เทคโนโลยี (Technology)  |   วันที่ : 2 กรกฎาคม 2562

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

ในงาน MWC Shanghai 2019 2019 มร.เคน หู รองประธานบริหารของหัวเว่ยได้พูดถึงความก้าวหน้าในการใช้งานเทคโนโลยี 5G ของหัวเว่ย รวมถึงตัวอย่างความสำเร็จที่โดดเด่นในด้านนวัตกรรมเพื่อบริการ และความร่วมมือระหว่างอุตสาหกรรมต่างๆ ที่กำลังขับเคลื่อนการเติบโตของเทคโนโลยี 5G สู่ก้าวต่อไป“เครือข่ายเป็นพื้นฐานของทุกๆ สิ่ง แต่อนาคตการพัฒนา 5G นั้นจะขึ้นอยู่กับบริการเป็นหลัก นวัตกรรมเพื่อบริการที่ขับเคลื่อนด้วย 5G จะช่วยให้เราเร่งประสิทธิภาพของเครือข่ายไปสู่ก้าวถัดไป และช่วยให้โอเปอเรเตอร์ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน 5G ที่สูงยิ่งขึ้น”

สุนทรพจน์ของมร. เคน หู นั้น มีดังต่อไปนี้

ก่อนอื่นเลยนั้น ผมขอเล่าถึงความก้าวหน้าในการเปิดให้บริการเครือข่าย 5G ของเรา จนถึงปัจจุบัน เราได้ลงนามในสัญญา 5G เชิงพาณิชย์ทั่วโลกไปแล้วกว่า 50 ฉบับ และจัดส่งสถานีฐานไปแล้วกว่า 150,000 ชุด ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าผู้ให้บริการายอื่นๆ ในอุตสาหกรรมมาก โอเปอเรเตอร์ทั่วโลกหลายรายทั้งในยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชียแปซิฟิก ต่างก็กำลังเร่งวางโครงข่าย 5G กันอยู่ในขณะนี้

เป็นที่น่ายินดีสำหรับประเทศจีน ที่ได้ออกใบอนุญาต 5G อย่างเป็นทางการไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นของการให้บริการ 5G เชิงพาณิชย์ในตลาดการสื่อสารเคลื่อนที่ที่ใหญ่ที่สุดของโลก ผมเชื่อว่า ประเทศจีนจะสามารถเป็นต้นแบบให้กับประเทศต่าง ๆ ในโลก และให้ข้อมูลแบบเจาะลึกสำหรับการวางโครงข่ายในภูมิภาคอื่นๆ ต่อไป

การสร้างนวัตกรรมคือการวิ่งมาราธอน

ถ้าถามว่าทำไมโอเปอเรเตอร์หลายรายจึงเลือกให้หัวเว่ยเป็นผู้วางโครงข่าย 5G ผมคิดว่า หนึ่งในเหตุผลหลักๆ ก็คือ การลงทุนอันยาวนานของเรา

เรามักพูดเสมอว่า การสร้างนวัตกรรมเปรียบเสมือนการวิ่งมาราธอน แน่นอนว่า คุณจะต้องวิ่งให้เร็ว และวิ่งให้นานด้วย สำหรับการลงทุนในด้านนวัตกรรม 5G ของหัวเว่ยนั้น มีสามสิ่งที่ไม่เหมือนใคร

สิ่งแรก เราลงทุนตั้งแต่เนิ่นๆ เราเริ่มต้นทำวิจัย 5G เมื่อต้นปี 2552 ซึ่งเป็นช่วงที่เทคโนโลยี 4G เพิ่งเริ่มออกให้บริการเชิงพาณิชย์

สิ่งที่สอง เราลงทุนเป็นเงินจำนวนมหาศาล และยังคงทำต่อเนื่อง กว่าสิบปีที่ผ่านมา เราได้ลงทุนกับเทคโนโลยี 5G ไปแล้ว คิดเป็นเงินกว่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

สิ่งที่สาม เราลงทุนแบบเจาะลึก ซึ่งทำให้เราแตกต่างจากคู่แข่ง ตอนที่เราเริ่มวิจัย 5G ยังไม่มีการกำหนดมาตรฐานใดๆ ออกมา เราจึงต้องเริ่มจากศูนย์ เท่ากับว่าเราไม่สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์แบบก้าวกระโดดได้ในทันที ผลิตภัณฑ์ที่คุณเห็นนั้นเป็นแค่ผลพวงปลายทางของกระบวนการอันยาวนาน ในตอนเริ่มต้นนั้น เราจึงเน้นไปที่การพัฒนามาตรฐานและการวิจัยขั้นพื้นฐานสำหรับชิพ ส่วนประกอบและอัลกอริธึ่มมากกว่า

การลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนามาอย่างต่อเนื่องนี้ช่วยให้เราเป็นผู้นำ เรามีสิทธิบัตรด้านมาตรฐานที่สำคัญๆ กว่า 2,500 ฉบับ ซึ่งคิดเป็น 20% ของสิทธิบัตร 5G ที่มีอยู่ทั่วโลกในขณะนี้ ในช่วงการทดลองใช้งาน 5Gภาคสนามในขั้นที่สามตามมาตรฐาน IMT-2020 โซลูชั่นของเรามีประสิทธิภาพเหนือกว่าคู่แข่ง เป็นลำดับ 1 ในทุกตัวชี้วัดหลักๆ

แต่สำหรับนวัตกรรมนั้นไม่ได้เป็นพียงแค่เทคโนโลยี ความสำเร็จส่วนหนึ่งของเรานั้นมาจากการพัฒนาให้เทคโนโลยี 5G สามารถใช้งานได้ง่าย ราคาสมเหตุสมผล และติดตั้งได้ง่าย

สถานีฐาน 5G มีประสิทธิภาพการทำงานที่เหนือกว่า 4G ราว 20 เท่า แต่มีน้ำหนักเบาและเล็กกว่า ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการวางโครงข่ายสำหรับลูกค้าได้มาก ตอนนี้ สิ่งที่คุณต้องการก็แค่คนสองคนในการติดตั้งสถานีฐาน 5G ของหัวเว่ย ซึ่งใช้เวลาแค่สองชั่วโมง หรือครึ่งหนึ่งของ 4G เท่านั้น

การพัฒนาเทคโนโลยี 5G ให้ใช้งานเชิงพาณิชย์ได้จริง

ปัจจุบัน เทคโนโลยี 5G กำลังมีการใช้งานในวงกว้าง เมื่อมองไปยังอนาคตของการพัฒนาเทคโนโลยี 5G สิ่งที่เราต้องทำอย่างเร่งด่วนมีอะไรบ้าง

ตัวเครือข่ายเองนั้นเป็นรากฐานของทุกๆ สิ่ง แต่แน่นอนว่า อนาคตของการพัฒนา 5G นั้นจะขึ้นอยู่กับบริการเป็นส่วนใหญ่ นวัตกรรมเพื่อบริการซึ่งใช้เทคโนโลยี 5G จะช่วยให้เราขับเคลื่อนประสิทธิภาพของเครือข่ายให้ก้าวไปสู่อีกระดับ และจะทำให้โอเปอเรเตอร์ได้รับผลตอบแทนกลับจากการลงทุน 5G ในอัตราที่สูงขึ้น

วิดีโอเป็นตัวอย่างที่ดี ด้วยเทคโนโลยี 4G แอพวิดีโอ เช่น TikTok ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมาก ทำให้เกิดปริมาณ ทราฟฟิคจำนวนมหาศาล และเป็นแหล่งรายได้ใหม่ให้กับโอเปอเรเตอร์

การก้าวสู่ยุค 5G จะทำให้เราได้เห็นแอพพลิเคชั่นเกิดขึ้นมากมาย ปัจจุบันเรามีแอพพลิเคชั่น 4G แบบออนดีมานด์ ซึ่งในอนาคตเราจะได้เห็นแอพพลิเคชั่นที่มีการโต้ตอบและมอบประสบการณ์สมจริงจากเทคโนโลยี 5G ได้มากขึ้น

5G เพื่อการออกอากาศที่เหนือกว่าจินตนาการ

เทคโนโลยี 5G จะเปลี่ยนแปลงโลก เราจะได้เห็นคุณค่าอันยิ่งใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมแนวตั้งทั้งหลาย

ยกตัวอย่างอุตสาหกรรมสื่อที่มีแหล่งรายได้สำคัญมาจากการถ่ายทอดสด ปัจจุบัน การออกอากาศสดส่วนใหญ่จะใช้ระบบไมโครเวฟหรือดาวเทียม ซึ่งคุณเองก็จะเห็นรถถ่ายทอดสัญญาณคันใหญ่ๆ ประจำสถานที่ต่างๆ เพื่อดำเนินการถ่ายทอดสด รถถ่ายทอดสดนี้มีราคาสูงมาก ประมาณ 50 – 80 ล้านหยวนต่อคัน และต้องมีการเตรียมการล่วงหน้าหลายวัน

แต่เทคโนโลยี 5G จะเปลี่ยนแปลงการออกอากาศ นี่คือ 5G แบบพกพาขนาดกระเป๋า ในนี้จะมีอุปกรณ์ CPE 5G หนึ่งตัว ขนาดกะทัดรัดและเบา สามารถวางที่ไหนก็ได้ที่คุณต้องการ เช่น หลังคารถหรือโต๊ะทำงาน CPE ตัวนี้ราคาต่ำกว่า 20,000 หยวน และมันก็เริ่มเปลี่ยนแปลงโลกของการออกอากาศแล้ว

นี่คืออุปกรณ์ประเภท Plug-and-Play ไม่ต้องเสียเวลาติดตั้ง คุณจึงสามารถใส่มันลงไปในกระเป๋า และติดตั้งกล้องไร้สายที่ใดก็ตามที่คุณต้องการ

อุปกรณ์ CPE ตัวนี้ ใช้ในการการถ่ายทอดสดการแข่งเรือ Dragon Boat ที่ประเทศจีนในปีนี้ ในอดีตนั้น การถ่ายทำในสตูดิโอต้องใช้รถถ่ายทอดสดราคาแพงและต้องเตรียมพร้อมล่วงหน้าหลายวัน คิดเป็นค่าใช้จ่ายหลายหมื่นหยวนต่อการถ่ายทอดสดในแต่ละชั่วโมง ซึ่งการถ่ายทอดสดก็มีผู้สนับสนุนไม่ค่อยเพียงพอ ทำให้ผู้ชมสามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้จากกล้องตัวเดียวเท่านั้น ซึ่งซูมเข้าและซูมออกได้จากมุมมองเดียว จึงไม่ตอบโจทย์ประสบการณ์การรับชมในอุดมคติ

ปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยี 5G แบบพกพา เรือที่เข้าแข่งขันทั้งหมดสามารถถ่ายทอดสดได้แบบรอบทิศทาง โดยผู้ถ่ายทอดสดสามารถติดกล้องไว้บนเรือทุกลำ เพื่อถ่ายภาพระยะใกล้และซูมไปที่คนที่ต้องการพร้อมฟีดข้อมูลสดเพื่อให้ผู้ชมทั่วโลกได้รับชม

5G กับประสิทธิภาพที่เหนือกว่าสำหรับโครงข่ายไฟฟ้า

สำหรับความสำเร็จจากการใช้งานเทคโนโลยี 5G ในอุตสาหกรรมพลังงานนั้นที่เราเห็นกันแล้วนั้น ได้แก่ การป้องกันโครงข่ายพลังงานไฟฟ้า โดรนลาดตระเวน และการวัดระยะทางอัจฉริยะ

การใช้โดรนลาดตระเวนนั้นเป็นการใช้งานที่พบเห็นได้ค่อนข้างมาก แต่เดิมนั้นการตรวจตราระบบสายไฟมักใช้คนดำเนินการ โดยหนึ่งคนสามารถตรวจตราระบบสายไฟได้สูงสุด 4 กิโลเมตรต่อวัน ปัจจุบัน บริษัทด้านพลังงานสามารถใช้โดรนที่เชื่อมต่อ 5G บินออกไปในระยะไกล ครอบคลุมทั้งโครงข่าย และสามารถส่งวิดีโอถ่ายทอดสดความชัดระดับ HD กลับมาศูนย์สั่งการได้ในเวลาเดียวกัน โดรนเหล่านี้สามารถบินตรวจตราระบบสายไฟได้มากถึง 15 กิโลเมตรต่อวัน ซึ่งมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่าและประหยัดได้มากกว่า

5G เพื่อเหมืองที่ปลอดภัยกว่า

นี่คือเหมืองแร่หายากในเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน โดยปกติแล้วเหมืองแร่มักไม่ได้อยู่ในบริเวณที่มีสภาพแวดล้อมที่ดี ตรงกันข้ามมักมีสภาพอากาศแปรปรวนและสภาพการทำงานที่วุ่นวายภายในเหมือง ก่อให้เกิดอันตรายโดยเฉพาะคนขับรถบรรทุกแร่ทั้งเหมืองออกมา ในเหมืองแห่งนี้ มีรถบรรทุก 30 คัน แต่ละคันใช้คนขับ 4 คนทำงานกะละ 2 คน

นี่แสดงให้เห็นถึงความท้าทายของผู้ประกอบกิจการเหมืองและบรรดาคนงาน
ความท้าทายประการแรกคือ อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง แม้จะเป็นคนขับรถที่มีประสบการณ์สูงที่สุดก็เป็นเรื่องยากที่จะเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุอันตรายในสภาพแวดล้อมเช่นนี้

ประการที่สอง คือ ประสิทธิภาพการทำงานที่ต่ำ คนขับรถฝีมือดีที่สุดยังสามารถทำความเร็วได้มากที่สุดเพียง 10 กิโลเมตร/ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งจะไม่ปลอดภัยหากใช้ความเร็วมากกว่านี้

ประการที่สาม คือ ค่าใช้จ่าย คนขับรถบรรทุกแร่ในเหมืองแห่งนี้ทำเงินได้ประมาณ 250,000 หยวนต่อปี (ประมาณ 1.1 ล้านบาทต่อปี) หรือประมาณ 20,000 หยวนต่อเดือน (ประมาณ 9 หมื่นบาท) นับเป็นรายได้ที่ค่อนข้างสูงมากสำหรับพนักงานขับรถในประเทศจีน ถึงกระนั้นก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะหาคนที่เหมาะสมมาทำ งานเนื่องจากสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็ไม่พร้อมที่จะทำ

วันนี้ 5G สามารถช่วยแก้ปัญหานี้ให้พวกเขาได้ ด้วยเครือข่าย 5G และโมดูล พวกเราจะสามารถใช้รถบรรทุกลากไร้คนขับ การใช้จ่ายที่คุ้มค่านี้จะช่วยประหยัดเงินได้ถึง 1 ล้านหยวน (4.4 ล้านบาท) ต่อปีต่อคนขับหนึ่งคน อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้มาก ช่วยให้รถบรรทุกเร่งความเร็วจาก 10 กิโลเมตร/ชั่วโมง เป็นประมาณ 35 กิโลเมตร/ชั่วโมง

เนื่องจากรถบรรทุกเป็นแบบไร้คนขับ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ คนขับรถจะไม่ต้องเผชิญกับสภาพการทำงานที่เป็นอันตราย ในแง่ของค่าใช้จ่าย ประสิทธิภาพ และความปลอดภัย เทคโนโลยี 5G จึงสร้างประโยชน์อันมหาศาลให้กับอุตสาหกรรมเหมือง

5G ขับเคลื่อนสู่ความเป็นดิจิทัล

เทคโนโลยี 5G จะมีบทบาทสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงทุกอุตสาหกรรมให้เป็นดิจิทัล ตอนนี้ ประเทศจีนอยู่ในช่วงก้าวสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมไปเป็นระบบอัตโนมัติ มีความเป็นดิจิทัลและขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งเทคโนโลยี 5G ก็มาทันเวลาที่ต้องการพอดี

5G มีแบนด์วิดธ์ที่มากขึ้นและมีความหน่วงต่ำกว่าการเชื่อมต่อไร้สายแบบดั้งเดิม และสามารถรองรับการใช้งานที่หลากหลายด้วยเครือข่ายเฉพาะส่วน ซึ่งทำให้ 5G สามารถตอบสนองความต้องการทางอุตสาหกรรมที่หลากหลาย และวางรากฐานเพื่อโลกแห่งอนาคตที่มีความเป็นอัตโนมัติและชาญฉลาด

ในขณะเดียวกัน เมื่ออุตสาหกรรมต่าง ๆ หันมาให้ความสำคัญกับความเป็นอัจฉริยะ เราจะเห็นความต้องการใช้งานเทคโนโลยีต่างๆ มากยิ่งขึ้น ทั้งคลาวด์, ปัญญาประดิษฐ์ (AI), บิ๊กดาต้า และเอดจ์ คอมพิวติ้ง เทคโนโลยี 5G จะช่วยให้เทคโนโลยีเหล่านี้สามารถรองรับการใช้งานในอุตสาหกรรมได้มากขึ้นกว่าแต่ก่อนและมีประสิทธิภาพสูงขึ้นด้วยเช่นกัน

5G จะช่วยปลดปล่อยศักยภาพที่แท้จริงของคลาวด์, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเอดจ์ คอมพิวติ้งออกมา อีกทั้งยังช่วยให้เทคโนโลยีเหล่านี้แพร่หลายมากขึ้นในระบบอุตสาหกรรม ในอนาคต 5G จะผสานรวมกับเทคโนโลยีเหล่านี้และเร่งกระบวนการการพลิกโฉมสู่ดิจิทัลต่อไป

การสร้างระบบนิเวศ 5G

กุญแจสู่ความสำเร็จของ 5G อยู่ที่ความสามารถในการสนับสนุนความต้องการการเชื่อมต่อที่มีลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละภาคอุตสาหกรรม เช่นเดียวกับผู้จัดหาเทคโนโลยีต่างๆ เราจึงต้องทำงานแบบก้าวข้ามอุตสาหกรรม เพื่อให้เข้าใจภาพรวมของธุรกิจและความต้องการของอุตสาหกรรมที่แตกต่างกันออกไป

เพื่อตอบโจทย์ดังกล่าวนี้ ในปี พ.ศ. 2559 เราจึงได้เปิดตัว Wireless X Labs แพลตฟอร์มสำหรับให้โอเปอเรเตอร์และพันธมิตรในอุตสาหกรรมของเราได้มาทำงานร่วมกันและรังสรรค์แอพพลิเคชั่นการใช้งาน 5G ร่วมกัน และเมื่อเดือนที่แล้ว เราได้เปิด Open Lab 5G แห่งแรกของโลกขึ้นในเกาหลี เพื่อรองรับความร่วมมือที่จะมีมากขึ้นในภูมิภาคนี้

ด้วยแพลตฟอร์มการทำงานแบบข้ามอุตสาหกรรม เราได้เริ่มทำโครงการ 5G ร่วมกันกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมแนวตั้งต่างๆ กว่า 100 โครงการแล้ว ซึ่งรวมถึงด้านโครงข่ายไฟฟ้า สื่อรูปแบบใหม่ และอื่นๆ

วันที่ 6 มิถุนายน ถือเป็นวันสำคัญที่ยิ่งใหญ่ ณ ตอนนี้ ประเทศจีนได้ออกใบอนุญาต 5G แล้ว ปี 2562 จึงเป็นปีแห่ง 5G อย่างเป็นทางการ ในฐานะที่เป็นบริษัทจีน และเป็นผู้นำด้าน 5G เราจึงรู้สึกตื่นเต้นมาก และอยากทำงานในส่วนของเรา

5G มาอยู่ที่นี่แล้ว เราจะทุ่มเทแรงกายแรงใจ เพื่อทำงานกับพันธมิตรของเราในการขับเคลื่อนให้เกิดการทำงานร่วมกันมากขึ้น ด้วยความร่วมมือกัน เราจะสามารถใช้ขุมพลังของ 5G ช่วยอุตสาหกรรมต่างๆ ให้เดินหน้าไปสู่ดิจิทัลได้

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

ที่มา : www.huawei.com วันที่ : 2 กรกฎาคม 2562

มือถือออกใหม่