7 คุณสมบัติสำคัญ ฟิล์มกระจกกันรอย ต้องมี สมัยนี้ต้องมากกว่าความแข็งแกร่ง !

ทุกวันนี้กระจกกันรอย แทบจะเป็นอุปกรณ์เสริมอันดับแรกๆ ที่ผู้ใช้งานเลือกซื้อมาติดตั้งให้กับสมาร์ทโฟน และด้วยความเป็นกระจกกันรอยทำให้ผู้ใช้งาน ก็ต่างคาดหวังว่าสิ่งนี้จะมาปกป้องหน้าจอสมาร์ทโฟนได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมกับการใช้งานได้เหมือนปกติ แต่แล้วกระจกกันรอยที่ดีใช้งานได้อย่างมั่นใจต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง ? ซึ่งมาดูกันดีกว่ากับ 7 คุณสมบัติที่กระจกกันรอยควรจะมี 

1. ความแข็งแกร่งระดับ 9H

ด้วยความเป็นกระจกกันรอย ความแข็งแกร่งต้องมาอันดับ 1 อยู่แล้ว ซึ่งสมัยนี้กระจกกันรอยที่ไว้ใจได้ต้องผ่านมาตรฐาน 9H ซึ่งมาตรฐาน 9H คือมาตรฐานที่มีความแข็งแกร่งระดับสูง ถึงขั้นต้องใช้แร่ธรรมชาติอย่าง Topaz ขีดขวนลงบนกระจกจึงจะเกิดรอยขึ้นมา เห็นแบบนี้กระจกกันรอยที่ได้มาตรฐาน 9H ก็จะมั่นใจเรื่องความแข็งแกร่งได้ดีทีเดียว

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  รีวิว POCO X7 Pro มือถือตัวแรง ดันสุดได้ทุกเกม ขุมพลัง Dimensity 8400-Ultra หน้าจอ 120Hz กันน้ำ IP68 ชาร์จเร็ว 90W มี GenAI
• 
  RIDDARA RD6 รถกระบะพลังงานไฟฟ้า 100% จาก RIDDARA

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่

2. เคลือบสาร Oleophobic และ Hydrophobic

การสัมผัสหน้าจอไม่ลื่น เป็นสิ่งหนึ่งที่หลายคนกังวลหลังจากติดฟิล์มกระจกกันรอย แต่รู้หรือไม่ว่ากระจกกันรอยสมัยนี้ต้องมีการเคลือบสาร Oleophobic และ Hydrophobic อยู่ด้วย โดยสารทั้ง 2 อย่างจะทำให้หน้าจอสัมผัสลื่น และยังเกิดรอยนิ้วมือได้ยากมากๆ นอกจากนี้ยังสามารถแยกน้ำ หรือคราบน้ำมันออกจากกระจกได้ด้วย จึงทำให้การทำความสะอาดเป็นไปได้ง่าย ซึ่งการเคลือบสาร Oleophobic และ Hydrophobic ก็เป็นอีกคุณสมบัติที่สำคัญ

3. เป็นมิตรกับเคส

ปัญหาเคสดันกระจกกันรอย เป็นหนึ่งในปัญหาที่หลายคนกังวลมากที่สุด แล้ววิธีแก้ปัญหาคืออะไร ? ผู้ใช้งานก็ควรเลือกกระจกกันรอยที่ดูดีมีราคา และเลือกแบรนด์ที่ไว้ใจได้ เพราะแบรนด์กระจกเหล่านี้มักจะมีการตัดขอบให้พอดีกับเคส รวมไปถึงเคสขอบแข็งอย่าง UAG แต่หากจะให้มั่นใจมากขึ้น ก็ลองตามไปดูการรีวิวจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่มีการทดลองใส่กับเคส ก็จะทำให้สามารถเลือกใช้งานกระจกกันรอยได้อย่างมั่นใจ

4. กระจกบางเฉียบ 0.xx มิลลิเมตร

กระจกกันรอยมักจะมีความหนา จนทำให้ตัวเครื่องดูใหญ่ขึ้นผิดปกติหลังจากติดตั้ง หากตรงนี้ผู้ใช้งานมองว่าเป็นปัญหา ก็ควรมองหากระจกกันรอยที่มีคุณสมบัติความบางเพียง 0.xx มิลลิเมตรเข้าไว้ เพราะจะทำให้เครื่องไม่ดูหนาหรือใหญ่จนเกินไป และยังทำให้เครื่องสมาร์ทโฟนยังดูสวยงาม

5. ชนิดกระจกกันรอย

กระจกกันรอยปัจจุบันก็มีให้เลือก 2 แบบคือ กระจกใส และ กระจกด้าน โดยแบบกระจกใสจะสามารถแสดงผลได้อย่างชัดเจน แต่ข้อเสียคือเกิดรอยนิ้วมือได้ง่าย ส่วนกระจกด้านหรือขุ่น จะปกป้องรอยนิ้วมือบนหน้าจอได้อย่างดีเยี่ยม แต่การแสดงผลก็จะไม่คมชัดเหมือนกับกระจกใส คุณสมบัติตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานแล้ว่าชอบแบบไหนมากกว่า

6. กระจกไม่แตกเป็นเสี่ยงๆ

เมื่อกระจกกันรอยแตกจากการเกิดอุบัติเหตุ ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีเพราะกระจกกันรอยได้ทำหน้าที่ของตัวเองไปแล้ว แต่กระจกกันรอยที่ดีต้องมีคุณสมบัติไม่แตกเป็นเสี่ยงๆ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายอื่นๆ ตามมา เพราะเศษกระจกจะเป็นอันตรายต่อนิ้วมือผู้ใช้งาน หรือเศษอาจจะหล่นตกค้างอยู่ในกระเป๋าหรือพื้น ฉะนั้นคุณสมบัติไม่แตกเป็นเสี่ยงจึงมีความสำคัญเช่นกัน

7. มีการรับประกันอุบัติเหตุ 180 วัน

คุณสมบัตินี้ไม่มีไม่ได้ เพราะการรับประกันหลังการขายจะเป็นผลดีต่อลูกค้า และยังเพิ่มความเชื่อมั่นที่มีต่อแบรนด์อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันการรับประกันอุบัติเหตุต้องอยู่ที่ 180 วัน จะให้ดีไปอีกชั้นต้องมีการเคลมสินค้าทางออนไลน์ และบริการจัดส่งกระจกกันรอยอันใหม่ให้ถึงที่

ทั้งหมดก็เป็นคุณสมบัติของกระจกกันรอยที่สามารถนำมาใช้งานได้อย่างมั่นใจ เห็นได้ชัดว่านอกจากกระจกกันรอยจะต้องเรื่องมีความแข็งแกร่ง คุณสมบัติอื่นๆ เช่น การเคลือบสาร, การใช้งานร่วมกับเคสได้ดี หรือการรับประกัน ก็เป็นคุณสมบัติที่จำเป็นไม่แพ้กัน