รีวิว Infinix Hot 7 Pro สมาร์ทโฟนเกมมิ่งรุ่นเล็ก ขุมพลัง Helio P22 กล้องหน้า-หลังรวม 4 เลนส์ และแบตฯ อึด 4,000mAh

รีวิวโทรศัพท์มือถือ Infinix Hot 7 Pro - อินฟินิกซ์

Infinix Hot 7 Pro สมาร์ทโฟนสุดประหยัดเพื่อเอาใจคอเกมเมอร์ทุกคนในราคาที่จับต้องได้ ทั้งยังชูโรงด้วยกล้องหน้า-หลังอย่างละ 2 เลนส์ในนาม 'AI Quad Lens' แสดงผลบนหน้าจอ IPS LCD กว้าง 6.2 นิ้ว ความละเอียด HD+ ทำงานบนขุมพลัง Mediatek Helio P22 Octa Core, RAM 6GB หน่วยความจำภายใน 64GB พร้อมด้วยแบตเตอรี่สุดอึดที่ 4,000 mAh ในราคาเพียง 4,990 บาท

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

ดีไซน์ตัวเครื่องรุ่นนี้ออกแบบให้สามารถใช้งานได้ในมือเดียวแบบสะดวกสบายมาก ไม่ต้องเอื้อมนิ้วไปกดอีกฝั่งมากเท่าไหร่ แถมบริเวณด้านหลังยังใช้วัสดุโลหะที่มีความโค้งรองรับกับอุ้งมือ ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บเวลาถือนานๆ โดยขนาดตัวเครื่องจะอยู่ที่ 156 x 75 x 7.9 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบาๆ 165 กรัม

หน้าจอแสดงผลของ Infinix Hot 7 Pro มาแบบหน้าจอรอยบาก หรือ Notch ที่สามารถตั้งค่าปิดให้เป็นขอบดำได้ทั้งหมดเพื่อบังรอยบาก โดยส่วนนี้เองทำให้รุ่นนี้มีหน้าจอแสดงผลอยู่ที่ 6.2 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+ (1520 x 720 พิกเซล) มีอัตราส่วน 19:9 และครอบทับด้วยกระจกแบบ 2.5D

เหนือหน้าจอแสดงผลมีส่วนของรอยบาก (Notch) อยู่ โดยเรียงด้วยไฟแฟลช LED, กล้องหน้าตัวหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, ระบบเซ็นเซอร์ต่างๆ และกล้องหน้าตัวที่ 2

ด้านล่างหน้าจอมีขอบดำที่หนาพอสมควร โดยมีปุ่มนำทางต่างๆ อยู่ในหน้าจอแสดงผล

ฝั่งซ้ายของตัวเครื่องมีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM จำนวน 2 ช่อง

ขณะที่ฝั่งขวามีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง ถัดลงมาจะเป็นปุ่มล็อคเครื่องที่จะมีการสัมผัสเป็นปุ่มเพื่อให้ต่างจากปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง

ด้านล่างของตัวเครื่องเรียงจากซ้ายไปขวามีลำโพงตัวหลัก, พอร์ต Micro USB 2.0, ไมโครโฟนตัวที่ 1 และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.

ด้านหลังของตัวเครื่องมีกล้องหลังคู่พร้อมด้วยไฟแฟลช LED แนวตั้งที่มุมซ้ายบน ถัดมาบริเวณกลางๆ ตัวเครื่องจะมีระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่

อุปกรณ์ภายในกล่อง

ตัวเครื่อง Infinix Hot 7 Pro
อะแดปเตอร์
สาย Micro USB 2.0
หูฟัง
อุปกรณ์เปิดถาดซิม
เคสใสแบบพลาสติกแข็ง
ฟิล์มกันรอย
คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
ใบรับประกันสินค้า

สรุปสเปค Infinix Hot 7 Pro

ขนาดตัวเครื่อง : 156 x 75 x 7.9 มิลลิเมตร
น้ำหนัก : 165 กรัม
หน้าจอแสดงผล IPS LCD กว้าง 6.2 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1520 x 720 พิกเซล) อัตราส่วน 19:9 ครอบทับด้วยกระจกแบบ 2.5D
หน่วยประมวลผล : Mediatek MT6762 Helio P22 Octa Core ความเร็ว 1.8 GHz
GPU : PowerVR GE8320
RAM 6 GB
ROM 64 GB สามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้สูงสุด 128GB
ระบบปฎิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย XOS 5.0
กล้องถ่ายด้านหลังคู่ความละเอียด 13+2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 รองรับ Beauty Mode และ HDR
กล้องถ่ายด้านหน้าคู่ความละเอียด 13+2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 รองรับ Beauty Mode และ Portrait Mode
รองรับการใช้งานซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ซิม
รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 b/g/n, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และพอร์ต Micro USB 2.0
แบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

ระบบปฏิบัติการ

Infinix Hot 7 Pro แกะกล่องมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่นล่าสุดอย่าง 9.0 Pie ครอบทับด้วย XOS 5.0 ที่เป็น UI ของตัวเองเข้าไป โดยเมื่อเราโหลดแอพฯ มาก็จะมาอยู่ที่หน้าจอหลัก แต่เราสามารถปัดขึ้นที่หน้าจอเพื่อดูหน้ารวมแอพฯ ที่เป็นการเรียงตัวอักษรได้เช่นกัน

หน้าตา UI : XOS 5.0

หน่วยความจำภายในคงเหลือทั้ง RAM และ ROM

พื้นที่เก็บข้อมูลต่างๆ หลังอัปเดทแอพพลิเคชั่นแล้ว จะเหลือพื้นที่ ROM ทั้งหมดประมาณ 53GB จากทั้งหมด 64GB ส่วน RAM ก็เหลือให้ใช้งานแอพพลิเคชั่นได้เหลือเฟือที่ประมาณ 4.6GB จาก 6GB

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง

ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย AnTuTu Benchmark v7.2.2 ได้ 79,253 คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย Geekbench 4 ได้คะแนน Single-Core ที่ 815 และคะแนน Multi-Core ที่ 3,838
ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 5 จุด

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้

Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
Orientation Sensor เซ็นเซอร์ปรับมุมมองหน้าจอ (คล้ายตัววัดระดับน้ำ)
Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
Gyroscope Sensor เซนเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน
Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
Magnetic Sensors เซ็นเซอร์ตรวจจับแม่เหล็ก

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

ทดสอบการเล่นเกม

แม้ว่า Infinix Hot 7 Pro จะใช้หน่วยประมวลผลรุ่นเล็กอย่าง Mediatek MT6762 Helio P22 Octa Core แต่การเล่นเกมยังถือว่าใช้ได้เหมือนกัน หลังจากที่เราได้ทดสอบ 3 เกม ได้แก่ ROV, PUBG Mobile และ Garena Speed Drifters โดยเกม ROV และ Garena Speed Drifters สามารถเปิดภาพระดับสูงสุดได้ และเล่นได้ไม่มีปัญหาอะไร ยกเว้นเพียงเฟรมเรทที่ไม่สามารถปรับระดับ 60fps ได้ ส่วนเกม PUBG Mobile ก็สามารถเล่นได้แบบลื่นเมื่อปรับภาพระดับกราฟฟิกสมดุล และเฟรมเรทระดับกลาง ซึ่งถือว่าเล่นได้สบายๆ เฟรมเรทไม่เหวี่ยงมากนัก

ROV

PUBG Mobile

Garena Speed Drifters

ทั้งนี้ นอกเหนือจากเกมที่เราทดสอบไปแล้วนั้น Infinix Hot 7 Pro ก็ยังสามารถเล่นเกมอื่นๆ ได้เช่นเดียวกัน ทั้ง Asphalt 9: Legends หรือเกมจาก Garena เกมอื่นๆ แทบทั้งหมด โดยมีทั้งความไหลลื่น แบตเตอรี่ที่ลดช้า และตัวเครื่องที่ไม่ร้อนจนเกินไป

นอกจากนี้ ในส่วนของการเล่นเกม Infinix Hot 7 Pro ยังมีฟีเจอร์ "ตัวเพิ่มประสิทธิภาพของเกม" เพื่อเคลียร์ RAM ที่ถูกใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่นพื้นหลัง ทำให้เล่นเกมได้ไหลลื่นมากขึ้น

เพิ่มความสะดวกสบายด้วยแผงอัจฉริยะข้างหน้าจอ

แผงอัจฉริยะเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่สะดวกสบายมากอย่างหนึ่งในรุ่นนี้ เพียงเราปัดซ้ายหรือขวาที่ข้างหน้าจอ ก็จะแสดงแอพพลิเคชั่นต่างๆ ให้เรากดใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องเลื่อนหาให้เสียเวลา โดยเราสามารถเพิ่มหรือลบแอพฯ ด่วนได้ตามใจเราอีกด้วย

ระบบความปลอดภัย

ด้านระบบความปลอดภัยในการล็อกเครื่องของ Infinix Hot 7 Pro ก็ให้มาครบครันแน่นอนทั้งระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่อยู่ด้านหลังตัวเครื่อง ที่จดจำได้มากสุด 5 ลายนิ้วมือ และการสแกนใบหน้า ซึ่งทั้ง 2 อย่างสามารถทำได้อย่างรวดเร็วและเสถียร ซึ่งก็ยังมีการปลดล็อกหน้าจอแบบปกติอย่างรูปแบบ, PIN และรหัสผ่านด้วยเหมือนเดิม

แบตเตอรี่อึด 4,000 mAh

Infinix Hot 7 Pro ให้แบตเตอรี่มาแบบเต็มๆ ที่ 4,000 mAh ใช้งานทั่วไปกันได้ยาวๆ ตลอดทั้งวัน โดยในการตั้งค่าของแบตเตอรี่ยังมีฟีเจอร์ประหยัดพลังงานอัตโนมัติด้วย AI อีกด้วย ซึ่งจะเป็นการเรียนรู้การใช้งานของเรา เพื่อไม่ให้ใช้งานพื้นหลังมากจนเกินไป

กล้องหน้า-หลังรวม 4 เลนส์อัจฉริยะ

สุดท้ายกับกล้องถ่ายรูปที่ให้มาถึง 4 เลนส์ รวมหน้าและหลังอย่างละ 2 เลนส์ในนาม 'AI Quad Lens' โดยทั้ง 2 ด้านมีความละเอียดเท่ากันที่ 13 + 2 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED ต่างกันที่รูรับแสงของกล้องหลังจะอยู่ที่ f/1.8 และกล้องหน้าจะอยู่ที่ f/2.0 ซึ่งก็มีฟีเจอร์การถ่ายภาพที่เยอะพอสมควร

HDR : ในโหมดนี้จะใช้ได้กับทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ช่วยให้การถ่ายภาพย้อนแสงทำได้ดียิ่งขึ้น โดยเห็นฉากหลังได้ชัดเจนมากกว่าเดิม

โหมดบิวตี้ : ในส่วนนี้ก็จะใช้ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเหมือนกัน โดย AI จะเข้ามาช่วยในการปรับแต่งใบหน้าของเราโดยอัตโนมัติ แต่ถ้าเราอยากลองปรับเพิ่มก็สามารถเลือกระดับเองได้ตั้งแต่ 1-6 ระดับตามใจชอบได้เลย

รูปบุคคล (เบลอ) : เรียกว่าในโหมดนี้จะใช้กล้องหน้า-หลัง 2 เลนส์ได้อย่างมีประโยชน์ เพราะการเบลอจะเบลอได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น ตัดขอบวัตถุค่อนข้างดี ทั้งนี้การใช้การเบลอที่กล้องหลัง เราจะสามารถปรับค่ารูรับแสงได้ตั้งแต่ F/1.0-F/16

ถ่ายภาพ AR : เพิ่มความสนุกสนานในการถ่ายภาพได้มากขึ้นด้วยลูกเล่น AR ที่มีให้เลือกหลาย 10 แบบตามที่เราชอบ

คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่ง

ความละเอียดภาพถ่ายกล้องหลัง : 4160 x 3120 (13M-4:3), 3104 x 3104 (10M-1:1), 3264 x 2448 (8M-4:3), 4000 x 1920 (8M-19:9), 2432 x 2432 (6M-1:1) พิกเซล
ความละเอียดภาพถ่ายจากกล้องหน้า : 4160 x 3120 (13M-4:3), 3104 x 3104 (10M-1:1), 3264 x 2448 (8M-4:3), 4000 x 1920 (8M-19:9), 2432 x 2432 (6M-1:1) พิกเซล
แฟลช : ปิด, เปิด, อัตโนมัติ, เปิดค้าง
HDR : ปิด, เปิด, อัตโนมัติ
เสียงกดชัตเตอร์ : ปิด, เปิด
กริด : ปิด, เปิด
มิเรอร์ : ปิด, เปิด
แตะเพื่อถ่ายภาพ : ปิด, เปิด
ลายน้ำอัตโนมัติ : ปิด, เปิด
หน่วยการถ่ายภาพ : ปิด, 3, 5, 10 วินาที
ตำแหน่งที่ตั้ง : ปิด, เปิด
ปุ่มปรับระดับเสียงแบบกำหนดเอง : ชัตเตอร์, ซูม

คุณสมบัติการถ่ายภาพวีดีโอ

ความละเอียดของภาพวีดีโอจากกล้องหลัง : 1920 x 1080 (FHD 1080p), 1280 x 720 (HD 720p), 640 x 480 (VGA 480p) พิกเซล
ความละเอียดของภาพวิดีโอจากกล้องหน้า : 1920 x 1080 (FHD 1080p), 1280 x 720 (HD 720p), 640 x 480 (VGA 480p) พิกเซล
เสียงกดชัตเตอร์ : ปิด, เปิด
ตำแหน่งที่ตั้ง : ปิด, เปิด
ปุ่มปรับระดับเสียงแบบกำหนดเอง : ชัตเตอร์, ซูม

ตัวอย่างภาพจากกล้องSample & Photo

สำหรับ Infinix Hot 7 Pro มาพร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษด้วยการประกันจอแตกนาน 1 ปี โดยไม่ว่าลูกค้าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถเรียกประกันมารับเครื่องถึงหน้าบ้านได้ทันที โดยใช้ระยะเวลารวมตั้งแต่รับไปถึงส่งเครื่องกลับไม่เกิน 7 วัน (ไม่รวมเสาร์-อาทิตย์)