wide-Angle 8MP, Depth Camera 2MP และ Macro Camera 2MP มีการทำงานร่วมกับ AI สำหรับการถ่ายรูปตอนกลางคืน และโหมด AI Ultra Wide-Angle เรียกว่าใช้งานกันจัดเต็มรอบด้าน ในราคาเริ่มต้น 7,999 บาท

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

ตัวเครื่อง Redmi Note 8 Pro มีขนาด 161.35 x 76.4 x 8.79 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักอยู่ที่ 199.8 กรัม ถือว่าเป็นขนาดทีกำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป หน้าจอแสดงผล เป็นหน้าจอ IPS-LCD กว้าง 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340x1080 พิกเซล) อัตราส่วน 19.5:9 ดีไซน์รอยแหว่งทรงหยดน้ำ (Dot Drop) เพิ่มความสว่างสูงสุด 500nit และมีการเคลือบด้วยกระจก Gorilla Glass 5

เหนือหน้าจอแสดงผล ในบริเวณรอยแหว่งทรงหยดน้ำ มีกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ขยับเหนือกล้องขึ้นไปเป็นช่องลำโพงเสียงสำหรับการสนทนา

ใต้หน้าจอแสดงผล ไม่มีปุ่มการใช้งานแบบฮาร์ดแวร์ โดยปุ่มนำทางจะมาในรูปแบบซอฟแวร์ในหน้าจอแสดงผล

ข้างซ้ายตัวเครื่อง มีช่องใส่ถาดซิมการ์ด โดยถาดเป็นแบบ Hybrid สามารถใส่ Nano SIM ได้ 2 ช่อง หรือเปลี่ยน 1 ช่องเป็น MicroSD Card ได้เช่นกัน

ข้างขวาตัวเครื่องมีปุ่มใช้งานมาตรฐาน ปุ่มยาวคือปุ่มเพิ่มเสียง และลดเสียง ส่วนปุ่มเล็กคือปุ่มเพาเวอร์สำหรับพักหน้าจอ หรือเปิดปิดเครื่อง

ส่วนบนตัวเครื่อง มีช่องเซนเซอร์อินฟราเรดอยู่ทางซ้าย ไว้สำหรับสั่งการเหมือนรีโมต ทางขวาเป็นช่องไมโครโฟน

ใต้ตัวเครื่อง ทางซ้ายสุดเป็นช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ตรงกลางเป็นพอร์ต USB Type-C ถัดมาทางขวาเป็นรูไมโครโฟน และปิดท้ายด้วยลำโพงเสียง

ผลิกมาที่ฝาหลัง จะพบกับกล้องหลังเรียงกันเป็นแนวตั้ง โดยมี 3 เลนส์อยู่ตรงกลาง ข้างขวามีอีก 1 เลนส์กับไฟแฟลช ความละเอียดทั้งหมด 64+8+2+2 ล้านพิกเซล ใต้กล้องถ่ายรูปยังมีที่สแกนลายนิ้วมือ นอกจากนี้ด้านดีไซน์ฝาหลังยังมีควาสวยงาม ดูเงางามสะท้อนแสง และมีการเคลือบด้วย Gorilla Glass 5 อีกด้วย

อุปกรณ์ภายในกล่อง

ตัวเครื่อง Redmi Note 8 Pro
อะแดปเตอร์ จ่ายไฟสูงสุด 18W
สาย USB Type-C
เคสซิลิโคน
เข็มนำถาดซิมออก
ใบรับประกัน และคู่มือการใช้งาน

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

สเปคทั้งหมดของ Redmi Note 8 Pro

ขนาดตัวเครื่อง : 161.35 x 76.4 x 8.79 มิลลิเมตร
น้ำหนัก : 199.2 กรัม
หน้าจอแสดงผล : IPS-LCD กว้าง 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340x1080 พิกเซล) อัตราส่วน 19.5:9 ดีไซน์รอยแหว่งแบบทรงหยดน้ำ เพิ่มความสว่างได้สูงสุด 500nit และเคลือบด้วย Gorilla Glass 5
ชิปเซ็ต : MediaTek Helio G90T
RAM : 6GB
ROM : 64GB / 128GB เพิ่ม MicroSD Card ได้
ระบบปฏิบัติการ : MIUI บนพื้นฐาน Android 9 Pie
กล้องหลัง 4 เลนส์ พร้อมไฟแฟลช
- กล้องหลัก Samsung GW1 ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.89
- Ultra Wide-Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 120 องศา
- Depth Camera ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- Macro Camera ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
กล้องหน้า : ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
รองรับการใช้งาน Nano SIM 2 ช่อง แบบ Dual 4G Standby
ระบบความปลอดภัย : สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ, AI Face Unlock
ระบบระบายความร้อน : เทคโนโลบี LiquidCool
การเชื่อมต่อ : WiFi X Antenna, พอร์ต USB Type-C, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, NFC
แบตเตอรี่ : 4,500mAh รองรับการชาร์จเร็ว 18W

RAM และพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน

Redmi Note 8 Pro มีการเปิดตัวด้วยกัน 2 รุ่นคือ RAM 6GB + ROM 64GB ในราคา 7,999 บาท และ RAM 6GB + ROM 128GB ราคา 8,999 บาท ก็ถือว่าทั้ง 2 ตัวเลือกค่อนข้างเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกับราคา แต่หากผู้ใช้งานมองว่าพื้นที่เก็บข้อมูลภายในยังไม่เพียงพอ ก็ยังสามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้อีกต่อ

ระบบปฏิบัติการ

ทางด้านซอฟแวร์ Redmi Note 8 Pro จะมาพร้อมระบบปฏิบัติการ MIUI 10 บนพื้นฐาน Android 9 Pie ซึ่งการใช้งานจะมีความรวดเร็ว และใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ของ Android 9 Pie ได้ทั้งหมด ส่วน MIUI 10 ก็มีการปรับแต่งหน้าตาให่ดูเรียบง่าย เน้นใช้งานได้สะดวก มีการใส่อนิเมชั่นเคลื่อนไหวให้กับโลโก้ของแอพฯ ดูสวยงามมากยิ่งขึ้น และที่สำหรับเป็น ROM แบบ Global ทำให้ไม่มีแอพพลิเคชั่นจากโรงงานติดมามากจนดูรกหูรกตา

หน้าจอหลัก

คีย์บอร์ด และปุ่มนำทาง

คีย์บอร์ดที่มาตอนแรกบน Redmi Note 8 Pro จะเป็นคีย์บอร์ด Gboard ซึ่งเป็นคีย์บอร์ดที่ใช้งานง่าย และเป็นที่นิยมของสมาร์ทโฟนฝั่ง Android ในปัจจุบัน ส่วนปุ่มนำทางจะเป็นแบบปุ่มทำทาง 3 ปุ่ม รูปแบบซอฟแวร์ โดยที่ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่มแอพฯ ก่อนหน้า หรือตะเป็นเป็นแบบ ท่าทางสัมผัสสั่งการก็ได้เช่นกัน โดยเข้าไปปรับแต่งได้ที่ การตั้งค่า > การตั้งค่าเพิ่มเติม > แสดงผลเต็มหน้าจอ

โหมดมืด

Redmi Note 8 Pro จะรองรับการใช้งานโหมดมืด ซึ่งโหมดนี้จะมีการปรับเปลี่ยนธีมเป็นสีดำ และตัวหนังสือเป็นสีขาว (เฉพาะหน้าการตั้งค่า และบางแอพฯ ที่รองรับ) ทำให้ใช้งานในตอนกลางคืนได้สบายตามากยิ่งขึ้น แต่น่าเสียดายที่ Redmi Note 8 Pro ใช้หน้าจอพาแนลเป็น IPS-LCD ทำให้โหมดมืดช่วยประหยัดพลังงานได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่เหมือนกับหน้าจอ AMOLED

โคลนแอพ

การโคลดแอพ คือการเพิ่มแอพฯ ที่มีอยู่แล้วออกมาอีก 1 แอพฯ จะเหมาะกับผู้ใช้งานที่มีบัญชีสังคมออนไลน์ 2 บัญชี ทำให้ล็อกอิน 2 บัญชีพร้อมกันได้ ไม่ต้องสลับไปๆ มาๆ ในแอพฯ เดียว นอกจากนี้บน Redmi Note 8 Pro ยังมีการรองรับการโคลนแอพฯ ที่ค่อนข้างเยอะเช่น เกม หรือแอพช็อปปิ้งออนไลน์ สามารถเข้าไปโคลนแอพฯ ได้ที่ การตั้งค่า > แอป > โคลนแอป

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง

ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย AnTuTu Benchmark v8.0.2 ได้ 284,424 คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพการอ่านเขียนข้อมูล AndroBench ได้คะแนน Sequential Read ที่ 523.7 MB/s และ Sequential Write 197.36 MB/s
ผลการทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย 3DMark Overall Sling Shot Extreme - OpenGL ES 3.1 ได้ 2,377 คะแนน และ Sling Shot Extreme - Vulkan 2,459 คะแนน
ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้

Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
Orientation Sensor เซ็นเซอร์ปรับมุมมองหน้าจอ
Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
Gyroscope Sensor เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน
Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
Magnetic Sensors เซ็นเซอร์ตรวจจับแม่เหล็ก

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

ดีไซน์สวยงามเคลือบ Gorilla Glass 5 ทั้งหน้า และหลัง

การออกแบบรอบตัวเครื่องของ Redmi Note 8 Pro จะดูเรียบแต่มีสวยงามอยู่ในตัว สามารถหยิบจับใช้งานได้กระชับมือ เพราะมีการใช้กระจกโค้ง 3 มิติทั้ง 4 ด้าน ส่วยความแข็งแแกร่งก็มีการเคลือบกระจก Gorilla Glass 5 ทั้งด้านหน้า และฝาหลัง แน่นอนว่าตัวเครื่องจะเกิดรอบขีดขวนได้ยากมากๆ

หน้าจอใหญ่ใช้สบาย

ถือว่า Redmi Note 8 Pro มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่แบบเต็มๆ ด้วยหน้าจอพาแนล IPS-LCD กว้างถึง 6.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ และมีอัตราส่วนหน้าจอกับตัวเครื่องอยู่ที่ 91.4% ทำให้ดูหนัง หรือดูวิดีโอผ่าน Youtube ได้แบบชัดๆ กว้างๆ และยังมีดีไซน์รอยแหว่งที่ทันสมัย ด้วยรอยแหว่งแบบ Dot Drop หรือรอยแหว่งทรงหยดน้ำนั้นเอง ส่วนการภนอมสายตาก็มีการรับรองจาก TUV Rheinland ด้วยการลดแสงสีฟ้าออกจากหน้าจอ

ขุมพลัง MediaTeK Helio G90T ใช้งานลื่นๆ

Redmi Note 8 Pro มีอีกจุดเด่นสำคัญคือ ขุมพลัง MediaTeK Helio G90T ซึ่งเป็นชิปเซ็ตตัวแรงในระดับกลาง ที่มีการทำงานอย่างรวดเร็ว สามารถใช้งานทั่วไปเป็นไปอย่างราบรื่นไม่มีปัญหาไม่ว่าจะเป็นดูหนังฟังเพลง หรือแอพฯ สังคมออนไลน์ต่างๆ ทั้งนี้ยังสามารถใช้เล่นเกมยอดฮิตในปัจจุบันได้อีกด้วย

ทดสอบการเล่นเกม

แน่นอนว่าชิปเซ็ต MediaTeK Helio G90T อาจจะเป็นชิปเซ็ตระดับกลาง แต่ก็สามารถใช้เล่นเกมได้แบบสบายๆ เมื่อไปทำงานร่วมกับ Game Turbo 2.0 ไม่ว่าจะเป็นเกมสุดฮิตในปัจจุบันเช่น ROV, PUBG Mobile หรือ Call of Duty Mobile ก็สามารถปรับกราฟฟิกในระดับสูงได้ แุถมเล่นได้แบบไม่หน่วงเครื่องอีกด้วย ส่วนการควบคุมความร้อนอาจจะยังทำได้ไม่ค่อยดี ตัวเครื่องเกิดอาการร้อนไปหน่อย เวลาใช้เล่นไปซักระนะ แม้ว่าจะมีระบบระบายความร้อนด้วย Liquid Cooling ก็ตาม

สแกนลายนิ้วมือ

ที่สแกนลายนิ้วมือของ Redmi Note 8 Pro จะอยู่ที่ฝาหลังตัวเครื่อง บริเวณใต้กล้องหลัง ส่วนการสแกนถือว่ามีความรวดเร็วเป็นอย่างมาก ทั้งตอนจกจำลายนิ้วมือ หรือตอนสแกนเพื่อปลดล็อกเข้าใช้งาน ส่วนการจดจำลายนิ้วมือสามารถจดจำได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ

สแกนใบหน้า

แม้ระบบความปลอดภัยจะมีการสแกนลายนิ้วมือไปแล้ว แต่ก็ยังมีระบบสแกนใบหน้าเป็นระบบความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่ง โดยเป็นการสแกนใบหน้าแบบ 2 มิติ ซึ่งมีการทำงานที่รวดเร็วทั้งตอนจดจำใบหน้า หรือตอนสแกนเข้าใช้งาน แต่การทำงานอาจมีความคลาดเคลื่อนในบ้างครั้ง และใช้งานได้ไม่สมบูรณ์ในการสแกนใบหน้าช่วงกลางคืน

แบตเตอรี่ 4,500mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W

ใครที่ชอบใช้งานสมาร์ทโฟนตลอดทั้งวัน ก็สามารถหยิบ Redmi Note 8 Pro ใช้งานได้แบบไม่มีปัญหา เพราะมีแบตเตอรี่สูงถึง 4,500mAh มั่นใจการไถ Facebook หรือตามส่อง # ใน Twitter ได้แบบไม่ขาดตอน ตลอดทั้งวัน และแม้จะแบตเตอรี่เหลือน้อย ตัวเครื่องก็รองรับการชาร์จเร็ว 18W เสียบชาร์จ 2 ชั่วโมงก็เต็ม 100% แล้ว

กล้องถ่ายรูป

การใช้งานกล้องถ่ายรูปถือว่าเป็นไฮไลท์เด่นของ Redmi Note 8 Pro จริงๆ ด้วยความละเอียดของหลังหลังสูงสุดถึง 64 ล้านพิกเซล ทำให้ถ่ายภาพได้แบบคมชัด เผยรายละเอียดของภาพได้อย่างสวยงาม และยังเพิ่มความสามารถในการถ่ายรูปในสถานการณ์อื่นๆ ได้อีก ด้วยเลนส์หล้องอีก 3 เลนส์ทั้ง Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ช่วยการถ่ายมุมกว้าง 120 องศา, กล้อง Ultra Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ถ่ายมุมใกล้ได้ถึง 2 เซนติเมตร และเลนส์ Depth Sensor ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ช่วยเบลอภาพหลังได้เนียนตามากขึ้น ซึ่งรวมแล้วกล้องหลังของ Redmi Note 8 Pro จัดเต็มมาถึง 4 เลนส์ทีเดียว

ในขณะที่กล้องหน้า ก็ใช้ถ่ายเซลฟี่ได้สวยงามด้วยความละเอียดของกล้องถึง 20 ล้านพิกเซล รองรับการทำงานร่วมกับ AI ทั้งการปรับแต่งหน้าสวย, การเบลอภาพ, AI จดจำซีน และ AI เอฟเฟคแสงไฟสตูดิโอ ใครที่ชอบการเซลฟี่ ก็ถือว่า Redmi Note 8 Pro จัดมาให้แบบเต็มไม้เต็มมือไม่ควรพลาด

กล้องความละเอียด 64 ล้านพิกเซล

ความพิเศษแบบไม่กี๊กอีกอย่างของ Redmi Note 8 Pro จะอยู่ที่กล้องหลัง 4 เลนส์ มีความละเอียดสูงสุดถึง 64 ล้านพิกเซล โดยเลนส์ 64MP จะถูกดึงประสิทธิภาพของกล้อง 64MP ออกมาเต็มที่ด้วยโหมด 64MP ซึ่งจะเป็นโหมดที่ใช้ถ่ายภาพนิ่ง พร้อมเก็บรายละเอียด และให้ความคมชัดที่สมบูรณ์แบบ

มุมกว้าง 120 องศา

ในขณะที่เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล จะทำหน้าที่ช่วยการเปิดมุมกว้างในการถ่ายรูปมากขึ้น 120 องศา ซึ่งในภาพจะเผยรายละเอียดรอบข้างได้มากขึ้น โดยที่ไม่ต้องเดินถอยหลังออกไปไหนไกลๆ และยังได้การถ่ายภาพแนวใหม่ ที่ดูสวยงามไปอีกแบบ

มุมใกล้ 2 เซนติเมตร

โดยปกติภาพมุมใกล้กล้องสมาร์ทโฟนจะไม่สามารถโฟกัสได้ แต่เมื่อ Redmi Note 8 Pro มาพร้อมเลนส์ Macro ก็ทำให้การถ่ายภาพมุมใกล้สามารถเห็นรายละเอียด และกล้องสามารถจับภาพได้อีกด้วย และที่สำคัญสามารถเข้าไปใกล้สิ่งของได้มากที่สุดถึง 2 เซนติเมตร

โหมด Portrait และปรับแต่งหน้าสวย

โหมดกลางคืน

สำหรับการถ่ายรูปตอนกลางคืน Redmi Note 8 Pro จะมีโหมด กลางคืน เพื่อช่วยให้ถ่ายรูปในที่แสงน้อยได้สวยงามมากยิ่งขึ้น โดยการใช้งานหลังจขากกดชัตเตอร์ จะต้องถือค้างรอการประมวลผลซักระยะ (ขึ้นอยู่กับสภาพแสงในตอนนั้น) จากนั้นก็จะได้ภาพตอนกลางคืนที่สวยงาม ให้รายละเอียดอย่างชัดเจน และมีการลด Noise ลงไปได้มากพอสมควร

คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่ง

ความละเอียดของภาพถ่ายจากกล้องหลัง : 9248x693600 (4:3 64MP), 4624x3472 (4:3), 2600x4624 (16:9), 3472x3472 (1:1), 2136x4624 (Full) พิกเซล
ความละเอียดของภาพถ่ายจากกล้องหน้า : 5184x3880 (4:3), 2920x5184 (16:9), 3888x3888 (1:1), 5184x2392 (Full) พิกเซล
ไฟแฟลช : ปิด, เปิด, อัตโนมัติ, ไฟฉาย
HDR : ปิด, อัตโนมัติ, เปิด
กล้อง AI : เปิด, ปิด
Macro : เปิด, ปิด
ฟิลเตอร์ : ปกติ, สดใส, ฟิล์ม, ความรัก, ลาเต้, อุ่น, คุกกี้, เย็น, โซดา, กูร์เมต์, เรืองแสง, เบอร์รี่, ดำ&ขาว, เนียนใส
บิวตี้ : เปิด, ปิด
ตัวจับเวลา : ปิด, 3, 5 วินาที
โหมดกล้องถ่ายรูป : รูปถ่าย, 64MP, ภาพบุคคล, กลางคืน, พานอรามา, โปร
จัดเก็บข้อมูลตำแหน่งพิกัด : ปิด, เปิด
เสียงกล้อง : ปิด, เปิด
โหมดพกพา : ปิด, เปิด
บันทึกโหมดก่อนหน้านี้ : ปิด, เปิด
แสดงกล้องหน้ากลับข้างซ้ายขวา : ปิด, เปิด
ลายน้ำ : เปิด, ปิด, ใส่ลายน้ำกำหนดเอง
แสดงตาราง : ปิด, เปิด
แจ้งให้ทราบกับทิศทาง : เปิด, ปิด
แก้ไขความผิดเพี้ยนของภาพมุมกว้างพิเศษ : ปิด, เปิด
โฟกัส & ถ่าย : ปิด, เปิด
สแกนรหัส QR : เปิด, ปิด
แตะชัตเตอร์ค้างไว้ : ถ่ายต่อเนื่อง, โฟกัส
คุณภาพรูปถ่าย : สูง, มาตรฐาน, ต่ำ
หน้าที่ของปุ่มเพิ่มลดเสียง : ชัตเตอร์, นับถอยหลังชัตเตอร์ม, ซูม, ระดับเสียง
ลดแถบลาย : ปิด, 50Hz, 60Hz, อัตโนมัติ

คุณสมบัติการบันทึกวิดีโอ

ความละเอียดของภาพวีดีโอจากกล้องหลัง : UHD 4K 30fps, FHD 1080p 30fps, FHD 1080p 60fps, HD 720p 30fps พิกเซล
ความละเอียดของภาพวีดีโอจากกล้องหน้า : FHD 1080p 30fps, HD 720p 30fps พิกเซล
โหมดวิดีโอ : วิดีโอ, เคลื่อนไหวช้า, วิดีโอสั้น, วิดีโอเคลื่อนไหวเร็ว
ไฟแฟลช : ปิด, ไฟฉาย
มาโคร : เปิด, ปิด
หน้าสวย : เปิด, ปิด
จัดเก็บข้อมูลตำแหน่งพิกัด : ปิด, เปิด
เสียงกล้อง : ปิด, เปิด
โหมดพกพา : ปิด, เปิด
บันทึกโหมดก่อนหน้านี้ : ปิด, เปิด
ป้องกันสั่นไหว : ปิด, เปิด
การเข้ารหัสวิดีโอ : 264, H.265
ช่วงเวลาภาพเคลื่อนไหว : 2x, 4x, 10x, 30x, 60x, 90x, 120x, 150x, 240x, 300x, 450x, 900x, 1800x
หน้าที่ปุ่มลดเสียง : ชัตเตอร์, ซูม, ระดับเสียง
ลดแถบลาย : ปิด, 50Hz, 60Hz, อัตโนมัติ