องค์กร (Corporate) | วันที่ : 18 กันยายน 2562
Grab ประกาศยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของการเดินทางในประเทศไทยเพื่อสนับสนุนนโยบายของภาครัฐ โดยพัฒนาและให้บริการการเดินทางขนส่งสาธารณะผ่านเทคโนโลยีที่มีมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลกแก่ผู้โดยสารชาวไทย รวมถึงนักท่องเที่ยวในประเทศไทย
หลังจากที่ได้มีการประกาศนโยบาย Safer Everyday และแผนการดำเนินงานด้านความปลอดภัยนับตั้งแต่เดือนตุลาคมในปีที่ผ่านมา ล่าสุดแกร็บได้เปิดตัวสองนวัตกรรมเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง ซึ่งประกอบด้วย “Safety Centre” หรือศูนย์ความปลอดภัย ฟีเจอร์ที่รวบรวมบริการทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย และ “Passenger Selfie Verification Technology” หรือเทคโนโลยีในการตรวจสอบข้อมูลอัตลักษณ์ของผู้โดยสารผ่านการถ่ายภาพเซลฟี เพื่อสร้างความมั่นใจในทุกการเดินทางให้กับทั้งผู้โดยสารและพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ โดยการเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการดำเนินธุรกิจของแกร็บในประเทศไทย ที่มุ่งส่งเสริมให้เกิดการเดินทางที่ปลอดภัยในทุกๆ วัน ผ่านการป้องกันและลดอุบัติภัยทางถนน รวมถึงอาชญากรรมให้กลายเป็นศูนย์
นายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า “เพราะทุกชีวิตล้วนมีความหมาย แกร็บจึงให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของทุกการเดินทางบนแพลตฟอร์มของเรา โดยหนึ่งในภารกิจสำคัญที่เรามุ่งมั่นมาโดยตลอดคือการป้องกันและลดอัตราการเกิดอุบัติภัยบนท้องถนน รวมถึงอาชญากรรมที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางให้กลายเป็นศูนย์ นอกเหนือจากการลงทุนในด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงต่างๆ แล้ว แกร็บถือเป็นผู้ให้บริการรายใหญ่รายเดียวในประเทศไทยที่ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการสร้างระบบเพื่อรองรับการให้บริการด้วยมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล อาทิ การเปิดศูนย์บริการลูกค้าเพื่อรับข้อร้องเรียนตลอด 24 ชั่วโมง การทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลที่คุ้มครองทั้งผู้โดยสารและพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ในทุกการเดินทาง รวมไปถึงการคัดกรองและตรวจสอบประวัติอาชญากรรมย้อนหลังของพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่อย่างเข้มงวดก่อนที่จะได้ร่วมงานกับแกร็บ เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นตัวอย่างที่สะท้อนถึงการวางรากฐานทางธุรกิจของแกร็บที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมาตั้งแต่ต้น และเรายังคงมุ่งมั่นที่จะสานต่อเจตนารมณ์ดังกล่าวต่อไป”
สำหรับฟีเจอร์ล่าสุด “Safety Centre” ผู้โดยสารสามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ของแกร็บที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในการเดินทางโดยจะถูกรวมไว้ในที่เดียว อันได้แก่
การแชร์รายละเอียดการเดินทาง: แกร็บ คือผู้ริเริ่มฟีเจอร์ “Share My Ride” เป็นรายแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสร้างความมั่นใจและความรู้สึกปลอดภัยให้กับผู้โดยสาร ผ่านการแชร์ตำแหน่งปัจจุบัน สถานะการเดินทาง รายละเอียดของคนขับ รวมถึงระยะเวลาโดยประมาณที่ผู้โดยสารจะไปถึงจุดหมาย ให้ครอบครัวหรือเพื่อนๆ ได้รับทราบ
การรายงานปัญหาด้านความปลอดภัย: หากผู้โดยสารรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยระหว่างการเดินทาง เช่น พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ขับรถด้วยความประมาท ก็สามารถรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อให้แกร็บดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างเหมาะสมและทันท่วงที
การขอความช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน: ในกรณีที่ต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ฉุกเฉินขณะเดินทาง ผู้โดยสารสามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที นอกจากนี้ ข้อมูลการเดินทางและตำแหน่งปัจจุบันของผู้โดยสารจะถูกส่งผ่าน SMS ไปยัง “บุคคลที่ผู้โดยสารต้องการให้ติดต่อในยามฉุกเฉิน” ที่ระบุไว้ในแอปพลิเคชัน
“เราตระหนักดีว่าความปลอดภัยของการขนส่งสาธารณะเป็นสิ่งที่ภาครัฐให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจของแกร็บในด้านความปลอดภัย และในขณะที่รัฐบาลกำลังเดินหน้าเพื่อผลักดันให้การบริการยานพาหนะผ่านทางแอปพลิเคชัน (ride-hailing) ในประเทศไทยถูกกฎหมายนั้น การส่งเสริมความปลอดภัยบนท้องถนนของผู้ให้บริการทุกรายจึงทวีบทบาทสำคัญในการตอบสนองประเด็นดังกล่าว ดังนั้น แกร็บจึงไม่หยุดที่จะพัฒนาและสร้างสรรค์นวัตกรรมต่างๆ เพื่อสร้างมาตรฐานระดับโลกในด้านความปลอดภัยของการเดินทางให้เกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งครอบคลุมทั้งในด้านความปลอดภัยของการขับขี่ ตลอดจนการป้องกันอาชญากรรมและความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น ที่สำคัญที่สุดคือ ฟีเจอร์เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยของแกร็บสามารถรองรับการขยายตัวของธุรกิจได้อย่างเต็มที่ และนำไปใช้ได้กับทุกบริการของแกร็บ ไม่ว่าจะเป็น GrabTaxi หรือ GrabCar ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยส่งเสริมให้ผู้ให้บริการรายอื่นๆ ในเครือข่ายการบริการขนส่งสาธารณะยึดเป็นมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงเช่นเดียวกัน เพื่อสร้างความมั่นใจสูงสุดให้กับผู้โดยสารและพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่” นายธรินทร์ กล่าวเสริม
จากผลสำรวจขององค์กรอนามัยโลกพบว่า ประเทศไทยมีอัตราการเสียชีวิตจากการจราจรบนท้องถนนสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งภาครัฐยังได้เผยว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนนั้นส่งผลต่อความสูญเสียทางเศรษฐกิจของประเทศถึงราว 5 แสนล้านบาทต่อปี แกร็บจึงมุ่งมั่นที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนภาครัฐให้สามารถบรรลุเป้าหมายในการลดจำนวนอุบัติเหตุบนท้องถนนให้ได้ร้อยละ 50 ภายในปี พ.ศ. 2563 ตลอดจนป้องกันอาชญากรรมและความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นในบริการขนส่งสาธารณะ ด้วยการควบคุมมาตรฐานการให้บริการและการนำเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยขั้นสูงมาใช้
ในระดับภูมิภาค แกร็บได้สานต่อความมุ่งมั่นในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการเดินทางให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา ธุรกิจให้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันของแกร็บทั่วทั้ง 8 ประเทศ (ซึ่งรวมถึงประเทศไทย) มีอัตราความปลอดภัยในด้านอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ และด้านอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่สูงกว่า 1.3 เท่า และ 1.8 เท่าตามลำดับ เมื่อเทียบกับมาตรฐานขั้นต่ำสุดในด้านคุณภาพของการให้บริการ ซึ่งระบุในรายงานผลการดำเนินงานด้านความปลอดภัยและการให้บริการของอุตสาหกรรมแท็กซี่ ที่กำหนดโดยหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศสิงคโปร์
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.grab.com วันที่ : 18 กันยายน 2562
LINE ดูดวง เปิดบริการใหม่ “ทริปทำบุญ” ประเดิมทริปแรก ไหว้พระ สักการะเทพ หนุนดวงส่งท้ายปี
Apple เปิดตัวฟีเจอร์ Genmoji ใน iOS 18.2 สร้างอิโมจิแบบใหม่ที่ไม่เหมือนใครด้วย AI บน iPhone
เปลี่ยนทุกการสื่อสารให้ลึกซึ้งกว่าที่เคยกับ buz แอปฯ ข้อความเสียงอันดับหนึ่งในไทย
TrueMoney เตือนระวัง! มิจฉาชีพแอบอ้างชื่อบริษัทฯ หลอกลวงประชาชนสมัครสินเชื่อปลอม
Line sticker ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว น่ารักน่าสะสม ดาวน์โหลดได้เลย
iQOO 13 5G ขุมพลัง Snapdragon 8 Elite แบต 6150mAh รองรับ 120W FlashCharge พร้อม Bypass Charging
iQOO Neo 10 Series สเปคเทพ กล้องสวย ดีไซน์โดนใจ เปิดตัว 29 พฤศจิกายนนี้
Redmi ฉลอง 11 ปี ปล่อยโลโก้ใหม่! พร้อมเปิดตัว Redmi K80 เรือธงสเปคจัดเต็ม
Samsung Galaxy S25 Series สรุปข่าวลือล่าสุดก่อนเปิดตัวต้นปี 2025
HONOR X9c Smart สมาร์ทโฟนกล้องหลังคู่ 108MP ชิปเซ็ต Dimensity 7025-Ultra